
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล 0-3 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันนี้ 22/11/68 – บ้านกีฬา
พรีเมียร์ลีก เกมนี้ที่แอนฟิลด์ แฟนหงส์เปิดจอเช็ก ผลบอลสด กันแบบหัวร้อน เมื่อ ลิเวอร์พูล ของอาร์เน่ สลอต เปิดบ้านรับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่กำลังกระเสือกกระสนหนีโซนท้ายตาราง แต่กลายเป็นทีมเยือนที่เล่นกันอย่างมีวินัย บดเอาชนะไปขาดลอย 3-0 จากประตูของ มูริโญ่, เนโก วิลเลียมส์ และ มอร์แกน กิบส์-ไวต์ ทำให้เสียงโห่ดังสนั่นแอนฟิลด์ ขณะที่ฟอเรสต์เฮลั่นกับสามแต้มโคตรล้ำค่า
⏱️ ครึ่งแรก: ลิเวอร์พูลบุกทั้งสนาม แต่โดนมูริโญ่แทงใจดำ
เปิดเกมมา ลิเวอร์พูล ครองบอลตามสไตล์ เดินเกมจากคู่เซนเตอร์ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ดันไลน์สูงต่อบอลสั้นให้ เคอร์ติส โจนส์ กับ โดมินิค โซบอสซ์ไล คอยหมุนบอลหน้าเขตโทษ ฟอเรสต์เลือกแพ็กหลังแน่น ใช้คู่มิดฟิลด์ตัวรับ อิบราฮิม ซ็องกาเร่ กับ เอียนเดอร์สัน ปิดพื้นที่กลาง แล้วรอโต้น็อกเดียว
แม้หงส์แดงจะมีโอกาสยิงไกลจาก โซบอสซ์ไล และ โม ซาลาห์ แต่ก็ไม่ผ่านมือ มัทส์ เซลส์ นายด่านทีมเยือนที่เซฟอยู่เรื่อยๆ จนแฟนเจ้าบ้านเริ่มกระสับกระส่าย
แล้วนาที 33 เกมก็หักมุม ฟอเรสต์ได้ลูกเซ็ตเพลย์ บอลครอสเข้ากลางมาที่ มูริโญ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง เติมขึ้นมาโขกเต็มๆ เสียบตาข่ายให้ฟอเรสต์นำ 1-0 ช็อกทั้งแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลพยายามรุกหนักช่วงท้ายครึ่งแรกแต่ก็ยังเจาะกำแพงแนวรับทีมเยือนไม่เข้า จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านตามหลัง 0-1
🔁 ครึ่งหลัง: วิลเลียมส์–กิบส์ไวต์ปิดบัญชี หงส์พังยับคาบ้าน
ครึ่งหลังยังไม่ทันตั้งตัว ฟอเรสต์บวกสกอร์สอง นาที 46 เนโก วิลเลียมส์ เติมมาทางขวาเล่นชิ่งกับ นิโคโล ซาโวนา ก่อนหลุดเข้าไปซัดมุมแคบ บอลพุ่งเสียบเสาไกล กลายเป็นประตู 2-0 ที่ทำให้กองเชียร์หงส์นั่งเงียบกริบ ขณะที่แฟนทีมเยือนดีใจกันสุดเสียง
อาร์เน่ สลอต ต้องขยับหมาก นาที 55 ส่ง ฮูโก้ เอคิทิเก้ ลงมาแทน โกนาเต้ ปรับแผนเป็นเกมรุกจัดเต็ม ตามด้วยการเปลี่ยนแผงแบ็กซ้าย–หน้าเป้า ทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงมาเพิ่มความจัดจ้าน แต่แนวรับฟอเรสต์ที่มี มูริโญ่ คุมหลังบ้านเล่นได้เหนียวแน่นสุดๆ
ลิเวอร์พูลพยายามรุกกดดันต่อเนื่อง ยิงไปถึง 20 ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่ 3 ครั้ง เพราะโดนบล็อกบ้าง ซัดหลุดบ้าง และติดเซฟ เซลส์ ตลอด ขณะที่ทีมเยือนรอจังหวะสวนกลับ นาที 78 เคอร์ติส โจนส์ โดนเปลี่ยนออกให้ ริโอ งูมูโอฮา ลงมา แต่หงส์แดงยังตั้งเกมไม่ติด ฟอเรสต์สวนกลับอีกดอก บอลไหลมาถึง มอร์แกน กิบส์-ไวต์ ในเขตโทษซัดเสียบมุม เป็นประตู 3-0 ปิดบัญชี
ช่วงท้ายเกม เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ไรอัน แกรมเบิร์ก โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์และโวยผู้ตัดสิน ลิเวอร์พูลพยายามยิงปลอบใจแต่ก็ทำไม่ได้ จบเกม ฟอเรสต์บุกอัดหงส์แดง 3-0 คว้าแต้มใหญ่กลับบ้านอย่างหรู

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริง, คะแนน และการเปลี่ยนตัว
🔴 ลิเวอร์พูล (ระบบ 4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- อลิสซอน (6.7)
กองหลัง
- มิลอส เคอร์เคซ (6.3)
- เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม (7.3)
- อิบราฮิมา โกนาเต้ (6.6) – ถูกเปลี่ยนออก น.55
- เคอร์ติส โจนส์ (7.3) – ถูกเปลี่ยนออก น.78
กองกลาง
- ไรอัน แกรมเบิร์ก (6.4) – โดนใบเหลืองจากแฮนด์บอล น.66
- โดมินิค โซบอสซ์ไล (7.0)
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (6.5)
กองหน้า
- โคดี้ คักโป (6.7)
- อเล็กซานเดอร์ อิซัค (6.0) – ถูกเปลี่ยนออก น.68
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (6.6)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ฮูโก้ เอคิทิเก้ (6.5) แทน โกนาเต้ น.55 ปรับเกมรุกยืนหน้าเป้า
- แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (6.9) แทน เคอร์เคซ น.68 เติมเกมรุกฝั่งซ้าย
- เฟเดริโก้ เคียซ่า (6.8) แทน อิซัค น.68 มีโอกาสลุยหนึ่งต่อหนึ่งหลายครั้งแต่จบไม่คม
- ริโอ งูมูโอฮา (6.7) แทน โจนส์ น.78 พยายามลากเลื้อยทางซ้ายช่วงท้าย
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
จีออร์กี้ มามาร์ดาชวิลี, โจ โกเมซ, คาลวิน แรมซีย์, วาตารุ เอ็นโด, เทรย์ นโยนี
🌲 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- มัทส์ เซลส์ (7.1) เซฟสำคัญหลายจังหวะ
กองหลัง
- เนโก วิลเลียมส์ (8.1) ทำหนึ่งประตูสำคัญต้นครึ่งหลัง
- เฟลิเป้ มูริโญ่ (9.1) เซนเตอร์ฮาล์ฟฮีโร่ ทำประตูเปิดหัวและเคลียร์บอลแทบทุกลูก
- นิโกล่า มิลเลนโควิช (7.6) ยืนคู่มูริโญ่ได้แข็งแกร่ง
- นิโคโล ซาโวนา (7.9) สร้างสรรค์เกมริมเส้นซ้าย มีส่วนกับประตูที่สอง
กองกลางตัวรับ
- อิบราฮิม ซ็องกาเร่ (7.1) ตัดเกมกลางสนามได้ยอดเยี่ยม
- เอลเลียต แอนเดอร์สัน (7.7) วิ่งไล่บี้ไม่หยุด
ตัวรุกสามคนด้านหลังหน้าเป้า
- ดาน นดอย (6.9) – ถูกเปลี่ยนออก น.86
- มอร์แกน กิบส์-ไวต์ กัปตันทีม (7.1) ยิงประตูปิดกล่อง 3-0
- นิโกลาส โดมิงเกซ (6.5) – ถูกเปลี่ยนออก น.61
กองหน้าตัวเป้า
- อิญอริสัน เฮซุส (6.2) – ทำงานหนักพาบอลพักในแดนหน้า ก่อนถูกเปลี่ยน น.86
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โอมาริ ฮัตชินสัน (7.1) แทน โดมิงเกซ น.61 เติมสปีดเกมสวนกลับ
- คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (6.6) แทน นดอย น.86
- ไรอัน เยตส์ (6.6) แทน เฮซุส น.86
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
จอห์น วิคเตอร์, ไจร์, วิลลี่ โบลี่, โมราโต้, เจมส์ แม็คอาตี้, อาร์โนด์ กาลิมูเอนโด
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
หากมองเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติกแล้ว ลิเวอร์พูล เล่นในระบบ 4-3-3 เน้นครองบอลจากหลังขึ้นหน้าด้วยการต่อบอลสั้น ใช้ ฟาน ไดค์ เป็นจุดออกบอลหลัก เปิดเกมไปหาสามตัวรุกด้านหน้า แต่ปัญหาใหญ่คือการเคลื่อนที่ในพื้นที่สุดท้ายขาดจังหวะสอดประสาน อิซัค หลุดจากเกมง่ายเกินไป ทำให้ ซาลาห์ กับ คักโป ต้องถ่างออกไปยืนริมเส้นจนหาพื้นที่ยิงยาก แม้จะครองบอลถึง 75% แต่ทะลุเข้าเขตโทษแบบจะแจ้งมีน้อยมาก
เกมรับของหงส์แดงดันไลน์สูงเพื่อบีบพื้นที่ ฟาน ไดค์ ยังยืนได้ตามมาตรฐาน อ่านเกมดีและเคลียร์บอลหลายครั้ง ทว่าเมื่อแนวรุกเสียบอลแล้วไม่เพรสซิ่งกลับ ฟอเรสต์มีพื้นที่สวนกลับไปเล่นด้านข้างโดยเฉพาะฝั่งของ ซาโวนา และ วิลเลียมส์ จนทำให้แนวรับลิเวอร์พูลต้องวิ่งไล่ตามจังหวะเปลี่ยนจากรุกเป็นรับอยู่ตลอด
ฝั่งฟอเรสต์ใช้แผน 4-2-3-1 อย่างมีระเบียบ เน้นปิดช่องตรงกลางให้ ซ็องกาเร่ กับ แอนเดอร์สัน คอยบีบ แม้จะปล่อยให้เจ้าบ้านต่อบอลไปมา แต่ไม่ให้ทะลุเข้าในเขตโทษง่ายๆ เมื่อแย่งบอลได้ก็แทงยาวไปช่องว่างด้านหลังฟูลแบ็ก หรือฝากให้ กิบส์-ไวต์ กับ ซาโวนา พาบอลขึ้นหน้าก่อนเชื่อมกับ เฮซุส การสลับตำแหน่งของสามตัวรุกทำให้แนวรับลิเวอร์พูลสับสน และโดนลงโทษทุกครั้งที่หลุดสมาธิ
เกมรับของฟอเรสต์ต้องยกเครดิตให้คู่เซนเตอร์ มูริโญ่–มิลเลนโควิช ที่สกัดกั้นลูกครอสและลูกกลางอากาศเกือบทั้งหมด แถมมี วิลเลียมส์ เติมมาปิดด้านขวาอย่างดุดัน ช่วยให้ทีมเยือนรับลึกแต่ไม่แตก ทำให้แผนสวนกลับเร็วได้ผลเต็มๆ

📈 สถิติการแข่งขันบอกชัด เกมรุกหงส์ทื่อ – ฟอเรสต์คมกว่า
แม้ตัวเลขจะชี้ว่า ลิเวอร์พูลเหนือกว่าแทบทุกด้าน ยิงรวม 20 ครั้ง ครองบอลถึง 75% ส่งบอลมากถึง 598 ครั้ง และมีความแม่นยำในการจ่ายถึง 93% ขณะที่ฟอเรสต์ยิงเพียง 13 ครั้ง ครองบอล 25% ส่งบอลแค่ 170 ครั้ง แต่มีโอกาสยิงเข้ากรอบถึง 7 ครั้ง มากกว่าเจ้าบ้านเกือบสามเท่า นั่นสะท้อนว่าทีมเยือนใช้โอกาสอย่างมีคุณภาพกว่า
ด้านเกมรับ ลิเวอร์พูลทำฟาวล์ 11 ครั้ง ได้ใบเหลือง 2 ใบ ส่วนฟอเรสต์ฟาวล์ 8 ครั้ง ไม่มีใบเหลืองเลย แสดงให้เห็นถึงวินัยและการเข้าปะทะที่แม่นยำกว่า แม้ลูกเตะมุมเจ้าบ้านจะมากถึง 8 ครั้งเทียบกับฟอเรสต์ 6 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ต่างจากทีมเยือนที่ใช้ลูกนิ่งและจังหวะสวนกลับถึงสามครั้งเป็นสามประตูเต็มๆ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 33′ มูริโญ่ เติมขึ้นมาโหม่งจากลูกครอส ให้ฟอเรสต์นำ 1-0
- ⚽ 46′ เนโก วิลเลียมส์ เล่นชิ่งกับ นิโคโล ซาโวนา ก่อนซัดมุมแคบเป็นประตู 2-0 ให้ทีมเยือน
- 🔁 55′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวส่ง ฮูโก้ เอคิทิเก้ แทน โกนาเต้ ปรับรูปแบบการเล่นเป็นรุกเต็มตัว
- 🔁 61′ ฟอเรสต์ส่ง โอมาริ ฮัตชินสัน แทน โดมิงเกซ เติมความเร็วเกมสวนกลับ
- 🟨 66′ ไรอัน แกรมเบิร์ก ทำแฮนด์บอลกลางสนาม โดนใบเหลือง
- 🔁 68′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนสองคนรวด โรเบิร์ตสัน แทน เคอร์เคซ และ เคียซ่า แทน อิซัค เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 78′ ริโอ งูมูโอฮา ลงแทน เคอร์ติส โจนส์ เติมความสดริมเส้นซ้าย
- ⚽ 78′ มอร์แกน กิบส์-ไวต์ รับบอลจากจังหวะสวนกลับ ก่อนซัดเสียบมุมเป็น 3-0
- 🔁 86′ ฟอเรสต์เปลี่ยน ฮัดสัน-โอดอย แทน นดอย และ เยตส์ แทน เฮซุส เพื่อปิดเกม
- 🟨 87′ เฟเดริโก้ เคียซ่า โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน
⭐ Player of the Match – มูริโญ่ หัวใจเหล็กแนวรับฟอเรสต์
รางวัลยอดเยี่ยมประจำเกมต้องยกให้ เฟลิเป้ มูริโญ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟของฟอเรสต์ ที่ได้เรตติ้งสูงถึง 9.1 ไม่ใช่แค่ยิงประตูแรกที่เปลี่ยนหน้าเกมให้ทีมเยือนขึ้นนำ แต่ยังคุมแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม อ่านจังหวะบอลยาวของลิเวอร์พูลได้หมด สกัดลูกกลางอากาศและลูกครอสจากริมเส้นแทบทุกครั้ง ทำให้แนวรุกเจ้าบ้านเล่นยากตลอด 90 นาที
เมื่อจับคู่กับ มิลเลนโควิช และมี วิลเลียมส์–ซาโวนา ช่วยด้านข้าง ทำให้มูริโญ่กลายเป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะในค่ำคืนนี้อย่างแท้จริง

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
หลังจบเกมนี้ ลิเวอร์พูลลงเล่นไป 12 นัด ชนะ 6 แพ้ 6 ยิงได้ 18 เสีย 20 ลูก ผลต่างประตู -2 เก็บได้เพียง 18 คะแนน รั้งอันดับ 11 ของตาราง อยู่กลางกลุ่ม ไม่สามารถกดดันโซนลุ้นพื้นที่ยุโรปได้อย่างที่แฟนๆ คาดหวัง
ด้าน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลังคว้าชัยสุดโหดที่แอนฟิลด์ เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน จากผลงาน ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 6 ยิงได้ 13 เสีย 20 ประตู ผลต่าง -7 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 16 ของตาราง ขยับหายใจโล่งขึ้นเล็กน้อยในภารกิจหนีตกชั้น แต่ยังต้องสู้กันอีกยาวทั้งฤดูกาล
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปที่ ตารางบอล และโปรแกรมข้างหน้า ลิเวอร์พูลยังมีภารกิจหนักรออยู่ โดยจะเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เปิดแอนฟิลด์รับมือ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น วันที่ 27 พฤศจิกายน ก่อนจะออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งทั้งสองเกมนี้จะชี้ชะตาความมั่นใจของทีมว่าจะกลับมาได้เร็วแค่ไหน
ฝั่งฟอเรสต์ก็มีงานชุกเช่นกัน โปรแกรมบอลยุโรปในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก จะเปิดบ้านรับ มัลโม่ วันที่ 28 พฤศจิกายน ก่อนลงเตะพรีเมียร์ลีกพบ ไบรท์ตัน วันที่ 30 พฤศจิกายน หากรักษาฟอร์มแข็งแกร่งแบบเกมนี้ได้ต่อเนื่อง มีโอกาสเก็บแต้มหนีโซนตกชั้นได้อีกหลายนัดแน่นอน
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากอัปเดตสกอร์สด ตารางคะแนน และสรุปผลแบบจบครบในที่เดียว อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล สไตล์เจาะลึกจาก บ้านกีฬา เราจะเกาะติดทุกแมตช์ใหญ่–เล็ก ทั้งพรีเมียร์ลีก บอลยุโรป และลีกดังทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟข้อมูลสถิติ มุมมองแท็กติก และสีสันข้างสนามให้แฟนบอลได้มันส์กันทุกวัน

