ภาพรวมเกมพรีเมียร์ลีก – แมนซิตี้เจอ “สาลิกาดง” อัดใส่เต็มสูบ
ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน กลายเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่ท้าทายสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-2 ในเกมที่เต็มไปด้วยความเร็ว ความดุดัน และจังหวะพลิกผันตลอดช่วงครึ่งหลัง แม้ซิตี้จะพยายามคอนโทรลเกมตามสไตล์เรือใบ แต่ความเฉียบคมของเจ้าถิ่น รวมถึงการเซฟแบบสุดเหวี่ยงของผู้รักษาประตู ทำให้ทีมของเป๊ปกลับออกจากสนามเซนต์เจมส์พาร์คแบบมือเปล่า
นัดนี้ไม่เพียงสะท้อนจุดบกพร่องในเกมรับของซิตี้ แต่ยังชี้ว่าการกลับมาจากทีมชาติและต้องเจอโปรแกรมหนักทันทีนั้นเป็นงานยากแค่ไหน แม้กระนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนยันหนักแน่นหลังเกมว่า “ลูกทีมทำเต็มที่แล้ว”
เกมนี้เกิดอะไรขึ้น – ครึ่งแรกนิ่ง ครึ่งหลังเดือด
ซิตี้เริ่มต้นอย่างมั่นใจ ครองบอลเหนือกว่า สร้างโอกาสหลายครั้งแต่ยังไม่เฉียบพอ ขณะที่นิวคาสเซิ่ลเน้นคุมพื้นที่และรอโต้กลับ จึงทำให้ครึ่งแรกจบแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลังกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน นาที 63 ฮาร์วีย์ บาร์นส์ สับไกด้วยจังหวะเด็ดขาดให้สาลิกาดงนำ 1-0 ซิตี้ไม่ยอมแพ้ ไล่ตีเสมอทันทีในนาที 68 จาก รูเบน ดิอาส ที่เติมขึ้นมายิงแบบไม่พลาด แต่เจ้าถิ่นสวนกลับทันควัน นาที 70 บาร์นส์ยิงลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ให้สกอร์ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นประตูชัย
ตั้งแต่นั้นทั้งสองทีมเปิดเกมแลกแบบสุดมันส์ แต่ซิตี้ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับนิวคาสเซิ่ลที่เหนียวแน่นจนจบเกมได้
เป๊ปกวาร์ดิโอล่าเปิดใจ – ยกนิ้วให้ทีมและโกลช่วยเซฟ
หลังจบเกมเป๊ปให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ชัดเจนว่าเขาพอใจกับความพยายามของลูกทีม
เขากล่าวว่า
“เราพยายามแล้วจริงๆ เราต้องการจะยกระดับขึ้นมา เหมือนที่ทำได้ตลอดช่วงสองเดือนหลัง แต่การมาเล่นที่นี่หลังพักเบรกทีมชาติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
กุนซือชาวสเปนยังชื่นชมผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มเซฟหลายครั้งว่า
“ถือเป็นเกมที่สูสี ทั้งสองฝ่ายต่างมีโอกาส และ จีโจ (ดอนนารุมมา) ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดมาก เราพลาดโอกาสหลายครั้ง และครึ่งหลังเราก็มาเสียประตู หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็มีโอกาสอีก แต่สุดท้ายเราไม่สามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้”
แม้ความพ่ายแพ้จะทำให้ทีมชะงัก momentum แต่เป๊ปก็เลือกให้เครดิตนักเตะมากกว่าจะตำหนิ โดยย้ำถึงความยากของเกมเยือนที่เซนต์เจมส์พาร์คเสมอ
ผลต่ออันดับพรีเมียร์ลีก – จ่าฝูงเริ่มทิ้งระยะ
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีอยู่ 22 คะแนนจาก 12 นัด ยังคงรั้งอันดับ 3 ตามหลัง เชลซี อันดับสอง 1 แต้ม และตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ 4 แต้ม โดย “ไอ้ปืนใหญ่” ยังมีเกมในมืออีกหนึ่งนัด หากเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ ก็มีสิทธิ์ทิ้งซิตี้ไปถึง 7 แต้ม ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันในเส้นทางลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้
สำหรับซิตี้ การรักษาความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะฤดูกาลยาวและศึกทั้งในลีกและบอลยุโรปกำลังเข้าช่วงดุเดือด การพลาดคะแนนกับทีมที่เล่นเกมสวนกลับได้ดีแบบนิวคาสเซิ่ลจึงเป็นบทเรียนสำคัญ
สิ่งที่แฟนบอลควรจับตา – ซิตี้ยังคงเป็นทีมลุ้นแชมป์ แต่ต้องรีบคลีนจุดบกพร่อง
แม้แพ้ แต่รูปแบบการเล่นของซิตี้ยังคงเต็มไปด้วยคุณภาพ ทั้งการขึ้นเกม การออกบอลจากหลัง และการสร้างโอกาส เพียงแต่ต้องเพิ่มความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย และแก้ไขจังหวะการเสียสมาธิหลังโดนสวนกลับ
สำหรับนิวคาสเซิ่ล นี่คือการยืนยันว่าพวกเขายังแข็งแกร่งในบ้าน และพร้อมสร้างปัญหาให้ทุกทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกเสมอ โดยเฉพาะด้วยสไตล์เพรสซิ่งดุดันและจังหวะเข้าทำที่รวดเร็ว
แฟนบอลควรจับตาว่าซิตี้จะกลับมาอย่างไรในเกมต่อไป และเป๊ปจะปรับทีมในแนวรุกแบบไหนเมื่อเจอคู่แข่งที่แพ็คเกมรับแน่น หรือสวนกลับไวแบบนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีกและแมนซิตี้เพิ่มเติมติดตามได้ที่ บ้านกีฬา
อัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของพรีเมียร์ลีก ไฮไลท์เดือด บทวิเคราะห์จัดเต็ม และข่าวภายในทีมใหญ่แบบครบสูตร ติดตามได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวลูกหนังที่แฟนบอลชาวไทยเชื่อถือ

