โอเรลลี่ของจริง! ดาวรุ่งวัย 20 ยึดแบ็กซ้ายแมนซิตี้ เหนียวทั้งสโมสร–ทีมชาติ ชนทุกด่านรอเยือนนิวคาสเซิล

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เส้นทางเด็กแมนเชสเตอร์สู่ตัวจริงแถวหลังเรือใบสีฟ้า

จากเด็กตัวเล็กที่เตะบอลอยู่ไม่ไกลจากเอติฮัด สเตเดี้ยม วันนี้ นิโก้ โอเรลลี่ กลายเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุโรป และก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติอังกฤษในวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น

โอเรลลี่เริ่มต้นจากทีมรากหญ้าในเมืองแมนเชสเตอร์บ้านเกิดกับ Failsworth Dynamos และ Moston Tigers โดยทั้งสองสโมสรสมัครเล่นนี้อยู่ห่างจากรังเหย้าเรือใบสีฟ้าแค่ราวสามไมล์เท่านั้น เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้เขาเดินเส้นทางลูกหนังสายสีฟ้าตั้งแต่ยังเด็ก

แมวมองซิตี้ไปสะดุดตาเขาตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ ก่อนรับเข้าระบบเยาวชนอย่างเป็นทางการในระดับอายุไม่เกิน 9 ปี และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ “แล่นฉิว” ผ่านทุกสเต็ปในอะคาเดมี่ฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกที่โดดเด่นเกินรุ่น

แชมป์เยาวชน-เพลย์เมกเกอร์อะคาเดมีที่กลายร่างเป็นแบ็กซ้าย

ในระดับเยาวชน โอเรลลี่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกระดับเยาวชนระดับประเทศติดต่อกันทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และไม่เกิน 11 ปี กับซิตี้ แถมยังถูกเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

บุคลิกในสนามของเขาช่วงอะคาเดมี่ถูกมองในฐานะมิดฟิลด์สาย “นุ่มเนียนแต่มีของ” เล่นสวย มีทักษะ ลูกจ่ายคม และเต็มไปด้วยลูกบัง ลูกหลอกแบบเพลย์เมกเกอร์ขนานแท้ เขาเฉิดฉายให้กับทีมรุ่นไม่เกิน 18 ปี และทีมไม่เกิน 21 ปีในรายการ Premier League 2 ก่อนถูกดันขึ้นไปทัวร์ปรีซีซั่นกับทีมชุดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ปี 2024

ทัวร์นั้นเขาได้รับบทบาทแทบจะครบทุกมิติในแดนกลาง ทั้งตำแหน่งเบอร์ 10, เบอร์ 8 รวมถึงยืนต่ำแบบเบอร์ 6 สไตล์โรดรี ซึ่งทำให้สตาฟฟ์และแฟนบอลเริ่มเห็นศักยภาพอเนกประสงค์ของแข้งหนุ่มรายนี้อย่างจริงจัง

ตอนนั้นเองที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พูดถึงโอเรลลี่ด้วยประโยคที่ถูกหยิบมาพูดซ้ำจนถึงทุกวันนี้ว่า

“เขาเป็นเด็กที่ในอนาคตจะกลายเป็นนักเตะชั้นยอดแน่นอน เขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญได้แน่ ๆ”

คำพูดสั้น ๆ แต่ชัดเจนจากโค้ชชาวสเปนเหมือนเป็นตราประทับว่าเด็กคนนี้ “ไปได้ไกลแน่” ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งที่โผล่มาแล้วหายไปตามเวลา

จากมิดฟิลด์สู่แบ็กซ้าย – จุดเปลี่ยนที่เวมบลีย์

โอเรลลี่ประเดิมสนามอย่างเป็นทางการให้ทีมชุดใหญ่ในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เวมบลีย์ และนับจากนั้นโอกาสส่วนใหญ่ของเขากลับมาจากตำแหน่งที่หลายคนไม่คาดคิด – แบ็กซ้าย

ประตูแรกในสีเสื้อทีมชุดใหญ่เกิดขึ้นในเกมถล่ม Salford City 8-0 ในศึกเอฟเอ คัพ เดือนมกราคม ก่อนเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เขาจะได้เดบิวต์ พรีเมียร์ลีก ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 72 ในเกมบุกถล่ม Ipswich Town 6-0

ในระดับทีมชาติ โอเรลลี่ไล่ติดทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่รุ่นไม่เกิน 16 ปี ไล่ขึ้นมาจนได้ประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ในช่วงเบรกทีมชาติเดือนล่าสุด โดยออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้งสองนัดในเกมชนะเซอร์เบียและแอลเบเนีย ภายใต้การคุมทีมของโธมัส ทูเคิล นั่นคือการยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ตัวเลือกสำรอง แต่กำลังกลายเป็นแกนหลักของ “ทรีไลออนส์” รุ่นใหม่อย่างแท้จริง

จากตัวสำรอง Ait-Nouri สู่แบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของเป๊ป

เดิมทีหลายคนเชื่อว่า แมนซิตี้ทุ่มเงินราว 31 ล้านปอนด์คว้า Rayan Ait-Nouri มาจากวูล์ฟส์ เพื่อปักหลักเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงระยะยาว แข้งวัย 24 ปีลงเล่นสามนัดแรกของฤดูกาลในฐานะตัวหลักเต็มตัว ก่อนจะโชคร้ายเจ็บข้อเท้าจนต้องพักไปหลายสัปดาห์

ช่องว่างที่เกิดขึ้นกลายเป็นโอกาสของโอเรลลี่ และเด็กหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือ เขาเติมเต็มตำแหน่งแบ็กซ้ายด้วยฟอร์มที่นิ่ง เหนียวแน่น และมีส่วนกับเกมรุกได้อย่างโดดเด่น จนพอ Ait-Nouri ฟิตกลับมาในช่วงปลายตุลาคม เขากลับต้องเป็นฝ่ายไล่ตามแทน เพราะโอเรลลี่ “จับจอง” เสื้อเบอร์แบ็กซ้ายตัวจริงไปเรียบร้อยแล้ว

วันนี้เมื่อมองไปที่ 11 ผู้เล่นตัวจริงของแมนซิตี้ แฟนบอลจำนวนมากมองว่าโอเรลลี่คือ “มาตรฐานใหม่” ของตำแหน่งแบ็กซ้ายในทีมยุคปัจจุบัน

 

 

โหดทั้งร่างกายและสถิติป้องกัน – แบ็กซ้ายสูง 6 ฟุต 4

จุดแตกต่างที่เห็นชัดสุดๆ ระหว่างโอเรลลี่กับ Ait-Nouri คือเรื่อง สภาพร่างกาย

โอเรลลี่สูงถึง 6 ฟุต 4 นิ้ว สูงกว่า Ait-Nouri ถึง 5 นิ้ว ความสูงระดับนี้ช่วยให้แมนซิตี้ได้เปรียบในกรอบเขตโทษทั้งรุกและรับ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศและจังหวะเซตพีซที่เป๊ปให้ความสำคัญอยู่แล้ว

แม้จะรูปร่างสูงใหญ่ แต่เขากลับวิ่งได้เร็วและแข็งแกร่งในจังหวะดวลตัวต่อตัว ตัวเลขในลีกบอกชัด คู่แข่งเลี้ยงผ่านเขาไปได้เพียง 7 ครั้งเท่านั้น และอัตราความสำเร็จในการดวล 1 ต่อ 1 ของเขาสูงถึง 70.8% เทียบกับ Ait-Nouri ที่ทำได้ 42.9% เท่านั้น

เขาเคย “ล็อก” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จนปีกเบอร์หนึ่งของลิเวอร์พูลไม่สามารถเลี้ยงผ่านได้แม้แต่ครั้งเดียว และสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เหล่าตัวรุกฝั่งขวาของบอร์นมัธก็เจอชะตากรรมเดียวกัน แทบหากำแพงโอเรลลี่ไม่เจอช่องทะลุผ่าน

ย้อนกลับไปเดือนกันยายน นอนนี่ มาดูเอเก้ ปีกความเร็วสูงของอาร์เซน่อล ยังต้องถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่พักครึ่ง เพราะแทบไม่มีจังหวะเอาชนะโอเรลลี่ได้เลยตลอด 45 นาทีแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

จริงอยู่ ในหลายสถิติด้านเกมรับ Ait-Nouri ยังคงมีตัวเลขเฉลี่ยต่อ 90 นาทีที่ดีกว่า เช่น อินเตอร์เซปต์ 2.21 ต่อ 90 นาที (โอเรลลี่ 0.92) และแท็คเกิลที่ชนะ 2.65 ต่อ 90 นาที (โอเรลลี่ 1.31) แต่ด้วยความนิ่ง ความไม่ตื่นสนาม และการตัดสินใจที่เฉียบขาดในเกมใหญ่ ๆ ทำให้เป๊ปแทบไม่มีเหตุผลที่จะดรอปโอเรลลี่ออกจาก 11 คนแรกเลยแม้แต่น้อย

ฟูลแบ็กคนเดียวคุมทั้งฝั่งซ้าย ในระบบ 4-3-2-1 สุดเนียนของเป๊ป

ในระยะหลัง แมนซิตี้ ปรับมาใช้ระบบ 4-3-2-1 แบบแคบ เน้นใช้ตัวรุกด้านในสองคนหุบเข้ามาเล่นระหว่างไลน์ ซึ่งการจัดแบบนี้เปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ให้ฟูลแบ็กต้องรับผิดชอบพื้นที่กว้างขึ้น

ในเกมชนะบอร์นมัธ 3-1 แผนผังตำแหน่งเฉลี่ยในสนามชี้ชัดว่าโอเรลลี่ (หมายเลข 33) ขึ้น–ลงคุมพื้นที่ด้านซ้ายแทบทั้งฝั่งอยู่คนเดียว เติมเกมรุกสลับกลับลงมาซ้อนแนวรับเหมือนปีกผสมวิงแบ็กเต็มรูปแบบ

มีจังหวะหนึ่งที่ Jeremy Doku หุบเข้ากลาง ปล่อยให้โอเรลลี่สอดขึ้นมาลุยเดี่ยวทางกราบซ้าย รับบอลหลุดเข้าไปแตะหลบผู้รักษาประตู Djordje Petrovic ก่อนยิงแต่ถูกสกัดเคลียร์ออกจากเส้นประตู แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้แค่เล่นเซฟ ๆ แต่มีความกล้าที่จะขึ้นไปจบสกอร์เองด้วย

ในเกมชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0 เขาซัดขึ้น–ลงตามริมเส้นซ้ายหลายครั้ง และจากหนึ่งในจังหวะเติมเกมเหล่านั้น เขาเปิดบอลได้อย่างแม่นยำให้เออร์ลิง ฮาแลนด์ โหม่งหรือจบสกอร์แบบเฉียบคม กลายเป็นภาพจำว่าฟูลแบ็กคนนี้ไม่ได้มีดีแค่เกมรับ แต่ยังเป็นอาวุธเกมรุกที่คมไม่แพ้ปีกอาชีพ

หลังเกมชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในศึกอีเอฟแอล คัพ เป๊ปก็อธิบายถึงเหตุผลที่โอเรลลี่ปรับตัวได้ดีในบทบาทนี้ว่า

“บางครั้งเราให้ฟูลแบ็กขยับเข้ามายืนข้างใน เขาเคยเล่นเป็นเบอร์ 10 หรือเบอร์ 8 มาก่อน นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเล่นตรงนั้นได้”

“เขามีอิทธิพลในจังหวะเซตพีซ เขาเร็ว และคิดเล่นกับบอลได้ฉลาดมาก
เขายังสามารถไปยืนเล่นด้านข้างได้ด้วยเหมือนในวันนี้ ที่เราเลือกจะโจมตีด้านนอกมากขึ้นโดยใช้ฟูลแบ็ก เขาทำได้ดีมากจริง ๆ”

คำพูดนี้สะท้อนจุดเด่นของเขาทั้งการเล่นด้านในแบบอินเวิร์ตฟูลแบ็ก และการสอดขึ้นไปเล่นด้านข้างแบบแบ็กสายบุก ซึ่งในฟุตบอลยุคใหม่ ฟูลแบ็กที่ทำได้สองบทบาทในคนเดียวถือว่าหายากและมีมูลค่ามหาศาลต่อทีม

เครื่องจักรพาบอล – ตัวเชื่อมเกมรุกจากแบ็กซ้าย

แม้ Ait-Nouri จะเป็นแบ็กที่รักการเติมเกมและสร้างอันตรายในพื้นที่สุดท้ายเช่นกัน แต่ในแง่การพาบอลระยะไกลและความลื่นไหลในจังหวะเลี้ยงบอล โอเรลลี่ถือว่าเด่นชัดกว่า

เขามักลากบอลพาขึ้นหน้าเองจากแดนตัวเอง ช่วยเพิ่มมิติ การเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ให้แมนซิตี้อย่างชัดเจน ตัวเลขชี้ว่าเขาแบกบอลพุ่งเข้าหาประตูเฉลี่ย 14.1 เมตรต่อครั้ง ซึ่งมากที่สุดในบรรดาผู้เล่นเรือใบชุดปัจจุบันที่ลงเล่นสม่ำเสมอ

เมื่อขึ้นเกมไปถึงพื้นที่สุดท้าย เขาก็ไม่ได้หายไปเฉย ๆ จากสถิติในลีก เขาเปิดบอลจากโอเพ่นเพลย์สำเร็จไปแล้ว 4 ครั้ง มากที่สุดในทีม และสร้างโอกาสจบสกอร์ด้วยตัวเองจากการยิง 11 ครั้ง ซึ่งมีเพียงเพื่อนร่วมทีม 3 คนเท่านั้นที่ยิงมากกว่าเขา

ลูกยิงกดเรียดใส่บอร์นมัธเป็นตัวอย่างที่ดีของการเติมเกมแบบไม่ยอมยืนรอด้านหลัง เขาวิ่งทำทางทแยงจากซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษตามจังหวะเปลี่ยนแกนบอลจากขวาไปซ้าย ก่อนซัดบอลเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด

ตัวจริงแล้วทีมชนะ – สถิติสุดเฮงหรือของจริงที่ตัวเลขหนุนหลัง?

ถ้ามองในมุม “ความรู้สึก” แฟนบอลอาจรู้สึกว่าเวลามีโอเรลลี่ในสนาม แมนซิตี้ดูนิ่งและแน่นขึ้น แต่เมื่อไปดูตัวเลขจริง ๆ ก็ยิ่งทำให้คำว่าของจริงชัดขึ้นไปอีก

ฤดูกาลที่แล้ว แมนซิตี้ลงเล่นทุกรายการโดยมีโอเรลลี่เป็นตัวจริง 12 นัด ผลคือชนะ 10 เสมอ 1 และแพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ซึ่งความพ่ายแพ้นัดนั้นคือเกมแพ้คริสตัล พาเลซ 0-1 ในนัดชิงเอฟเอ คัพ

สำหรับใน พรีเมียร์ลีก เขายังไม่เคยแพ้เลยใน 13 นัดที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ชนะไปถึง 11 เกม ส่วนความพ่ายแพ้ในลีกที่เกิดขึ้นช่วงเขาอยู่ในทีม ช่วงหนึ่งเขาไม่มีชื่อในเกมแพ้สเปอร์ส 0-2 อีกเกมลงมาเป็นตัวสำรองท้ายเกมในแมตช์พ่ายไบรท์ตัน 1-2 และอีกนัดลงเล่นแค่ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายในเกมบุกแพ้อาร์เซน่อล 0-1

นัดเสมออาร์เซน่อล 1-1 เมื่อเดือนกันยายน เขายังถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนที่กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จะยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกมเสียอีก นั่นหมายความว่า หลายประตูที่ทีมเสียเกิดขึ้นตอนเขาไม่ได้อยู่ในสนามด้วยซ้ำ

เมื่อเอาสถิติประตูได้–เสียช่วงที่มีโอเรลลี่อยู่ในสนามมาเทียบ จะยิ่งเห็นภาพว่าทีมเล่นได้แน่นแค่ไหนเมื่อมีแบ็กซ้ายวัย 20 รายนี้ช่วยคุมเกม

แบ็กซ้ายยุคใหม่ – ตำแหน่งที่ต้องคิดเหมือนมิดฟิลด์ เล่นเหมือนปีก และรับให้เหมือนเซ็นเตอร์

สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่ติดตาม พรีเมียร์ลีก มานาน จะเห็นชัดว่าตำแหน่งแบ็กซ้าย–แบ็กขวายุคใหม่ไม่ใช่แค่ “ฟูลแบ็กขึ้นลงริมเส้น” แบบสมัยก่อนอีกต่อไป แต่ต้องทำหน้าที่แทบทุกอย่างในสนาม ทั้งหุบเข้าเล่นตรงกลาง ช่วยสร้างเกมเหมือนมิดฟิลด์ เติมสูงเหมือนปีก และยังต้องแข็งแกร่งพอจะยืนดวลตัวต่อตัวเหมือนเซ็นเตอร์

กรณีของโอเรลลี่คือภาพสะท้อนชัดเจนสุด ๆ นักเตะที่เติบโตมาจากมิดฟิลด์ตัวรุก ถูกดัดแปลงให้มาเล่นฟูลแบ็กในระบบซับซ้อนของเป๊ป แต่กลับทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ สร้างมาตรฐานใหม่ว่าฟูลแบ็กยุคนี้ต้อง “คิดเร็ว ทำได้หลายอย่าง และเข้าใจแท็กติกระดับสูง” ถึงจะอยู่รอดในทีมระดับท็อปของโลกได้

สำหรับเยาวชนไทยหรือแฟนบอลที่ชอบศึกษาลูกหนัง การดูโอเรลลี่เล่นคือบทเรียนชั้นดี ทั้งเรื่องการอ่านเกม การยืนตำแหน่ง การพาบอล และความเป็นมืออาชีพที่ทำให้โค้ชกล้าเชื่อใจในเกมใหญ่ ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย

ไว้ใจได้ทั้งเป๊ปและทีมชาติ – โอเรลลี่กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนสำคัญของเรือใบ

ทั้งหมดนี้ทำให้โอเรลลี่เป็นมากกว่าดาวรุ่งธรรมดา เขากลายเป็นผู้เล่นที่เป๊ปเชื่อใจให้ลงสนามในเกมสำคัญ และแฟนบอลก็เริ่มมองว่าเขาเป็น “เครื่องราง” แบบกลาย ๆ เพราะทีมมักได้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อมีเขาอยู่ใน 11 ตัวจริง

เป๊ปยังย้ำชัดถึงทัศนคติของเด็กหนุ่มรายนี้ว่า

“นิโก้ยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่เลย และเขาเป็นนักเตะที่โค้ชได้ง่ายมาก เวลาเรามีนักเตะที่ยอมเปิดใจให้โค้ชช่วยพัฒนาแบบนี้ มันคือของขวัญอย่างหนึ่งสำหรับบรรดาผู้จัดการทีมทุกคน”

คำว่า “coachable” หรือยอมเปิดใจให้โค้ชปรับ–สอน–แก้ทุกจุดบกพร่อง คือสิ่งที่ทำให้อนาคตของโอเรลลี่ดูสดใสกว่าดาวรุ่งจำนวนมากในรุ่นเดียวกัน และตราบใดที่เขายังรักษามาตรฐานฟอร์มแบบนี้เอาไว้ได้ โอกาสจะอยู่ในทีมตัวจริงของแมนซิตี้ต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นแบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของทีมชาติอังกฤษ ดูจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย

ในสถานการณ์ปัจจุบัน เขามีโอกาสสูงที่จะได้ออกสตาร์ตอีกครั้งในเกมบิ๊กแมตช์ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยกพลบุกเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์ พาร์ก และนั่นจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของแบ็กซ้ายดาวรุ่งที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามองอยู่ในตอนนี้

สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่อยากติดตามเส้นทางของโอเรลลี่ รวมถึงข่าวเดือดจากทั้งอังกฤษและยุโรปแบบเข้มข้นทุกวัน ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา จะยังคงเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว วิเคราะห์แท็กติก และเล่าเรื่องราวจากวงการลูกหนังให้ฟังแบบจัดเต็มเหมือนเดิม อย่าลืมกดติดตาม บ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกประเด็นร้อนจากโลกฟุตบอล

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา