
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง บอร์นมัธ เอเอฟซี 0-1 เอฟเวอร์ตัน วันนี้ 3/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกคู่เดือดที่ไวทาลิตี้ สเตเดียม บอร์นมัธ เอเอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน เกมนี้แฟนบอลตามเช็ก ผลบอลสด กันแบบหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจบด้วยชัยชนะของทอฟฟี่สีน้ำเงิน 1-0 จากประตูโทนของ แจ็ค กรีลิช นาที 78 ส่งให้ทีมเยือนบุกมาคว้า 3 แต้มใหญ่กลับบ้านได้สำเร็จ
⏱ ครึ่งแรก: บอร์นมัธคุมบอล แต่เจาะไม่เข้า
ครึ่งแรก บอร์นมัธของ อันโดนี อิราโอลา เปิดเกมบุกใส่อย่างมั่นใจ ใช้จุดเด่นเรื่องการครองบอลและการขึ้นเกมริมเส้น ฝั่งซ้ายมี อาเดรียง ทรูแฟร์ กับ จัสติน ไคลเวิร์ต คอยกระชากใส่แบ็กขวาเอฟเวอร์ตัน ส่วนฝั่งขวาเป็น อาเดรียง อัดลี ซ้อนด้วย แอนดี้ สกอตต์ ที่คอยคุมจังหวะกลางสนาม
เจ้าถิ่นครองบอลเหนือกว่า 55% ต่อ 45% ต่อบอลกันลื่นไหล (ประมาณ 470 ต่อ 371 ครั้ง) แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายขาดความคม มีโอกาสยิงทั้งหมด 5 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง ทำให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังไม่ต้องออกแรงเซฟหนักๆ ขณะที่ เอฟเวอร์ตันของ เดวิด มอยส์ เน้นตั้งโซนลึก รอเก็บบอลสองแล้ววางยาวให้แนวรุกอย่าง อิลิมัน เอ็นดิอาย และ แจ็ค กรีลิช เล่นงานแนวรับบอร์นมัธแบบสวนกลับเร็ว
นาที 22 ทีมเยือนได้จังหวะตัดเกมแรกของ ทิโมธี อิโรเอ็กบูนัม จนโดนใบเหลือง เป็นสัญญาณว่าด้วยสปีดบอลของบอร์นมัธ เกมนี้ไม่ง่ายสำหรับแดนกลางทอฟฟี่แน่นอน ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก จัสติน ไคลเวิร์ต มีปัญหาโต้เถียงกับผู้ตัดสินจนโดนเหลืองไปอีกใบ ทำให้รูปเกมเริ่มเดือดก่อนจบ 45 นาทีแรกที่สกอร์ 0-0
⏱ ครึ่งหลัง: เอฟเวอร์ตันเพิ่มเกียร์ ก่อนกรีลิชปิดบัญชี
ครึ่งหลังรูปเกมยังคงเป็นของบอร์นมัธที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ เอฟเวอร์ตันปรับจังหวะบีบเร็วในแดนกลาง ให้ คีแรน ดิวส์บรี-ฮอลล์ ขยับขึ้นสูงกดดัน แท็คเกิลดุขึ้นจนเกมพร่างไปด้วยการปะทะ บอร์นมัธเริ่มเสียจังหวะเมื่อ ไทเลอร์ อดัมส์ โดนใบเหลืองนาที 53 จากการตัดเกมกลางสนาม
อิราโอลาแก้เกมด้วยการส่ง มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ และ เอวานิลซอน ลงมาช่วยยกระดับเกมรุก แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่ไหลตามที่หวัง ตรงกันข้าม เอฟเวอร์ตันยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ เกมสวนกลับฝั่งซ้ายที่มี กรีลิช เป็นตัวขับเคลื่อนเริ่มสร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
นาที 78 จุดเปลี่ยนของเกมก็มาถึง เมื่อ คาร์ลอส อัลการาซ หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนตบคืนเข้ากลางให้ แจ็ค กรีลิช วิ่งสอดเข้าไปแปเน้นๆ ส่งบอลเสียบตาข่าย ให้เอฟเวอร์ตันออกนำ 1-0 อย่างเฉียบขาด ท่ามกลางความเงียบกริบของแฟนเจ้าถิ่นในสนาม
ท้ายเกม บอร์นมัธเทหมดหน้าตัก ส่ง เอเนส อูนัล ลงมาเติมหอกอีกคนแต่ยังเจาะกำแพงรับที่มี เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ คุมเกมอยู่ไม่ได้ จบ 90 นาที + ทดเวลา 4 นาที ทอฟฟี่สีน้ำเงินบุกเชือด 1-0 เก็บสามแต้มสุดล้ำค่า ส่วนบอร์นมัธต้องยอมรับความพ่ายแพ้คาบ้านทั้งที่ครองบอลมากกว่า

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 บอร์นมัธ (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.69
ผู้รักษาประตู
- ดานีโล่ เปโตรวิช 6.6
กองหลัง
- อาเลฆานโดร ฆิเมเนซ 7.0
- วูคาน มิโลซาฟเยวิช 6.9
- บาฟอดี้ ดิยากิเต้ 7.0
- อาเดรียง ทรูแฟร์ 7.2
กองกลางตัวรับ/กึ่งกลาง
- ไทเลอร์ อดัมส์ 6.8
- แอนดี้ สกอตต์ 6.9
สามแนวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- อาเดรียง อัดลี 6.6
- เอนโซ่ ฌ็อง ครูปี 6.3
- จัสติน ไคลเวิร์ต 6.7
ศูนย์หน้าตัวเป้า
- อองตวน เซเมนโย (กัปตัน) 7.2
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ 6.4 (น.60 แทน อัดลี)
- เอวานิลซอน 6.2 (น.61 แทน ครูปี)
- ฆูลิโอ โซเลร์ 6.2 (น.70 แทน ไคลเวิร์ต)
- เอเนส อูนัล 6.4 (น.80 แทน สกอตต์)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
วิลล์ เดนนิส, เจมส์ ฮิลล์, ฆูเลียน อเราโฆ, อดัม สมิธ, มัลคอม ดาโคสตา
🔵 เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.95
ผู้รักษาประตู
- จอร์แดน พิคฟอร์ด 7.1
กองหลัง
- วิตาลี มิโคเลนโก้ 7.2
- เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (กัปตัน) 7.5
- เจค โอไบรอัน 7.1
- เจมส์ การ์เนอร์ 7.2
กองกลางตัวรับ/บ็อกซ์ทูบ็อกซ์
- ทิโมธี อิโรเอ็กบูนัม 7.3
- คีแรน ดิวส์บรี-ฮอลล์ 7.1
สามแนวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- อิลิมัน เอ็นดิอาย 6.4
- คาร์ลอส อัลการาซ 6.4
- แจ็ค กรีลิช 7.7 (ทำประตูชัย)
ศูนย์หน้าตัวเป้า
- ทอม แบร์รี 6.3
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ดไวท์ แม็คนีล 6.4 (น.80 แทน อัลการาซ)
- เบโต้ 6.6 (น.80 แทน แบร์รี)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
มาร์ก ทราเวิร์ส, ทอม คิง, นาธาน แพตเตอร์สัน, อดัม แอซนู, รีซ เวลช์, อาลิยาห์ แคมป์เบลล์, ไทเลอร์ ดิบลิง
ผู้จัดการทีม
- บอร์นมัธ: อันโดนี อิราโอลา
- เอฟเวอร์ตัน: เดวิด มอยส์
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
หากมองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติก เกมนี้บอร์นมัธยึดระบบ 4-2-3-1 แบบเน้นครองบอล จังหวะขึ้นเกมเริ่มจากคู่เซ็นเตอร์ ดิยากิเต้–มิโลซาฟเยวิช ต่อบอลสั้นกับ อดัมส์ และ สกอตต์ แล้วค่อยกระจายออกปีก ทรูแฟร์ กับ ฆิเมเนซเติมสูงพร้อมกัน ทำให้รูปเกมเจ้าถิ่นดันไลน์ขึ้นไปค่อนข้างสูง แต่ปัญหาอยู่ที่พื้นที่ระหว่างกลางกับแนวรับ หากเสียบอลทีไร เอฟเวอร์ตันมีช่องให้โต้กลับทุกครั้ง
ด้านการรับ บอร์นมัธพยายามเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า ใช้ เซเมนโย เป็นตัวไล่บีบเซ็นเตอร์คู่ทอฟฟี่ แต่เมื่อบีบไม่สำเร็จ พวกเขาต้องถอยลงมาตั้งโซนในแดนตัวเอง ทำให้รูปเกมมีหลุมตรงหน้ากองหลังอยู่ช่วงหนึ่งของครึ่งหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ เอฟเวอร์ตันหาจังหวะเจาะได้มากที่สุด
ฝั่งเอฟเวอร์ตัน รูปแบบ 4-2-3-1 ของ เดวิด มอยส์ เน้นความแน่นในแดนกลาง อิโรเอ็กบูนัม ยืนต่ำคอยตัดเกม ส่วน ดิวส์บรี-ฮอลล์ ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างกลางกับสามแนวรุก การยืนตำแหน่งมีวินัยสูง เวลาเพรสจะดันไลน์กลางขึ้นแค่ระดับหนึ่ง ไม่หลุดตำแหน่ง ทำให้บอร์นมัธแม้ครองบอลมากกว่าแต่เจาะพื้นที่อันตรายได้น้อย
ในเกมรุก ทอฟฟี่สีน้ำเงินเลือกใช้วิธีโจมตีด้านข้างเป็นหลัก โดยปล่อยให้ กรีลิช รับบอลกว้างทางซ้ายแล้วเลี้ยงตัดเข้าใน หรือล็อกหาช่องเปิดให้ แบร์รี กับตัวสอดจากแถวสองอย่าง อัลการาซ เข้าทำ ในขณะที่ฝั่งขวา การ์เนอร์ กับ เอ็นดิอาย คอยสร้างความกดดันแต่ไม่หวือหวาเท่าฝั่งซ้าย จังหวะประตูชัยก็ชัดเจนว่าแผนวิ่งสอดช่องของ กรีลิช ทำงานเต็มรูปแบบจากการเปิดของ อัลการาซ
โดยรวมแล้ว บอร์นมัธมีระบบการครองบอลที่ดี แต่ขาดความหลากหลายในจังหวะจบ ส่วนเอฟเวอร์ตันแม้จะเสียบอลบ่อยกว่า ทว่ามีวินัยเกมรับและคมในจังหวะสำคัญ ทำให้คว้าชัยได้ตามแบบทีมที่เล่น “บอลผลลัพธ์” อย่างแท้จริง

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังจบเกมบอกชัดว่า บอร์นมัธถือบอลเหนือกว่า 55% ต่อ 45% ต่อบอลสำเร็จมากกว่า (ราว 470 ต่อ 371 ครั้ง) และความแม่นยำในการผ่านบอลใกล้เคียงกัน แต่เอฟเวอร์ตันสร้างความอันตรายได้มากกว่าในพื้นที่สุดท้าย ด้วยจำนวนโอกาสยิงทั้งหมด 13 ครั้ง เข้ากรอบ 3 หน ขณะที่เจ้าถิ่นยิงเพียง 5 ครั้ง เข้ากรอบ 2
ค่า Expected Goals (xG) ของบอร์นมัธอยู่ที่ 0.57 เท่านั้น สะท้อนว่าโอกาสลุ้นประตูแบบจังๆ มีไม่มาก ต่างจากเอฟเวอร์ตันที่ xG ขยับไปถึง 1.35 พร้อมสร้าง “บิ๊กแชนซ์” ได้ 2 ครั้ง และเปลี่ยนหนึ่งในนั้นเป็นประตูชัย ด้านลูกตั้งเตะ ทีมเยือนกดเตะมุมถึง 6 ครั้ง ส่วนเจ้าถิ่นได้เพียง 1 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าทอฟฟี่อันตรายมากเวลาเล่นสวนกลับแล้วจบด้วยคอร์เนอร์
เกมนี้ทั้งสองทีมเล่นกันดุเดือด เสียฟาวล์ฝ่ายละ 14 ครั้ง ได้ฟรีคิกเท่ากัน 14 ต่อ 14 และโดนใบเหลืองทีมละ 3 ใบ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ใส่กันเต็มข้อทั้งสองฝั่ง สมกับบรรยากาศพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง
📝 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- 🟨 นาที 22 ทิโมธี อิโรเอ็กบูนัม (เอฟเวอร์ตัน) ทำฟาวล์กลางสนาม โดนใบเหลืองแรกของเกม
- 🟨 นาที 45 จัสติน ไคลเวิร์ต (บอร์นมัธ) มีจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน โดนใบเหลืองก่อนจบครึ่งแรก
- 🟨 นาที 49 วิตาลี มิโคเลนโก้ (เอฟเวอร์ตัน) ทำฟาวล์นอกบอล โดนใบเหลืองจากจังหวะเล่นนอกเกมเล็กน้อย
- 🟨 นาที 53 ไทเลอร์ อดัมส์ (บอร์นมัธ) ตัดฟาวล์กลางสนามเพื่อหยุดเกมสวนกลับ ได้รับใบเหลืองเพิ่มให้เจ้าถิ่น
- 🔁 นาที 60 บอร์นมัธเปลี่ยนตัว มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ลงแทน อาเดรียง อัดลี เติมความสดในแดนริมเส้น
- 🔁 นาที 61 บอร์นมัธส่ง เอวานิลซอน ลงแทน เอนโซ่ ฌ็อง ครูปี ปรับมาเล่นหน้าเป้าคู่เซเมนโยในบางช่วง
- 🔁 นาที 70 ฆูลิโอ โซเลร์ ลงแทน จัสติน ไคลเวิร์ต เพื่อเพิ่มมิติการเลี้ยงทะลุจากฝั่งซ้าย
- ⚽ นาที 78 ประตูสำคัญของเกม คาร์ลอส อัลการาซ ไหลบอลเข้ากลางให้ แจ็ค กรีลิช สอดมาแปเน้นๆ ส่งเอฟเวอร์ตันขึ้นนำ 1-0
- 🟨 นาที 79 คาร์ลอส อัลการาซ มีจังหวะโต้เถียงหลังทำแอสซิสต์ไม่นาน โดนใบเหลืองจากเหตุการณ์ในสนาม
- 🔁 นาที 80 เอฟเวอร์ตันขยับสองเปลี่ยนพร้อมกัน ส่ง ดไวท์ แม็คนีล แทน อัลการาซ และ เบโต้ แทน ทอม แบร์รี เพื่อปิดเกม
- 🔁 นาที 80 บอร์นมัธส่ง เอเนส อูนัล ลงแทน แอนดี้ สกอตต์ เติมกองหน้าเพิ่มหวังตามตีเสมอ
- 🟨 นาที 89 เอเนส อูนัล โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงในช่วงท้ายเกม อุณหภูมิการแข่งขันยังเดือดจนวินาทีสุดท้าย
⭐ Player of the Match – แจ็ค กรีลิช
แข้งเด่นของเกมนี้หนีไม่พ้น แจ็ค กรีลิช ปีกซ้ายของเอฟเวอร์ตันที่กดคะแนนสูงสุด 7.7 ไม่เพียงแค่ยิงประตูชัยอย่างนิ่ง แต่ทั้งเกมเขาคือคนคุมจังหวะเกมรุกของทอฟฟี่สีน้ำเงิน เลี้ยงกินตัวบ่อยครั้ง ดึงแนวรับบอร์นมัธให้หลุดตำแหน่ง เปิดพื้นที่ให้เพื่อนเล่นง่ายขึ้น
กรีลิชมีจังหวะสร้างโอกาสหลายครั้ง ทั้งการลากตัดเข้าในและเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ ทำให้ฝั่งซ้ายของเอฟเวอร์ตันกลายเป็นอาวุธหลักที่เจ้าถิ่นต้องรับมือแทบตลอด 90 นาที ประตู 1-0 ที่เขาซัดเข้าไปยิ่งตอกย้ำว่า วันนี้คือวันของเขาอย่างแท้จริง

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ลงเตะ 14 นัด มี 21 คะแนน ขยับขึ้นไปยืนในอันดับ 9 ของตารางพรีเมียร์ลีก กลับมาเกาะกลุ่มกลางบนได้อย่างมั่นคง มีโอกาสมองไปถึงการลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปหากรักษาฟอร์มเก็บแต้มต่อเนื่อง
ส่วน บอร์นมัธ หลังแพ้คาบ้านยังคงมี 19 แต้มจาก 14 นัด รั้งอันดับ 14 ลูกได้เสีย -3 (ยิง 21 เสีย 24) แม้ยังไม่จ่อโซนตกชั้น แต่ถ้ายังปล่อยให้เกมในบ้านหลุดมือบ่อยๆ ความกดดันอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อทีมในโซนท้ายตารางเริ่มเก็บคะแนนได้
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป
มองไปที่ โปรแกรมบอล นัดต่อไป บอร์นมัธต้องเจอภารกิจหนักต่อเนื่อง เมื่อมีคิวเปิดบ้านดวล เชลซี ในเกมลีกวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 22.00 น. ก่อนจะบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 16 ธันวาคม เวลา 03.00 น. สองนัดนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าทีมของอิราโอลาจะดีพอยืนระยะกลางตารางได้หรือไม่
ด้านเอฟเวอร์ตันก็โปรแกรมหินไม่แพ้กัน เริ่มจากการเปิดกูดิสัน พาร์ก รับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 6 ธันวาคม เวลา 22.00 น. ก่อนจะบุกเยือน เชลซี วันที่ 13 ธันวาคม เวลา 22.00 น. หากทอฟฟี่สีน้ำเงินยังรักษาฟอร์มเหนียวแน่นแบบนัดบุกชนะบอร์นมัธได้ โอกาสเพิ่มแต้มยึดกลุ่มท็อปฮาล์ฟของตารางก็เปิดกว้างทันที
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่บ้านกีฬา
คอบอลที่อยากอัปเดตผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ เช็กสกอร์ เช็กฟอร์ม เช็กไลน์อัปก่อนใคร อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และบทสรุปหลังเกมทุกคู่ได้ที่ “บ้านกีฬา” ที่นี่เรารวมทุกมุมมอง ตั้งแต่สถิติลงลึก แท็กติกในสนาม ไปจนถึงสีสันข้างสนามให้อ่านกันแบบจุใจ เกมเดือดแบบ บอร์นมัธ พบ เอฟเวอร์ตัน คืนนี้ บ้านกีฬา ไม่พลาดเก็บทุกช็อตสำคัญมาเล่าให้แฟนบอลฟังแน่นอน

