พรีเมียร์ลีกยอมรับ! ลูกโหม่งฟาน ไดค์ควรเป็นประตู แม้ VAR ไม่แทรกแซง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ประเด็นเดือด: ลูกโหม่งฟาน ไดค์ที่แฟนหงส์ยังคาใจ

เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่จบแค่ในสนาม เมื่อล่าสุด เดอะ ไทม์ส รายงานว่า คณะกรรมการพิจารณาจังหวะสำคัญของพรีเมียร์ลีก ได้ตีความว่า ช็อตที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โหม่งส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายนั้น “ควรเป็นประตู” ชัดเจน แต่เหตุผลที่ไม่ถูกนับ เนื่องจากการตีความของผู้ตัดสินในสนาม

นี่คือหนึ่งในจังหวะที่สร้างความเดือดดาลในหมู่แฟนหงส์แดงทั่วโลก เพราะเป็นจังหวะที่อาจเปลี่ยนรูปเกมได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมตช์ที่เดิมพันด้วยคะแนนลุ้นแชมป์

ทำไมประตูถึงถูกริบ? โรเบิร์ตสันเป็นตัวแปรสำคัญ

จังหวะเกิดขึ้นขณะที่ลิเวอร์พูลตาม 0-1 และกำลังพยายามบุกกดดันอย่างหนัก บอลเปิดเข้ามา ฟาน ไดค์ขึ้นโหม่งเต็ม ๆ บอลพุ่งเข้าประตูไป แต่กรรมการในสนามกลับไม่ให้ โดยให้เหตุผลว่า
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยืนล้ำหน้าและมีส่วนรบกวนการเล่น ทำให้ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า พุ่งป้องกันไม่ได้

แม้หลายคนมองว่าโรเบิร์ตสันแทบไม่มีผลใด ๆ ต่อจังหวะนั้น และดอนนารุมม่าก็ไม่มีทางพุ่งถึงลูกตั้งแต่แรก แต่กฎล้ำหน้าในปัจจุบันเปิดช่องให้ “ตีความ” ได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดถกเถียงในพรีเมียร์ลีกมาตลอด

คณะกรรมการมองอย่างไร? ควรได้ประตู แต่ VAR ทำถูกแล้ว

ตามรายงาน คณะกรรมการพิจารณาจังหวะสำคัญพรีเมียร์ลีก—which ประกอบด้วย
• อดีตนักเตะ/โค้ช 3 คน
• ตัวแทนพรีเมียร์ลีก 1 คน
• ผู้เชี่ยวชาญจาก PGMOL 1 คน

ได้ลงความเห็นว่า ลูกของฟาน ไดค์ควรเป็นประตู เนื่องจากมองว่าโรเบิร์ตสันไม่ได้มีผลกระทบต่อการเซฟมากพอจะถือว่า “แทรกแซงจังหวะการเล่น”

แต่ที่สำคัญคือ พวกเขายืนยันว่า VAR ไม่ได้ผิด
เพราะจังหวะนี้จัดอยู่ในกลุ่ม “Interpretation” หรือการตีความของกรรมการในสนาม VAR จึงไม่มีหน้าที่แทรกแซง เพราะตามกฎจะเข้ามายุ่งได้เฉพาะจังหวะแบบ “ชัดเจน-ผิดพลาดชัดเจน” เท่านั้น

กล่าวง่าย ๆ คือ
กรรมการอาจผิด VAR ไม่ผิด และนี่คือความซับซ้อนของกฎปัจจุบันที่ทำให้แฟนบอลหงุดหงิดแบบสุด ๆ

พรีเมียร์ลีกยังคงเผชิญปัญหากฎล้ำหน้าและ VAR ซ้ำซ้อน

กรณีนี้สะท้อนปัญหาใหญ่ที่พรีเมียร์ลีกเจอมาหลายปี—คือกฎล้ำหน้าที่ตีความยากและ VAR ที่เข้ามา “ไม่ช่วยให้คมขึ้น” เท่าที่ควร ความต่างระหว่าง “มีผลต่อการเล่น” และ “ไม่มีผล” เป็นเส้นบางมาก และบ่อยครั้งสร้างความสับสนให้ทีมและแฟนบอล

จังหวะอย่างลูกของฟาน ไดค์คือหนึ่งในตัวอย่างชัดเจน
แม้คนดูส่วนใหญ่ฟันธงว่าโรเบิร์ตสันไม่ได้กีดขวาง จนน่าจะให้ประตู แต่เมื่อกติกาปัจจุบันเปิดช่องให้กรรมการสนามตัดสินได้เอง คำตัดสินก็ต้องยืนตามนั้น

บทสรุปในมุมฟุตบอล: ความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นได้ในเกมใหญ่

พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ตัดสินกันละเอียดทุกจังหวะ แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้จังหวะเด็ดขาดอย่างนี้เกิดเป็นประเด็นดราม่า สำหรับลิเวอร์พูล จังหวะนี้อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนของการแข่งขัน ซึ่งสะท้อนว่าฟุตบอลยุคใหม่ยังต้องพึ่งพาทั้งเทคโนโลยีและ “ความแม่นของมนุษย์” ควบคู่กันไปแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

ติดตามประเด็นร้อนลูกหนัง ข่าวเดือดพรีเมียร์ลีก และทุกมุมมองคม ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา