ผีไม่มีที่ให้หลบ! อโมริมกดดันแมนยูบุกเชือดพาเลซ ห้ามมีคำว่าแก้ตัว

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

อโมริมกดดันลูกทีม เกมนี้ไม่มีข้ออ้างอีกแล้ว

รูเบน อโมริม ส่งสัญญาณชัดเจนถึงลูกทีมก่อนเกมสำคัญที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ว่าเกมเยือน คริสตัล พาเลซ ครั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีสิทธิ์หลบ ไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอีกแล้ว หลังผลงานนอกบ้านย่ำแย่จนเสียงวิจารณ์ถาโถมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแพ้ เอฟเวอร์ตัน ทั้งที่คู่แข่งเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ต้นเกม ยิ่งทำให้แรงกดดันพุ่งขึ้นไปอีกขั้น

กุนซือชาวโปรตุกีสรู้ดีว่าถ้าเกมนี้ทีมไม่สามารถคว้าชัย กลับออกมาจากลอนดอนได้แบบไม่มีสามแต้ม เสียงวิจารณ์เรื่อง “ใจไม่ถึง – ปิดเกมไม่เป็น – เล่นเกมเยือนแล้วฟอร์มดร็อป” จะดังขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และอาจกระทบถึงความมั่นใจทั้งทีมในระยะยาว

สถิติเกมเยือนโหดร้าย ชนะ 1 จาก 11 นัดหลังสุด

ตัวเลขชี้ชัดว่าฟอร์มเกมเยือนของผีแดงตอนนี้อยู่ในโซน “น่าเป็นห่วง” มากกว่าน่าไว้ใจ เพราะจาก 11 นัดหลังสุดที่ต้องออกไปเล่นนอกโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาเก็บชัยได้เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น ที่เหลือคือเสมอและแพ้เป็นส่วนใหญ่

ยังไม่นับสถิติบุกเยือนพาเลซที่ยิ่งทำให้แฟนผีสะอึก เพราะแมนยูไม่ชนะในการเยือนปราสาทเรือนแก้วมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนโค้ช เปลี่ยนระบบ หรือเปลี่ยนตัวผู้เล่น ความยากในการบุกเล่นที่เซลเฮิร์สต์ พาร์คยังคงเหมือนเดิม

ผลงานที่เสมอทั้ง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส โดยปล่อยโอกาสปิดเกมทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ภาพจำของแฟนบอลกลายเป็นทีมที่ขาดความเฉียบขาดในเกมเยือน ไม่สามารถคุมสถานการณ์จนจบ 90 นาทีได้ตามมาตรฐานทีมใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก

อโมริมชัดเจน “แมนยูไม่มีข้ออ้าง ต้องเล่นเพื่อสามแต้มเท่านั้น”

ในห้องสัมภาษณ์ อโมริมเลือกใช้คำพูดแบบตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมให้ลูกทีมตีความผิด เขาย้ำถึงมาตรฐานของสโมสรและความกดดันที่ต้องรับมือให้ได้ในทุกสัปดาห์

เขาพูดชัดว่า
“สโมสรของเรามีเป้าหมายเหมือนเดิม เพราะปีที่แล้วเราต้องชนะให้ได้แทบทุกเกม และเราก็เจอเสียงวิจารณ์มากมายในช่วงที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ ดังนั้นสำหรับสโมสรของเราแล้ว ไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น”

คำพูดนี้สะท้อนว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือเจอใคร ทีมอย่างปีศาจแดงไม่มีสิทธิ์โยนความผิดให้ตารางแข่ง สภาพสนาม หรือรายการยุโรปมาเป็นเหตุผล

อโมริมยังพูดต่อถึงประเด็นฟุตบอลยุโรปว่า
“ผมเคยพูดเรื่องยูโรปาไปแล้ว และก็พูดเหมือนเดิมตั้งแต่ปีที่แล้วตอนที่เรายังเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป ปีนี้ผมก็พูดแบบเดิม ไม่ว่าจะมีข้อดีหรือข้อเสียจากการไม่ได้เล่นยุโรปก็ตาม มันไม่ใช่ข้ออ้าง ปีที่แล้วหรือปีนี้ เราก็ต้องชนะเกมให้ได้เสมอ”

แปลให้ตรงประเด็นคือ ไม่ว่าทีมจะมีโปรแกรมถ้วยยุโรปหรือไม่ แนวคิดหลักของเขาคือ “สโมสรแบบนี้มีหน้าที่ลงสนามเพื่อชนะเสมอ”

เปิดใจถึงฟอร์มเยือน – ปัญหาความเข้มข้นและการปิดเกม

อโมริมยอมรับตามตรงว่า ฟอร์มเกมเยือนของทีมยังไม่ถึงจุดที่เขาพอใจ โดยเฉพาะเรื่องความเข้มข้นในการเล่นและการรักษาระดับฟอร์มให้คงเส้นคงวาตลอดทั้งเกม

เขาอธิบายว่า
“ผมรู้สึกว่าในช่วงระหว่างปีนี้ตอนที่เราได้เล่นในบ้าน เรามีความเข้มข้นสูงมาก และผมรู้สึกว่าเกมที่เล่นในบ้าน (พบ เอฟเวอร์ตัน) ความเข้มข้นในการเล่นไม่ได้อยู่ในระดับเดิม ดังนั้นผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ดีขึ้น”

คำพูดนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาไม่ได้มีแค่เกมเยือน แต่รวมไปถึงการเล่นในบ้านที่มาตรฐานเริ่มแกว่งเช่นกัน หากความเข้มข้นตกลง ทั้งเกมเหย้าและเกมเยือนก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการเสียแต้ม

เขาทิ้งท้ายถึงหัวใจสำคัญของเกมเยือนว่า
“เป็นเรื่องยากจะระบุออกมาเพียงข้อเดียวว่าทำไมเราถึงเอาชนะเกมเยือนไม่ได้ ยังมีปัญหาอีกหลายด้าน แม้ว่าเราจะพัฒนาขึ้นแล้วก็ตาม แต่เราต้องเรียนรู้วิธีปิดเกมให้ได้หากต้องการคว้าคว้าชัยชนะ” อโมริม ระบุ

นี่คือการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ทีมยังขาด “killer instinct” ในจังหวะปิดบัญชีคู่แข่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปเล่นท่ามกลางแรงกดดันจากแฟนบอลทีมเหย้า

สภาพคู่แข่งและแรงกดดันที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค

ฝั่งเจ้าบ้าน คริสตัล พาเลซ ของกุนซือโอลิเวอร์ กลาเนอร์ เพิ่งลงเตะบอลยุโรปในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบลีกเฟส แถมพ่ายให้สตราส์บูร์ก 1-2 ทำให้พวกเขาได้พักเพียงสามวันก่อนเจอศึกหนักกับแมนยู

แม้จะล้า แต่การได้เล่นในบ้าน บวกบรรยากาศสนามและเสียงเชียร์ของแฟนบอลพาเลซ ถือเป็นอาวุธสำคัญที่มักทำให้ทีมเยือนเล่นไม่ออก เซลเฮิร์สต์ พาร์คคือหนึ่งในสนามที่ขึ้นชื่อเรื่องความกดดันในลีกอังกฤษ และแมนยูเองก็มีสถิติมาเยือนที่นี่แบบ “แพ้บ่อย ชนะยาก” มาหลายปี

ด้วยรูปเกมที่คาดว่าจะบู๊กันหนัก แถมทั้งสองทีมต่างต้องการแต้มเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมของฤดูกาล เกมนี้จึงไม่ใช่แค่สามแต้มบนตาราง แต่คือการวัดหัวจิตหัวใจของทั้งสองฝั่ง

บทเรียนสำคัญเรื่องเกมเยือนที่ทีมใหญ่หนีไม่พ้น

สำหรับแฟนบอลไทย นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของความสำคัญของ “ฟอร์มเกมเยือน” ในฟุตบอลระดับสูง ทีมที่ลุ้นพื้นที่ยุโรปหรือแชมป์ลีก ไม่อาจฝากอนาคตไว้กับเกมในบ้านเพียงอย่างเดียวได้ การเล่นนอกบ้านต้องไม่ใช่แค่ไปยันเสมอ แต่ต้องมีคุณภาพมากพอที่จะชนะในวันที่ฟอร์มไม่ได้ดีที่สุด

เรื่องความเข้มข้นในการเล่น การรักษาวินัยแท็กติก การไม่ผ่อนเกมเมื่อขึ้นนำ และความนิ่งในช่วงท้ายเกม คือรายละเอียดเล็ก ๆ ที่มักตัดสินผลการแข่งขันในเกมเยือนเสมอ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สำคัญเฉพาะในอังกฤษ แต่ใช้ได้กับทุกลีก รวมถึงฟุตบอลไทยที่หลายทีมมักสะดุดเองเวลาออกไปเยือนคู่แข่งที่บรรยากาศกดดัน

แฟนผีต้องลุ้น แมนยูจะตอบคำพูดอโมริมในสนามได้แค่ไหน

สุดท้ายแล้วคำพูดของอโมริมจะมีน้ำหนักจริงหรือไม่ ไม่ได้วัดกันที่ห้องแถลงข่าว แต่ต้องวัดกันใน 90 นาทีที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ว่าแมนยูจะเล่นด้วยความดุดัน กล้าเสี่ยง และเด็ดขาดพอจะเอาชนะพาเลซได้หรือไม่

หากทีมสามารถบุกคว้าชัย จะช่วยลดแรงกดดัน ฟื้นความมั่นใจ และเปลี่ยนภาพจำเรื่องฟอร์มเยือนที่แสนฝืดให้ดีขึ้นทันที แต่ถ้ายังสะดุดอีกครั้ง เสียงวิจารณ์ที่อโมริมพยายามหนีก็คงดังกลับเข้ามาในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดแบบไม่มีที่ให้หลบเช่นกัน

แฟนบอลที่อยากตามเกาะทุกมูฟของปีศาจแดง ทั้งประเด็นแท็กติก ฟอร์มเกมเยือน และดราม่ารอบทีมแบบถึงอารมณ์ อย่าลืมติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมเรื่องราวลูกหนังสำหรับคอบอลไทยตัวจริง

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา