แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องสะดุ้งกันทั้งแอนฟิลด์ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าระดับตำนานของอังกฤษ ออกมาเตือนแบบตรงไปตรงมาว่า หากทัพ หงส์แดง ยังปล่อยให้ฟอร์มแกว่งอย่างต่อเนื่องแบบนี้ ซีซั่นอาจจบลงแบบ “พังเป็นโดมิโน” เหมือนที่เกิดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในฤดูกาลที่ผ่านมาได้เลย โดยเฉพาะปัญหาในเกมรับที่คู่แข่งเล่นงานได้ง่ายเกินไป จนทำให้ทีมร่วงไปถึงอันดับ 11 ในพรีเมียร์ลีก ทั้งที่เพิ่งคว้าแชมป์ซีซั่นก่อน
ภาพรวมสถานการณ์ของลิเวอร์พูลในซีซั่นปัจจุบัน
ลิเวอร์พูลลงเล่นฤดูกาลนี้ในฐานะแชมป์เก่า แต่กลับทำผลงานที่สวนทางกับความคาดหวังอย่างแรง หลังผ่าน 12 นัดแรก ทีมของกุนซือชาวเยอรมันเก็บผลลัพธ์ได้เพียง ชนะ 6 แพ้ 6 แบบครึ่งต่อครึ่ง ทำให้หล่นไปอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง แบบไม่น่าเชื่อ
สถิติชี้ชัดว่าฟอร์มของทีมขาดความต่อเนื่องอย่างหนัก แม้ช่วงต้นฤดูกาลที่ชนะรวด ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความดุดันแบบที่แฟนๆ คุ้นเคย เกมรับเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งทะลุทะลวงง่ายเกินไป และเกมรุกก็ขาดประกายความเฉียบคมเหมือนเดิม
คำเตือนของเวย์น รูนี่ย์—ใช้คำพูดต้นฉบับตามจริง
รูนี่ย์ กล่าวถึงลิเวอร์พูลว่า
“ที่จริง ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ดีมากๆ เพียงแต่ตอนนี้พวกเขากำลังเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากสุดๆ พวกเขาเป็นแบบนั้นมาตลอดทั้งซีซั่นนี้ ขนาดตอนต้นฤดูกาลที่พวกเขาชนะได้หมดน่ะฟอร์มของทีมก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก”
คำพูดนี้สะท้อนชัดเจนว่า แม้ผลการแข่งขันบางช่วงอาจดูเหมือนดี แต่ภายในทีมยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเรื่องทรงบอล ความมั่นใจ หรือความผิดพลาดส่วนบุคคล
ปัญหาเกมรับและความพร้อมของผู้นำทีม
รูนี่ย์ชี้ไปที่ “แกนหลักของทีม” ว่าจำเป็นต้องออกมาเร่งสร้างความมั่นใจให้เพื่อนร่วมทีม เพราะหากไม่สามารถจัดระเบียบและประคองสถานการณ์ได้ มีสิทธิ์ที่ลิเวอร์พูลจะร่วงหนักแบบที่ ปีศาจแดง เคยเจอมาหลายฤดูกาล หรือ ไก่เดือยทอง เมื่อซีซั่นก่อน
อีกหนึ่งประเด็นใหญ่คือเกมรับที่รั่วจนคู่แข่งยิงได้ง่ายเกินไป รูนี่ย์ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนที่ชัดเจนว่า
“สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดเมื่อคุณกำลังเจอกับช่วงที่เต็มไปด้วยปัญหาคือการกลับมาเล่นให้มีทรงและมีความรัดกุม ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีช่องว่างให้เล่นงานเยอะมากๆ และเป็นทีมที่คู่แข่งรับมือได้ง่ายเกินไป”
นี่คือเสียงเตือนจากนักเตะระดับตำนานที่ผ่านทั้งความสำเร็จและช่วงตกต่ำมานับไม่ถ้วน ทำให้คำพูดของเขามีน้ำหนักมากกว่าปกติ
เทียบสถานการณ์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส
ฤดูกาลก่อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอปัญหาคล้ายกัน—เกมรับเสียความสมดุล นักเตะผู้นำฟอร์มตก และความเชื่อใจภายในทีมลดลง ช่วงหนึ่งทีมหล่นกลางตารางจนแฟนบอลตั้งคำถามต่อทิศทางของสโมสร ส่วน สเปอร์ส ก็เคยฟอร์มหลุดเป็นเดือน จนพลาดโควตายุโรปแบบช็อกทั้งเกาะอังกฤษ
ลิเวอร์พูลในซีซั่นนี้มีสัญญาณหลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน ทั้งอาการใจไม่มั่นคง การจ่ายบอลผิดพลาด และแรงขับเคลื่อนจากแดนกลางที่ไม่จัดจ้านเหมือนก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ลิเวอร์พูลต้องเร่งแก้ทันที
เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำรอยสองทีมดัง ลิเวอร์พูลต้องโฟกัสที่ประเด็นต่อไปนี้:
1) เกมรับต้องแน่นขึ้นโดยด่วน
การปล่อยให้คู่แข่งเจาะกลางง่ายเกินไปคือจุดอ่อนร้ายแรง เซ็นเตอร์ต้องสื่อสารกันมากขึ้น ฟูลแบ็กต้องลดการเติมสูงแบบไร้เหตุผล
2) จังหวะการขึ้นเกมต้องมีคุณภาพ
การต่อบอลที่ขาดความคม ทำให้ทีมเสียบอลในจังหวะอันตรายบ่อยครั้ง
3) ผู้นำในทีมต้องปลุกสปิริตกลับมา
ไม่ว่าจะเวอร์จิล ฟานไดค์, ซาลาห์ หรือเฮนเดอร์สัน ต้องเร่งสร้างแรงผลักดันให้ทีมกลับมาสู่เส้นทาง
4) แก้ปัญหาความผิดพลาดง่ายๆ
เสียประตูเพราะสมาธิหลุดหลายครั้ง ทำให้เกมเปลี่ยนโมเมนตัมแบบไม่จำเป็น
ข้อมูลน่าสนใจที่แฟนบอลควรรู้
ในวงการฟุตบอล พรีเมียร์ลีกถือเป็นลีกที่ขึ้นชื่อว่ามีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก ทีมไหนที่หลุดฟอร์มเพียง 4–5 นัดอาจไหลลงกลางตารางได้ในพริบตา ยิ่งปีนี้มีหลายทีมผลงานแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนิวคาสเซิล, แบร์นลีย์ หรือไบรท์ตัน ทำให้ทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลต้องรักษามาตรฐานให้สูงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว หากต้องการกลับไปลุ้นพื้นที่ยุโรป
ภาพรวมหลังจากนี้ลิเวอร์พูลต้องทำอย่างไร
เส้นทางฤดูกาลยังไม่จบ ลิเวอร์พูลยังมีเวลาฟื้นตัว แต่ต้องรวบรวมสมาธิและเล่นด้วยความรัดกุมตามที่รูนี่ย์เตือน หากสามารถจัดระบบเกมรับใหม่ ลดความผิดพลาด และเพิ่มแรงผลักจากแกนหลัก เชื่อว่าโอกาสกลับมาเกาะกลุ่มหัวตารางยังเป็นไปได้เสมอสำหรับทีมระดับนี้
ติดตามข่าวฟุตบอลเดือด ข่าวใหญ่ ข่าววันนี้ ได้ที่ บ้านกีฬา
ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา จะยังคงตามเกาะทุกสถานการณ์ของลิเวอร์พูลแบบชิดลมหายใจ พร้อมเสิร์ฟอัปเดตแบบเข้มข้นให้แฟนบอลชาวไทยได้อ่านก่อนใคร

