มุมมองจัดหนักจากซูเนสส์ ใส่ยับแมนยูยังไม่ใช่ทีมระดับท็อป
ดราม่าล่าสุดของวงการลูกหนังอังกฤษโฟกัสไปที่คำวิจารณ์ดุเดือดของ แกรม ซูเนสส์ ตำนานกองกลางลิเวอร์พูล ที่ออกมาฟันธงแบบไม่เกรงใจว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันเป็นเพียง “ทีมเกรดธรรมดา” เต็มไปด้วยแข้งฝีเท้าพื้น ๆ แทบทั้งทีม ยกเว้นสตาร์หน้าใหม่เพียงสองรายที่โชว์ศักยภาพเหนือเพื่อนร่วมทีมแบบชัดเจน
สำหรับแฟนบอลผีแดงแล้ว คำพูดนี้เหมือนถูกตบหน้าแรง ๆ ท่ามกลางช่วงเวลาที่สโมสรพยายามสร้างทีมยุคใหม่ภายใต้กุนซือโปรตุกีสอย่าง รูเบน อโมริม ที่เข้ามารับช่วงต่อในยุคแห่งการเปลี่ยนถ่าย ทั้งแท็กติกและโครงสร้างทีม
ผีแดงยุคอโมริม เสริมแหลกแต่ผลงานยังไม่นิ่ง
หลังซีซั่นก่อนจบแบบเจ็บลึกด้วยอันดับ 15 ของตาราง พรีเมียร์ลีก และพลาดตั๋วฟุตบอลถ้วยยุโรปแบบหมดรูป บอร์ดบริหารตัดสินใจสนับสนุนอโมริมเต็มที่ในตลาดซัมเมอร์ เปิดกระเป๋าดึงแข้งใหม่เข้ามาหลายราย เพื่อยกมาตรฐานทีมและเปลี่ยนดีเอ็นเอการเล่นให้ทันฟุตบอลยุคใหม่
ฟอร์มในฤดูกาลล่าสุดต้องยอมรับว่า “ดีขึ้น” ทีมมีรูปเกมที่ดูมีไอเดียมากกว่าเดิม การเข้าทำมีจังหวะต่อบอลและการเพรสซิ่งที่ชัดขึ้น แต่ในมุมของผลลัพธ์ แมนยูยังคงเป็นทีมที่เดาทางไม่ได้เหมือนเดิม วันไหนเล่นลงตัวก็ลุ้นชนะใครก็ได้ แต่วันไหนหลุด ก็พร้อมจะทำแต้มหล่นแบบไม่น่าให้อภัย
เกมบอร์นมัธสะท้อนชัด แมนยูยังเป็นทีมที่ไว้ใจไม่ได้
ตัวอย่างล่าสุดคือเกมลีกนัดเปิดบ้านพบ บอร์นมัธ ที่ “ปีศาจแดง” ควรปิดเกมได้แบบไม่ยาก หลังจากนำหน้าถึงสามครั้งใน 90 นาที แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้ทีมเยือนไล่ตีเสมอจนจบด้วยผล 4-4 สูญสองแต้มไปต่อหน้ากองเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ดเอง
เกมนี้สะท้อนภาพเดิมที่แฟนบอลเห็นมาตลอดหลายปี – แมนยูสามารถยิงประตูได้ แต่ไม่สามารถคุมจังหวะเกม และไม่มีความนิ่งพอจะรักษาสกอร์ จนทำให้คู่แข่งกลับเข้ามาในเกมได้ตลอดเวลา ผลงานลักษณะนี้เองที่เป็นพื้นฐานให้ซูเนสส์กล้าพูดตรง ๆ ว่าทีมชุดนี้ยังห่างไกลคำว่าลุ้นแชมป์
ซูเนสส์ชี้ชัด ผีแดงมีแค่ 2 แข้งที่เกินคำว่าธรรมดา
จากความไม่แน่นอนดังกล่าวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซูเนสส์มองว่าทีมของอโมริมเต็มไปด้วยแข้งเกรดกลาง ยกเว้นสองตัวรุกที่เขายกให้เป็นหน้าเป็นตาของสโมสรในเวลานี้อย่าง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ กับ มาเตอุส คุนญ่า ที่มีอิมแพ็คบนสนามเหนือคนอื่นเห็นได้ชัดทั้งเรื่องการสร้างโอกาสและการปั่นป่วนแนวรับคู่แข่ง
เขากล่าวว่า
“แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมพื้นๆ มันเป็นความผิดของ รูเบน อโมริม หรือเปล่า? มาเตอุส คุนญ่า กับ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ เป็นนักเตะที่ดี นอกนั้นพวกเขามีฝีเท้าธรรมดาทั้งหมด และผมไม่เห็นว่าพวกเขาจะคว้าตำแหน่งท็อปโฟร์ได้ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ ซูเนสส์ ระบุเมื่อ 17 ธ.ค.”
คำพูดนี้ไม่ใช่แค่การวิจารณ์กุนซือ แต่คือการตั้งคำถามถึงคุณภาพโดยรวมของสก๊วดยุคปัจจุบัน ว่าดีพอจะพาทีมกลับไปยืนในตำแหน่งท็อปโฟร์ได้จริงหรือไม่
ภารกิจท็อปโฟร์ กับแรงกดดันของสโมสรยักษ์ใหญ่
ซูเนสส์ยังขยายความไปถึงระดับองค์กร โดยชี้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังถูกมองเป็นสโมสรระดับยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ และยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก
เขาระบุว่า ตอนนี้สโมสรตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งในแง่ผลงาน ความต่อเนื่อง และภาพลักษณ์ในสายตาแฟนบอล
การกลับไปเล่นในเวทีฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้สำคัญแค่เรื่องศักดิ์ศรี แต่ยังหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการช่วยให้ทีมมีอำนาจต่อรองในตลาดซื้อขายนักเตะ การดึงแข้งระดับบิ๊กเนมเข้ามาเสริมทัพจึงยังเป็น “โจทย์ยาก” ที่สโมสรต้องแก้ให้ได้ หากอยากกลับไปยืนในจุดที่เคยเป็น
ซูเนสส์สวนแรง: อโมริมไม่รู้เลยว่าผีแดงจะเล่นหน้าไหน
ซูเนสส์ เสริมว่า “รูเบน อโมริม ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้อะไรจากกลุ่มนักเตะที่เขามี เขาไม่รู้ว่าจะได้อะไรจาก แมนฯ ยูไนเต็ด คุณได้แต่สวดมนต์ภาวนา”
ประโยคนี้สะท้อนความรู้สึกของหลายคนที่มองทีมชุดนี้ว่า “เดาไม่ได้” เต็มไปด้วยความผันผวน เกมหนึ่งอาจเล่นดีจนแฟนบอลปลื้มใจ แต่เกมถัดมาสามารถเปลี่ยนหน้าเป็นทีมไร้ทรงได้แบบไม่เหลือเค้าโครงทีมใหญ่
“ก่อนเกมพวกเขาอาจมองดูดี พวกเขาน่าจะมีวันที่ดี แต่พอลงสนามพวกเขาไม่มีอะไรเลย หรือไม่งั้นมันอาจเป็นอีกด้าน พวกเขาแลดูเงียบเชียบ แต่พอลงสนาม พวกเขาร้อนแรง ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาของ แมนฯ ยูไนเต็ด คุณไม่รู้ว่าคุณจะได้อะไรจากนักเตะกลุ่มนี้”
สิ่งที่ซูเนสส์บอกคือปัญหาเรื่อง “มาตรฐาน” และ “ความสม่ำเสมอ” ที่หายไปจากทีมที่ควรจะเป็นหัวแถวของลีก จุดนี้เองที่ทำให้ภาพลักษณ์ผีแดงทุกวันนี้ยังดูห่างไกลจากยุคทองในอดีตอยู่พอสมควร
บทเรียนระยะยาว: ทีมใหญ่ไม่ได้สร้างใหม่ได้ในชั่วข้ามคืน
หากมองให้ลึกในเชิงโครงสร้าง สิ่งที่เกิดกับแมนยูคือภาพสะท้อนของทีมใหญ่ที่ผ่านยุคทองไปแล้วและกำลังพยายามสร้างตัวใหม่อีกครั้ง การเปลี่ยนโค้ชหลายคน การเปลี่ยนแนวทางการทำทีมบ่อยครั้ง และการซื้อนักเตะแบบ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ทำให้โครงสร้างทีมขาดความต่อเนื่อง
สำหรับแฟนบอลไทย การติดตามสถานการณ์ของทีมนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องเชียร์ให้ชนะ แต่ยังได้เห็นตัวอย่างจริงว่า การสร้างทีมระดับท็อปต้องอาศัยทั้งเวลา การวางระบบ การปั้นดาวรุ่ง และการเลือกใช้เงินให้ถูกจุด หากส่วนใดส่วนหนึ่งพลาด ทีมก็อาจต้องวนอยู่ในวังวน “ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ” ไปอีกนาน
จับตาผีแดงยุคใหม่ไปพร้อมกันกับ บ้านกีฬา
จากทั้งหมดที่เกิดขึ้น เสียงวิจารณ์ของซูเนสส์อาจฟังดูแรง แต่ก็สะท้อนความจริงหลายด้านของแมนยูยุคปัจจุบัน – ทีมที่ยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีศักยภาพให้พัฒนา หากอโมริมสามารถยกระดับมาตรฐานของทั้งทีมให้ขยับเข้าใกล้สองสตาร์อย่างมาเตอุส คุนญ่า และไบรอัน เอ็มเบอโม่ได้มากกว่านี้
แฟนผีแดงทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลชาวไทย คงต้องลุ้นกันยาว ๆ ว่าทีมจะหลุดพ้นจากสถานะ “ทีมเกรดธรรมดา” ตามที่โดนตราหน้าหรือไม่ และจะกลับไปยืนในจุดที่ทีมเคยเป็นหนึ่งในสโมสรที่น่ากลัวที่สุดของยุโรปได้อีกครั้งหรือเปล่า
ใครที่อยากตามทุกจังหวะความเคลื่อนไหวของแมนยู ทั้งข่าวในสนาม ดราม่านอกสนาม และวิเคราะห์จัดหนักแบบถึงเนื้อถึงตัว อย่าลืมติดตามข่าวบอลเข้มข้นอัปเดตทุกวันได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
