เลาตาโร มาร์ตีเนซ กัปตันทีมคนเก่งของ อินเตอร์ มิลาน ออกมายอมรับความยอดเยี่ยมของ เอซี มิลาน คู่ปรับร่วมเมือง ที่สู้ไม่ถอยและสร้างปรากฏการณ์คัมแบ็กสุดดราม่า พลิกกลับมาคว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา ด้วยชัยชนะ 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศ ณ สนาม คิง ซาอัด ยูนิเวอร์ซิตี สเตเดียม กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมตำหนิเพื่อนร่วมทีมที่ขาดสมาธิหลังขึ้นนำ
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ในเกมที่ดูเหมือนจะเป็นชัยชนะง่ายๆ สำหรับ อินเตอร์ มิลาน หลังพวกเขาขึ้นนำไปก่อน 2-0 จากลูกยิงสุดเฉียบขาดของ เลาตาโร มาร์ตีเนซ ในนาทีที่ 45+1 และประตูที่สองจาก เมห์ดี ทาเรมี ในนาทีที่ 47 แต่แล้ว “งูใหญ่” กลับเสียสมาธิปล่อยให้ “ปีศาจแดง-ดำ” แสดงความยอดเยี่ยมด้วยการคัมแบ็กยิงสามประตูรวดจาก เตโอ แอร์กน็องเดซ ในนาทีที่ 52, คริสเตียน พูลิซิช นาทีที่ 80 และลูกปิดเกมจาก แทมมี่ อับราฮัม ในช่วงทดเวลา นาทีที่ 90+3 ส่งผลให้ มิลานคว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา เป็นครั้งที่ 8 ทัดเทียมกับ อินเตอร์ และเป็นรองเพียง ยูเวนตุส ทีมเดียว (9 สมัย)
หลังเกม มาร์ตีเนซ ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยยกเครดิตให้กับ มิลาน ที่ไม่เคยยอมแพ้แม้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พร้อมทั้งวิจารณ์การเล่นของทีมตัวเองที่ดูเหมือนจะหยุดเล่นไปเฉยๆ หลังได้เปรียบสองประตู
“เราเริ่มต้นเกมได้ดีและควบคุมเกมไว้ในครึ่งแรก หลังขึ้นนำ 2-0 เรากลับหยุดเล่นไปเหมือนหมดไฟ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย” กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 27 ปีกล่าวอย่างผิดหวัง “มันไม่ใช่ว่าเราขาดความกระหายที่จะชนะ แต่เราพลาดโอกาสสำคัญหลายครั้งจากทั้ง ดาวิเด ฟรัตเตซี, เดนเซล ดุมฟรีซ, เฮนริค มคิทาเรียน และจังหวะอื่นๆ ที่ควรทำได้ดีกว่านี้”
มาร์ตีเนซ ยังกล่าวต่อว่า “เราแพ้ในเกมนี้ และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นการพ่ายแพ้ที่สมควรหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมมั่นใจคือ มิลาน สมควรได้รับคำชมสำหรับความไม่ย่อท้อและความกล้าหาญในสนาม”
ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเกียรติยศให้กับ เอซี มิลาน แต่ยังเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของทีมที่ยังคงต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ต้องเจอกับแรงกดดันจากสถานการณ์เกมที่ไม่เป็นใจ
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา