จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันนี้ 3/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก คืนนี้ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ก แฟนบอลเปิดดู ผลบอลสด แล้วต้องอุทานดัง ๆ เพราะเกมระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ใส่กันไม่มียั้ง ก่อนจบด้วยสกอร์สุดดราม่า 2-2 เจ้าถิ่นนำสองรอบแต่โดนไก่เดือยทองตีเสมอในช่วงทดเจ็บ ทำให้ทั้งคู่เก็บได้ทีมละหนึ่งแต้ม อยู่ในโซนกลางตารางแบบยังต้องลุ้นหนักในช่วงโค้งยาวที่เหลือของฤดูกาล
🕐 ครึ่งแรก: เกมแน่น จังหวะหวาดเสียวแต่ยังไม่คม
ครึ่งแรกเป็นฝั่งสาลิกาดงที่ครองบอลมากกว่าเล็กน้อย จังหวะขึ้นเกมจากด้านข้างของ ลูอิส ฮอลล์ และ วาเลนติโน่ ลิเวราเมนโต้ สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับสเปอร์ส ดาน เบิร์น คอยดันเกมขึ้นสูงช่วยบี้จังหวะสอง ขณะที่ บรูโน กิมาไรส์ ยังเป็นคนคุมจังหวะจากข้างสนามรอเปลี่ยนลงมาพลิกเกม
ฝั่งทีมเยือนสเปอร์สเน้นรับแน่นแล้วสวนกลับ อาศัยความเร็วของ โมฮาเหม็ด คูดุส และ เบรนแนน จอห์นสัน เล่นงานหลังบ้านเจ้าถิ่นหลายครั้ง คริสเตียน โรเมโร เริ่มใส่ความดุดันตั้งแต่ต้นเกม เข้าปะทะหนักจนโดนใบเหลืองตั้งแต่นาทีที่ 23 แต่ก็ยังอ่านเกมในกรอบเขตโทษได้ยอดเยี่ยม ทำให้จังหวะลุ้นแบบจะแจ้งของนิวคาสเซิ่ลยังไม่เกิดขึ้น
โอกาสสับไกมีพอสมควรทั้งสองฝั่ง แต่ความคมยังไม่พอจะเปลี่ยนเป็นสกอร์ สกอร์บอร์ดยังนิ่ง 0-0 ตอนพักครึ่ง ทิ้งความรู้สึกว่าครึ่งหลังต้องมีของหนักแน่นอน
🔁 ครึ่งหลัง: สกอร์ไหลดั่งหนังคนละม้วน
ครึ่งหลัง เอ็ดดี้ ฮาว ตัดสินใจแก้เกมทันที ส่ง บรูโน กิมาไรส์ ลงมาคุมแดนกลางแทน ซานโดร โตนาลี และการเปลี่ยนตัวนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม
นาที 71 แฟนสาลิกาได้เฮลั่น เมื่อจังหวะบุกต่อเนื่อง บรูโน กิมาไรส์ เติมขึ้นหน้ากรอบเขตโทษแล้วกดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแบบไม่มีโกลคนไหนเซฟทัน เจ้าบ้านออกนำ 1-0 สมกับแรงกระหายที่เพิ่มขึ้นหลังพักครึ่ง
แต่ความมันส์เพิ่งเริ่ม นาที 78 สเปอร์สตอบโต้ทันควัน บอลถูกแทงทะลุให้ โมฮาเหม็ด คูดุส หลุดเข้าไปยิงผ่าน อารอน แรมส์เดล เข้าไปเป็น 1-1 จากจังหวะที่ โรเมโรดันขึ้นมาช่วยต่อบอลอย่างใจถึง เกมกลับมาสมดุลและเริ่มเปิดหน้าแลกกันยับ
เข้าสู่ช่วงท้าย นิวคาสเซิ่ลมาได้จุดโทษนาที 83 จากจังหวะที่ ดาน เบิร์น โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่นาที 86 แอนโธนี่ กอร์ดอน จะรับหน้าที่สังหาร ไม่พลาด พาเจ้าบ้านขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง บรรยากาศในสนามเดือดจนแทบระเบิด
แต่ดราม่าของค่ำคืนนี้ยังไม่จบ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+5 สเปอร์สได้ลูกเปิดเข้าเขตโทษ คริสเตียน โรเมโร เติมขึ้นมาขึ้นโขกเต็มแรง บอลพุ่งตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 2-2 ส่งแฟนทีมเยือนเฮกันสุดเสียง ส่วนแฟนเจ้าถิ่นถึงกับทรุดคาอัฒจันทร์เพราะเกือบเก็บสามแต้มอยู่แล้ว
สุดท้ายจบเกมแบบหายใจไม่ทั่วท้อง แบ่งแต้มกันไปทีมละคะแนน แต่ความมันส์ระดับไฟลุกถูกบันทึกลงสมุดของ บ้านผลบอล เรียบร้อย
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🏴☠️ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ผู้รักษาประตู
- อารอน แรมส์เดล (6.0)
กองหลัง
- วาเลนติโน่ ลิเวราเมนโต้ (6.6)
- มาลิค เทียว (6.5)
- ดาน เบิร์น กัปตันเกมรับสุดโหด (7.8)
- ลูอิส ฮอลล์ (7.0)
กองกลาง
- ซานโดร โตนาลี (7.1) – คุมจังหวะครึ่งแรก ก่อนโดนเปลี่ยนออก
- ลูอิส ไมลีย์ (6.8)
- โชเอลินตอน (6.8)
กองหน้า
- ยาค็อบ เมอร์ฟี่ (6.9)
- นิคโคไล โวลเทอมาเด้ (6.6)
- ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (6.9)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- บรูโน กิมาไรส์ (7.8) ลงมาครึ่งหลังแทน โตนาลี และยิงประตูเปิดหัวให้ทีม
- แอนโธนี่ อีลังก้า (6.5) แทน เมอร์ฟี่ นาที 66 เติมสปีดริมเส้น
- แอนโธนี่ กอร์ดอน (7.4) แทน บาร์นส์ นาที 66 ยิงจุดโทษขึ้นนำ 2-1
- ฟาเบียน แชร์ ลงช่วงทดเวลาแทน ไมลีย์ นาที 90+3 เพื่อปิดเกมรับ
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- จอห์น รัดดี้, อเล็กซ์ เมอร์ฟี่, โจ วิลล็อค, จาค็อบ แรมซีย์, ฌอน นีฟ
นักเตะโดดเด่นฝั่งสาลิกาดง
- บรูโน กิมาไรส์ – ลงมาครึ่งหลังแต่เปลี่ยนรูปเกม ยิงหนึ่งประตู และคุมจังหวะรุก
- ดาน เบิร์น – แนวรับตัวสูงที่ทั้งบล็อกบอลและดันขึ้นไปเรียกจุดโทษสำคัญ
- แอนโธนี่ กอร์ดอน – ลงมาสร้างความสด เติมสปีดและยิงจุดโทษไม่พลาด
🐓 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ผู้รักษาประตู
- กุลิแอลโม่ วิคาริโอ (7.4) – เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง ช่วยให้ทีมยังอยู่ในเกม
กองหลัง
- เปโดร ปอร์โร (6.6)
- เควิน ดันโซ (7.3)
- คริสเตียน โรเมโร กัปตันทีม (9.0) – หัวใจทั้งเกมรับและเกมรุก
- เดสติน อูโดกี (5.9) เจองานหนักตลอดเกมริมเส้น
กองกลาง
- โรดริโก เบนตานกูร์ (6.0)
- ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ (6.2)
- ลูคัส เบิร์กวัลล์ (6.7)
กองหน้า
- โมฮาเหม็ด คูดุส (7.0) – ยิงตีเสมอ 1-1
- แรนดัล โคโล มูอานี (6.9)
- เบรนแนน จอห์นสัน (6.3)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ชาวี ซิมอนส์ (6.4) แทน เบิร์กวัลล์ นาที 77 เสริมมิติการจ่ายบอล
- ริชาร์ลิซอน (6.3) แทน มูอานี นาที 77 เติมความแข็งแรงในกรอบเขตโทษ
- มาธิส เทล (6.5) แทน จอห์นสัน นาที 77 เติมความสดริมเส้น
- อาร์ชี เกรย์ (6.5) แทน ซาร์ นาที 87 ปิดเกมแดนกลาง
- วิลสัน โอโดแบร์ (6.5) แทน คูดุส นาที 87 เล่นงานแนวรับด้วยความเร็วช่วงท้ายเกม
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- อันโตนิน คินสกี้, ดเยด สเปนซ์, มิคกี้ ฟาน เดอ เวน, เชา ปาลญินญา
ผู้เล่นเด่นฝั่งไก่เดือยทอง
- คริสเตียน โรเมโร – สถิติ 2 ประตูจากแนวรับ พร้อมคุมเกมรับทั้งดักจังหวะ แท็กเกิล และโหม่งเคลียร์
- กุลิแอลโม่ วิคาริโอ – เซฟจังหวะสำคัญทั้งลูกยิงไกลและลูกชาร์จระยะเผาขน
- โมฮาเหม็ด คูดุส – ทำหนึ่งประตู และเป็นตัวจุดระเบิดทุกครั้งที่ได้บอลโซนหน้ากรอบ
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองเชิงระบบ วิเคราะห์บอล เกมนี้ นิวคาสเซิ่ลเดินหน้าด้วยโครงสร้าง 4-3-3 ที่เน้นการซ้อนกันของฟูลแบ็กกับปีก เมื่อได้บอล ฮอลล์กับลิเวราเมนโต้ดันสูงพร้อมกัน เปิดพื้นที่ให้ โตนาลี–ไมลีย์ รับหน้าที่เชื่อมบอลสั้นก่อนแทงลึกเข้าเขตโทษ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้สาลิกาดงสร้างโอกาสยิงได้มากกว่าอย่างชัดเจน
จุดแข็งของนิวคาสเซิ่ลคือการบีบสูงทันทีเมื่อเสียบอล กองกลางสามคนไล่เพรสจนสเปอร์สต้องรีบเตะทิ้งหรือพยายามออกบอลเสี่ยง ๆ ซึ่งหลายครั้งนำไปสู่โอกาสสองของเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อเกมยืดในช่วงท้าย ความล้าของแดนกลางทำให้แนวรับถูกบอมบ์ลูกครอสอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายพลาดโดนโขกตีเสมอจากลูกนิ่ง
ฝั่งสเปอร์สใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่ดรอปต่ำในช่วงไม่มีบอล วาง เบนตานกูร์ กับ ซาร์ คอยสกรีนหน้าเซ็นเตอร์สองคน แล้วให้สามตัวรุกอย่าง คูดุส–เบิร์กวัลล์–จอห์นสัน รอจังหวะโต้กลับ จุดเด่นคือเมื่อได้สวนกลับทีไร บอลถูกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยการพาบอลของคูดุสและการวิ่งช่องของมูอานี ทำให้แม้จำนวนโอกาสยิงจะน้อยกว่า แต่คุณภาพของจังหวะลุ้นประตูถือว่าอันตรายทุกครั้ง
เกมรับของไก่โดดเด่นที่ โรเมโร เขาคุมไลน์กับ ดันโซ ได้ดี อ่านเกมหน้าประตูและสกัดจังหวะสำคัญหลายครั้ง แต่เพราะทีมต้องเปิดเกมไล่ตามสกอร์ในช่วงท้าย ทำให้เซ็นเตอร์กัปตันทีมต้องเติมขึ้นไปอยู่ในกรอบฝ่ายตรงข้าม และสุดท้ายแปลงตัวเองเป็นกองหน้าจำเป็น โหม่งตีเสมอในนาทีท้ายสุดของเกม
โดยรวมแล้ว นิวคาสเซิ่ลทำได้ดีในการสร้างโอกาสและคุมจังหวะ แต่ขาดความนิ่งในการปิดเกม ส่วนสเปอร์สแสดงให้เห็นว่าตราบใดที่เกมยังไม่จบ พวกเขาพร้อมยิงแสบในทุกวินาทีสุดท้าย
📈 สถิติการแข่งขันสำคัญ
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพได้ชัดเจน นิวคาสเซิ่ลครองเกมได้มากกว่าด้วยการครองบอลราว 52–53% และมีโอกาสยิงรวมประมาณ 17–19 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่สเปอร์สมีโอกาสยิงเพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง แต่กลับเปลี่ยนเป็นสองประตูเต็ม ๆ ค่าความคาดหวังประตู (xG) ของเจ้าถิ่นแตะเกือบ 2.0 ส่วนทีมเยือนอยู่ไม่ถึง 1.0 บ่งบอกว่าทีมของเอ็ดดี้ ฮาว สร้างโอกาสคุณภาพได้ดีกว่า
ด้านการผ่านบอล นิวคาสเซิ่ลจ่ายบอลราว 350–420 ครั้ง ความแม่นยำกว่า 93% ส่วนสเปอร์สจ่ายราว 310–380 ครั้ง แม่นยำประมาณ 92% แปลว่าทั้งสองทีมแทบไม่ปล่อยให้บอลหลุดเท้าแบบเสียเปล่า เกมในแดนกลางจึงแน่นและใช้ความผิดพลาดเล็ก ๆ เป็นตัวตัดสินจังหวะสำคัญ
สถิติเกมรับชี้ชัดว่าไก่เดือยทองเล่นหนักกว่า ฟาวล์มากกว่าสิบครั้งและโดนใบเหลืองถึง 3 ใบ ขณะที่เจ้าบ้านไม่มีการโดนจดชื่อเลย นิวคาสเซิ่ลได้เตะมุมมากถึง 11 ครั้ง เทียบกับ 8 ของทีมเยือน ย้ำให้เห็นว่าบุกใส่ต่อเนื่องตลอดทั้งเกม แต่สุดท้ายจบแค่แต้มเดียวเพราะเจอความเฉียบคมและความดื้อด้านของแนวรับสเปอร์สคอยยืนขวางไว้ตลอด
🕘 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ 23′ คริสเตียน โรเมโร รับใบเหลืองจากจังหวะเข้าปะทะหนัก
- 🔄 46′ นิวคาสเซิ่ลเปลี่ยนตัว ส่ง บรูโน กิมาไรส์ ลงแทน ซานโดร โตนาลี
- 🔄 66′ แอนโธนี่ กอร์ดอน ลงแทน ฮาร์วีย์ บาร์นส์
- 🔄 66′ แอนโธนี่ อีลังก้า ลงแทน ยาค็อบ เมอร์ฟี่
- ⚽ 71′ ประตู 1-0 นิวคาสเซิ่ล – บรูโน กิมาไรส์ เติมขึ้นมาหน้ากรอบแล้วยิงเสียบเสา
- 🔄 77′ สเปอร์สเปลี่ยนสามคนรวด ส่ง ชาวี ซิมอนส์, ริชาร์ลิซอน, มาธิส เทล แทน เบิร์กวัลล์, มูอานี และ จอห์นสัน
- ⚽ 78′ ประตู 1-1 สเปอร์ส – โมฮาเหม็ด คูดุส ยิงตีเสมอจากจังหวะต่อบอลเข้าทำที่ โรเมโรมีส่วนร่วม
- ❗ 83′ นิวคาสเซิ่ลได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ดาน เบิร์น โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ
- ⚽ 86′ ประตู 2-1 นิวคาสเซิ่ล – แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงจุดโทษเข้าไปอย่างเยือกเย็น
- 🟨 86′ ริชาร์ลิซอน โดนใบเหลืองจากจังหวะปะทะร้อนแรง
- 🔄 87′ สเปอร์สส่ง อาร์ชี เกรย์ แทน ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ และ วิลสัน โอโดแบร์ แทน โมฮาเหม็ด คูดุส เสริมความสดลุยท้ายเกม
- 🔄 90+3′ นิวคาสเซิ่ลเปลี่ยน ฟาเบียน แชร์ ลงแทน ลูอิส ไมลีย์ เพื่ออุดเกมรับ
- ⚽ 90+5′ ประตู 2-2 สเปอร์ส – คริสเตียน โรเมโร เติมขึ้นไปโขกจากลูกครอส ส่งบอลเสียบตาข่ายแบบเงียบทั้งสนามเจ้าถิ่น ก่อนจบเกมด้วยการแบ่งแต้มสุดมันส์
⭐ Player of the Match – Cristian Romero
เกมนี้ตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์หนีไม่พ้น คริสเตียน โรเมโร เซ็นเตอร์กัปตันทีมของสเปอร์ส ที่ได้เรตติ้งสูงถึง 9.0 ไม่ใช่แค่พังประตูตีเสมอนาทีสุดท้าย แต่ยังเป็นผู้นำแนวรับอย่างแท้จริง ตัดบอลกลางอากาศ แท็กเกิลดักจังหวะ และคอยปลุกเพื่อนร่วมทีมไม่ให้ยอมแพ้ แม้จะโดนเสียงโห่จากแฟนเจ้าถิ่นหลังเข้าปะทะหนักหลายครั้ง แต่หากไม่มีโรเมโรในคืนนี้ ไก่เดือยทองแทบหมดโอกาสกลับบ้านพร้อมแต้ม
เขาทำหน้าที่ทั้งเซ็นเตอร์และกองหน้าจำเป็นในคราวเดียว ลูกโขก 2-2 ในช่วงทดเวลา คือภาพชัดเจนที่สุดของผู้นำที่ไม่ยอมปล่อยให้ทีมแพ้ง่าย ๆ และเป็นสาเหตุสำคัญที่สเปอร์สยังเกาะกลุ่มกลางตารางแบบมีลุ้นไต่อันดับต่อ
📍 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
หลังจบเกมนี้ ทั้งสองทีมยังยืนอยู่ในโซนกลางตารางเหมือนเดิม จากภาพรวมตารางที่อัปเดตล่าสุด สเปอร์สมี 19 คะแนนจาก 14 นัด ผลเสมอทำให้ยังรั้งอันดับ 11 โดยประตูได้เสียบวกเล็กน้อย ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 19 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียและเฮดทูเฮดเป็นรอง จึงรั้งอันดับ 13
สามแต้มที่หายไปในบ้านทำให้สาลิกาดงพลาดโอกาสขยับเข้าใกล้กลุ่มลุ้นพื้นที่ยุโรป ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แม้จะไม่ได้ชัยชนะ แต่หนึ่งแต้มจากเกมเยือนที่ยากอย่างเซนต์ เจมส์ พาร์ก ถือว่าสำคัญ เพราะช่วยให้ระยะห่างจากโซนล่างไม่ดูล่อแหลมเกินไป และยังมีโอกาสเร่งฟอร์มในช่วงเทศกาลโปรแกรมชุกที่จะมาถึง
📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอลนัดถัดไป
มองไปข้างหน้าใน ตารางบอล และ โปรแกรมบอล นัดถัดไป นิวคาสเซิ่ลต้องเจองานหนักต่อเนื่อง ทั้งการบุกไปเยือนไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และกลับมาเล่นลีกในบ้านเจอกับเบิร์นลีย์ เกมสองนัดนี้จะเป็นบททดสอบว่าลูกทีมของเอ็ดดี้ ฮาว จะรีดสามแต้มสำคัญกลับมาได้มากแค่ไหนหลังสะดุดแบ่งแต้มกับสเปอร์ส
ด้านไก่เดือยทองของโธมัส แฟรงค์ มีโปรแกรมยุโรปเช่นกัน ต้องเปิดบ้านรับสลาเวีย ปราก ก่อนจะลงเล่นพรีเมียร์ลีกพบเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งทั้งสองเกมนี้สำคัญต่อความมั่นใจและทิศทางของทีม หากเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง สถานการณ์ในลีกจะดูสดใสขึ้นทันตา และการลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปยังไม่หลุดมือแน่นอน
🔔 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของเกมมันส์ ๆ แบบนี้ ทั้งสถิติละเอียด ไฮไลต์ และอัปเดต บ้านผลบอล แบบเรียลไทม์ บ้านกีฬา พร้อมรายงานให้ครบทุกคู่ ทุกลีก ยิ่งเกมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกแบบ นิวคาสเซิ่ล ดวล สเปอร์ส คืนนี้ ยิ่งยืนยันว่าโลกฟุตบอลไม่มีคำว่าจบจนกว่ากรรมการจะเป่านกหวีดสุดท้าย ใครไม่อยากพลาดเรื่องราวดราม่าบนผืนหญ้าแบบนี้ กดติดตาม บ้านกีฬา เอาไว้ได้เลย อัปเดตทั้งข่าวสด บทวิเคราะห์ และบรรยากาศรอบสนามแบบจัดเต็มทุกวัน
