
จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง เอเอส โรม่า 0-1 นาโปลี วันนี้ 1/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา เกมใหญ่ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้ โรม่าเปิดบ้านรับการมาเยือนของนาโปลี เกมนี้แฟนบอลเช็กผลผ่านหน้าเว็บ บ้านผลบอล และสัญญาณ ผลบอลสด กันแบบหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจะจบลงด้วยชัยชนะของอาคันตุกะจากเนเปิลส์ 1-0 จากประตูโทนของ เดวิด เนเรส ในนาที 36 ทำให้นาโปลีเก็บสามแต้มสำคัญ ขึ้นไปมี 28 คะแนนเท่ามิลาน ลุ้นแย่งจ่าฝูงกันเดือดในโค้งแรกของฤดูกาล
🔥 ครึ่งแรก : เนเรสยิงเงียบๆ แต่เจ็บลึก
ต้นเกม โรม่า ของกุนซือ จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ เปิดหน้าเพรสสูง ใช้ระบบ 3-4-2-1 ไล่บีบแดนกลาง นาโปลีของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่จัดแผน 3-4-3 ต้องถอยลงมารับในช่วง 10 นาทีแรก เจ้าถิ่นครองบอลได้ 51% ต่อ 49% ต่อด้วยจังหวะประสานงานของ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ กับ มาติอัส ซูเล ที่พยายามหาพื้นที่ยิงนอกกรอบ แต่ยังไม่คมพอ
นาโปลีเริ่มตั้งหลักได้เมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมง แดนกลางที่มี สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ช่วยกันตัดบอล ก่อนจะเป็นจุดเปลี่ยนในนาที 36 เมื่อ ราสมุส ฮอยลุนด์ หลุดออกด้านขวาแล้วไหลเข้ากลางให้ เดวิด เนเรส แตะหนีตัวประกบก่อนซัดด้วยซ้ายเน้นๆ ผ่านมือ มิโล สวิลาร์ เข้าไปอย่างเฉียบขาด ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ แม้โรม่าเร่งเครื่องท้ายครึ่งแต่ยังเจาะแนวรับนาโปลีไม่เข้า
🔁 ครึ่งหลัง : โรม่าบดทั้งเกม แต่นาโปลีปิดประตูตาย
ครึ่งหลัง กาสเปรินี่แก้เกมเร็ว ส่ง ทอมมาโซ บัลดันซี่ ลงแทน เฟอร์กูสัน ตั้งแต่นาที 46 เพื่อเพิ่มความเก่งในการเลี้ยงเจาะพื้นที่แคบ แต่รูปเกมยังติดตรงจังหวะสุดท้ายที่ไม่เฉียบขาด แม้เจ้าถิ่นจะจ่ายบอลกันลื่นไหล (จบเกมโรม่าส่งบอล 505 ครั้ง มากกว่านาโปลีชัดเจน)
นาที 62 โรม่ายัดเกมรุกเต็มสูบด้วยการส่ง เปาโล ดีบาล่า และ นีล เอล อัยนาวี ลงมา ขณะที่นาโปลีก็ยังสวนกลับน่ากลัว คอนเต้เปลี่ยนมาเน้นความสด ส่ง มาเตโอ โปลิตาโน่, เอลิฟ เอลมาส และ ลอเรนโซ่ ลุกก้า ลงมาไล่เพรสแดนหน้า ทำให้โรม่าขึ้นเกมลำบากกว่าเดิม
ช่วงท้ายเกมความดุเดือดเพิ่มขึ้น ใบเหลืองปลิวว่อนทั้งสองฝั่ง ทั้ง เอว็อง เอนดิคก้า และ สเตฟาน เอล ชาราวี่ ของโรม่า รวมถึง มาติอัส โอลิเวร่า, บอย แบวเคมา และ โลบ็อตก้า ของนาโปลี แต่สกอร์ไม่ขยับเพิ่ม จบเกมตามรายงาน ผลบอลสด ที่แฟนบอลเฝ้ารอ นาโปลีบุกชนะโรม่า 1-0 เก็บชัยสำคัญนอกบ้านได้อย่างเหนียวแน่น

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🐺 เอเอส โรม่า (3-4-2-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.67
ผู้รักษาประตู
- มิโล สวิลาร์ (99) – 7.6
กองหลังสามคน
- มาริโอ เอร์โมโซ (22) – 6.7
- ไบรอัน คริสตันเต้ (กัปตัน, 4) – 6.7
- จานลูก้า มานชินี่ (23) – 6.9
วิงแบ็ก / แผงกลาง
- เอว็อง เอนดิคก้า (5) – 6.8
- เซกี เซลิก (19) – 6.7
- มานู โคเน่ (17) – 6.8
- มาติอัส ซูเล (18) – 6.4
ตัวรุก
- ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ (7) – 6.3
- เวสลี่ย์ (43) – 6.7
กองหน้าตัวเป้า
- อีธาน เฟอร์กูสัน (11) – 6.3
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ทอมมาโซ บัลดันซี่ (35) – 6.6 ลงมาแทน เฟอร์กูสัน นาที 46
- นีล เอล อัยนาวี (8) – 6.5 ลงแทน คริสตันเต้ นาที 62
- เปาโล ดีบาล่า (21) – 6.7 ลงแทน ซูเล นาที 62
- ลีออน เบลีย์ (31) – 6.5 ลงแทน เปลเลกรินี่ นาที 80
- สเตฟาน เอล ชาราวี่ (92) – 6.3 ลงแทน เวสลี่ย์ นาที 82
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
ปิเอรุยจิ โกลลินี่, เดวิส วาสเกซ, ดานิเอเล่ กิลญาร์ดี, คอนสแตนตินอส ซิมิคาส, ยาน ซีโวคอฟสกี้, บูบ้า ซังกาเร่, เดอไวน์ เรนช์, นิคโกโล่ ปีซิลลี่
ผู้เล่นบาดเจ็บ/หมดสิทธิ์
- อาร์เต็ม โดฟบิค (Out)
- อังเคลินโญ่ (Out)
- มาริโอ เอร์โมโซ (Doubtful)
- เอโดอาร์โด โบเว่ (Out)
🔵 นาโปลี (3-4-3) – เรตติ้งเฉลี่ย 7.03
ผู้รักษาประตู
- วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช (32) – 7.3
กองหลังสามคน
- อาเมียร์ ราห์มานี่ (13) – 7.1
- อเลสซานโดร บูโอนจอร์โน่ (4) – 6.8
- ซามูเอล เบวเคมา (31) – 6.5
วิงแบ็ก / แผงกลาง
-โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ (กัปตัน, 22) – 7.8
- มาติอัส โอลิเวร่า (17) – 7.0
- สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า (68) – 6.7
- สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (8) – 6.5
แนวรุกสามประสาน
- เดวิด เนเรส (7) – 9.5
- ราสมุส ฮอยลุนด์ (19) – 6.5
- โนอาห์ ล็อง (70) – 7.0
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- มาเตโอ โปลิตาโน่ (21) – 6.7 ลงแทน ล็อง นาที 70
- เอลิฟ เอลมาส (20) – 6.6 ลงแทน ฮอยลุนด์ นาที 80
- ลอเรนโซ่ ลุกก้า (27) – 6.6 ลงแทน เนเรส นาที 85
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
นีคิต้า คอนตินี่, มัทเธียส เฟอร์รันเต้, ลูก้า มาริอานุชชี่, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า, ฮวน เฮซุส, ปาสควาเล่ มาซโซคคี่, จูเซปเป้ แอมโบรซิโน, อันโตนิโอ เวร์การ่า
ผู้เล่นบาดเจ็บ/หมดสิทธิ์
- อเล็กซ์ เมเร็ต (Out)
- เควิน เดอ บรอยน์ (Out)
- โรเมลู ลูกากู (Out)
- ฟร้องค์ อองกิสซ่า (Doubtful)
- บิลลี่ กิลมัวร์ (Out)
- เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า (Doubtful)
- มิเกล กูตีเอร์เรซ (Out)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติก เกมนี้แผน 3-4-2-1 ของโรม่าเน้นการต่อบอลต่ำจากแนวหลัง คริสตันเต้ถอยลงมาเป็นบอลออกจากหลัง เชื่อมกับ โคเน่ และ ซูเล เพื่อดันบอลเข้าโซน ½ พื้นที่ของนาโปลี จุดเด่นคือการครองบอลและการเปลี่ยนแกนเร็ว แต่ปัญหาคือโรม่าไม่มีหน้าเป้าที่จบสกอร์เฉียบคมเหมือนยุคก่อน ทำให้จังหวะครอสจากวิงแบ็กทั้ง เอนดิคก้า และ เซลิก ไม่ได้แปลเป็นโอกาสยิงมากนัก
ในทางกลับกัน นาโปลีของคอนเต้ใช้ 3-4-3 ที่เล่นได้ครบเครื่องทั้งเกมรุกและเกมรับ สามเซ็นเตอร์ล็อกพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษแน่น แดนกลางปล่อยให้ โลบ็อตก้า ยืนเป็น “จุดหมุน” คอยเปลี่ยนแกนบุก ขณะที่ แม็คโทมิเนย์ เติมขึ้นชนกับคู่กลางโรม่าเพื่อทำลายจังหวะ และเมื่อทีมได้บอล แผงรุกสามคน เนเรส–ฮอยลุนด์–ล็อง จะวิ่งฉีกแนวรับทันที เน้นสวนกลับเร็วใช้สปีดจัดของเนเรสเป็นตัวจบ ซึ่งประตู 1-0 ที่ได้มาก็เกิดจากสูตรนี้แบบเต็มๆ
เกมรับของนาโปลีจัดว่าแน่นอนที่สุดเกมหนึ่งในซีซั่น ใช้การเพรสสามชั้น ไล่ตั้งแต่แดนบนไปถึงลึกสุดท้าย กระทั่งโรม่าแทบไม่มีโอกาสยิงเหน่งๆ ทั้งที่ครองบอลมากกว่า สะท้อนภาพว่าคอนเต้วางบล็อกเกมรับได้เข้มและละเอียดสุดๆ

📈 สถิติการแข่งขัน
แม้สกอร์จะออกมาบางเฉียบ แต่ตัวเลขในสนามบอกชัดว่านี่คือเกมที่สูสี โรม่าและนาโปลียิงรวมฝ่ายละ 7 ครั้งเท่ากัน ทว่าแข้งทีมเยือนยิงเข้ากรอบถึง 5 ครั้ง ในขณะที่โรม่าได้ลุ้นตรงกรอบเพียง 2 หน บอลจึงอันตรายไม่พอจะทำแผลแนวรับนาโปลี
โรม่าเหนือกว่าเรื่องการต่อบอล ส่งบอลทั้งหมด 505 ครั้ง ความแม่นยำ 87% ส่วนทีมเยือนแม้จะจ่ายบอลเพียง 332 ครั้ง แต่ความแม่นยำสูงถึง 88% แสดงให้เห็นว่าแต่ละจังหวะของนาโปลีมีคุณภาพสูงและเสี่ยงน้อย ฟาวล์เท่ากันที่ 12 ครั้ง บ่งบอกถึงความดุเดือดของเกม ใบเหลืองออกฝั่งโรม่า 4 ใบ นาโปลี 3 ใบ โรม่าได้เตะมุม 4 ครั้ง ขณะที่นาโปลีได้เพียง 2 มุม แต่ทีมเยือนกลับอันตรายกว่าจากการสวนกลับ และยังดักล้ำหน้าโรม่าได้ถึง 5 ครั้ง ขณะที่ตัวเองไม่ล้ำหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 36 – ประตูขึ้นนำ 0-1 นาโปลี : ราสมุส ฮอยลุนด์ ไหลบอลให้ เดวิด เนเรส หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ สวิลาร์อย่างเฉียบขาด
- 🔁 นาที 46 – โรม่าสับไพ่เกมรุก ส่ง ทอมมาโซ บัลดันซี่ ลงแทน อีธาน เฟอร์กูสัน
- 🟨 นาที 54 – ไบรอัน คริสตันเต้ รับใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 นาที 62 – โรม่าเปลี่ยนสองคนรวด นีล เอล อัยนาวี แทน คริสตันเต้ และ เปาโล ดีบาล่า แทน ซูเล เพิ่มมิติการสร้างสรรค์
- 🟨 นาที 62 – สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
- ⏱️ นาที 64 – ซามูเอล เบวเคมา รับใบเหลืองจากข้อหาถ่วงเวลา
- 🔁 นาที 70 – นาโปลีส่ง มาเตโอ โปลิตาโน่ ลงแทน โนอาห์ ล็อง เสริมความสดริมเส้น
- 🟨 นาที 73 – ทอมมาโซ บัลดันซี่ โดนใบเหลืองหลังเข้าเสียบหนัก
- 🔁 นาที 80 – โรม่าส่ง ลีออน เบลีย์ แทน เปลเลกรินี่ พร้อมกับนาโปลีส่ง เอลิฟ เอลมาส ลงแทน ฮอยลุนด์
- 🔁 นาที 82 – สเตฟาน เอล ชาราวี่ ลงแทน เวสลี่ย์ เพิ่มน้ำหนักเกมรุกฝั่งซ้ายของโรม่าช่วงท้าย
- 🔁 นาที 85 – ลอเรนโซ่ ลุกก้า ลงแทน เดวิด เนเรส ผู้ทำประตู
- 🟨 นาที 86 – เอว็อง เอนดิคก้า รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์หยุดเกมสวนกลับ
- 🟨 นาที 90+3 – สเตฟาน เอล ชาราวี่ โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน
- 🟨 นาที 90+6 – มาติอัส โอลิเวร่า รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์ท้ายเกม
🌟 Player of the Match – เดวิด เนเรส
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แบบไร้ข้อโต้แย้งต้องยกให้ เดวิด เนเรส ปีกบราซิเลียนของนาโปลี ที่ได้คะแนนสูงถึง 9.5 ฟอร์มวันนี้เขาเป็นทุกอย่างให้แนวรุกทีมเยือน ทั้งความเร็ว การเลี้ยงกินตัว รวมถึงการจบสกอร์ ลูกยิงขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 36 คือจังหวะที่แสดงให้เห็นความนิ่งและคมในเขตโทษ ประกบแน่นแค่ไหนก็ยังหาช่องยิงได้
ตลอดเกมเนเรสช่วยดึงตัวประกบออกจากเพื่อน เปิดพื้นที่ให้ ฮอยลุนด์ และ ล็อง ได้วิ่งสอด ทำให้ระบบสวนกลับของนาโปลีมีมิติมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยไล่เพรสในแดนบน ทำให้แนวรับโรม่าออกบอลยาก สไตล์การเล่นแบบนี้คือสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นอาวุธเด็ดของคอนเต้ในซีซั่นนี้อย่างแท้จริง

🧮 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา
ชัยชนะเกมนี้ส่งผลโดยตรงต่อหน้าตา ตารางคะแนนเซเรียอา นาโปลีเก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนน จาก 13 นัด ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 3 ประตูได้เสีย +11 ขึ้นไปยึดรองจ่าฝูงแต่มีแต้มเท่ามิลานที่นำอยู่ ต่างกันเพียงประตูได้เสีย ทำให้การลุ้นแชมป์เปิดกว้างสุดๆ และแรงกดดันโยนกลับไปหามิลานแบบเต็มๆ
ส่วนโรม่าแม้จะแพ้แต่ยังคงรั้งอันดับ 4 มี 27 คะแนน จากผลงานชนะ 9 แพ้ 4 ยังอยู่ในโซนลุ้นพื้นที่ยุโรป แต่ความพ่ายแพ้คาบ้านเกมนี้คือสัญญาณเตือนว่าหากหลุดอีกเพียงนัดเดียว มีสิทธิ์โดนกลุ่มไล่ล่าจากด้านหลังอย่าง โบโลญญ่า กับ โคโม่ ที่ตามมา 24 คะแนน จี้เข้ามาแบบได้ลุ้นเช่นกัน
📅 ตารางบอลเซเรียอา และโปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้า แฟนบอลที่ชอบเช็ก ตารางบอล และโปรแกรมล่วงหน้าต้องจดไว้ให้ดี โรม่า มีภารกิจสำคัญสองเกมต่อเนื่อง เริ่มจากบุกเยือนกายารี ในศึกเซเรียอา วันที่ 7/12 เวลา 21.00 น. ก่อนจะต้องออกไปเยือนเซลติก วันที่ 12/12 เวลา 03.00 น. ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งทั้งสองเกมนี้มีผลต่อทั้งอันดับในลีกและโอกาสเข้ารอบยุโรปโดยตรง
ด้านนาโปลีโปรแกรมแน่นไม่แพ้กัน เริ่มจากศึกโคปปา อิตาเลีย เปิดบ้านรับมือกายารี วันที่ 4/12 เวลา 00.00 น. ก่อนจะเจอศึกใหญ่นัดถัดไปในลีก เปิดซัง เปาโล ต้อนรับการมาเยือนของยูเวนตุส วันที่ 8/12 เวลา 02.45 น. เกมที่อาจนิยามทิศทางการลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ได้เลยทีเดียว ใครตามดู โปรแกรมบอล และวางแผนดูกันให้ดี คืนเหล่านี้ห้ามพลาดหน้าจอ
🏠 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดทุกสกอร์ แจ้งเตือนทุกจังหวะสำคัญของบอลอิตาลีและลีกใหญ่ทั่วยุโรป แนะนำให้เปิดหน้า บ้านผลบอล และอัปเดตผ่าน บ้านกีฬา เอาไว้ตลอดทั้งฤดูกาล บ้านกีฬา จะคอยเก็บทุกสถิติ ไฮไลต์เด็ด จังหวะชี้เป็นชี้ตาย และบทวิเคราะห์เจาะลึกมาเสิร์ฟให้แฟนบอลแบบครบจบในที่เดียว

