เบรนท์ฟอร์ด จากทีมฟุตบอลสมัครเล่น สู่ทีมอาชีพในลีกสูงสุด

สโมสรฟุตบอลเบรนท์ฟอร์ด Brentford เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ในเมืองเบรนท์ฟอร์ด เกรเทอร์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ  มีฉายาว่าเจ้าผึ้งพิฆาต ปัจจุบันแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลระดับสูงสุดในประเทศ ได้รับการเลื่อนชั้นจากการคว้าแชมป์ EFL Championship Play-Off Final ในฤดูกาล 2020-2021 โดยเบรนท์ฟอร์ด เอฟซี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1889 โดยเดิมเล่นที่กริฟฟินพาร์ค เป็นสนามเหย้าของสโมสรมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ก่อนที่จะย้ายไปที่เบรนท์ฟอร์ด คอมมิวนิตี้ สเตเดียม ในปี ค.ศ. 2020 มีคู่แข่งสำคัญคือสโมสรใกล้เคียงในโซนลอนดอนตะวันตก อย่างฟูแล่มและควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส

ประวัติความเป็นมาของสโมสรเบรนท์ฟอร์ด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จุดเริ่มต้นของสโมสรเบรนท์ฟอร์ด หรือเจ้าผึ้งน้อย เรียกได้ว่าเก่าแก่ไม่แพ้กับสุดยอดโมสรชั้นนำอื่น ๆ ของประเทศอังกฤษ เกิดขึ้นจากความสนใจและต้องการการพัฒนาวงการฟุตบอลอังกฤษ พร้อมที่จะเติบโตไปกับยุคสมัย สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ 1889 หรือมากกว่า 134 ปี และใช้เวลาแค่ 13 ปี เท่านั้น สามารถเข้าสู่การแข่งขันลอนดอนลีกที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลสมัครเล่น มีการเลือกสโมสรเฉพาะในเมืองลอนดอนเท่านั้น กล่าวได้ว่าเมืองแห่งนี้มีสโมสรชั้นนำจำนวนมาก จนกลายมาเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ ที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือ การเข้าร่วมครั้งแรกสามารถที่จะจบอันดับรองชนะเลิศได้ทันที พื้นฐานและความน่าสนใจของทีม

กลายเป็นเรื่องที่ต้องจดจำไว้ประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 ปี สามารถก้าวขึ้นสู่เซาเทิร์นลีก โดยลีกแห่งนี้จะจัดการแข่งขันฟุตบอลในโซนใต้ของประเทศอังกฤษ และสามารถที่จะคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นสโมสรที่มีการพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง จากนั้นต่อมาอีก 2 ปี  ใน ค.ศ. 1920 ได้รับการเลือกลงแข่งขันในฟุตบอลลีก ELF หรือจะพูดว่าเลื่อนขั้นสู่ลีกอาชีพได้นั่นเอง เนื่องจากฟุตบอลของประเทศอังกฤษ จะแบ่งออกเป็นสมัครเล่นและพัฒนาขึ้นไปเป็นระดับอาชีพ เส้นทางของฟุตบอลอาชีพก็เริ่มต้นอย่างจริงจัง  สโมสรเริ่มใหม่ด้วยความสามารถคว้าแชมป์ดิวิชัน 3 ได้สำเร็จ ช่วยให้เลื่อนอันดับสู่ลีกที่สูงขึ้น และใช้เวลา 2 ปี ในการเลื่อนอันดับอีกครั้งสู่ลีกที่สูงมากกว่าเดิม

จนเมื่อปี ค.ศ. 1934-1935 เข้าสู่ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ คือ ดิวิชัน 1 ในปีต่อมา สามารถที่จะจบอันดับในลีกสูงสุดอยู่ที่ 5 กลายเป็นสโมสรฟุตบอลมาแรง จนเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วประเทศ และในเวลานี้ก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่แฟนบอลยังคงกล่าวถึง แต่เมื่อมีจุดสูงสุดก็ย่อมต้องมีจุดต่ำสุดเช่นเดียวกัน  โดยสโมสรเจ้าผึ้งน้อยเข้าสู่ยุคขาลง เมื่อปี ค.ศ. 1962 เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ตกต่ำแบบทั่วไป แต่กลับตกต่ำแบบที่สุด จากลีกสูงสุดกลับกลายเป็นอยู่ในลีกดิวิชัน 4 ของประเทศอังกฤษ จึงคือการตกต่ำที่ไม่มีแฟนบอลคนไหนคาดคิด และต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี ที่จะก้าวขึ้นมาสู่ลีกดิวิชัน 3 ได้อีกครั้ง กล่าวว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

และหลังจากนั้นทางสโมสรก็ไม่สามารถที่จะคงมาตรฐานที่ดีได้อีก มีขึ้นและลงลีกรองตลอดเวลา กลับกลายเป็นว่าความยิ่งใหญ่ในอดีตหายไปทั้งหมด จนมาถึงยุคปี 2000 ทุกอย่างเริ่มต้นมีการปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ช่วยให้เข้าสู่ลีกดิวิชัน 2 ในปี ค.ศ. 2008-2009 และใช้เวลา 4 ปี ในการก้าวขึ้นไปดิวิชัน 1 ในปี ค.ศ. 2013-2014 แต่ทว่าในปีต่อมา เหมือนจะก้าวขึ้นไปอีกอันดับ ด้วยการมาถึงรอบเพลย์ออฟแชมป์เปี้ยนชิพ แต่ก็ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันตามคาดคิด ซึ่งสถิตินี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลว่าทางสโมสรแห่งนี้ มีการเข้าแข่งขันเพลย์ออฟหลายรายการมาก แต่ก็จบด้วยการแพ้และไม่สามารถเลื่อนอันดับได้อีกเลย  

ผลงานที่น่าสนใจในอดีตของสโมสรเบรนท์ฟอร์ด

ทำเนียบการคว้าแชมป์ทั้งหมดของสโมสรเบรนท์ฟอร์ด โดยในทุกสโมสรของประเทศอังกฤษ ถ้ามีการก่อตั้งมาอย่างยาวนาน อย่างน้อยจะต้องมีการคว้าแชมป์มากมายตามไปด้วย เช่นเดียวกับสโมสรแห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่เลย แต่ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่น้อย เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 ในปี ค.ศ. 1934-1935 และคว้าแชมป์เปี้ยนชิพ ในปี ค.ศ. 2021 ดิวิชัน 3 หรือว่าลีกวันในปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 1932-1933 , 1991-1992 และ 2013-2014 ดิวิชัน 4 หรือว่าลีกทูในปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 1962-1963 , 1998-1999 และ 2008-2009 ยูไนเต็ดลีก ซึ่งเวลานี้ไม่มีการแข่งขันแล้ว ปี ค.ศ. 1907-1908 รวมไปถึงการที่มีผลงานดีที่สุด จบอันดับที่ 5 ในลีกดิวชัน 1 เข้ารอบรองชนะเลิศ FA CUP รอบรองชนะเลิศในลีกคัพ ซึ่งทั้งหมดนี้คือความยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลเบรนท์ฟอร์ด

การทำผลงานแข่งขันของเบรนท์ฟอร์ด ในฤดูกาล 2023

ปี 2023-2024 สโมสรแห่งนี้ ยังคงต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก เนื่องจากจบในอันดับที่ 16 ชนะในลีกแค่ 10 นัดเท่านั้น และแพ้ไปถึง 19 นัด ห่างจากโซนตกชั้น 136 คะแนน ภาพรวมบอกได้ว่าถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในปีต่อไปอาจจะไม่สามารถคงอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน ถือว่าผลงานอยู่ในช่วงเวลานี้ต้องการพัฒนาอย่างมากนั่นเอง  ในฤดูกาลก่อนหน้า ทางสโมสรสามารถจบในอันดับที่ดีมากกว่านี้ แต่อาจจะด้วยเจอกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน และเงินทุนของสโมสรที่ลดลง ทำให้การพัฒนาไม่ต่อเนื่อง ไปไม่สุด การอยู่รอดในลีกสูงสุด ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไป บอกได้ว่าโอกาสเสี่ยงในการตกชั้นมีสูงมาก