จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ 9/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกที่โมลินิวซ์ กลายเป็นค่ำคืนที่แฟนผีมีแต่รอยยิ้ม เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาถล่มวูล์ฟแฮมป์ตัน 4-1 เกมนี้ “บ้านกีฬา” เกาะติดอัปเดตจากสไตล์ ผลบอลสด ทุกจังหวะจะเห็นชัดเลยว่า ปีศาจแดงคุมทุกอย่างไว้ในมือ ทั้งจังหวะครองบอล ไล่บีบเพรสซิ่ง และความเฉียบคมหน้าเป้า
แมนยูได้ประตูจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส สองลูก (รวมจุดโทษปิดท้าย), ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และเมสัน เมานท์ ส่วนเจ้าถิ่นวูล์ฟส์ได้คืนลูกเดียวจาก ฌอง-ริคเนอร์ เบลเลการ์ด ทำให้รูปเกมหลังนกหวีดสุดท้ายต่างกันคนละชั้นชัดเจน
🔎 ครึ่งแรก – ผีบุกนำก่อนแต่โดนตีเสมอทดเจ็บ
เปิดเกมมาแมนยูจัดการตั้งโทนบุกทันที ใช้การต่อบอลสั้นจากแดนกลางของคาเซมิโร่ บรูโน่ และเมานท์ ค่อย ๆ กดวูล์ฟส์ลงไปตั้งรับลึก นาที 25 ความกดดันแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ เมื่อมาทิอุส คุนญ่า หลุดมาทางซ้ายก่อนหยอดเข้าเขตโทษให้บรูโน่สอดมาแปเน้น ๆ ตุงตาข่าย แมนยูออกนำ 1-0 อย่างเฉียบคม
หลังเสียประตู วูล์ฟส์พยายามยืนสูงขึ้น ใช้เกมริมเส้นจากยอห์น อาเรียส และเดวิด มอลลาร์ วูลเฟ่ เปิดใส่แนวรับทีมเยือน แต่ยังไม่คมพอ จนกระทั่งช่วงทดเจ็บนาที 45+2 เจ้าบ้านได้เฮทั้งสนาม บอลจากริมเส้นซ้ายของวูลเฟ่ครอสเข้ากลางให้เบลเลการ์ดวิ่งโฉบโหม่งกดลงพื้นผ่านมือเซนเน ลัมเมินส์ เข้าไปแบบเฉียบขาด วูล์ฟส์ตีเสมอ 1-1 ก่อนจบครึ่งแรก ทำให้รูปเกมยังเปิดกว้างทั้งสองฝั่ง
🔥 ครึ่งหลังเดือด – แมนยูเร่งเครื่องยิงขาด 3 เม็ด
ครึ่งหลังบ้านกีฬาเห็นได้ชัดว่าแมนยูยกระดับความดุดัน เกมเพรสซิ่งแดนบนเริ่มทำงาน นาที 51 ไบรอัน เอ็มเบอโม่หลุดมาทางขวา ก่อนรับบอลจากดีโอโก้ ดาโลต์แล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสาแรกเสียบตาข่ายให้แมนยูนำอีกครั้ง 2-1 และเปลี่ยนโมเมนตัมมาทางทีมเยือนเต็มตัว
ไม่กี่นาทีถัดมา วูล์ฟส์พยายามตอบโต้แต่เจอเกมสวนกลับที่คมกว่า นาที 62 แฟนผีได้เฮอีกรอบเมื่อบรูโน่แทงทะลุช่องให้เมสัน เมานท์หลุดเดี่ยวก่อนซัดผ่านนายทวารเจ้าบ้านเข้าไปอย่างเยือกเย็น สกอร์ไหลเป็น 3-1
ท้ายเกม นาที 81 ยีร์ซอน มอสเกรารับบทผู้ร้ายเมื่อทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้จุดโทษทันที อาหมัด ดิยัลโล่เป็นคนเรียกฟาวล์ แต่เป็นบรูโน่ที่รับหน้าที่สังหาร นาที 82 เจ้าตัวรับผิดชอบยิงเสียบมุมแบบไม่เหลือ เพิ่มสกอร์เป็น 4-1 ปิดบัญชีให้แมนยูเก็บชัยแบบสุดโหด
ช่วงทดเจ็บยังมีดราม่าเล็ก ๆ เมื่อโจชัว เซิร์คเซ่ ไปมีปากเสียงกับแข้งเจ้าถิ่นจนโดนใบเหลือง แต่ก็ไม่เปลี่ยนผลการแข่งขัน แมนยูบุกกำราบวูล์ฟส์ด้วยสกอร์ 4-1 ชนิดแฟนเจ้าบ้านได้แต่ยืนมอง
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🟡 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (ระบบ 3-4-2-1, เรตติ้งเฉลี่ย 6.73)
ผู้รักษาประตู
- 31 แซม จอห์นสโตน – 6.5
กองหลัง
- 15 เยร์ซอน มอสเกรา – 6.8
- 12 เอ็มมานูเอล อั๊กบาดู – 7.6
- 26 คี-ยานา โฮเอเวอร์ – 7.0
กองกลาง
- 10 ยอห์น อาเรียส – 7.0
- 7 อังเดร – 5.9
- 37 ลัดิสลาฟ เครย์ชี – 6.1
- 6 เดวิด มอลลาร์ วูลเฟ่ – 7.5
- 24 (c) โตติ โกเมส – 6.5
- 27 ฌอง-ริคเนอร์ เบลเลการ์ด – 8.0 (ทำ 1 ประตู เป็นตัวเด่นสุดของทีม)
กองหน้า
- 9 เยนส์ สไตรเกอร์ ลาร์เซ่น – 6.1
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- 28 แฟร์ โลเปซ (แทน เบลเลการ์ด น.54) – 6.4
- 14 โตลู อาโรโคดาเร (แทน ลาร์เซ่น น.69) – 6.6
- 3 ฮูโก้ บูเอโน (แทน โตติ โกเมส น.70) – 6.2
- 36 มาเตอุส มาเน่ (แทน อาเรียส น.70) – 6.7
- 38 แจ็คสัน ชาตโชอัว (แทน โฮเอเวอร์ น.86) – 6.8
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
โฆเซ่ ซา, ซานติอาโก้ บูเอโน, ทาวานดา ชิเรวา, ฮวาง ฮี-ชาน
🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ระบบ 3-4-2-1, เรตติ้งเฉลี่ย 7.02)
ผู้รักษาประตู
- 31 เซนเน ลัมเมินส์ – 6.4
กองหลัง
- 2 ดีโอโก้ ดาโลต์ – 7.0 (แอสซิสต์ 1)
- 23 ลุค ชอว์ – 6.6
- 26 อัลฟี่ ฮีฟเว่น – 7.0
- 3 นุสเซียร์ มาซราอุย – 6.5
กองกลาง
- 18 คาเซมิโร่ – 6.7
- 7 เมสัน เมานท์ – 8.1 (ยิง 1 ประตู เล่นบอลระหว่างไลน์ดีมาก)
- 19 ไบรอัน เอ็มเบอโม่ – 7.3 (ยิง 1 ประตู เติมเกมรุกด้านขวาอันตรายตลอด)
- 8 (c) บรูโน่ แฟร์นันด์ส – 9.3 (กด 2 ประตู เป็นศูนย์กลางทุกจังหวะเกมบุก)
กองหน้า
- 16 อาหมัด ดิยัลโล่ – 6.9 (เรียกจุดโทษปิดกล่อง)
- 10 มาทิอุส คุนญ่า – 6.8 (มี 1 แอสซิสต์ให้ประตูเปิดหัว)
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- 6 ลิซานโดร มาร์ติเนซ (แทน มาซราอุย น.69) – 6.6
- 15 เลนี่ โยโร่ (แทน ฮีฟเว่น น.69) – 7.1
- 37 คอบบี้ เมนู (แทน คาเซมิโร่ น.78) – 6.8
- 13 แพทริค ดอร์กู (แทน ดาโลต์ น.84) – 6.6
- 11 โจชัว เซิร์คเซ่ (แทน เมานท์ น.84) – 6.6
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
อัลไต บาอินดีร์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, มานูเอล อูการ์เต้, เชีย เลซีย์
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ถ้ามองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติกจะเห็นภาพชัดว่า แมนยูของรูเบน อาโมริมเตรียมแผนมาดีมาก ใช้ระบบ 3-4-2-1 ที่ยืดหยุ่น เปลี่ยนเป็น 3-2-5 ตอนบุก ดาโลต์กับมาซราอุยดันสูงเป็นวิงแบ็กกดแบ็กวูล์ฟส์ถอยลึก คาเซมิโร่ยืนต่ำเป็นตัวคุมจังหวะ เปิดทางให้เมานท์กับบรูโน่สลับกันหุบเข้ากลางคอมโบกับเอ็มเบอโม่และดิยัลโล่ ทำให้แนวรุกมีคนเติมเขตโทษอย่างน้อย 3-4 ตัวตลอด จังหวะประตูทั้งสี่ลูกมาจากการต่อบอลเจาะช่องและใช้พื้นที่ด้านข้างได้อย่างคุ้มค่า
ด้านเกมรับ แมนยูบีบเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า บังคับให้วูล์ฟส์ต้องเล่นบอลยาวตลอด ซึ่งกองหลังสามคนของผีแดงอ่านบอลแรกได้ดี ปิดทางไม่ให้ลาร์เซ่นพักบอลได้ถนัด การมีฮีฟเว่นกับชอว์คอยดักก่อนถึงเขตโทษ ทำให้วูล์ฟส์มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียง 2 ครั้งตลอดเกม
ฝั่งวูล์ฟส์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ยังยึดแผน 3-4-2-1 เหมือนเดิมแต่เน้นเกมสวนกลับ ใช้บอลยาวจากอั๊กบาดูและโฮเอเวอร์หาช่องให้เบลเลการ์ดกับโกเมสเชื่อมเข้าหาลาร์เซ่น จุดเด่นคือการโจมตีจากกราบซ้ายที่วูลเฟ่เติมขึ้นมาเปิดใส่แนวรับผีแดง ซึ่งก็สร้างประตูตีเสมอได้สำเร็จ ทว่าปัญหาหลักคือการเสียบอลกลางสนามง่ายเกินไป พอโดนแมนยูเพรสซ้ำ ๆ ก็เริ่มตั้งเกมไม่ได้ ในครึ่งหลังแทบถอยไปยืนต่ำในเขตโทษตัวเองตลอด
เกมรับของวูล์ฟส์ยิ่งเสียเปรียบเมื่อมอสเกราทำแฮนด์บอลจนเสียจุดโทษ และกองกลางไม่สามารถปิดพื้นที่หน้าปากประตู บรูโน่จึงได้ส่องจากสองแถวได้ตลอด ภาพรวมแล้วสมดุลเกมรุก-เกมรับของแมนยูเหนือกว่าเจ้าบ้านชัดเจน ทั้งในเชิงแผนและคุณภาพนักเตะรายบุคคล
📊 สถิติการแข่งขันบอกชัด ผีเหนือกว่าทุกมิติ
ตัวเลขสถิติหลังเกมยืนยันสิ่งที่เห็นด้วยตา วูล์ฟส์มีโอกาสยิงเพียง 7 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง ขณะที่แมนยูสาดใส่ถึง 25 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้ง เปอร์เซ็นต์การครองบอลเจ้าถิ่นอยู่ที่ 36% เท่านั้น ส่วนทีมเยือนครองเกมมากถึง 64% การจ่ายบอลก็ชัดเจน วูล์ฟส์จ่ายไป 274 ครั้ง ความแม่นยำ 71% ขณะที่แมนยูจ่ายถึง 519 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 85%
แม้ด้านเกมปะทะวูล์ฟส์จะทำฟาวล์มากกว่า 15 ครั้ง เทียบกับแมนยู 12 ครั้ง ได้ใบเหลือง 3 ใบ ส่วนผีแดง 2 ใบ แต่ก็ไม่ช่วยให้หยุดเกมรุกคู่แข่งได้ ลูกเตะมุมก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้ แสดงให้เห็นว่าทีมไหนกดดันมากกว่า วูล์ฟส์ได้เพียง 1 มุม ขณะที่แมนยูได้มากถึง 9 ครั้ง เรียกได้ว่าเกมนี้ตัวเลขทุกช่องเอียงไปทางทีมเยือนแบบแทบไม่ต้องเถียงกันเลย
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 25 แมนยูขึ้นนำ 1-0 บรูโน่ แฟร์นันด์ส แปด้วยขวาในเขตโทษ จากจังหวะที่มาทิอุส คุนญ่าจ่ายตัดแนวรับให้หลุดเข้าไปยิง
- 🟨 นาที 38 ไบรอัน เอ็มเบอโม่ถูกทำฟาวล์หนักกลางสนาม เกมเริ่มเดือดแต่ยังไม่มีใบ
- 🟨 นาที 44 เยนส์ สไตรเกอร์ ลาร์เซ่น โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าบอลแรงเกินเหตุ
- ⚽ นาที 45+2 วูล์ฟส์ตีเสมอ 1-1 เดวิด มอลลาร์ วูลเฟ่เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ ฌอง-ริคเนอร์ เบลเลการ์ดโขกเสียบเสาอย่างเฉียบขาด
- 🟨 นาที 46 ลัดิสลาฟ เครย์ชี รับใบเหลืองจากการตัดฟาวล์หยุดเกมสวนกลับของแมนยู
- ⚽ นาที 51 แมนยูหนีเป็น 2-1 ไบรอัน เอ็มเบอโม่วิ่งสอดรับบอลจากดีโอโก้ ดาโลต์ ก่อนซัดหักข้อเสียบเสาแรก
- 🔁 นาที 54 วูล์ฟส์ถอดเบลเลการ์ดฮีโร่ครึ่งแรก ส่งแฟร์ โลเปซลงมาเสริมความสดแดนกลาง
- ⚽ นาที 62 สกอร์ไหลเป็น 3-1 เมื่อบรูโน่แทงทะลุช่องให้เมสัน เมานท์หลุดเดี่ยวก่อนยิงผ่านจอห์นสโตนอย่างเฉียบคม
- 🔁 นาที 69 วูล์ฟส์เปลี่ยนสองตัวรวด ส่งโตลู อาโรโคดาเรแทนลาร์เซ่น ส่วนด้านแมนยูส่งลิซานโดร มาร์ติเนซกับเลนี่ โยโร่ลงมาแทนมาซราอุยและฮีฟเว่น เพื่อเพิ่มความแน่นในแนวรับ
- 🔁 นาที 70 เจ้าบ้านปรับอีกสองจุด ฮูโก้ บูเอโนลงแทนโตติ โกเมส และมาเตอุส มาเน่แทนอาเรียส หวังเติมพลังริมเส้น
- 🔁 นาที 78 แมนยูถอดคาเซมิโร่ออก ส่งคอบบี้ เมนูลงมาไล่เพรสในแดนกลาง
- 🖐️ นาที 81 ยีร์ซอน มอสเกราทำแฮนด์บอลในเขตโทษ หลังบล็อกลูกครอสของดิยัลโล่ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที
- ⚽ นาที 82 บรูโน่ แฟร์นันด์สรับหน้าที่สังหารจุดโทษ ยิงเสียบมุมซ้ายมือของผู้รักษาประตู แมนยูนำขาด 4-1
- 🔁 นาที 84 แมนยูเปลี่ยนคู่ ดาโลต์ออกให้แพทริค ดอร์กูลงเล่นแบ็กซ้าย พร้อมถอดเมานท์ให้โจชัว เซิร์คเซ่ลงมาเก็บบอลแดนหน้า
- 🔁 นาที 86 วูล์ฟส์ส่งแจ็คสัน ชาตโชอัวแทนโฮเอเวอร์ เป็นการเปลี่ยนตัวสุดท้ายของเกม
- 🟨 นาที 90+6 โจชัว เซิร์คเซ่โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยวายผู้ตัดสินในช่วงท้ายเกม
⭐ Player of the Match – บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันที่สะกดคำว่าหยุดไม่เป็น
เกมนี้ไม่มีใครสมควรได้รางวัลมากไปกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมแมนยูที่ทำ 2 ประตู แถมยังมีบทบาทสำคัญในจังหวะสร้างสรรค์เกมรุกตลอด 90 นาที เรตติ้ง 9.3 จาก Sofascore สะท้อนชัดว่าทุกอย่างของผีแดงไหลผ่านเท้าของเขา ไม่ว่าจะเป็นการหาพื้นที่ระหว่างไลน์ รับบอลหันหน้าเข้าหาประตู หรือการจ่ายคิลเลอร์พาสแบบไม่กลัวพลาด
ลูกแรกบรูโน่จบสกอร์ได้คมกริบ ลูกที่สองจากจุดโทษก็แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็น ส่วนประตูของเมสัน เมานท์ก็เริ่มจากการจ่ายทะลุช่องของเขาเช่นกัน แถมยังวิ่งไล่เพรสตั้งแต่ต้นจนจบเกม ทำให้แดนกลางแมนยูชนะคู่แข่งแบบขาดลอย
🏆 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
หลังจบเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลงเตะ 15 นัด มี 25 คะแนน ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 4 ประตูได้-เสีย 26-22 รั้งอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก ตามหลังเชลซีอันดับ 5 เพียงผลต่างประตูได้เสีย และยังมองเห็นระยะห่างถึงกลุ่มนำอย่างอาร์เซน่อลกับแมนซิตี้ที่ 33 และ 31 คะแนนตามลำดับ หากรักษาฟอร์มแหลมคมแบบนัดนี้ได้ต่อเนื่อง เส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรปยังเปิดกว้างเต็มที่
ด้านวูล์ฟแฮมป์ตันสถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงสุด ๆ ลงเล่น 15 นัดยังไม่ชนะใคร มีเพียง 2 คะแนน จากผลงานเสมอ 2 แพ้ถึง 13 นัด ยิงได้ 8 เสีย 33 ลูก ผลต่าง -25 จมบ๊วยอันดับ 20 แบบเต็มตัว ฟอร์ม 5 นัดหลังแพ้รวดทุกรายการ แฟนหมาป่าต้องลุ้นกันหนักว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมช่วงตลาดหน้าหนาวเพื่อหนีตกชั้นให้ได้หรือไม่
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป
ในมุมของคนเช็ก ตารางบอล และวางแผนตามลุ้นบอลต่อเนื่อง เกมนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะ โปรแกรมบอล ของทั้งสองทีมข้างหน้ายังโหดไม่แพ้กัน
ฝั่งวูล์ฟแฮมป์ตัน ต้องออกไปเยือนอาร์เซน่อลวันที่ 14/12/25 เวลา 03.00 น. ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านพบเบรนท์ฟอร์ดวันที่ 20/12/25 เวลา 22.00 น. สองเกมนี้สำคัญมาก ถ้ายังไม่สามารถปลดล็อกชัยชนะได้ โอกาสรอดตกชั้นจะยิ่งริบหรี่เข้าไปทุกที
ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ดดวลบอร์นมัธวันที่ 16/12/25 เวลา 03.00 น. ก่อนจะยกพลบุกถิ่นวิลล่าพาร์คเจอกับแอสตัน วิลล่าในวันที่ 21/12/25 เวลา 23.30 น. ถ้าเก็บได้อย่างน้อย 4 คะแนนจากสองเกมนี้ เส้นทางไต่อันดับลุ้นตั๋วยุโรปจะสดใสทันตา
📣 ติดตามบ้านผลบอลได้ที่บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามฟอร์มแมนยูต่อเนื่อง หรืออยากลุ้นวูล์ฟส์จะรอดตกชั้นได้ไหม อย่าลืมกดติดตามอัปเดต บ้านผลบอล กับ “บ้านกีฬา” เราจะเกาะจอรายงานทุกแมตช์สำคัญ ทั้งสถิติหลังเกม มุมมองแท็คติก และไฮไลต์จังหวะมันส์ ๆ ให้ครบสูตรคอบอลตัวจริง
