ภาพรวมความสำเร็จของทีมกอล์ฟไทยในศึกซีเกมส์ 33
ทีมกอล์ฟไทย แผลงฤทธิ์โชว์ฟอร์มดุสมกับความคาดหวังของแฟนกีฬาชาวไทย กวาดครบ 4 เหรียญทองทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม ชาย-หญิง ในการแข่งขันกอล์ฟ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่สนาม สยามคันทรีคลับ โรลลิ่งฮิลส์ พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 11–14 ธันวาคม 2568 กลายเป็นผลงานประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ทีมไทยสามารถเหมาเหรียญทองได้ทุกประเภทในทัวร์นาเมนต์ระดับอาเซียนรายการนี้
บ้านกีฬา มองว่านี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะธรรมดา แต่เป็นการประกาศศักดาอย่างจริงจังว่ากอล์ฟทีมชาติไทยทั้งชุดชายและหญิงพร้อมก้าวขึ้นมายึดบัลลังก์จ้าววงสวิงในภูมิภาคแบบเต็มตัว ทั้งในมุมของผลงาน สกอร์ที่ทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น และมาตรฐานการเล่นที่มั่นคงตลอดสี่วันแข่งขัน
ทีมชายไทยฟอร์มดุ เหมาทั้งทีมและบุคคล
ทีมชายไทยทิ้งคู่แข่งขาดลอย
ในประเภททีมชาย ทีมชาติไทยปิดจ๊อบได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยสกอร์รวมสุดโหด 33 อันเดอร์พาร์ 831 ทิ้งห่างอินโดนีเซียถึง 20 สโตรก แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งเชิงเทคนิคและสภาพจิตใจของนักกอล์ฟไทยที่ยืนระยะได้ดีตั้งแต่รอบแรกจนวันสุดท้าย
ไลน์อัพทีมชายประกอบด้วย พงศภัค เหล่าภักดี (70), ธนวินท์ ลี (68), วรุตม์ บุญรอด (75) และ ปรินทร์ สารสมุทร (72) ที่ช่วยกันแบกรอบดี ๆ ใส่สกอร์ให้ทีมไทยขึ้นนำและรักษาความเหนือชั้นไว้ได้ทุกวัน ขณะที่เหรียญทองแดงเป็นของเวียดนามที่ทำได้ 7 อันเดอร์พาร์ 857 แต่ก็ยังตามหลังทีมไทยอยู่ไกลระดับหลายช็อต
บุคคลชาย พงศภัคแบกสกอร์คว้าทองแบบเหนือชั้น
ในประเภทบุคคลชาย พงศภัค เหล่าภักดี แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและคมของเกมเหล็กและพัตต์ ทำสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 คว้าเหรียญทองไปครองแบบไม่ต้องลุ้นมาก ทิ้งอันดับสอง มินห์ เหวียน อันห์ จากเวียดนาม ที่ทำได้ 10 อันเดอร์พาร์ 278 ถึง 11 สโตรก ขณะที่เหรียญทองแดงก็ยังเป็นของไทยจากผลงานของ ปรินทร์ สารสมุทร ที่ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280
ผลงานชุดนี้สะท้อนชัดว่าในระดับภูมิภาค เกมของนักกอล์ฟชายไทยอยู่ในระดับที่เหนือชั้นทั้งเรื่องการวางแผน การคุมสภาพสนาม และการจัดการกับความกดดันในทัวร์นาเมนต์ทีมชาติ
ทีมหญิงไทยไม่ยอมแพ้ ซิวทองทั้งทีมและบุคคล
ทีมหญิงสกอร์ขาด นำขาดเกือบสามสิบสโตรก
ฝั่งทีมหญิง ทีมชาติไทยก็ไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงเสียหาย จบการแข่งขันด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 558 ทิ้งห่างสิงคโปร์ถึง 35 สโตรก โดยมีสามกำลังหลักคือ ปริม ปราชญ์นคร (66), พิมพ์พิศา รับรอง (68) และ กฤตชัญญา เก้าพัฒนสกุล (74) ที่ช่วยกันสร้างสกอร์สวย ๆ ให้ทีมพุ่งชนเหรียญทองแบบไร้ข้อกังขา
สิงคโปร์เก็บเหรียญเงินด้วยสกอร์ 17 โอเวอร์พาร์ 593 ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของอินโดนีเซียที่ทำได้ 19 โอเวอร์พาร์ 595 ช่องว่างของสกอร์สะท้อนให้เห็นชัดว่าเกมของสาวไทยอยู่ระดับอีกชั้นหนึ่งทั้งด้านความแม่นยำและความสม่ำเสมอ
บุคคลหญิง ปริมฮีโร่พลิกสถานการณ์แซงคว้าทอง
ประเภทบุคคลหญิงถือเป็นไฮไลต์ดราม่าของวันสุดท้าย ปริม ปราชญ์นคร ที่เริ่มวันสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำอยู่ 2 สโตรก แต่สามารถควบคุมจังหวะเกมของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม จบวันแบบโบกี้ฟรีด้วย 6 อันเดอร์พาร์ 66 ทำให้สกอร์รวมขึ้นไปอยู่ที่ 9 อันเดอร์พาร์ 279 แซงขึ้นมาคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
เหรียญเงินกลายเป็นของเพื่อนร่วมทีม กฤตชัญญา เก้าพัฒนสกุล ที่ทำได้ 3 อันเดอร์พาร์ 285 ส่วนเหรียญทองแดง ตามกติกาซีเกมส์ที่ไม่ให้ชาติเดียวกันเหมาโพเดียม จึงตกเป็นของ อัน เล ชุค จากเวียดนาม ด้วยสกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ 293
เสียงจากฮีโร่นักกอล์ฟทีมชาติไทย
หลังจบการแข่งขัน พงศภัค เหล่าภักดี เปิดใจถึงผลงานในครั้งนี้ว่า
“เกมวันนี้ทำได้ดี แม้มีพลาดบ้าง แต่ก็พอใจที่จบด้วยอันเดอร์ ขอบคุณน้อง ๆ ทีมหญิงที่ทำผลงานยอดเยี่ยม และขอบคุณ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนเรามาตลอด”
ด้าน ปริม ปราชญ์นคร ฮีโร่เหรียญทองประเภทบุคคลหญิง กล่าวถึงวันที่เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบว่า
“วันนี้ตีได้ 6 อันเดอร์พาร์ พอใจที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ แม้เริ่มตามหลังสองแต้มก็โฟกัสทีมเป็นหลัก ขอบคุณครอบครัว โค้ช และกองเชียร์ที่สนับสนุนเรา รวมถึง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย”
สองคำให้สัมภาษณ์จากนักกอล์ฟตัวแทนทีมชาติไทยสะท้อนชัดทั้งเรื่องทีมเวิร์ก และความขอบคุณต่อคนเบื้องหลังที่ทำให้ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจริง
สถิติประวัติศาสตร์ที่กอล์ฟไทยต้องจดจำ
เมื่อมองภาพรวมผลงานทั้งหมด ทีมกอล์ฟไทยในซีเกมส์ 33 ทำผลงานได้สุดยอดด้วยการเก็บครบ 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ถือเป็นการกลับมาเหมาเหรียญทองทั้งประเภททีมและบุคคล ชาย-หญิง อีกครั้ง นับตั้งแต่ซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ
ในมุมของสถิติ นี่คือหลักฐานชัดเจนว่าระบบพัฒนานักกอล์ฟเยาวชนและทีมชาติไทยเดินมาถูกทาง ทั้งจากการสนับสนุนของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลัก และทีมโค้ชที่ช่วยต่อยอดศักยภาพของนักกีฬาให้พร้อมแข่งขันในเวทีนานาชาติ
กอล์ฟซีเกมส์กับเส้นทางเติบโตของนักกอล์ฟไทย
แม้ซีเกมส์จะเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับภูมิภาค แต่สำหรับวงการ กอล์ฟทีมชาติไทย นี่ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างประสบการณ์และความมั่นใจให้นักกอล์ฟดาวรุ่งได้ลองรับแรงกดดันภายใต้ธงชาติ ก่อนจะก้าวต่อไปสู่รายการระดับเอเชียและระดับโลก เช่น เอเชียนเกมส์ หรือทัวร์อาชีพในต่างประเทศ
การคว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้หลายสมัยต่อเนื่องช่วยยืนยันว่าโครงสร้างการคัดตัว การเก็บตัวฝึกซ้อม และการส่งนักกีฬาไปเก็บประสบการณ์ในต่างประเทศของไทยมีประสิทธิภาพ เมื่อผสมเข้ากับพรสวรรค์และวินัยของนักกีฬา ทำให้ผลงานในซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “ฟลุก” แต่เป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างจริงจังของทุกฝ่ายในระยะยาว
ก้าวต่อไปของวงสวิงไทยและแฟนกีฬาชาวไทย
จากผลงานเหมา 4 เหรียญทองในซีเกมส์ 33 บ้านกีฬา มองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรฐานวงสวิงไทยไปสู่เป้าหมายที่สูงกว่านี้ ทั้งในระดับทวีปและระดับโลก แฟนกีฬาชาวไทยคงต้องจับตาดูต่อว่าเหล่านักสวิงทีมชาติชุดนี้จะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนบนเส้นทางอาชีพ ทั้งในทัวร์เอเชีย แอลพีจีเอ หรือแม้แต่ทัวร์ใหญ่ในอนาคต
ใครที่รักกอล์ฟและกีฬาทีมชาติไทย หากไม่อยากพลาดทุกข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และผลงานต่อเนื่องของนักกอล์ฟไทยชุดนี้ อย่าลืมติดตามเรื่องราวเข้มข้นของวงการกีฬาได้ที่ บ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวกีฬา มุมมอง และสีสันที่แฟนกีฬาไม่ควรพลาด

