บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก ระอุเซลเฮิร์สต์ ปาร์ค บรูโน่ปั้น–เมานท์ปิด ผีบุกแซงพาเลซ 2-1 ขยับล่าโควต้ายุโรปต่อ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง คริสตัล พาเลซ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ 30/11/68 – บ้านกีฬา

ศึก พรีเมียร์ลีก ที่เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค จบลงด้วยชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกแซง คริสตัล พาเลซ 2-1 เกมนี้แฟนบอลตามเช็ก ผลบอลสด กันหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะรูปเกมพลิกไปมาจนถึงช่วงท้าย ก่อนที่ “ปีศาจแดง” จะอาศัยความเฉียบคมของแนวรุกและความนิ่งของบรูโน่ เฟอร์นันเดส ปิดจ็อบเก็บสามแต้มสำคัญออกจากลอนดอนได้สำเร็จ

⏱️ ครึ่งแรก: พาเลซคมกว่า นำก่อนจากเมตาต้า

เปิดเกมมา คริสตัล พาเลซ ของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ จัดระบบ 3-4-2-1 เน้นเพรสซิ่งกลางสนาม ปิดทางจ่ายบอลของบรูโน่และคาเซมิโร แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของรูเบน อาโมริม ก็ไม่ได้ถอยตั้งรับ ออกบอลจากหลังด้วยเดอ ลิกต์–ชอว์ พยายามโยกไปด้านข้างให้เมานท์และดีอัลโล่หาพื้นที่เล่น

นาที 17 แฟนเจ้าถิ่นสะใจเล็ก ๆ เมื่อ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ไปโวยผู้ตัดสินจนโดนใบเหลืองบันทึกชื่อ แต่รูปเกมยังสูสี ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะทดสอบผู้รักษาประตู ฮেনเดอร์สัน กับ แลมเมินส์ ต้องออกแรงเซฟกันคนละหลายครั้ง

ช่วงนาที 35 ดราม่าเริ่มบาน เมื่อ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้พาเลซเฮทั้งสนาม แต่ VAR เช็กแล้วปัดทิ้ง ประตูไม่ให้ ทำเอาแฟนเจ้าบ้านหัวเสียกันทั้งแถบ ทว่าความกดดันกลายเป็นพลัง นาที 36 พาเลซได้จุดโทษ และเป็น มาเตต้า คนเดิมซัดไม่พลาด พาเจ้าถิ่นออกนำ 1-0

นาที 38 กลาสเนอร์เสริมความสด ส่ง เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์ ลงมาแทน อิสไมล่า ซาร์ เพื่อเพิ่มความเร็วในแดนหน้า จากนั้นช่วงทดเจ็บห้านาที พาเลซเน้นคุมจังหวะ เกมรุกยูไนเต็ดขาด ๆ เกิน ๆ ทำให้ครึ่งแรกจบที่สกอร์ 1-0 เจ้าถิ่นออกนำแบบแน่นอนกว่าในพื้นที่สุดท้าย

🔁 ครึ่งหลัง: ผีเปลี่ยนเกียร์สูง บรูโน่นำทัพแซงดับ

กลับมาครึ่งหลัง บ้านกีฬาเห็นได้ชัดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มสปีดเกม รุกกดดันสูงตั้งแต่แดนหน้า นาที 53 เอ็นเคเทียห์ไปเสียฟาวล์แรงโดนใบเหลือง เปิดทางให้ปีศาจแดงยกระดับความดุดันเกมรุกต่อเนื่อง

นาที 54 จุดเปลี่ยนหลักของเกมเกิดขึ้น บรูโน่ เฟอร์นันเดส ลากบอลมาแถวหน้ากรอบ ก่อนแทงทะลุช่องอย่างเฉียบให้ โจชัว เซิร์กเซ่ หลุดเข้าไปซัดผ่านมือฮেনเดอร์สัน ตีเสมอ 1-1 จากนั้นอาโมริมเปลี่ยนเกมทันที ถอด เลนนี่ โยโร่ ออก ส่ง นุสซายร์ มาซราอุย ลงมาเติมเกมริมเส้นขวา

แรงกดดันของทีมเยือนทำให้แนวรับพาเลซเริ่มแกว่ง นาที 63 บรูโน่โชว์วิสัยทัศน์อีกครั้ง จ่ายตัดแนวรับให้ เมสัน เมานท์ สอดเข้าไปกดเรียดเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาด พลิกสถานการณ์ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แซงนำ 2-1

ช่วงครึ่งหลังใบเหลืองเริ่มปลิว ลุค ชอว์ โดนจดชื่อในนาที 72 ก่อน มาร์ก เกฮี จะโดนตามมาในนาที 75 ด้านเจ้าถิ่นถอด อดัม วอร์ตัน กับ เยเรมี่ ปีโน่ ออก ส่ง วิลล์ ฮิวจ์ส และ คริสแทนตัส อูเช่ ลงไปเร่งเกม นาที 82 ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอา ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงแทนชอว์ เพื่อช่วยปิดพื้นที่กลางอากาศ

ท้ายเกม พาเลซเทหมดหน้าตัก แต่ยังเจาะแนวรับที่มีเดอ ลิกต์–มาร์ติเนซคุมอยู่ไม่เข้า แถม เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า ที่ถูกส่งลงมาช่วงท้ายยังโดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บนาที 90+3 จบเกม “ปีศาจแดง” รักษาสกอร์ แบกชัย 2-1 กลับบ้านแบบหืดจับ แต่คุ้มค่ากับสามคะแนนเต็ม

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว

🦅 คริสตัล พาเลซ

ระบบ 3-4-2-1

ผู้รักษาประตู

  • ดีน ฮেনเดอร์สัน (7.4) – เซฟลูกเหน่งหลายครั้ง รักษาเกมให้พาเลซลุ้นแต้มจนจบ

กองหลัง

  • คริส ริชาร์ดส์ (6.3)
  • มักแซงซ์ ลาครัวซ์ (6.2)
  • ดาเนียล มูนยอซ (6.4)

กองกลาง / วิงแบ็ก

  • มาร์ก เกฮี (กัปตัน, 6.1) – เกมรับแน่นแต่ท้ายเกมเริ่มล้า ได้ใบเหลืองนาที 75
  • อดัม วอร์ตัน (7.1) – คุมจังหวะบอลช่วงครึ่งแรกดีมาก จ่ายบอลนิ่งจัด
  • ไดอิชิ คามาดะ (6.8) – เชื่อมเกมระหว่างกลางกับหน้าได้ดี ก่อนถูกถอดปลายเกม
  • ไทริค มิตเชลล์ (6.3) – ทำงานหนักริมเส้นซ้ายทั้งรุกและรับ
  • อิสไมล่า ซาร์ (6.4) – ใช้สปีดฉีกแนวรับ แต่เจ็บ/ล้าจนต้องถูกเปลี่ยนตั้งแต่นาที 38
  • เยเรมี่ ปีโน่ (7.0) – สร้างปัญหาให้แบ็กยูไนเต็ดตลอดครึ่งแรก

กองหน้า

  • ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (7.5) – ยิง 1 ประตูจากจุดโทษ มีอีกหนึ่งลูกโดน VAR ยึด ถือว่าคมสุดของฝั่งเจ้าบ้าน

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์ (6.3) – ลงนาที 38 แทนซาร์ ขยับหาพื้นที่เก่งแต่โดนใบเหลืองต้นครึ่งหลัง
  • วิลล์ ฮิวจ์ส (6.7) – ลงนาที 78 แทนวอร์ตัน ช่วยขยันเพรสแดนกลาง
  • คริสแทนตัส อูเช่ (6.5) – ลงนาที 78 แทนปีโน่ พยายามยิงไกลแต่หลุดกรอบ
  • เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า (6.5) – ลงนาที 85 แทนคามาดะ มีจังหวะปะทะจนโดนเหลืองทดเจ็บ
  • จัสติน เดเวนนี่ (6.5) – ลงนาที 85 แทนมิตเชลล์ เสริมความสดด้านซ้าย

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน

  • วอลเตอร์ เบนิเตซ, นาธาเนียล ไคล์น, เจย์ดี คานวอต, โรมัน เอสเซ่

🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ระบบ 3-4-2-1

ผู้รักษาประตู

  • เซนน่ ลัมเมินส์ (6.7) – เซฟไม่หวือหวาแต่ไว้ใจได้ ลูกเสียประตูมาจากจุดโทษ

กองหลัง

  • ลุค ชอว์ (7.1) – เติมเกมซ้ายได้น่ากลัว มีใบเหลืองช่วงครึ่งหลัง ก่อนถูกถอดนาที 82
  • มัทไธส์ เดอ ลิกต์ (6.5) – จัดการลูกโด่งและเก็บกวาดหน้าประตูได้ดี
  • ดิโอโก้ ดาโลต์ (6.8) – ขึ้นลงทางขวาตลอดเกม มีส่วนช่วยสร้างโอกาสบุก
  • เลนนี่ โยโร่ (5.7) – ช่วงแรกมีหลุดตำแหน่งหลายจังหวะ ก่อนโดนเปลี่ยนออกนาที 54

กองกลาง / ตัวรุก

  • คาเซมิโร (7.0) – ยืนเป็นหลักกลางสนาม ตัดเกมและเชื่อมบอลขึ้นหน้า
  • บรูโน่ เฟอร์นันเดส (กัปตัน, 8.0) – จอมทัพตัวจริงของทีม จ่าย 2 แอสซิสต์ พาทีมกลับมาชนะ
  • เมสัน เมานท์ (7.8) – ขยับหาพื้นที่ฉลาด และยิงประตูชัยสุดคมในนาที 63
  • อาหมัด ดีอัลโล่ (6.5) – พยายามเลี้ยงกินตัวแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบ ก่อนถูกเปลี่ยนทดเจ็บ
  • ไบรอัน เอ็มเบวโม่ (6.6) – ได้เหลืองตั้งแต่นาที 17 เกมเลยต้องระวัง ทำให้ดุดันไม่สุด

กองหน้า

  • โจชัว เซิร์กเซ่ (7.6) – ใช้สรีระพักบอลดี และยิงตีเสมอ 1-1 อย่างเฉียบขาด

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • นุสซายร์ มาซราอุย (7.2) – ลงนาที 54 แทนโยโร่ เติมเกมริมเส้นขวาได้เดือดมาก
  • ลิซานโดร มาร์ติเนซ (6.8) – ลงนาที 82 แทนชอว์ เสริมความดุในแนวรับช่วงท้าย
  • แพทริก ดอร์กู – ลงนาที 90+1 แทนดีอัลโล่ ช่วยไล่บี้ริมเส้น
  • ค็อบบี้ เมนู – ลงนาที 90+1 แทนเอ็มเบวโม่ ลงมาช่วยล็อกกลางสนามปิดเกม

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน

  • อัลไต บายินเดียร์, ไอเดน เฮฟเวน, ไทเรลล์ มาลาเซีย, มานูเอล อูการ์เต้, เชีย เลซี่

นักเตะโดดเด่นของเกมนี้ นอกจากบรูโน่แล้วฝั่งพาเลซมี มาเตต้า, ฮีโร่จุดโทษ และฮেনเดอร์สันที่เซฟเป็นพัลวัน ส่วนฝั่งยูไนเต็ด เมานท์ กับ เซิร์กเซ่ ก็แสดงให้เห็นว่าคู่หูแนวรุกชุดใหม่เริ่มจูนติดแล้ว

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในมุมมองของ บ้านกีฬา เกมนี้คือบทเรียนแทคติกชัด ๆ ทั้งสองฝั่ง หากมองเชิง วิเคราะห์บอล แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตด้วย 3-4-2-1 ที่ยืดหยุ่นมาก เมื่อมีบอล ดาโลต์ดันสูง กลายเป็นวิงแบ็ก ขณะที่ชอว์หุบมาเล่นคล้ายเซ็นเตอร์ด้านซ้าย เปิดโอกาสให้เมานท์ลอยสูงซ้อนเซิร์กเซ่ ทำให้แนวรับพาเลซต้องคอยเลือกว่าจะตามเพลย์เมกเกอร์หรือจับหน้าเป้า

ครึ่งแรกการขึ้นเกมยังติดขัด เพราะคาเซมิโรถูกวอร์ตัน–คามาดะรุมปิดพื้นที่กลางสนาม บรูโน่เลยต้องถอยต่ำเอง ทำให้หน้าเป้าว่างเกินไป แต่ครึ่งหลังอาโมริมแก้เกมได้เยี่ยม ดันไลน์ขึ้นสูง กล้าเสี่ยงเล่นบอลทะลุช่องมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวะที่บรูโน่แทงให้เซิร์กเซ่และเมานท์ ทั้งสองประตูเกิดจากการเจาะตรงกลางที่แนวรับพาเลซถอยลึกเกินไป

ด้านเกมรับ ยูไนเต็ดแม้เสียจุดโทษ แต่โดยรวมจัดระเบียบได้ดี หลังจากส่งมาซราอุยลงมา ทีมมีสมดุลมากขึ้น ทั้งการปิดพื้นที่ด้านข้างและการดันขึ้นล้ำหน้า ส่วนมาร์ติเนซที่ถูกส่งลงช่วงท้ายช่วยอ่านจังหวะครอสและลูกโด่ง ทำให้พาเลซแทบไม่มีโอกาสยิงเน้น ๆ ในสิบกว่านาทีสุดท้าย

ฝั่ง คริสตัล พาเลซ แผน 3-4-2-1 ทำงานดีในช่วง 45 นาทีแรก วอร์ตันคุมเกมรับ–รุกอย่างลงตัว ปีกอย่างปีโน่กับซาร์ดึงตัวประกบออกข้าง เปิดทางให้คามาดะสอดเข้าไปเล่นกับมาเตต้า แต่เมื่อซาร์ถูกถอดออกเร็ว เกมสวนกลับของเจ้าถิ่นเสียความคมไปหนึ่งมิติ อีกทั้งเมื่อทีมต้องถอยต่ำป้องกันสกอร์ตอนนำ 1-0 ลีกนี้พิสูจน์แล้วว่าถ้าปล่อยให้ยูไนเต็ดครองบอลบุกต่อเนื่อง สุดท้ายแนวรับย่อมมีโอกาสพลาดอย่างที่เห็นในสองประตูที่เสียไป

สรุปแทคติก บ้านกีฬาให้เครดิตอาโมริมเต็ม ๆ ที่กล้าปรับรูปแบบการเล่น ไม่ฝ่อแม้ตามหลังในครึ่งแรก ขณะที่กลาสเนอร์อาจต้องหาวิธีบาลานซ์ระหว่างเกมรับเหนียวกับความดุดันเวลาโดนบุกหนัก เพราะครึ่งหลังพาเลซแทบไม่มีหมัดสวนกลับเลย

📈 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจน ทั้งสองทีมยิงเท่ากันทีมละ 13 ครั้ง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงเข้ากรอบมากกว่า 6 ต่อ 3 ซึ่งคือความแตกต่างเรื่องคุณภาพโอกาส พาเลซถือบอลได้ 43% เล่นในแบบถนัดคือรอจังหวะสวน ขณะที่ปีศาจแดงครองบอล 57% ต่อบอลสำเร็จ 376 ครั้งเหนือกว่าพาเลซที่ 259 ครั้ง ความแม่นยำในการจ่ายอยู่ที่ 84% เท่ากัน แปลว่าเรื่องเทคนิคพื้นฐานสูสี แต่ยูไนเต็ดเลือกจังหวะจบสกอร์ได้อันตรายกว่า

เกมนี้เข้าปะทะกันหนักหน่วง ฟาวล์เท่ากัน 14 ต่อ 14 ใบเหลือง พาเลซโดน 3 ใบ ส่วนยูไนเต็ด 2 ใบ ไม่มีใบแดงเกิดขึ้น ล้ำหน้า พาเลซโดนไป 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าพยายามหาช่องแทงทะลุแนวรับสูงของผู้มาเยือน ส่วนลูกเตะมุมแบ่งกันทีมละ 4 ครั้ง แทบไม่มีจังหวะโหม่งเหน่ง ๆ จากเซ็ตเพลย์ที่อันตรายมากนัก

⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚠️ นาที 17: ไบรอัน เอ็มเบวโม่ โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน ทำให้เล่นแบบต้องระวังตลอดเกม
  • ❌ นาที 35: ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ยิงเข้าไปแต่ VAR เช็กแล้วไม่ให้ประตู ฝั่งพาเลซชวดขึ้นนำก่อน
  • ⚽ นาที 36: พาเลซได้จุดโทษ และเป็น มาเตต้า ยิงเสียบมุม พาเจ้าถิ่นนำ 1-0
  • 🔁 นาที 38: เจ้าบ้านเปลี่ยนคนแรก ส่ง เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์ ลงแทน อิสไมล่า ซาร์ เติมความสดแนวรุก
  • 🟨 นาที 53: เอ็นเคเทียห์ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนักใส่ผู้เล่นยูไนเต็ด
  • ⚽ นาที 54: บรูโน่ แทงทะลุช่องให้ โจชัว เซิร์กเซ่ หลุดไปยิงตีเสมอ 1-1 ให้แมนฯ ยูไนเต็ด
  • 🔁 นาที 54: ปีศาจแดงปรับแผน ถอด เลนนี่ โยโร่ ส่ง นุสซายร์ มาซราอุย ลงมาเติมเกมริมเส้นขวา
  • ⚽ นาที 63: บรูโน่ จ่ายคิลเลอร์พาสให้ เมสัน เมานท์ ซัดเรียดเสียบเสาไกล พลิกนำ 2-1
  • 🟨 นาที 72: ลุค ชอว์ โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าปะทะล่าช้า
  • 🟨 นาที 75: มาร์ก เกฮี โดนจดชื่อเพิ่ม หลังเข้าสกัดรุนแรงใส่แนวรุกทีมเยือน
  • 🔁 นาที 78: พาเลซเปลี่ยนคู่ ส่ง วิลล์ ฮิวจ์ส แทน อดัม วอร์ตัน และ คริสแทนตัส อูเช่ แทน เยเรมี่ ปีโน่ เพื่อเร่งเกมรุก
  • 🔁 นาที 82: แมนฯ ยูไนเต็ด ถอดลุค ชอว์ ส่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงมาช่วยล็อกเกมรับ
  • 🔁 นาที 85: เจ้าบ้านเปลี่ยนอีกชุด ส่ง เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า แทน ไดอิชิ คามาดะ และ จัสติน เดเวนนี่ แทน ไทริค มิตเชลล์
  • 🔁 นาที 90+1: ยูไนเต็ดส่ง ค็อบบี้ เมนู แทน ไบรอัน เอ็มเบวโม่ และ แพทริก ดอร์กู แทน อาหมัด ดีอัลโล่ เพื่อปิดเกม
  • 🟨 นาที 90+3: เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า โดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บ หลังเข้าปะทะกลางสนามอย่างหนัก

🌟 Player of the Match

เกมนี้รางวัล Player of the Match ตกเป็นของ บรูโน่ เฟอร์นันเดส คะแนน 8.0 จาก Sofascore และ บ้านกีฬา มองเหมือนกันว่าเขาคือหัวใจของทุกอย่างในแดนกลางปีศาจแดง

บรูโน่ ขยับหาพื้นที่ตลอด 90 นาที ลงมารับบอลต่ำ แบ่งเบาภาระคาเซมิโร และพอทีมต้องการประตู เขาก็ยืนสูงขึ้นเป็นเพลย์เมกเกอร์โดยตรง จังหวะจ่ายทะลุช่องให้เซิร์กเซ่และเมานท์ทั้งสองลูก เรียกว่าอันตรายสุด ๆ บวกกับการไล่เพรสและสั่งเพื่อนในสนามแบบกัปตันทีมตัวจริง ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดสามารถบุกมาเก็บชัยได้แม้ถูกนำก่อนและเจอเสียงเชียร์กดดันตลอดเกม

🪜 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

สามแต้มเกมนี้ส่งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน จาก 13 นัด สถิติชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 4 ประตูได้เสีย 21-20 ขยับยืนในอันดับ 7 ของตาราง ใกล้โซนลุ้นพื้นที่ยุโรปเต็มตัว ตามหลังโซนท็อปไฟว์อย่างไบรท์ตันและซันเดอร์แลนด์เพียงแต้มเดียวเท่านั้น เส้นทางล่าโควต้าเวทียุโรปยังเปิดกว้าง หากรักษาฟอร์มเก็บชัยเกมใหญ่แบบนี้ได้ต่อเนื่อง

ส่วน คริสตัล พาเลซ แม้พ่ายคาบ้านแต่ยังยึดอันดับ 9 มี 20 คะแนนจาก 13 นัด รูปเกมโดยรวมไม่ได้แย่ เพียงขาดความเฉียบคมในจังหวะสำคัญ หากแก้ปัญหาจังหวะสุดท้ายและจัดการเกมรับช่วงโดนบุกหนักได้ดีขึ้น พาเลซยังมีโอกาสไต่อันดับขึ้นไปเบียดหัวตารางได้อีก

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป

มองไปข้างหน้า ตามเช็ก ตารางบอล แล้วโปรแกรมของทั้งสองทีมไม่ง่ายเลย

คริสตัล พาเลซ ต้องออกไปเยือน เบิร์นลี่ย์ ในเกมลีกถัดไป ช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนจะต่อด้วยทริปสำคัญบุกถิ่น ฟูแล่ม ช่วงสุดสัปดาห์ต่อเนื่อง เกมเยือนสองนัดติดแบบนี้จะเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของลูกทีมกลาสเนอร์อย่างแท้จริง

ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้กลับโอลด์ แทรฟฟอร์ด เปิดบ้านรับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง ก่อนจะต้องยกพลไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในเกมใหญ่ปลายสัปดาห์ ถ้าทีมของอาโมริมเก็บได้อย่างน้อย 4 แต้มจากสองนัดนี้ โอกาสขยับเข้าใกล้โซนท็อปโฟร์จะสดใสทันที

📣 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากเกาะติดทุกสกอร์แบบเรียลไทม์ ไม่พลาดทุกจังหวะเดือดของลีกผู้ดี ตามเช็ก บ้านผลบอล คู่สำคัญ พร้อมบทวิเคราะห์จัดเต็มได้ที่ บ้านกีฬา บ้านของคอบอลตัวจริงที่ยกทั้งสถิติ แทคติก และอารมณ์เกมมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายแต่จัดจ้านเหมือนนั่งดูอยู่ขอบสนาม

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา