แอสตัน วิลล่า สโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน

สโมสรฟุตบอลแอสตัน วิลล่า หรือชื่อภาษาอังกฤษ Aston Villa Football Club สำหรับฉายาที่แฟนบอลไทยตั้งให้ คือ สิงห์ผงาดหรือสิงห์ผยอง ถือเป็นสโมสรที่มีประวัติมาอย่างยานานและเก่าแก่ที่สุดอีกด้วย เคยยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ทว่าในเวลานี้กลายเป็นสโมสรกลางตาราง และบางฤดูกาลอาจต้องลุ้นหนีการตกชั้น เรียกได้ว่าฟอร์มการเล่นไม่คงที่ ความน่าสนใจและการคว้าแชมป์ของทางสโมสร คือ การคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ถึง 7 สมัย, FA CUP 7 สมัย, ลีกคัพ 5 สมัย,  ยูโรเปียนคัพหรือในปัจจุบัน คือ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 1 สมัย และสุดท้ายจะเป็นยูโรเปียนซูเปอร์คัพ 1 สมัย

ประวัติความเป็นมา จุดกำเนิด การก่อตั้งที่น่าสนใจของสโมสรแอสตัน วิลล่า

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จุดเริ่มต้นสโมสรคือการย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1874 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีการสร้างสนามเหย้าของตัวเองชื่อวิลลาพาร์ก ใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1897 ความน่าสนใจของสโมสรแห่งนี้ เริ่มจากการเข้ามาคุมทีมของจอร์จ แรมซีย์ ในปี ค.ศ. 1880 เอกลักษณ์และสไตล์การแข่งขัน เน้นการต่อบอลสั้น มีเกมที่รวดเร็ว ดุดัน จึงช่วยให้เก็บชัยชนะและสร้างชื่อเสียงได้มากพอสมควร โดยสามารถที่จะคว้าแชมป์พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสร ซึ่งในเวลานั้นจอร์จถือเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพคนแรกของโลกอีกด้วย กล่าวได้ว่าเป็นยุคที่มีทั้งชื่อเสียง ความสามารถ รวมไปถึงอิทธิพลกับวงการฟุตบอลพอสมควร

มาในปี ค.ศ 1888 วิลเลียม แม็คเกรเกอร์ ในเวลานั้นคือผู้อำนวยการของสโมสร ได้มีการก่อตั้งการแข่งขันฟุตบอลลีกครั้งแรก ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เชื่อว่าจะไม่มีการแข่งขันฟุตบอลที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกอย่างทุกวันนี้แน่นอน ต่อมาในยุคเริ่มต้นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน ทางสโมสรก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้งอีกเช่นเดียวกัน โดยในปี ค.ศ. 1992 จากเดิมที่เป็นรายการฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 สู่การเป็นพรีเมียร์ลีกที่สมบูรณ์แบบ หมายความว่าแอสตัน วิลล่า คือ ผู้ก่อตั้งฟุตบอลลีกอังกฤษและพรีเมียร์ลีกนั่นเอง

ในช่วงยุค 90 สโมสรแอสตัน วิลล่า เป็นหนึ่งในสโมสรที่สามารถไปแข่งขันฟุตบอลระดับยุโรปได้ต่อเนื่อง มีมาตรฐานพร้อมที่จะแข่งขันได้อย่างมั่นใจ แต่กลับไม่มีโอกาสที่จะขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดได้ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสร คือ การที่ดัก เอลลิส ขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับแรนดี เลิร์นเนอร์ ชาวอเมริกัน แต่กลับไม่ใช่ทิศทางที่ดีขึ้น และกลายเป็นการตกชั้นลีกสูงสุดครั้งแรก ทั้งยังเป็นครั้งเดียวของสโมสร โดยใช้เวลานานถึง 3 ปี และในปี ค.ศ. 2019 จึงสามารถกลับเข้ามาสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง

ผลงานและการทำอันดับ ในตารางพรีเมียร์ลีกของแอสตัน วิลล่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดีแค่ไหน

ความสำเร็จของสโมสรฟุตบอลแอสตัน วิลล่า ถ้าเทียบกับสุดยอดสโมสรที่แฟนบอลชาวไทยคุ้นเคยนั้น ถือว่ามีแชมป์น้อยมาก และการคว้าแชมป์เกือบทั้งหมด ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1880-1960 ที่เป็นการคว้าแชมป์ 6 สมัยของรายการแข่งขัน FA CUP และ 6 สมัยของรายการลีกแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดของประเทศอังกฤษก็ว่าได้ มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม คือ การทำประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสูงถึง 128 ประตู ในปี ค.ศ. 1930-1931 สถิตินี้ยังไม่มีสโมสรใดในประเทศอังกฤษสามารถลบออกได้

หลังจากที่ขึ้นไปสูงที่สุดแล้ว ภาพรวมกลับคงที่ ไม่ดีและไม่แย่  แต่ก็ไม่สามารถลุ้นแชมป์อะไรได้เลย พร้อมเว้นระยะเวลานานถึง 30 ปี จึงจะมีการปรับเปลี่ยนภายใน การเปลี่ยนเจ้าของทีม การเข้ามาของดัก เอลลิส มาพร้อมกับการตกชั้นจากลีกสูงสุดและย่ำแย่ลงไป ถึงอันดับลีกที่ 3 เรียกได้ว่าจุดต่ำสุดของสโมสรนี้ก็ว่าได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1969-1970 สามารถกลับเข้าสู่ลีกระดับสูงได้อีกครั้ง โดยผลงานที่น่าสนใจนี้มาจากผู้จัดการทีม รอน ซอนเดอส์ และใช้เวลา 10 ปี ในการขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อีกครั้ง ในปีดังกล่าวสามารถที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการใหญ่ของทางยุโรป อย่างยูโรเปียนคัพในฤดูกาลปี ค.ศ. 1981–1982

ต่อมาอีก 1 ปีก็ตามมาด้วยยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ในปี ค.ศ. 1982 และทำให้สโมสรแห่งนี้ คือ 1 ใน 4 ของสโมสรจากประเทศอังกฤษที่ชนะรายการระดับยุโรปในเวลานั้น แล้วก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการไหนได้อีกเลย ไม่ว่าจะภายในประเทศหรือระดับยุโรป ซึ่งมาตรฐานที่ตกลงไปมาจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้รักษามาตรฐานไว้ได้เพียงสโมสรระดับกลางตาราง และล่าสุดปี ค.ศ. 2023-2024 สามารถขึ้นมาติดอันดับที่ 4 ของพรีเมียร์ลีก จนคว้าโควต้าไปลงแข่งขันฟุตบอลยุโรปได้อีกครั้ง เชื่อว่าแฟนบอลที่ติดตามเชียร์ จะคอยสนับสนุนสโมสรแห่งนี้ตลอดไปแน่นอน

ทำไมแอสตัน วิลล่า จึงกลายมาเป็นม้ามืดในฤดูกาล 2024 

การที่สโมสรอยู่ในระดับกลางตารางและเพิ่งจะกลับขึ้นมาจากลีกรอง จนกลายมาเป็นสโมสรอันดับที่ 4 ได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมอีกครั้ง โดยบริษัทเรคคอนกรุ๊ป ซึ่งมีโทนี เจียงตง เซี๊ยะ เข้ามาพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้สโมสรแห่งนี้ มีข้อมูลกล่าวถึงการซื้อขายที่มีมูลค่าประมาณ 60-70 ล้านปอนด์ โดยเริ่มจากเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่มาเป็นอูไน เอเมรี เรียกได้ว่าออกจากอาร์เซนอลก็เข้ารับงานต่อทันที และพัฒนานักเตะดาวรุ่ง รวมไปถึงการซื้อตัวที่ราคาไม่สูงมาก ช่วยให้ภาพรวมของสโมสรไปในทิศทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากสโมสรชั้นนำอื่น ๆ ในประเทศอังกฤษ มีการลดมาตรฐานการเล่นบอลลงไป จากการมีนักเตะสูงอายุและไม่มีนักเตะสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ จึงแตกต่างกับอูไน เอเมรี ที่ทำได้ดีและช่วยให้ทุกอย่างลงตัว ภาพรวมของสโมสรที่สดใหม่ สามารถขึ้นมาแข่งขันกับทีมสโมสรดังได้อย่างสนุก แต่ถ้าดูตารางคะแนนในปี ค.ศ. 2023-2024 แบ่งออกเป็นการชนะได้ถึง 20 นัด, เสมอ 8 นัด และแพ้ถึง 10 นัดด้วยกัน ถือว่าการแพ้มีจำนวนสูงแบบนี้ ถ้าเป็นการแข่งขันในช่วงปี 2000 บอกได้ว่าคงจะไม่มีทางติดอันดับที่ 4 อย่างแน่นอน จึงถือเป็นม้ามืดตัวจริง!