อัปเดตขุมกำลังปีศาจแดงก่อนดวลบอร์นมัธ
รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจองานช้างตั้งแต่โค้งสำคัญปลายปี เมื่อต้องออกมาแจ้งข่าวร้ายให้แฟนผีรับทราบก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พบ บอร์นมัธ วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคมนี้ ว่าแนวรับตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ มาตไตส์ เดอ ลิกต์ ยังไม่พร้อมลงสนาม
เกมนี้ ยูไนเต็ดวางเป้าหมายชัดเจนว่าต้องเก็บสามแต้มในบ้านให้ได้ เพื่อรักษาโมเมนตัมและไล่กดดันพื้นที่หัวตาราง แต่แผนทั้งหมดต้องถูกปรับกันยกชุดในแนวรับ หลังสองเซนเตอร์แบ็กเบอร์ต้นของทีมมีปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานพร้อมกัน
แม็คไกวร์-เดอ ลิกต์ เดี้ยงพร้อมกัน อโมริมต้องปวดหัวจัดแนวรับ
อโมริมยืนยันชัดเจนว่า แม็กไกวร์ และ เดอ ลิกต์ หมดสิทธิ์ช่วยทีมในเกมนี้แน่นอน ทำให้เขาต้องหาทางแก้โจทย์เกมรับใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปรับคู่เซนเตอร์แบ็กหรือเปลี่ยนรูปแบบการยืนโซนเพื่อรับมือเกมรุกของบอร์นมัธที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและการเล่นสวนกลับ
เดอ ลิกต์มีอาการเจ็บหลังติดตัวมาตั้งแต่เกมกับ คริสตัล พาเลซ แม้ในวันนั้นเจ้าตัวจะฝืนเล่นจนจบ 90 นาทีเต็ม แต่ผลข้างเคียงตามมาหลังเกมทำให้สตาฟฟ์แพทย์และทีมงานต้องกันตัวออกจากแมตช์นี้ทันที เพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง
ขณะเดียวกัน แม็คไกวร์ก็อยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกาย ทีมแพทย์ของสโมสรยังไม่เสี่ยงเข็นลงสนาม เพราะรู้ดีว่าฤดูกาลนี้ยังยาว และการเร่งใช้งานอาจทำให้เสียหายหนักกว่าเดิมในระยะยาว
เชชโก้ลุ้นคัมแบ็กหลังเจ็บเข่า แต่ดันมาเจออาหารเป็นพิษ
ในแนวรุก ข่าวดีเล็กๆ ของแฟนผีคือชื่อของ เบนยามิน เชชโก้ ที่กลับมามีลุ้นมีส่วนร่วมอีกครั้ง หลังพักรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่ได้รับในเกมกับ สเปอร์ส เมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ความหวังยังต้องลุ้นต่อ เพราะดาวยิงสโลวีเนียเพิ่งเจอปัญหาใหม่เรื่องอาการอาหารเป็นพิษ ทำให้ความฟิตยังไม่เต็มถัง อโมริมยอมรับว่าเขายังไม่ปิดโอกาส แต่ต้องรอดูสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิดในช่วงสองวันสุดท้ายก่อนแข่ง
โดยกุนซือปีศาจแดงเปิดใจว่า
“แม็กไกวร์ และ เดอ ลิกต์ พลาดลงสนามเกมนี้ ส่วน เบน (เชชโก้) เราต้องรอดูกันต่อไป”
คำให้สัมภาษณ์สั้นๆ แต่ชัดเจน สะท้อนว่าทีมงานสตาฟฟ์ไม่ต้องการเสี่ยงกับสภาพร่างกายของเชชโก้แม้เพิ่งหายเจ็บหัวเข่ามาไม่นาน ถ้าร่างกายไม่ 100% จริงๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะเริ่มต้นบนม้านั่งสำรองหรือแม้กระทั่งไม่มีชื่อในทีมเลย
มุมมองของอโมริมต่ออาการเจ็บของเดอ ลิกต์
อโมริมยังอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการเจ็บของเดอ ลิกต์ว่า
“เราต้องรอดูว่าเขาพร้อมที่จะเล่นไหม เขามีอาการอาหารเป็นพิษนิดหน่อย แต่เราคงต้องรอดูกันต่อไป เรายังมีการซ้อมอีกสองครั้ง จากนั้นเราจะทำการประเมินเบนยามิน ส่วน เดอ ลิกต์ มีอาการปวดหลังนิดหน่อย ผมไม่ค่อยแน่ใจ บางครั้งคุณเห็นว่ามันอาจไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่รุนแรง เพราะเขาเล่นจนจบเกมแมตช์กับ คริสตัล พาเลซ
แต่เขามีอาการเจ็บอยู่บ้าง ฉะนั้นบางทีคุณต้องคิดเรื่องการแก้ปัญหาในช่วงสัปดาห์นี้ แต่บางครั้งเขารู้สึกปวดนิดหน่อย และเราต้องระมัดระวังในเรื่องนี้” อดีตนายใหญ่สปอร์ติ้ง ลิสบอน กล่าวทิ้งท้าย
คำพูดชุดนี้สะท้อนแนวทางการทำทีมของอโมริมที่ให้ความสำคัญกับ “สุขภาพระยะยาวของนักเตะ” มากกว่าการฝืนใช้ผู้เล่นตัวหลักในเกมเดียว แม้จะเป็นเกมสำคัญในลีกก็ตาม
งานหนักรออยู่ แม้เล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แม้ได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่การขาดสองเซนเตอร์ตัวหลักย่อมส่งผลต่อสมดุลของทีมอย่างเลี่ยงไม่ได้ อโมริมต้องหาทางลดช่องโหว่เกมรับให้ได้มากที่สุด ทั้งการจัดตัวผู้เล่น การยืนตำแหน่ง และการสั่งเกมรับของมิดฟิลด์ตัวกลาง
บอร์นมัธเป็นทีมที่ถ้าเปิดพื้นที่ให้เยอะ มีโอกาสโดนลงโทษได้ทันที โดยเฉพาะในจังหวะสวนกลับและลูกครอสเข้ากลางเขตโทษ แนวรับผสมผสานชุดใหม่ของยูไนเต็ดจึงต้องเล่นแบบมีสมาธิเต็มที่ ห้ามผิดพลาดง่ายๆ ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย
อาการเจ็บกับฟุตบอลยุคใหม่ เรื่องที่ทุกทีมต้องรับมือให้เป็น
ในฟุตบอลยุคโปรแกรมแน่นแบบปัจจุบัน การเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บพร้อมกันหลายคนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กลายเป็นบททดสอบสำคัญว่าทีมไหนวางโครงสร้างได้ดี มีการหมุนเวียนผู้เล่นและเตรียม “แผนสำรอง” ไว้ล่วงหน้าได้ละเอียดมากกว่ากัน
การบริหารโหลดร่างกาย การอ่านค่าข้อมูลฟิตเนสจากทีมสปอร์ตไซเอนซ์ ไปจนถึงการวางแผนซ้อมแบบเฉพาะบุคคล ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลสมัยใหม่ การที่อโมริมเลือกไม่ฝืน แม็กไกวร์ กับ เดอ ลิกต์ รวมถึงระมัดระวังกรณีของเชชโก้ จึงเป็นสัญญาณว่าทีมกำลังก้าวไปในทางที่ให้ความสำคัญกับ “ความฟิตระยะยาว” มากกว่าคิดสั้นๆ แค่เกมเดียว
สำหรับแฟนบอลไทย การได้เห็นทีมใหญ่ในยุโรปจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็เป็นอีกตัวอย่างที่น่าสนใจให้มองย้อนกลับมาที่ฟุตบอลบ้านเรา ว่าการดูแลร่างกายและความพร้อมของนักเตะสำคัญแค่ไหนในเกมระดับสูง
แฟนผีรอลุ้น 3 แต้ม พร้อมจับตาอัปเดตจากบ้านกีฬา
แมตช์กับบอร์นมัธครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของอโมริม ทั้งในแง่การจัดทีม การอ่านเกม และการแก้ปัญหาเมื่อขาดตัวหลักหลายตำแหน่ง แฟนผีทั่วโลก โดยเฉพาะคอบอลชาวไทย คงตั้งตารอดูว่า ยูไนเต็ดจะตอบสนองต่อวิกฤติเล็กๆ ครั้งนี้อย่างไร
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของปีศาจแดง ทั้งข่าวอาการบาดเจ็บ อัปเดตตัวจริงก่อนแข่ง และบรรยากาศเกมหลังหมดเวลา อย่าลืมติดตามข่าวฟุตบอลมันส์ๆ มุมมองจัดจ้าน และเรื่องราวจากทุกลีกดังได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

