สโมสรลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในทีมที่มีนักเตะไปเล่นให้ทีมชาติในรอบล่าสุดมากที่สุด โดยมีนักเตะถึง 18 คนที่เข้าร่วมกับทีมชาติชุดใหญ่ หลายคนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามระดับโลก และนี่คือสถิติที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประตู, แอสซิสต์, และเวลาที่พวกเขาลงเล่นให้กับทีมชาติของตนเอง
จำนวนนาทีการลงเล่นที่ไม่ธรรมดา นักเตะลิเวอร์พูลถึง 10 คนที่ลงเล่นให้ทีมชาติของพวกเขาแบบเต็มเกมทั้งสองนัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและคุณภาพที่แต่ละคนมีต่อทีมชาติอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีสซง เบ็คเกอร์ ทั้งหมดนี้เป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติของพวกเขา
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (อังกฤษ) : 180 นาที
- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (เนเธอร์แลนด์) : 180 นาที
- ไรอัน กราเฟนแบร์ค (เนเธอร์แลนด์) : 180 นาที
- โดมินิค โซโบซไล (ฮังการี) : 180 นาที
- อลีสซง เบ็คเกอร์ (บราซิล) : 180 นาที
- หลุยส์ ดิอาซ (โคลอมเบีย) : 180 นาที
- ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ไอร์แลนด์) : 180 นาที
- แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (สกอตแลนด์) : 180 นาที
- คอเนอร์ แบรดลีย์ (ไอร์แลนด์เหนือ) : 180 นาที
- คอสตาส ซิมิกาส (กรีซ) : 180 นาที
สำหรับนักเตะคนอื่นๆ อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และวาตารุ เอ็นโด พวกเขาก็ยังได้รับโอกาสในการลงเล่นหลายนาทีซึ่งช่วยทีมชาติของพวกเขาเป็นอย่างมาก แม้จะไม่เต็มเกมแต่ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน
ประตูที่สร้างความแตกต่าง ผลงานของนักเตะลิเวอร์พูลไม่ได้มีแค่การลงเล่นนานๆ แต่ยังสามารถเบิกประตูได้อย่างน่าประทับใจ โดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงเป็นดาวยิงตัวหลักให้กับอียิปต์ทำประตูสำคัญได้ ส่วนคนอื่นๆ เช่น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โกดี้ กัคโป ต่างก็ทำผลงานยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันระดับทีมชาติของพวกเขา
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (อียิปต์) : 1 ประตู
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (อาร์เจนตินา) : 1 ประตู
- หลุยส์ ดิอาซ (โคลอมเบีย) : 1 ประตู
- วาตารุ เอ็นโด (ญี่ปุ่น) : 1 ประตู
- โกดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์) : 1 ประตู
แอสซิสต์จากฟอร์มอันยอดเยี่ยม นักเตะลิเวอร์พูลไม่เพียงแต่จะทำประตูเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ โดยเฉพาะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ทำแอสซิสต์และยังถูกเลือกให้เป็น “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ทั้งสองนัดที่เขาลงเล่นให้กับอังกฤษ นอกจากนี้ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ก็แสดงศักยภาพในเกมเสมอเยอรมนี 2-2 อย่างยอดเยี่ยม
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (อังกฤษ) : 1 แอสซิสต์
- ไรอัน กราเฟนแบร์ค (เนเธอร์แลนด์) : 1 แอสซิสต์
- คอสตาส ซิมิกาส (กรีซ) : 1 แอสซิสต์
การแสดงออกของนักเตะลิเวอร์พูลในเกมระดับทีมชาติเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่ง และหลังจากผ่านช่วงโปรแกรมทีมชาติไปแล้ว แฟนบอลจะได้เห็นพวกเขากลับมาเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก กันอีกครั้ง ในคืนวันเสาร์ที่ 14 กันยายนนี้ เมื่อพวกเขาจะเปิดบ้านที่ แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งกำลังฟอร์มดีไม่แพ้กัน
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
