จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง เอซี มิลาน 1-0 ลาซิโอ วันนี้ 30/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา คืนเดือดที่ซาน ซีโร่ เอซี มิลาน เปิดบ้านเฉือน ลาซิโอ แบบหายใจไม่ทั่วท้อง 1-0 จากประตูโทนของ ราฟาเอล เลเอา นาที 51 ส่งให้ “รอสโซเนรี่” เก็บสามแต้มสุดสำคัญ รั้งจ่าฝูงต่อด้วย 28 คะแนน ขณะที่ “อินทรีฟ้า–ขาว” กลับกรุงโรมมือเปล่า สะดุดอยู่อันดับ 8 ตามกลิ่นโควตายุโรปต่อไป
แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด พร้อมเสียงเชียร์จากจอทีวีรู้กันดีว่า นี่ไม่ใช่เกมที่ใครครองบอลข้างเดียว แต่เป็นการบี้กันทุกจังหวะ ทั้งเกมรับ เกมรุก และอารมณ์เดือดช่วงท้ายที่ต้องพึ่ง VAR และใบเหลืองปลิวว่อน บ้านกีฬา ขอพาไปเก็บทุกมุมแบบละเอียดในสไตล์สายวิเคราะห์จัดเต็ม
🕒 ครึ่งแรก: เกมอึดอัด เขี้ยวทั้งสองฝั่ง
ช่วง 45 นาทีแรก มิลานของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เลือกระบบ 3-5-2 เน้นแพ็กเกมรับแน่นก่อน ค่อยใช้ความเร็วของ เลเอา กับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แทงสวนกลับ ด้านลาซิโอของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ มาในแผน 4-3-3 เน้นต่อบอลเท้าสู่เท้า ผ่านมิดฟิลด์อย่าง เวซิโน่ – กูเอนดูซี่ – บาซิช คอยคุมจังหวะ
มิลานมีจังหวะลุ้นจากลูกเซ็ตเพลย์และการเติมของวิงแบ็ก ทั้ง ดาวิเด บาร์เตซากี ขึ้นทางซ้าย และ อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส ทางขวา แต่บอลมักไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือนโดยเฉพาะ มาริโอ กีลา กับ อเลสซิโอ โรมันโยลี ที่อ่านเกมดี ส่วนลาซิโอมีจังหวะส่องจาก บูลาย เดีย กับ มัตเตีย ซักคาญี ทว่า ไมค์ เมญ็อง ยืนตำแหน่งเหนียวหนึบ
นาที 26 ฟิคาโย่ โทโมริ ต้องรับใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม เป็นสัญญาณชัดว่ากองหลังมิลานต้องเล่นด้วยสมาธิสูง เพราะแนวรุกลาซิโอพร้อมลงโทษทันทีหากพลาด ครึ่งแรกจบด้วยสกอร์ 0-0 ในบรรยากาศตึงเครียด แต่แฟนบอลในสนามยังเชื่อว่าประตูแรกของเกมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
🔥 ครึ่งหลัง: เลเอาซัดปลดล็อก – ท้ายเกม VAR ช่วยมิลานรอด
ครึ่งหลังเกมเปิดมากขึ้น มิลานขยับไลน์ขึ้นสูง กล้าเพรสแดนบนเพื่อบีบให้ลาซิโอเล่นพลาด และแล้วนาที 51 ก็ได้เฮทั้งสนามเมื่อจังหวะทุ่มยาวต่อเนื่อง โทโมริ ดันขึ้นมาช่วยเกมรุกก่อนไหลต่อให้ ราฟาเอล เลเอา พลิกหนีตัวประกบเข้าเขตโทษแล้วกดด้วยขวาเสียบเสาอย่างเด็ดขาด ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูเดียวของเกม
โดนนำ ลาซิโอจำเป็นต้องเร่งเกม ซาร์รี่แก้เกมด้วยการส่ง ฟิซาโย เดเล-บาชิรู และ วาเลนติน กาเตญาโนส ลงมานาที 62 แทน เวซิโน่ และเดีย เพื่อเพิ่มพลังวิ่งและความสด จากนั้นส่ง เปโดร นาที 70 ทำให้แนวรุกทีมเยือนเล่นเคลื่อนที่มากขึ้น แต่ยังเจาะกำแพงหลังมิลานไม่ได้
ช่วงกลางครึ่งหลัง มิลานเองต้องเสริมความแน่นในแดนกลาง ส่ง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงมาแทน ยุสซุฟ โฟฟาน่า นาที 65 ก่อนตามด้วย ซามูเอเล่ ริคคี่ นาที 82 แทน เอ็นคุนคู เพื่อช่วยไล่บอลและดึงจังหวะเกมให้ช้าลง
ท้ายเกมเดือดจัด นาที 90+7 มีจังหวะปะทะในเขตโทษฝั่งมิลานที่ อเลสซิโอ โรมันโยลี ล้มลง ผู้ตัดสิน จูเซ็ปเป้ คอลลู เช็ก VAR อย่างละเอียด ก่อนยืนยัน “ไม่เป็นจุดโทษ” ทำเอาแข้งลาซิโอและแฟนทีมเยือนเดือดดาล ต่อเนื่องนาที 90+13 มัตเตีย ซักคาญี โดนใบเหลืองจากการโวยใส่ผู้ตัดสิน ขณะเดียวกันฝั่งมิลานก็ไม่รอด เมื่อ อัลเลกรี ถูกไล่ออกจากเขตเทคนิคเพราะไปเถียงเกินเหตุ แต่สุดท้ายเสียงนกหวีดท้ายเกมก็ดังขึ้น พร้อมสามแต้มสำคัญของเจ้าบ้าน
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 เอซี มิลาน (ระบบ 3-5-2, เรตติ้งเฉลี่ย 7.14)
ผู้รักษาประตู
- ไมค์ เมญ็อง (16) เรตติ้ง 8.2 – เซฟลูกสำคัญหลายครั้ง คุมพื้นที่ในกรอบ 6 หลายจังหวะ
กองหลังสามคน
- ฟิคาโย่ โทโมริ (23) 8.2 – กัปตันเกมนี้ อ่านเกมดีสุดๆ แถมทำแอสซิสต์ให้ประตูชัย
- มัตเตโอ กับเบีย (46) 7.2 – ช่วยดวลลูกกลางอากาศ ไล่บี้กองหน้าลาซิโอไม่ให้หันหน้าเข้าหาประตู
- สตราฮินยา ปาฟโลวิช (31) 7.1 – เติมเกมดุดัน เข้าปะทะแน่นหนึบ
วิงแบ็กและมิดฟิลด์
- อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส (56) 6.8 – เติมขึ้น–ลงฝั่งขวา วิ่งไม่มีหมด
- ดาวิเด บาร์เตซากี (33) 7.6 – เด่นมากทั้งเกมรุก–รับ ทางกราบซ้าย
- ยุสซุฟ โฟฟาน่า (19) 6.6 – ตัดเกมกลางสนามในครึ่งแรก ก่อนถูกเปลี่ยนออก
- ลูก้า โมดริช (14) 7.0 – จ่ายบอลนิ่ง คุมจังหวะเกมเหมือนเคย
- อาเดรียง ราบิโอต์ (12) 7.1 – ช่วยซ้อนเกมรับ และเชื่อมเกมจากหลังสู่หน้าต่อเนื่อง
กองหน้า
- คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (18) 6.6 – เคลื่อนที่หาช่องดี แต่ยังขาดความคมในจังหวะจบ
- ราฟาเอล เลเอา (10) 7.1 – พระเอกของเกม ยิงประตูโทนให้ทีมคว้าชัย
ตัวสำรองที่ใช้งาน
- รูเบน ลอฟตัส-ชีค (8) 6.9 – ลงนาที 65 แทน โฟฟาน่า ช่วยบังบอลและพักบอลได้ดี
- ซามูเอเล่ ริคคี่ (4) 6.4 – ลงนาที 82 แทน เอ็นคุนคู เติมความสดแดนกลาง พร้อมโดนเหลืองช่วงท้ายเกม
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
มัตเตโอ พิตตาเรลลา, ปิเอโตร เตร์ราชเชียโน, ดาวิด โอโดกู, แพร์วิส เอสตูปิญาน, โคนี่ เด วินเตอร์, อาร์ดอน ยาชารี
🔵 ลาซิโอ (ระบบ 4-3-3, เรตติ้งเฉลี่ย 6.65)
ผู้รักษาประตู
- อิวาน โปรเวเดล (94) 7.1 – แม้เสียหนึ่งประตู แต่ช่วยเซฟหลายครั้งให้ทีมยังมีลุ้นจนจบ
กองหลังสี่คน
- อดัม มารูซิช (77) 6.5 – เจองานช้างในการรับมือเลเอา
- มาริโอ กีลา (34) 7.2 – ยืนซ้อนดี อ่านเกมยอดเยี่ยม เป็นคนที่เด่นสุดฝั่งลาซิโอ
- อเลสซิโอ โรมันโยลี (13) 6.9 – พยายามคุมแนวรับเก่าอย่างซาน ซีโร่ แต่มีช็อตลุ้นจุดโทษท้ายเกมที่ไม่ได้
- ลูก้า เปลเลกรินี่ (3) 6.6 – เติมเกมซ้ายบ้าง แต่ท้ายเกมโดนเปลี่ยนออกหลังโดนใบเหลือง
มิดฟิลด์สามคน
- มัตเตโอ เกนดูซี่ (8) 6.6 – ไล่บีบไม่หยุด แต่จังหวะจ่ายทะลุช่องยังไม่คม
- มาติอัส เวซิโน่ (5) 6.8 – คุมจังหวะแดนกลางช่วงต้นเกม ก่อนถูกถอดนาที 62
- โตมา บาซิช (26) 6.8 – มีลูกยิงไกลน่าลุ้น แต่ไม่ผ่านมือเมญ็อง
แนวรุกสามประสาน
- กุสตาฟ อีซักเซ่น (18) 6.2 – โดนประกบตลอด ทำให้เล่นไม่ถนัด
- บูลาย เดีย (19) 6.3 – พยายามเชื่อมเกมรุก แต่หาช่องหลุดเดี่ยวไม่ได้
- มัตเตีย ซักคาญี (10) 6.4 – ขยันลากเลื้อยแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาด แถมโดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บจากการโวย
ตัวสำรองที่ใช้งาน
- ฟิซาโย เดเล-บาชิรู (7) 6.4 – ลงนาที 62 แทน เวซิโน่ ช่วยไล่เพรสสูง
- วาเลนติน กาเตญาโนส (11) 6.5 – ลงนาที 62 แทน เดีย เพิ่มความเคลื่อนไหวในกรอบเขตโทษ
- เปโดร (9) 7.1 – ลงนาที 70 แทน อีซักเซ่น เป็นตัวรุกที่สร้างปัญหาได้มากสุดของทีมเยือน
- นูโน ตาวาเรส (17) 6.6 – ลงนาที 85 แทน เปลเลกรินี่ พยายามเติมเกมซ้ายแต่เวลาน้อย
- ทิจจานี่ นอสลิน (14) 6.4 – ลงนาที 85 แทน บาซิช หวังเพิ่มลูกลุยในแดนบน
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
อเลสซิโอ ฟูร์ลันเน็ตโต, คริสตอส มานดาส, มานูเอล ลาซซารี, โอลิเวอร์ พรอฟส์การ์ด, ปาทริก, เรด้า เบลายายเน
ผู้ตัดสิน: จูเซ็ปเป้ คอลลู – แจกใบเหลืองรวม 6 ใบ ไม่มีใบแดงในสนาม แต่ไล่ อัลเลกรี นอกเส้นข้างสนามจากจังหวะโวยวาย
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปเกมคืนนี้ชี้ชัดว่า มิลานปรับตัวเก่งแค่ไหนในระบบ 3-5-2 แนวรับสามคนอย่าง โทโมริ – กับเบีย – ปาฟโลวิช ยืนค่อนข้างลึก เน้นปิดพื้นที่ตรงกลางแล้วบีบให้ลาซิโอถ่ายบอลออกด้านข้าง เมื่อแย่งบอลได้ มิลานจะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว ผ่านการวางบอลยาวของ โมดริช หรือ ราบิโอต์ ขึ้นไปหา เลเอา และเอ็นคุนคู
เกมรุกของมิลานเน้นโจมตีกึ่งโต้กลับ ใช้การโอเวอร์แลปของ บาร์เตซากี และซาเลอมาเกอร์ส ทำให้แนวรับลาซิโอต้องถ่างออก เปิดช่องให้กองหน้าหลุดเข้าไปเล่นหนึ่งต่อหนึ่ง โดยเฉพาะจังหวะประตู 1-0 ที่โทโมริกล้าดันขึ้นสูงแล้วฝากบอลให้เลเอาโชว์ความเฉียบคม ถือเป็นผลลัพธ์จากการซ้อมแผนสวนกลับแบบเป็นระบบ
ฝั่งลาซิโอในมุมมอง วิเคราะห์บอล เกมนี้ถือว่ายังติดๆ ขัดๆ แผงมิดฟิลด์สามคนพอจะหมุนบอลได้ดี แต่ขาดตัวทะลุช่องที่กล้าเสี่ยงจ่ายบ่อยๆ ทำให้ บูลาย เดีย ต้องถอยลงมารับบอลลึกเกินไป จังหวะต่อเนื่องสู่ปีกสองฝั่งช้าลง และเมื่อบอลไปถึง ซักคาญี หรือ อีซักเซ่น ก็มักเจอการดักสองชั้นจากวิงแบ็กบวกเซ็นเตอร์ของมิลาน
ในเกมรับ ลาซิโอวางบล็อก 4-1-4-1 เวลาไม่มีบอล ใช้ เวซิโน่ ยืนหน้าเซ็นเตอร์ แต่ปัญหาคือระยะห่างระหว่างไลน์มิดฟิลด์กับแนวรับกว้างไปหน่อย ทำให้เลเอากับเอ็นคุนคูหาพื้นที่เล่นระหว่างไลน์ได้บ่อย ขณะที่มิลานเมื่อถอยไปตั้งรับในแดนตัวเอง จะบีบแคบพื้นที่กลางสนาม ปล่อยให้ลาซิโอต่อบอลรอบๆ แต่ไม่ยอมให้ทะลุเข้ากลางเขตโทษง่ายๆ ซึ่งแผนนี้เวิร์กสุดๆ เพราะแม้ลาซิโอจะมีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลไม่น้อย แต่โอกาสยิงแบบจังๆ ไม่มากนัก
โดยรวมแล้วในเชิงแท็กติก มิลานคือทีมที่จัดการรายละเอียดเกมได้ดีกว่า ทั้งการยืนตำแหน่ง การเปลี่ยนจังหวะรุก–รับ และการกดดันสูงช่วงเหมาะๆ ทำให้ลาซิโอไม่เคยเล่นอย่างสบายใจเลยตลอด 90 นาที
📈 สถิติการแข่งขันโดยภาพรวม
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนรูปเกมที่สูสีแต่เฉียบคมคนละขั้ว มิลานสร้างโอกาสยิงได้ทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ลาซิโอไม่ได้น้อยหน้า ยิงไป 9 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง แปลว่าทั้งสองฝั่งต่างมีลุ้นทำประตูเพิ่ม แต่ความเฉียบขาดและเซฟสำคัญของผู้รักษาประตูทำให้สกอร์จบแค่ 1-0
เปอร์เซ็นต์การครองบอลแบ่งกันเป๊ะ 50-50 มิลานครองบอลเหนียวในช่วงนำ ส่วนลาซิโอขึงบุกหนักช่วงท้ายเกม แต่เมื่อดูจำนวนการผ่านบอล ทีมเยือนผ่านบอลมากกว่าที่ 496 ครั้ง ขณะที่มิลานผ่าน 417 ครั้ง ทว่าความแม่นยำกลับใกล้เคียงกัน มิลานแม่น 91% ส่วนลาซิโอ 90% แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่เล่นกันด้วยมาตรฐานสูงมาก
เกมนี้มีการปะทะดุดันตามสไตล์เซเรียอา ฟาวล์รวม 22 ครั้ง แบ่งเป็นมิลาน 10 และลาซิโอ 12 ใบเหลืองฝั่งละ 3 ใบ ไม่มีใครโดนใบแดงในสนาม แต่ข้างสนามมีดราม่าให้พูดถึงจากการที่อัลเลกรีโดนไล่ขึ้นสแตนด์ จังหวะล้ำหน้า มิลานโดนจับ 1 ครั้ง ลาซิโอ 2 ครั้ง และลูกเตะมุมเจ้าถิ่นได้เพียง 1 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้มากกว่า 4 ครั้ง ทว่าจังหวะเซ็ตเพลย์ของลาซิโอยังไม่คมพอจะเปลี่ยนเป็นประตู
⏱️ เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- ⚠️ นาที 26 ฟิคาโย่ โทโมริ (มิลาน) ทำฟาวล์ถูกใบเหลือง เป็นสัญญาณแรกของเกมที่เริ่มเดือด
- ⚽ นาที 51 ราฟาเอล เลเอา ทำประตูให้มิลานขึ้นนำ 1-0 จากการประสานงานกับ โทโมริ ที่ดันขึ้นมาช่วยเกมรุก
- 🟨 นาที 57 ลูก้า เปลเลกรินี่ (ลาซิโอ) โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยและทำฟาวล์หนัก
- 🔁 นาที 62 ลาซิโอเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ฟิซาโย เดเล-บาชิรู แทน มาติอัส เวซิโน่ และ วาเลนติน กาเตญาโนส แทน บูลาย เดีย เติมความสดแดนกลางและแดนหน้า
- 🟨 นาที 64 มัตเตโอ กับเบีย (มิลาน) รับใบเหลืองจากการเข้าบอลแรงกลางสนาม
- 🔁 นาที 65 มิลานส่ง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงแทน ยุสซุฟ โฟฟาน่า เพื่อช่วยประคองแดนกลาง
- 🔁 นาที 70 ลาซิโอส่ง เปโดร ลงแทน กุสตาฟ อีซักเซ่น เพิ่มมิติเกมริมเส้น
- 🟨 นาที 72 อเลสซิโอ โรมันโยลี (ลาซิโอ) โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์หนักใส่แนวรุกมิลาน
- 🔁 นาที 82 มิลานเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่ง ซามูเอเล่ ริคคี่ แทน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เพื่อปิดเกมแดนกลาง
- 🔁 นาที 85 ลาซิโอถอด ลูก้า เปลเลกรินี่ กับ โตมา บาซิช ออก แล้วใส่ นูโน ตาวาเรส กับ ทิจจานี่ นอสลิน ลงมาเสริมเกมรุกช่วงท้าย
- 🟨 นาที 89 ซามูเอเล่ ริคคี่ (มิลาน) ได้ใบเหลืองจากจังหวะตัดเกม
- 🧾 นาที 90+7 จังหวะปะทะในเขตโทษมิลานที่ โรมันโยลี ล้ม ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนตัดสินว่า “ไม่เป็นจุดโทษ” ทำให้แข้งลาซิโอหัวเสียกันทั้งทีม
- 🟨 นาที 90+13 มัตเตีย ซักคาญี (ลาซิโอ) โดนใบเหลืองจากการโต้เถียงผู้ตัดสิน
- 🟥 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ออกจากเขตเทคนิค หลังโวยวายคำตัดสินอย่างดุเดือด
⭐ Player of the Match: ฟิคาโย่ โทโมริ
แม้ผู้ทำประตูชัยจะเป็น ราฟาเอล เลเอา แต่รางวัล Man of the Match ตกเป็นของ ฟิคาโย่ โทโมริ ด้วยเรตติ้งสูงถึง 8.2 จาก Sofascore เกมนี้เซ็นเตอร์ชาวอังกฤษคือหัวใจของแนวรับมิลานอย่างแท้จริง เขาอ่านเกมได้ยอดเยี่ยม ดักบอลสำคัญหลายจังหวะ ตัดลูกครอสอันตรายจากฝั่งลาซิโอ และยังกล้าดันขึ้นไปมีส่วนกับเกมรุก
ประตู 1-0 เกิดจากการที่โทโมริรับบอลบริเวณครึ่งสนาม ก่อนแทงต่อให้เลเอาหลุดเข้าไปจัดการเอง เป็นภาพสะท้อนชัดว่าเขาไม่ได้ทำหน้าที่แค่ “กันประตู” แต่ยังช่วย “สร้างประตู” ให้ทีมด้วย จึงไม่แปลกที่ชื่อของเขาถูกจารึกเป็นฮีโร่ของค่ำคืนนี้ เคียงข้าง ไมค์ เมญ็อง กับ ดาวิเด บาร์เตซากี ที่ได้เรตติ้งสูงตามมาติดๆ
📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา หลังจบเกม
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ เอซี มิลาน แข่ง 13 นัด ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้เพียง 1 ยิงได้ 19 เสีย 9 มี 28 คะแนน ขยับยืนจ่าฝูงกัลโช่อย่างสง่างาม ทิ้ง โรม่า ที่เตะน้อยกว่าหนึ่งนัดอยู่ 1 แต้ม ขณะที่ นาโปลี กับ อินเตอร์ ไล่ตามมาห่างๆ ที่ 25 และ 24 คะแนนตามลำดับ บรรยากาศแย่งแชมป์เซเรียอาเริ่มเดือดตั้งแต่โค้งแรกของฤดูกาล
ด้านลาซิโอ ความปราชัยทำให้พวกเขามี 18 คะแนน จาก 13 เกม อยู่ที่อันดับ 8 เท่ากับ อูดิเนเซ่ แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่าเล็กน้อย สถานการณ์ในกลุ่มชิงตั๋วฟุตบอลยุโรปยังเปิดกว้าง แต่ถ้าทีมของซาร์รี่ยังสะดุดแบบนี้ต่อเนื่อง โอกาสไล่ทันกลุ่มหัวตารางอย่าง โบโลญญ่า, โคโม่ หรือ ยูเวนตุส คงไม่ง่ายแน่
📅 ตารางบอลเซเรียอาและถ้วยอื่น นัดถัดไป
เมื่อดูจากโปรแกรมในมือ แฟนบอลคงต้องรีบเปิดเช็ก ตารางบอล ต่อทันที เพราะทั้งสองทีมมีเกมหนักรออยู่
ฝั่งมิลาน จะบุกไปเยือน ลาซิโอ อีกครั้งในศึกโคปปา อิตาเลีย วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 03.00 น. นี่คือโอกาสทองของอินทรีฟ้า–ขาวในการล้างตาในถ้วยน็อกเอาต์ ก่อนที่รอสโซเนรี่จะมีคิวเกมลีกบุกเยือน โตริโน่ ในวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 02.45 น. เกมที่อาจมีผลสำคัญต่อเส้นทางลุ้นแชมป์หากพลาดแต้มแม้แต่นิดเดียว
ส่วนลาซิโอ นอกจากนัดรีแมตช์กับมิลานในโคปปา อิตาเลีย พวกเขายังต้องเปิดบ้านรับมือ โบโลญญ่า ในเกมลีกวันที่ 8 ธันวาคม เวลา 00.00 น. หากเก็บชัยไม่ได้อีก อันดับในตารางเสี่ยงจะรูดลงไปกดดันหนักกว่าเดิม ส่งผลต่อสภาพจิตใจต่อเนื่องยาวๆ
สำหรับคอลูกหนังที่ชอบวางแผนดูบอลล่วงหน้า อย่าลืมตามเกาะติดทั้งตารางเตะและ โปรแกรมบอล ทุกคู่ใหญ่ของกัลโช่ เพราะทั้งมิลานและลาซิโอยังมีเกมสำคัญรออยู่เพียบในช่วงเทศกาลปลายปีนี้
📰 ติดตามบ้านผลบอลและข่าวบอลเพิ่มที่บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สดแบบจังหวะต่อจังหวะ ทั้งยิง เสา ชนคาน ใบเหลือง ใบแดง หรืออัปเดตฟอร์มร้อนของทีมดังในยุโรป สามารถติดตาม บ้านผลบอล ครบทุกลีกได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกช็อตเด็ดจากสนาม ไม่ว่าจะเป็นกัลโช่ เซเรียอา พรีเมียร์ลีก ลาลีกา หรือบอลถ้วยต่างๆ มาเล่าให้ฟังแบบเข้มข้น ดุดัน แต่เข้าใจง่ายเหมือนมีเพื่อนเซียนบอลนั่งเมาท์อยู่ข้างๆ จอ
แฟนบอลห้ามพลาด กดติดตาม บ้านกีฬา เอาไว้ แล้วทุกคืนลูกหนังของคุณจะไม่มีคำว่าตกรถสกอร์อีกต่อไป
