อโมริมสั่งเดือด! โค้ชผีเร้าแข้งแมนยูตวาดใส่กันได้ ถ้าอยากปลุกทีมให้ตื่น

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

อโมริมต้องการเห็นความเดือดในทีมมากกว่านี้

สถานการณ์ในรั้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังร้อนฉ่าแบบฉุดไม่อยู่ หลัง รูเบน อโมริม เฮดโค้ชของทีม ออกมาเปิดใจแบบไม่มีกั๊กว่า เขาอยากเห็นนักเตะแสดงความดุดันใส่กันมากกว่าเดิม โดยยกเหตุการณ์ที่ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ กับ ไมเคิ่ล คีน เดือดใส่กันกลางสนามเป็นตัวอย่างว่า “มันคือพลังงานที่ทีมควรมีและไม่ใช่เรื่องผิด” นี่คือปรัชญาที่สะท้อนให้เห็นว่าอโมริมต้องการให้ทีมเล่นด้วยไฟและแรงผลักดันมากกว่าที่เป็นอยู่

เกย์โดนใบแดงจากการตบหน้าคีน แต่โค้ชผีแดงกลับมองต่าง

ในจังหวะเดือดดังกล่าว เกย์ตบหน้าคีนจนโดนใบแดงตั้งแต่นาทีที่ 13 แม้เป็นเหตุผลด้านกฎของ “พฤติกรรมรุนแรง” แต่ในมุมของอโมริม เขากลับไม่เห็นด้วย พร้อมมองว่าการปะทะอารมณ์แบบนี้เป็นสัญญาณของความเป็นมืออาชีพที่ต้องการชัยชนะเหนือทุกสิ่ง
“การทะเลาะกันไม่ใช่เรื่องแย่นะ การทะเลาะกันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเกลียดกัน ความรู้สึกจากที่ผมเห็นมันประมาณว่า -แกทำให้ทีมเสียบอลจนฉันไม่พอใจ เพราะพอแกเสียบอลแล้วน่ะเราอาจจะเสียประตูก็ได้-”

แม้จะโดนวิจารณ์หนัก แต่เอฟเวอร์ตันยังคงบุกชนะยูไนเต็ด 1-0 ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งยิ่งทำให้อโมริมเข้าใจชัดว่า แมนยูยังขาดความเข้มข้นในจังหวะเกมสำคัญ

อโมริมย้ำ “อยากเห็นลูกทีมตวาดใส่กันบ้าง”—เพราะมันคือความหิวชัยชนะ

กุนซือชาวโปรตุเกสพูดชัดเจนว่าเขาอยากเห็นนักเตะโกรธกันเมื่อมีข้อผิดพลาด เพื่อสะท้อนถึงความจริงจังในการป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู
“ผมไม่เห็นด้วยกับการไล่นักเตะคนนั้นออก…ผมหวังด้วยซ้ำว่าลูกทีมของผมจะตวาดใส่กันถ้ามีใครเสียบอลง่ายๆ”

คำพูดนี้สะท้อนชัดถึงแนวคิดแบบโค้ชสายฮาร์ดคอร์ ที่มองว่าความเดือดในทีมคือ ‘ความรับผิดชอบ’ ไม่ใช่ปัญหา ความเกรี้ยวกราดแบบมืออาชีพอาจเป็นจุดประกายที่แมนยูกำลังขาดอยู่ในฤดูกาลนี้

ความกังวลใหญ่: แมนยูอาจย้อนกลับไปเป็นแบบซีซั่นก่อน

อโมริมแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่า ระดับอารมณ์แข่งขันของทีมอาจกำลังถอยหลัง แม้จะมีพัฒนาการในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เขามองว่าแรงกระตุ้นของทีมยังไม่ถึงระดับที่ควรเป็นสำหรับสโมสรขนาดใหญ่อย่างแมนยู
Amorim (ต้นฉบับ): “ผมกลัวว่าเราจะกลับไปมีความรู้สึกแบบฤดูกาลก่อน…เราควรจะต้องลงเล่นด้วยความฮึกเหิมถึงจะถูก”
แปลไทย: “ผมกลัวว่าเราจะกลับไปเป็นแบบฤดูกาลก่อน เราควรลงเล่นด้วยอารมณ์ที่เข้มข้นกว่านี้”

นี่คือสัญญาณเตือนว่าหากทีมยังเล่นแบบไร้พลังใจ อนาคตของยูไนเต็ดอาจกลับไปสู่วังวนเดิมที่เต็มไปด้วยความฝืดและความผิดหวัง

แฟนผีหนุนเต็มที่ แต่ทีมกลับไม่ “พร้อมรบ”

แม้แฟนบอลทั่วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดจะส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม สนับสนุนทีมทุกจังหวะ แต่โค้ชกลับรู้สึกว่าฝั่งนักเตะยังไม่แสดงความมุ่งมั่นระดับสูงเท่าที่ควร
“มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณเล่นได้ดี หรือผ่านบอลได้สวย สิ่งที่สำคัญคือความรู้สึก…”

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอโมริมถึงอยากเห็นความดุดัน ฟีลลิ่งที่บ่งบอกความเป็นนักสู้ มากกว่าการเล่นแบบประคองความเสี่ยง

ทีมใหญ่ต้องมีวินัยและแรงผลักดันภายใน—บทเรียนของฟุตบอลยุคปัจจุบัน

ในฟุตบอลยุคใหม่ ทีมที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่มีระบบดีหรือแท็กติกยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ต้องมีความเข้มข้นในจิตใจนักเตะ นักเตะต้องทวงถามกันเอง ต้องกล้าตำหนิกันเมื่อมีความผิดพลาด เพราะนั่นคือวัฒนธรรมของผู้ชนะ
หลายทีมใหญ่ในยุโรปเช่น แมนซิตี้, ลิเวอร์พูล หรือ บาเยิร์น มิวนิก ต่างมีความดุดันในทีมเป็นพื้นฐาน จึงไม่แปลกที่อโมริมจะพยายามผลักดันให้แมนยูกลับไปอยู่ในมาตรฐานแบบนั้น

ข่าวแดงเดือดต้องตามให้รู้เรื่อง ติดตามทั้งหมดได้ที่ บ้านกีฬา

ทุกความเคลื่อนไหวของแมนยู ทั้งข่าวคำพูดโค้ช เหตุการณ์ในสนาม และแนวโน้มทีม เรารวบรวมให้ครบ อ่านง่าย เข้าใจลึก และอัปเดตตลอดกับ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา อย่าพลาดข่าวเดือดลูกหนังโลกที่นี่ที่เดียว

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา