จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง ปิซ่า 0-1 ปาร์ม่า วันนี้ 8/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา เกมหนีตายที่อัดแน่นด้วยดราม่า ปิซ่า เปิดบ้านรับการมาเยือนของปาร์ม่า เกมนี้แฟนบอลตามลุ้นผ่านทั้งสนามและหน้าจอเช็ก ผลบอลสด กันแบบตาไม่กะพริบ ก่อนจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน 1-0 จากจุดโทษของ อาเดรียน เบเนดชัค ในนาที 40 และปิดจบด้วยใบแดงของ เอ็มบาล่า เอ็นโซล่า ช่วงทดเจ็บ ทำให้เจ้าถิ่นพลาดโอกาสหนีจากโซนตกชั้นไปอย่างเจ็บปวด ขณะที่ปาร์ม่าฮึดเก็บสามแต้มสำคัญกลับบ้านได้สำเร็จ
⏱ ครึ่งแรก: จุดโทษเปลี่ยนหน้าหนังเกม
ต้นเกมปิซ่าใช้ความได้เปรียบในบ้านไล่เพรสสูง พยายามเซ็ตเกมจากแผงหลัง 3 ตัว เน้นต่อบอลสั้นผ่าน มาริอุส มาริน และ มิเชล แอ็บิเชอร์ คุมจังหวะกลางสนาม จังหวะบุกแรกๆ มีโอกาสลุ้นยิงไกลแต่ยังไม่ตรงกรอบ ฝั่งปาร์ม่าตั้งรับลึก รอจังหวะโต้กลับผ่านสามแนวรุก เบเนดชัค – เปลเลกรีโน่ – ออนดรอยก้า
นาที 38 ดราม่ามาเยือนเมื่อ สเตฟาน บริทชกี้ เติมขึ้นมาทางขวาก่อนโดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินดู VAR แล้วชี้จุดโทษทันที กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม นาที 40 เบเนดชัครับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งบอลเสียบตาข่ายให้ปาร์ม่าบุกนำ 1-0 ท่ามกลางความกดดันของแฟนเจ้าถิ่น ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เบเนดชัคมาโดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์เกมสวนกลับของปิซ่า ก่อนหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
🔁 ครึ่งหลัง: ปิซ่าบุกยับแต่โดนสวนใบแดงปิดเกม
เข้าสู่ครึ่งหลัง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ แก้เกมทันทีส่ง เอเบเนเซอร์ อคินซานมีโร่ กับ เมห์ดี้ เลริส ลงมาเสริมมิติแดนกลางและริมเส้น ทำให้รูปเกมของปิซ่าดุดันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจ้าถิ่นเดินเครื่องบุกต่อเนื่อง ใช้การโยนจากวิงแบ็กทั้ง อิบราฮิมา ตูเร่ และ ซามูเอเล่ อังโกรี กดดันแนวรับปาร์ม่า
แม้ปิซ่าจะครองบอลมากกว่าและส่องไกลหลายครั้ง แต่แนวรับทีมเยือนที่นำโดย เอ็นรีโก เดล ปราโต, ลอเรนโซ วาเลนติ และแบ็กซ้ายตัวเก่ง เอ็มมานูเอล วาเลรี ช่วยกันเคลียร์ทิ้งได้หมด อีกทั้ง มานเดลา เคียต้า คอยตัดเกมหน้าแผงหลังได้อย่างแข็งแกร่ง
ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นเทหมดหน้าตัก ส่ง ลอร์รัน กับ สเตฟาโน่ โมเรโอ ลงมาเพิ่มอาวุธ แต่ในนาที 90+3 ดราม่าท้ายเกมก็ระเบิด เมื่อ เอ็นโซล่า ไปเล่นนอกเกมใส่คู่แข่งจนโดนใบแดงโดยตรง ทิ้งให้ปิซ่าเหลือ 10 คนในช่วงเวลาที่ต้องการประตูตีเสมออย่างยิ่ง สุดท้ายไล่ไม่ทัน ปาร์ม่ารักษาสกอร์ 1-0 เก็บชัยนอกบ้านแบบมีดราม่าครบเครื่องตามสไตล์ บ้านผลบอล สายลุ้นหนีตกชั้นแท้ๆ
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔵 ปิซ่า (ระบบ 3-5-2) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.76
ผู้รักษาประตู
- ซิโมเน่ สคุฟเฟ็ต (22) – 6.8 เซฟได้หลายจังหวะสำคัญ
กองหลังสามคน
- ซิโมเน่ คาเนสเตรลลี่ (5) – 6.5
- อันเดรีย คารัชโชโล่ (กัปตัน, 4) – 6.8
- อาร์ตูโร่ คาลาบราดซี่ (33) – 6.9
กองกลางห้าคน
- ซามูเอเล่ อังโกรี (3) – 7.3 วิงแบ็กซ้าย เติมสูงตลอดเกม
- มาริอุส มาริน (6) – 6.6 คุมจังหวะก่อนถูกถอด
- มิเชล แอ็บิเชอร์ (20) – 7.0 จ่ายบอลนิ่ง ตัดเกมดี
- จูเซ็ปเป้ พิคชินินี่ (36) – 6.0
- อิบราฮิมา ตูเร่ (15) – 7.0 วิงแบ็กขวา เติมเกมบุกต่อเนื่อง
กองหน้า
- ฮาร์ลันด์ ดับเบิลยู. ไมส์เตอร์ (9) – 6.5
- เอ็มบาล่า เอ็นโซล่า (18) – 5.8 มีโอกาสไม่มาก แถมโดนใบแดงท้ายเกม
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- เอเบเนเซอร์ อคินซานมีโร่ (14) – 8.1 ลงมานาที 46 แทน มาริน
- เมห์ดี้ เลริส (7) – 7.1 นาที 46 แทน อังโกรี
- ลอร์รัน (99) – 6.7 นาที 76 แทน พิคชินินี่
- สเตฟาโน่ โมเรโอ (32) – 6.4 นาที 76 แทน คาลาบราดซี่
- มัตเตโอ ตราโมนี่ (10) – 6.6 นาที 84 แทน ไมส์เตอร์
🟡 ปาร์ม่า (ระบบ 4-3-3) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.94
ผู้รักษาประตู
- เอดูอาร์โด้ คอร์วี (40) – 6.9 เซฟจังหวะสำคัญช่วงท้าย
กองหลังสี่คน
- สเตฟาน บริทชกี้ (27) – 7.1 เติมเกมและเรียกจุดโทษ
- เอ็นรีโก เดล ปราโต (กัปตัน, 15) – 7.4 คุมแนวรับอยู่หมัด
- ลอเรนโซ วาเลนติ (5) – 7.1
- เอ็มมานูเอล วาเลรี (14) – 7.4 แข็งแกร่งทั้งรุกและรับ
กองกลางสามคน
- นาฮูเอล เอสเตเวซ (8) – 7.1 วางบอลยาวแม่น
- มานเดลา เคียต้า (16) – 7.7 ตัดเกมเด่น เป็นกำแพงหน้าแนวรับ
- อาเดรียน แบร์นาเบ้ (10) – 6.9 เชื่อมเกม ก่อนถูกถอดพัก
กองหน้าสามคน
- อาเดรียน เบเนดชัค (7) – 7.0 ยิงจุดโทษประตูชัย
- มัตเตโอ เปลเลกรีโน่ (9) – 5.9 ยืนค้ำ บดกับแนวรับ
- เยสเปอร์ ออนดรอยก้า (17) – 6.6
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โอลิเวอร์ เซอเรนเซ่น (22) – 6.8 นาที 58 แทน ออนดรอยก้า
- คริสเตียน ออร์โดเญซ (24) – 6.6 นาที 75 แทน แบร์นาเบ้
- กาเอตาโน ออริสตานิโอ (21) – 6.7 นาที 75 แทน เบเนดชัค
- มาธิอัส ฟยอร์ทอฟต์ เลวิค (18) – 6.7 นาที 90 แทน ออริสตานิโอ
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้หากมองในเชิง วิเคราะห์บอล รูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมชัดเจนมาก ปิซ่าใช้ระบบ 3-5-2 ที่เน้นการคอนโทรลบอลและบีบพื้นที่แดนกลาง เมื่อเซ็ตเกมได้ วิงแบ็กทั้งสองข้างจะดันขึ้นสูงเกือบเป็นปีก เพื่อครอสเข้าใส่คู่เซ็นเตอร์ของปาร์ม่า การยืน 3 เซ็นเตอร์ช่วยให้ดันไลน์สูงได้ กล้าเล่นเสี่ยงในแดนคู่แข่ง แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายทั้งการจ่ายคิลเลอร์พาสและการจบสกอร์ไม่คมพอ ทำให้ยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งจากโอกาส 12 หน
ด้านเกมรับของปิซ่า แม้จะคุมโซนได้ดีช่วงต้น แต่การยืนไลน์สูงทำให้หลังหลุดบ่อยเมื่อโดนปาร์ม่าตัดบอลแล้วแทงทะลุแนวรับ อีกทั้งเมื่อถูกบุกสวนกลับ แดนกลางถอยไม่ทัน เปิดช่องให้ บริทชกี้ เติมซ้อนขึ้นมาจนเกิดจุดโทษในครึ่งแรก
ปาร์ม่าในระบบ 4-3-3 เลือกยืนคอมแพ็กต์แน่น เน้นบอลสองจังหวะ เล่นง่ายไม่ซับซ้อน เคียต้าทำหน้าที่ “ห้องเครื่องตัวรับ” ปิดช่องหน้าเซ็นเตอร์ ขณะที่ แบร์นาเบ้ กับ เอสเตเวซ ช่วยไล่บีบแย่งบอลก่อนกระจายออกปีกซ้าย–ขวาให้ เบเนดชัค และ ออนดรอยก้า ไล่บี้แนวรับเจ้าถิ่น จุดเด่นอยู่ที่ระเบียบเกมรับ เมื่อถูกกดดันก็ถอยลงมาเป็นบล็อก 4-1-4-1 ลดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ ทำให้โอกาสเข้าทำของปิซ่าส่วนใหญ่จบลงแค่ระยะไกล
โดยรวม บ้านกีฬา มองว่าปาร์ม่าชนะเพราะวางแผนเล่น “สมองมากกว่ากำลัง” รู้ว่าตัวเองเป็นทีมเยือนจึงไม่วิ่งบ้าพลัง แต่รอจังหวะผิดพลาด แถมรักษาระเบียบเกมรับจนเจ้าถิ่นเจาะไม่เข้า และฉวยโอกาสจากลูกนิ่งเปลี่ยนเป็นประตูได้อย่างเฉียบคม
📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนชัดว่าปิซ่าเป็นฝ่ายพยายามบุกเข้าใส่ตลอด 90 นาที เจ้าถิ่นมีโอกาสยิงทั้งหมด 12 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ส่วนปาร์ม่ายิง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้งเท่ากัน แต่หนึ่งในนั้นคือจุดโทษที่แปรเปลี่ยนเป็นประตูชัย
ด้านการครองบอล ปิซ่าถือบอลมากกว่าอยู่ที่ 58% ต่อ 42% จ่ายบอลรวม 414 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 83% ขณะที่ปาร์ม่าจ่ายบอล 302 ครั้ง ความแม่นยำ 77% แม้ตัวเลขจะเป็นรอง แต่การจ่ายของทีมเยือนมีคุณภาพในจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุก
เกมนี้มีการฟาวล์รวมมหาศาล ปิซ่าทำฟาวล์ 13 ครั้ง ปาร์ม่า 6 ครั้ง ใบเหลืองแจกฝั่งละ 2 ใบ และใบแดง 1 ใบของ เอ็นโซล่า ช่วงทดเจ็บ ส่วนลูกตั้งเตะมุม ปิซ่าได้ถึง 6 ครั้ง ขณะที่ปาร์ม่าไม่มีแม้แต่เตะมุมเดียว แสดงให้เห็นว่าทีมเยือนเน้นความแน่นอนในแดนตัวเองมากกว่าดันเกมลุยลึกถึงเส้นหลัง
🕰 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 38′ สเตฟาน บริทชกี้ เติมขึ้นมาทางขวาโดนทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วให้จุดโทษแก่ปาร์ม่า
- ⚽ 40′ อาเดรียน เบเนดชัค รับหน้าที่ยิงจุดโทษ ส่งบอลเสียบตาข่ายให้ปาร์่านำ 1-0
- 🟨 41+’ เบเนดชัคโดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์ตัดเกม
- 🔁 46′ ปิซ่าเปลี่ยนสองคน ส่ง เอเบเนเซอร์ อคินซานมีโร่ แทน มาริน และ เมห์ดี้ เลริส แทน อังโกรี เพิ่มความสดในแดนกลางและริมเส้น
- 🟨 58′ เอ็มมานูเอล วาเลรี แบ็กซ้ายปาร์ม่าโดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
- 🔁 58′ ปาร์ม่าส่ง โอลิเวอร์ เซอเรนเซ่น แทน ออนดรอยก้า ปรับสมดุลแดนกลาง
- 🟨 68′ มิเชล แอ็บิเชอร์ ได้ใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 75′ ปาร์ม่าเปลี่ยนสองคนติด ส่ง กาเอตาโน ออริสตานิโอ แทน เบเนดชัค และ คริสเตียน ออร์โดเญซ แทน แบร์นาเบ้ เพื่อเก็บสกอร์
- 🔁 76′ ปิซ่าสวนกลับด้วยการส่ง ลอร์รัน ลงแทน พิคชินินี่ และ สเตฟาโน่ โมเรโอ แทน คาลาบราดซี่ เปลี่ยนเป็นเกมรุกจัดเต็ม
- 🟨 82′ อิบราฮิมา ตูเร่ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ด้านข้าง
- 🔁 84′ ปิซ่าส่ง มัตเตโอ ตราโมนี่ ลงแทน ไมส์เตอร์ เติมมิติเกมรุกช่วงท้าย
- 🔁 90′ ปาร์ม่าถอด ออริสตานิโอ ส่ง มาธิอัส ฟยอร์ทอฟต์ เลวิค ลงมาช่วยเก็บเกมรับ
- 🟥 90+3′ เอ็มบาล่า เอ็นโซล่า โดนใบแดงโดยตรงจากการเล่นรุนแรงใส่คู่แข่ง ทิ้งให้ปิซ่าเหลือ 10 คนจนหมดโอกาสกดดันช่วงท้าย
⭐ Player of the Match – เอเบเนเซอร์ อคินซานมีโร่ (ปิซ่า)
แม้ทีมจะแพ้ แต่รางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเกมตกเป็นของ เอเบเนเซอร์ อคินซานมีโร่ มิดฟิลด์ตัวรุกของปิซ่า ด้วยเรตติ้งสูงสุด 8.1 ลงมาครึ่งหลังแล้วเปลี่ยนโฉมหน้าเกมทันที การพาบอลฝ่าด่านกองกลางปาร์ม่า การเชื่อมบอลกับวิงแบ็กทั้งสองฝั่ง และการลองส่องไกลหลายครั้งทำให้แนวรับทีมเยือนต้องลุ้นทุกจังหวะ
บ้านกีฬา มองว่า หากไม่มีอคินซานมีโร่ เกมรุกของปิซ่าจะดูฝืดกว่านี้มาก เขาคือแสงสว่างในวันที่สกอร์บอร์ดยังไม่ยอมขยับ และน่าจะกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมในเกมหนีตกชั้นที่เหลือของฤดูกาล
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ปาร์ม่าขยับเก็บ 14 แต้มจาก 14 นัด อยู่อันดับ 15 ของตาราง มีสถิติชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 6 ได้ 10 เสีย 17 ประตู ผลต่าง -7 แม้ยังลอยลำไม่ไกลจากโซนแดง แต่ก็พอหายใจหายคอโล่งขึ้นเล็กน้อย เพราะนำทีมอันดับ 18 อย่างปิซ่าถึง 4 แต้ม
ส่วนปิซ่าหนักกว่าเดิม หลังผ่าน 14 นัดชนะเพียงเกมเดียว เสมอ 7 แพ้ 6 ได้ 10 เสีย 19 ผลต่าง -9 มีแค่ 10 แต้ม รั้งอันดับ 18 อยู่ในโซนตกชั้นเต็มตัว และผลงาน 5 นัดหลังยังไม่ชนะใคร ทำให้แรงกดดันในห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่เร่งฟอร์มมีสิทธิ์หล่นลึกกว่านี้แน่นอน
📅 ตารางบอลเซเรียอาและโปรแกรมบอลนัดถัดไป
มองไปที่ ตารางบอล และ โปรแกรมบอล นัดต่อไปของทั้งสองทีม ปิซ่าต้องออกไปเยือนเลชเช่ในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งเป็นเกมสำคัญอย่างยิ่งในการชิงแต้มหนีตกชั้น จากนั้นยังมีคิวบุกไปเยือนกาญารี่ในวันที่ 21 ธันวาคม เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมเกมเยือนต่อเนื่องที่หินพอสมควร
ด้านปาร์ม่าโปรแกรมถัดไปคือเปิดบ้านรับลาซิโอในวันที่ 11 ธันวาคม เกมนี้จะเป็นบททดสอบว่าแนวรับที่เพิ่งเก็บคลีนชีตได้ จะรับมือแนวรุกจัดจ้านของอินทรีฟ้าขาวได้ดีแค่ไหน ส่วนแมตช์เยือนนาโปลีในวันที่ 21 ธันวาคมถูกแจ้งเลื่อนออกไป ทำให้มีเวลาฟื้นตัวและเตรียมทีมมากขึ้นสำหรับช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเบรกหนาว
📰 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดทุกผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นสกอร์สด สถิติเกมรุกเกมรับ หรือข่าวอัปเดตหลังจบแมตช์แบบเจาะลึก อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และเรื่องราวลูกหนังทุกมุมโลกได้ที่ บ้านกีฬา เราจะพาแฟนบอลไปอยู่หน้าจอเดียวกับเกม เสิร์ฟทั้งสกอร์ ฟอร์ม และมุมมองแบบถึงเนื้อถึงหนังทุกวัน
