จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 เบิร์นลี่ย์ วันนี้ 6/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เกมนี้แฟนบอลที่เช็กสกอร์ผ่าน ผลบอลสด และหน้าจอ บ้านผลบอล ได้ลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย เมื่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ของ เอ็ดดี้ ฮาว เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ ทีมหนีตายที่ต้องการแต้มทุกเม็ด แต่จบ 90 นาที กลายเป็น “สาลิกาดง” ที่คมกว่าเฉือนชนะ 2-1 จากจุดโทษของ แอนโธนี่ กอร์ดอน และลูกยิงเปิดหัวของ บรูโน่ กิมาไรส์ ส่วนทีมเยือนตีไข่แตกช่วงทดเจ็บจากจุดโทษของ เซียน เฟลมมิงก์ ทั้งที่เหลือ 10 คนตั้งแต่นาที 43
⏱ ครึ่งแรก: บรูโน่กดเปิด พิเรสแดง ทดเจ็บ VAR แจกโทษ
ครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล เดินเกมบุกใส่ทันที ใช้การเพรสซิ่งสูงบีบเบิร์นลี่ย์ให้เสียบอลกลางสนาม บรูโน่ยืนคุมจังหวะ ตัดบอลแล้วเคาะออกซ้ายให้ กอร์ดอน ดวลตัวต่อตัวอยู่เรื่อยๆ ขณะที่ เอลังกา กับ แรมซีย์ คอยสลับตำแหน่งเข้าทำ
นาที 31 ความกดดันแปลงร่างเป็นประตู เมื่อบอลไหลมาแถวสองหน้ากรอบ บรูโน่ กิมาไรส์ แต่งหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยขวาเสียบมุมให้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 1-0 เสียงเฮสะเทือนทั้งสนาม
เบิร์นลี่ย์พยายามตอบโต้ด้วยเกมสวนกลับจาก ลายล์ ฟอสเตอร์ และ อาร์มานโด โบรย่า แต่แนวรับเจ้าถิ่นที่มี ชาร์–เทียว รัดแน่น จนทีมเยือนไม่ค่อยได้ลุ้นจะแจ้ง มีเพียงจังหวะบุกต่อเนื่องที่ทำให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ โดนใบเหลืองนาที 35
ดราม่ามาเดือดช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 43 ลูคัส ปิเรส เข้าตัดฟาวล์ กอร์ดอน ในจังหวะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินมองว่าเป็นการทำฟาวล์ในฐานะตัวสุดท้าย แจกใบแดงไล่ออกจากสนาม เบิร์นลี่ย์เหลือ 10 คน ก่อน VAR เช็กจังหวะต่อเนื่องในช่วงทดเจ็บและยืนยันว่าเป็นจุดโทษ นาที 45+8 กอร์ดอน รับหน้าที่สังหารกดเต็มข้อไม่พลาด ส่ง นิวคาสเซิ่ล หนี 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้แบบขาดลอยทั้งสกอร์และโมเมนตัม
🔁 ครึ่งหลัง: เจ้าถิ่นคุมเกม แต่ดราม่าจุดโทษท้ายเกมให้เบิร์นลี่ย์
กลับมาครึ่งหลัง สกอตต์ ปาร์คเกอร์ แก้เกมทันที ส่ง โจ วอร์รอลล์ ลงมาเสริมหลังแทน ฟอสเตอร์ เพื่ออุดรูรั่วหลังเหลือ 10 คน จากนั้นเบิร์นลี่ย์ถอยไปตั้งบล็อกต่ำ หวังรอโอกาสสวนกลับเป็นหลัก
นิวคาสเซิ่ลยังคุมรูปเกมได้ต่อเนื่อง ใช้การโยกบอลจากซ้ายไปขวา เจาะผ่านคู่เซ็นเตอร์ของทีมเยือนหลายครั้ง กอร์ดอนได้ลองกดอีกสองสามหนแต่ติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟก้า หรือหลุดกรอบไปเอง ขณะที่ บรูโน่ กับ โวลท์เทอมาด้า คุมจังหวะกลางสนามเนียนกริบ
นาที 63 เอ็ดดี้ ฮาว ขยับเปลี่ยนเอา ลูอิส ฮอลล์ กับ ลูอิส ไมลีย์ ลงมาเติมความสดแทน แดน เบิร์น และ โจ วิลล็อค ก่อนส่ง โจลินตัน กับ โยอัน วิสซา ลงมาเพิ่มมิติเกมรุกนาที 74 เพื่อปิดบัญชีให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบพอ
เกมเหมือนจะจบลงด้วยสกอร์ 2-0 ทว่าช่วงทดเจ็บกลับเกิดดราม่ารอบสอง นาที 90+2 VAR ตรวจพบแฮนด์บอลของ เจค็อบ แรมซีย์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินย้อนกลับมาเป่าให้ เบิร์นลี่ย์ ได้จุดโทษ และเป็น เซียน เฟลมมิงก์ ตัวสำรองรับหน้าที่ซัดไม่เหลือ ไล่มา 2-1 นาที 90+4 ทำให้ช่วงท้ายเกมเดือดจัด แต่ นิวคาสเซิ่ล ยังประคองสกอร์ไว้ได้ครบ 90 นาที เก็บสามแต้มสำคัญต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
⚫ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (แผน 4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- อารอน แรมส์เดล (32) เรตติ้ง 7.0 – เซฟจังหวะสำคัญช่วงท้ายเกม ช่วยให้ทีมรอดไม่เสียแต้ม
กองหลัง
- วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ (21) 6.8 – เติมเกมรุกฝั่งขวาเนียน ๆ โดนเหลืองจากการตัดฟาวล์นาที 52
- ฟาเบียน ชาร์ (5) 7.2 – อ่านจังหวะบอลยาวของเบิร์นลี่ย์ได้ดี เคลียร์บอลหลายครั้ง
- มาลิค เทียว (12) 7.8 – แข็งแกร่งทั้งพื้นดินและลูกกลางอากาศ หนึ่งในตัวเด่นแนวรับ
- แดน เบิร์น (33) 6.9 – ช่วยปั่นเกมริมเส้นซ้าย ก่อนถูกถอดออกนาที 63
สำรอง: ลูอิส ฮอลล์ (3) 6.8 ลงมาแทนเบิร์น นาที 63
กองกลาง
- บรูโน่ กิมาไรส์ (39, กัปตัน) 9.1 – คีย์แมนของเกม ยิง 1 ประตู คุมจังหวะกลางสนามทั้งรุกและรับ
- นิคลาส โวลท์เทอมาด้า (27) 6.4 – เชื่อมเกมแดนกลาง ก่อนถูกเปลี่ยนออกปลายครึ่งหลัง
- โจ วิลล็อค (28) 6.6 – วิ่งไล่บีบพื้นที่และสอดขึ้นมายิงบ่อยครั้ง
สำรอง: ลูอิส ไมลีย์ (67) 6.7 แทน วิลล็อค นาที 63, โยอัน วิสซา (9) 6.6 แทน โวลท์เทอมาด้า นาที 74
กองหน้า
- แอนโธนี่ กอร์ดอน (10) 8.7 – สร้างปัญหาให้แนวรับทีมเยือนตลอด แถมยิงจุดโทษไม่พลาด
- เจค็อบ แรมซีย์ (41) 6.6 – เคลื่อนที่หาพื้นที่ดี แต่มีดราม่าท้ายเกมจากจังหวะแฮนด์บอล
- แอนโธนี่ เอลังกา (20) 6.2 – ใช้สปีดฉีกแนวรับทางขวา แต่จังหวะจบยังไม่คม
สำรอง: โจลินตัน (7) 6.5 แทน กอร์ดอน นาที 74, ซานโดร โตนาลี (8) 6.8 แทน แรมซีย์ นาที 90+5
🟣 เบิร์นลี่ย์ (แผน 4-3-3 ก่อนเหลือ 10 คน)
ผู้รักษาประตู
- มาร์ติน ดูบราฟก้า (1) 7.1 – แม้เสีย 2 ประตู แต่เซฟหลายลูก ไม่งั้นเกมอาจจบด้วยสกอร์ขาดกว่านี้
กองหลัง
- ไคล์ วอล์คเกอร์ (2) 5.5 – รับมือความเร็วของกอร์ดอนได้บ้าง แต่โดนใบเหลืองนาที 35
- ฮยาลมาร์ เอ๊คดาล (18) 6.0 – เจองานหนักจากลูกกลางอากาศ ก่อนถูกถอดท้ายเกม
- มักซิม เอสเตฟ (5) 6.7 – ยืนคุมโซนในกรอบเขตโทษ คอยบล็อกลูกยิงหลายครั้ง
- ลูคัส ปิเรส (23) 5.5 – จุดเปลี่ยนของทีม โดนใบแดงจากการทำฟาวล์ตัวสุดท้าย นาที 43
สำรอง: โจ วอร์รอลล์ (4) 7.1 ลงมานาที 46 เสริมแนวรับ 10 คน
กองกลาง
- จอช คัลเลน (24, กัปตัน) 6.4 – พยายามเชื่อมเกมจากหลังไปหน้าแต่โดนเพรสหนัก
- มักนุส เอสเตฟ? (ตรงนี้ใช้ตัวจริงคือ) ยังคงเป็น เอสเตฟ (5) ที่ดันขึ้นมาเชื่อมบอลบางจังหวะ
- จาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น (7) 7.2 – ตัวรุกที่อันตรายที่สุดของทีมเยือน สร้างโอกาสได้เรื่อยๆ
สำรอง: จอช โลร็องต์ (29) 6.8 ลงมาแทน ฟรานซิสโก้ ลูอิส นาที 65, เจดอน แอนโธนี่ (11) 6.6 แทน ลาร์เซ่น นาที 86
กองหน้า
- ลายล์ ฟอสเตอร์ (9) 6.4 – ได้โอกาสลุ้นไม่มาก ก่อนถูกเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่ง
- ลูคัส อูโกชุกวู (8) 6.4 – พยายามลากเลื้อยจากฝั่งขวาแต่เจอล็อกตายจากเบิร์น–ลิฟราเมนโต้
- อาร์มานโด โบรย่า (27) 6.1 – สอดหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ แต่แทบไม่ได้จบสกอร์ชัด ๆ
สำรองสำคัญ: เซียน เฟลมมิงก์ (19) 7.0 ลงนาที 86 ก่อนกดจุดโทษตีไข่แตก 90+4, มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ (10) 6.8 แทน เอ๊คดาล นาที 90+5
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติก เกมนี้ชัดเจนว่า นิวคาสเซิ่ล วางหมากเป็นฝ่ายคุมบอลและบุกด้วยความหลากหลาย รูปแบบ 4-3-3 ของ ฮาว ใช้ บรูโน่ ยืนเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมจากหลังไปหน้า มี วิลล็อค และ โวลท์เทอมาด้า วิ่งสอดขึ้นไปช่วยเพรสสูง ทำให้เบิร์นลี่ย์แทบออกบอลจากแดนตัวเองไม่ได้ การเติมเกมริมเส้นจาก กอร์ดอน และ เอลังกา ทำให้แนวรับทีมเยือนต้องถอยลึกจนเปิดพื้นที่ให้ตัวรุกแถวสองยิงไกลอย่างลูกแรกของบรูโน่
เกมรับของเจ้าถิ่นแข็งแกร่ง ชาร์ กับ เทียว อ่านจังหวะบอลยาวได้ยอดเยี่ยม คุมกรอบเขตโทษไม่ให้ ฟอสเตอร์ หรือ โบรย่า ได้หันหน้าเข้าหาประตูง่าย ๆ เมื่อทีมเหลือเวลาเล่นกับคู่แข่ง 10 คน นิวคาสเซิ่ลจึงดันไลน์ขึ้นสูง บีบให้เบิร์นลี่ย์ต้องโยนทิ้งมากกว่าจะต่อบอลกับพื้น
ฝั่งเบิร์นลี่ย์ แผน 4-3-3 ของ ปาร์คเกอร์ ถูกบีบให้กลายเป็น 4-4-1 หลังใบแดงของ ปิเรส ทำให้เกมรุกฝากความหวังไว้กับการสวนกลับริมเส้นของ ลาร์เซ่น และ อูโกชุกวู เป็นหลัก ลูกโต้กลับช่วงท้ายที่ได้จุดโทษมาจากการบีบเพรสจังหวะสองและความผิดพลาดเล็กน้อยของแรมซีย์ แสดงให้เห็นว่าทีมยังมีเขี้ยวเล็บพอสมควร แต่การสร้างสรรค์โอกาสตลอด 90 นาทีถือว่าน้อยเกินไป
📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนชัดว่า นิวคาสเซิ่ล เหนือกว่าแทบทุกมิติ เจ้าถิ่นยิงทั้งสิ้น 18 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่เบิร์นลี่ย์ยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 4 นอกจากนี้ “สาลิกาดง” ยังครองบอลถึง 62% ต่อ 38% จ่ายบอลมากถึง 522 ครั้ง และที่น่าประทับใจคือความแม่นยำในการจ่ายสูงถึง 91% แปลว่าทีมของฮาวคอนโทรลเกมด้วยบอลสั้นได้อย่างเหนียวแน่น ส่วนเบิร์นลี่ย์จ่ายบอลเพียง 246 ครั้ง ความแม่นยำ 74% ต้องวิ่งไล่บอลมากกว่าครองบอลเอง ฟาวล์ใกล้เคียงกันที่ 8 ต่อ 9 ใบเหลืองทีมละ 2 แต่ใบแดงของ ปิเรส คือหมัดน็อกสำคัญ ขณะที่ลูกตั้งเตะอย่างเตะมุมแบ่งกันทีมละ 9 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเกมนี้เปิดหน้าแลกกันตลอด แม้รูปเกมจะเทไปทางเจ้าบ้านก็ตาม
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 31′ – บรูโน่ กิมาไรส์ ซัดแถวสองให้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 1-0
- 🟨 35′ – ไคล์ วอล์คเกอร์ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมริมเส้น
- 🟥 43′ – ลูคัส ปิเรส ทำฟาวล์ กอร์ดอน ในฐานะตัวสุดท้าย ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
- 🧲 45+6′ – VAR เช็กจังหวะฟาวล์ก่อนยืนยันให้ นิวคาสเซิ่ล ได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ใส่ กอร์ดอน
- ⚽ 45+8′ – แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงจุดโทษไม่พลาด เจ้าถิ่นนำห่าง 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก
- 🟨 52′ – ลิฟราเมนโต้ โดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์เร็วกลางสนาม
- 🔁 63′ – นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ลูอิส ฮอลล์ แทน แดน เบิร์น และ ลูอิส ไมลีย์ แทน โจ วิลล็อค
- 🔁 65′ – เบิร์นลี่ย์ ส่ง จอช โลร็องต์ แทน ฟรานซิสโก้ ลูอิส เติมความสดแดนกลาง
- 🔁 74′ – โจลินตัน ลงแทน กอร์ดอน และ โยอัน วิสซา ลงแทน โวลท์เทอมาด้า นิวคาสเซิ่ลเติมเกมรุก
- 🔁 86′ – เบิร์นลี่ย์ส่งสองตัวรุก เซียน เฟลมมิงก์ แทน โบรย่า และ เจดอน แอนโธนี่ แทน ลาร์เซ่น ลุยไล่ตีเสมอ
- 🟨 89′ – โลร็องต์ โดนใบเหลืองจากการเข้าบอลหนักกลางสนาม
- 🖐️ 90+2′ – VAR จับแฮนด์บอล แรมซีย์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เบิร์นลี่ย์ได้จุดโทษ
- ⚽ 90+4′ – เซียน เฟลมมิงก์ กดจุดโทษตีไข่แตกให้ เบิร์นลี่ย์ ไล่มา 2-1
- 🔁 90+5′ – นิวคาสเซิ่ล ส่ง ซานโดร โตนาลี ลงมาช่วยปิดเกมแทน แรมซีย์ และ เบิร์นลี่ย์ส่ง มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ แทน เอ๊คดาล
⭐ Player of the Match – บรูโน่ กิมาไรส์
เกมนี้รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์แบบไร้ข้อกังขาตกเป็นของ บรูโน่ กิมาไรส์ เจ้าของเรตติ้ง 9.1 ไม่เพียงยิงประตูเบิกร่องสำคัญให้ทีมปลดล็อกเท่านั้น แต่ยังคุมจังหวะเกมอย่างเหนือชั้น ทั้งการออกบอลสั้นต่อบอลยาว เปลี่ยนแกนจากซ้ายไปขวาให้แนวรุกทำงานง่ายขึ้น ตัดบอลกลางสนามหลายครั้งจนเบิร์นลี่ย์แทบหาทางขึ้นเกมไม่ได้ เมื่อทีมต้องการให้ใครสักคนลงไปปิดสวิตช์ความหวังของคู่แข่ง บรูโน่คือคนที่ บ้านกีฬา มองว่าแบกแดนกลางเอาไว้ทั้งดุ้น สมกับเป็นหัวใจของสาลิกาดงยุคนี้อย่างแท้จริง
📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
สามแต้มในบ้านนัดนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนนจาก 15 นัด ขยับขึ้นมาอยู่กลุ่มกลางบนของตารางอันดับที่ 11 ไล่จี้โซนลุ้นพื้นที่ยุโรปที่มี ไบรท์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนรออยู่แบบยังมองเห็นระยะทำการ หากรักษาฟอร์มเหย้าแบบนี้ได้ต่อเนื่อง ช่องว่างกับท็อปโฟร์อาจถูกบีบให้แคบลงเรื่อย ๆ
ตรงข้ามกับ เบิร์นลี่ย์ ที่แพ้เกมนี้ยังหยุดอยู่ที่ 10 คะแนนจาก 15 นัด รั้งอันดับ 19 รองบ๊วยของลีก ตามหลังโซนปลอดภัยที่ เวสต์แฮม มี 12 แต้มอยู่ 2 คะแนนเต็ม ๆ ความกดดันในการหนีตกชั้นยิ่งถาโถมเข้าใส่ และทุกเกมต่อจากนี้แทบจะกลายเป็นนัดชี้ชะตาของพวกเขาไปแล้ว
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป
ในแง่ โปรแกรมบอล และตารางแข่งขันนัดต่อไป แฟนบอลต้องจับตาให้ดี เพราะทั้งสองทีมมีภารกิจสำคัญรออยู่
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีคิวบุกไปเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก วันที่ 11 ธันวาคม ก่อนกลับมาเล่นเกมใหญ่ “ไทน์-แวร์ ดาร์บี้” ดวล ซันเดอร์แลนด์ ในพรีเมียร์ลีกวันที่ 14 ธันวาคม เกมลีกนัดนี้จะเป็นอีกบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาพร้อมแค่ไหนในการไล่ล่าพื้นที่ยุโรป
- เบิร์นลี่ย์ ต้องเจองานหินต่อเนื่อง เริ่มจากเปิดบ้านรับ ฟูแล่ม วันที่ 11 ธันวาคม ก่อนจะออกไปเยือน บอร์นมัธ วันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งเป็นแมตช์ที่แต้มหนีตกชั้นมีค่ามหาศาล ถ้าพลาดอีกสถานการณ์อาจยิ่งดิ่งลงไปกว่าเดิม
📺 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีกแบบสด ๆ ทั้งสกอร์ รายชื่อนักเตะ ตัวจริง–สำรอง และบรรยากาศหลังเกมแบบเข้มข้น ดุดัน สไตล์นักข่าวสนามจริง บ้านกีฬา ชวนให้เข้ามาเช็กทุกวันผ่านหน้าเว็บและโซเชียลของเรา อัปเดตสกอร์แบบเรียลไทม์สไตล์ บ้านผลบอล วิเคราะห์เกมแบบจัดเต็ม พร้อมเสิร์ฟข่าวรอบลีกให้อ่านกันจุใจตลอดทั้งฤดูกาล
