เอเอส โรม่า จากทีมสโมสรที่เคยจะล้มละลาย สู่การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

Associazione Sportiva Roma หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า AS Roma ฉายา หมาป่ากรุงโรม เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีฐานอยู่ในกรุงโรม  ประเทศอิตาลี สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1927 โดยการควบรวมกิจการ และได้แข่งขันในลีกฟุตบอลสูงสุดของอิตาลี  ยกเว้นในฤดูกาล 1951-1952 Roma คว้าแชมป์เซเรียอาได้ 3 ครั้งในฤดูกาล 1941-1942, 1982-1983 และ 2000-2001 พร้อมการคว้าแชมป์โคปปาอิตาเลีย 9 ครั้งและซูเปอร์โคปปาอิตาเลียนา 2 ครั้ง ในระดับทวีป Roma คว้าแชมป์อินเตอร์ซิตี้แฟร์สคัพในฤดูกาล 1960-1961 และยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกในฤดูกาล 2021-2022

ประวัติความเป็นมาของสโมสรชื่อดัง เอเอส โรม่า

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

หมาป่าแห่งกรุงโรม คือ ฉายาของแฟนคลับไทยตั้งให้สโมสรเอเอส โรม่า เริ่มต้นก่อตั้งสโมสรในปี ค.ศ. 1927 หรือมากกว่า 97 ปีมาแล้ว ซึ่งดูช่วงเวลาจะเข้าใจว่า ไม่ใช่ยุคเริ่มต้นของฟุตบอลอิตาลี ในเวลานั้นมีการควบรวมสโมสรโดยมีจุดประสงค์ให้ ฟุตบอลจากกรุงโรมมีความสามารถและยกระดับมาตรฐานให้สูงมากขึ้น เพื่อที่จะเทียบชั้นกับสโมสรจากทางตอนเหนือ เนื่องจากว่าเวลานั้นการแข่งขันฟุตบอล กลายเป็นกีฬาที่เข้าถึงและได้รับความสนใจ และเมืองหลวงกลับไม่มีมาตรฐานเท่าไหร่ ทำให้การพัฒนาและควบรวมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด

แต่ก็มีสโมสรอย่างลาซิโอที่มีการต่อต้านการรวมในครั้งนั้น และยังมีคนสำคัญอย่าง นายพล Vaccaro และเป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ ทางสโมสรได้ลงแข่งขันในลีกสูงที่สุดครั้งแรก แต่ด้วยความไม่พร้อมหรือว่าไม่มีมาตรฐานมาพอ ทำให้ทุกอย่างไม่ประทับใจแฟนบอลเลย มีการขายนักเตะตัวหลักออกจากสโมสรจำนวนมาก และต้องใช้เวลานานกว่าที่จะมีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมนักเตะเข้ามาใหม่ เป็นการสร้างขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด  ลุยจิ บาร์เบซิโน ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญกับทางสโมสร และเกือบที่จะพาขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ ในปี ค.ศ. 1935-1936 เป็นการตามหลังจากฝูงแค่ 1 แต้มเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานใช้เวลา 5 ปี

ทุกอย่างก็เป็นความจริง ในปี ค.ศ. 1941-1942 เป็นการคว้าแชมป์รายการสคูเด็ตโต้เป็นครั้งแรกของสโมสร และก็ถึงเวลาที่ทุกสโมสรในยุโรปต้องเจอ สงครามโลก ที่ทำให้มาตรฐานและปัญหาเกิดขึ้นมากมาย สโมสรโรม่าก็เช่นเดียวกัน ผลงานในลีกถือว่าอยู่ในโซนอันล่างถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน และก็ตกชั้นลงไปแข่งขันกับลีกรองเซเรียบี กล่าวได้ว่าในเวลานั้นสโมสรอยู่ในช่วงตกต่ำอย่างมาก แต่ก็ใช้เวลาไม่นาน พร้อมที่จะกลับขึ้นสู่ลีกชั้นนำอีกครั้ง และการกลับมาในครั้งนี้ถือว่ามีมาตรฐานมากขึ้น พร้อมที่จะรักษาอันดับในลีกได้อย่างดีตลอดเวลา

ในเวลานั้นมีผู้จัดการทีมอย่าง  เจสซี่ คาร์เวอร์ ที่มีความสำคัญในผลงานและภาพรวม และยังคว้าแชมป์บอลถ้วยได้ มาถึงปี ค.ศ. 1964-1965 เป็นอีกจุดต่ำสุดของสโมสรแห่งนี้ Juan Carlos Lorenzo ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะไม่มีเงินในการจ่ายให้กับนักเตะได้อีก รวมไปถึงไม่มีเงินที่จะเดินทางไปแข่งขันในนัดต่อไป เชื่อเถอะว่าปัญหาทางการเงินเป็นอะไรที่ทุกสโมสรต้องเจอ มีความเสี่ยงที่จะล้มละลายมากที่สุด แต่ทว่าเหล่าบรรดาแฟนบอลมากมายมีการรวมเงินทุนเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการเงินในครั้งนั้น รวมไปถึงมีการแต่งตั้งประธานสโมสรคนใหม่ Franco Evangelisti เพื่อที่จะเข้ามาบริการและยกระดับการเงิน และทุกอย่างก็สามารถที่จะรอดพ้นการล้มละลายได้จริง

มาถึงช่วงปี ค.ศ. 1972 สโมสรยังเดินหน้าเก็บแชมป์รายการเล็กมากมาย และเมื่อถึงปลายยุค 70 สามารถที่จะพัฒนาและเข้าแข่งขันรายการสำคัญมากขึ้น และเพิ่มเติมแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในปี ค.ศ. 1979-1980 ผลงานในลีกก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 สโมสรไม่เคยทำอันดับได้สูงเลย แต่การกลับมาครั้งนี้บอกได้ว่าช่วยเพิ่มเติมสโมสรแย่งแชมป์ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อถึงกลางปี ค.ศ. 1985-1986 ผลงานของสโมสรก็ตำต่ำลงตลอดเวลา แต่ก็ยังรักษามาตรฐานและจบในอันดับที่ 3 ของลีกได้สำเร็จ ก้าวเข้าสู่ปี ค.ศ. 2000 สโมสรแห่งนี้ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์เซเรียอาสมัยที่ 3 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ต้องบอกว่าในเวลานั้นสโมสรชั้นนำมากมาย ที่มีมาตรฐานและนักเตะระดับโลก แต่กลับเป็นสโมสรฟุตบอลเอเอส โรม่าเข้ามาในช่วงเวลาสุดท้ายและจบด้วยการคว้าแชมป์ โดยฤดูกาลนั้นสามารถเอาชนะสโมสรยูเวนตุสได้อีกด้วย แต่ในฤดูกาลต่อมาก็ทำได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น เนื่องจากว่าสโมสรยูเวนตุสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ผลงานและภาพรวมตามหลังแค่ 1 แต้มเท่านั้น จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2010 มีการเปลี่ยนเปลงครั้งใหญ่ภายในสโมสรโรม่า ครอบครัวเซนซี เข้ามาควบรวมและเป็นประธานสโมสรคนใหม่

เนื่องจากทางสโมสรเกิดปัญหาทางการเงินและหนี้สินมากมาย หลังจากทุกอย่างดีขึ้นมีการตั้งเจ้าของสโมสรใหม่ โรเซลลา เข้ามารับหน้าที่นี้และทางครอบครัวเซนซีก็เข้ารับหน้านี้ผู้อำนวยการแทน และเมื่อถึงปี ค.ศ. 2011 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ประธานคนใหม่ Thomas R. DiBenedetto เข้ามาซื้อสโมสรแห่งนี้ และเป็นประธานคนที่ 22 อย่างเป็นทางการ ต่อจากนั้นก็มีการพัฒนาและมาตรฐานมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไปไม่ถึงฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ถือว่าเป็นสโมสรที่มีมาตรฐานของประเทศอิตาลี

ผลงานการแข่งขันจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ของสโมสรเอเอส โรม่า

ความยิ่งใหญ่ของหมาป่าแห่งประเทศอิตาลี บอกได้ว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถครองแชมป์รายการใหญ่มากมายเท่ากับสโมสรชั้นนำ แต่ก็มีความสำเร็จมากมายเริ่มต้นจากเซเรียอา 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1941-1942 , 1982-1983 และ 2000-2001 และทางสโมสรเคยเป็นรองแชมป์ถึง 14 สมัย ในปี ค.ศ. 1930–1931 , 1935–1936 , 1980–1981 , 1983–1984 , 1985–1986 , 2001–2002 , 2003–2004 , 2005–2006 , 2006–2007 , 2007–2008 , 2009–2010 , 2013–2014 , 2014–2015 และ 2016–2017

โคปปา อิตาเลีย 9 สมัย ในปี ค.ศ. 1963–1964 , 1968–1969 , 1979–1980 , 1980–1981 , 1983–1984 , 1985–1986 , 1990–1991 , 2006–2007 และ 2007–2008 รอบรองชนะเลิศถึง 8 สมัย ในปี ค.ศ. 1936–1937 , 1940–1941 , 1992–1993 , 2002–2003 , 2004–2005 , 2005–2006 , 2009–2010 และ 2012–2013 ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย ปี ค.ศ. 2001 และ 2007 มาถึงความสำเร็จในระดับยุโรป ถือว่าเป็นข้อมูลที่จะยกระดับมาตรฐานให้กับสโมสรโรม่าอย่างมากมาย

เริ่มต้นจาก ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รองชนะเลิศ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1983-1984 ยูฟ่า คัพ รองชนะเลิศ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1990-1991 และ 2022-2023 ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2021-2022 อินเตอร์ซิตี้แฟร์สคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1960-1961  เซเรียบี 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1951-1952 แองโกล-อิตาเลี่ยน คัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1972 และนี่ถือว่าเป็นข้อมูลความสำเร็จของสโมสรแห่งนี้

สรุปสถานการณ์โดยรวมของสโมสรเอเอส โรม่า ช่วงฤดูกาล 2023-2024

ถ้าจะพูดถึงผลงานและภาพรวมของสโมสรเอเอส โรม่าฤดูกาลที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้หลายฤดูกาล มีมาตรฐานที่ลดลงไปมากมาย แต่สำหรับฤดูกาลนี้ยกระดับและพัฒนาขึ้นมา กลายเป็นการจบในอันดับที่ 6 ของลีกเซเรียอาได้สำเร็จ ไม่ว่าจะมาจากผู้จัดการทีมชื่อดัง การซื้อตัวนักเตะมาเสริมทัพ รวมไปถึงการสร้างสรรค์โอกาสที่มากมาย ช่วยให้เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่แท้จริง มาดูกันว่าสถิติการแข่งขันเป็นอย่างไร พร้อมที่จะขึ้นไปเบียดแย่งแชมป์ในฤดูกาลใหม่หรือไม่ ลงแข่งขันไปทั้งหมด 38 นัด มีผลชนะ 18 เสมอ 9 แพ้ไป 11

ถ้าจะพูดถึงแบบโดยรวม ถ้าแพ้น้อยกว่านี้จะทำอันดับตารางได้สูงมากกว่านี้ หมายความว่าอาจจะต้องมีการเสริมในตำแหน่งของกองหลังให้มากขึ้น ผลต่างประตูได้เสียทำประตูได้ 65 และเสียไป 46 อาจจะยิ่งได้มากแต่ก็เสียมากเช่นเดียวกันแต่ไม่ถึงกับติดลบ มีคะแนนรวม 63 ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างมาก สำหรับฤดูกาลใหม่ที่จะเริ่มต้นในไม่ช้านี้ มั่นใจว่าแฟนบอลของสโมสรแห่งนี้มีการตั้งความหวังมากมาย เพื่อให้ทำผลงานได้อย่าน่าประทับใจ จะกลับคืนสู่หมาป่าแห่งประเทศอิตาลีได้หรือไม่ลุ้นกันยาว ๆ