“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลับมาผงาดอีกครั้งในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังเปิดรังแอนฟิลด์อัด แอสตัน วิลล่า 2-0 ปลดล็อกชัยชนะในลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน โดยเกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สวมบทฮีโร่ซัดประตูที่ 250 ให้สโมสร ก่อนที่ ไรอัน กราเวนเบิร์ช จะยิงปิดกล่องสุดเฉียบ ทำให้ “หงส์แดง” ขยับขึ้นรั้งอันดับ 3 ของตาราง พร้อมเรียกศรัทธาคืนจากเดอะค็อปได้อย่างงดงาม
⚽ เกมนี้ ลิเวอร์พูลต้องชนะเพื่อรักษาศักดิ์ศรี
ก่อนเริ่มเกม ลิเวอร์พูลอยู่เพียงอันดับ 10 ของตารางหลังพ่ายในลีกมา 4 นัดติด สถานการณ์บีบบังคับให้ลูกทีมของ อาร์เน่ สลอต ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าชัยเท่านั้น และแรงกดดันยิ่งทวีคูณเมื่อช่วงต้นเกม วิลล่าเกือบช็อกแอนฟิลด์จากจังหวะยิงชนเสาของ มอร์แกน โรเจอร์ส ในช่วง 5 นาทีแรก
แต่แล้วความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารทีมเยือนก็เปลี่ยนเกมทั้งหมด เมื่อเขาจ่ายบอลพลาดในช่วงทดเวลาครึ่งแรก บอลหลุดถึง ซาลาห์ ที่ไม่พลาดยิงสวนเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 และยังเป็นประตูที่ทำให้ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ขึ้นแท่นเทียบสถิติของ เวย์น รูนี่ย์ ในการมีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดของผู้เล่นคนเดียวในสโมสรเดียว
🔥 ครึ่งหลังเดือด กราเวนเบิร์ชคืนชีพซัดปิดเกม
เข้าสู่ครึ่งหลัง “หงส์แดง” เล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้น เกมรุกเริ่มไหลลื่นโดยมี โดมินิค โซบอสไล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ คอยเชื่อมเกมกลางสนาม จนกระทั่งนาที 58 ลิเวอร์พูลได้ประตูตอกฝาโลงจากจังหวะยิงของ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่บอลแฉลบแนวรับวิลล่าพุ่งเสียบเสาอย่างจัง
หลังจากนั้นเกมยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าถิ่น แม้ ฮูโก้ เอกีติเก้ จะมีโอกาสบวกเพิ่มแต่โดนเคลียร์บนเส้น ส่วนทีมเยือนพยายามตอบโต้ด้วยลูกยิงของ รอส บาร์คลีย์ แต่ก็ข้ามคานออกไป จบเกม ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 2-0 อย่างสวยงาม
⚡ ลิเวอร์พูลคืนฟอร์ม – โชคกลับมาฝั่งเดอะค็อป
หลังผ่านช่วงเวลาแห่งความผิดหวังถึง 4 นัดติดในลีก และตกรอบคาราบาวคัพแบบน่าผิดหวัง เกมนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ทั้งในแง่ของฟอร์มและขวัญกำลังใจ เพราะนอกจาก ซาลาห์ จะยิงครบ 250 ลูกให้สโมสรแล้ว เขายังสร้างสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูรวม 276 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติของ รูนี่ย์ สมัยเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด
อาร์เน่ สลอต กุนซือชาวดัตช์ได้เห็นทีมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ขณะที่โชคเริ่มเข้าข้าง หลังจากก่อนหน้านี้ลูกยิงแฉลบหรือบอลเฉี่ยวเสามักไม่เป็นใจ แต่เกมนี้ทุกอย่างกลับมาลงล็อกพอดี — จังหวะผิดพลาดของมาร์ติเนซ และลูกยิงแฉลบของกราเวนเบิร์ช กลายเป็นสองจุดเปลี่ยนที่พลิกฤดูกาลให้หงส์แดงกลับมามีลุ้นอีกครั้ง
🧤 มาร์ติเนซแจกโชค – วิลล่าพังเพราะจังหวะเดียว
ในฝั่งของ แอสตัน วิลล่า เกมนี้เริ่มต้นได้ดีและดูมีพลังตามแบบฉบับของ อูไน เอเมรี่ โดยเฉพาะช่วงต้นครึ่งแรกที่พวกเขาครองบอลเหนือกว่าและมีโอกาสทองจากลูกยิงของโรเจอร์สชนเสา แต่กลับพลาดท่าเพราะจังหวะเดียวของนายทวารชาวอาร์เจนไตน์ที่จ่ายบอลพลาดให้คู่แข่งยิงง่าย ๆ
จังหวะนั้นทำให้รูปเกมของวิลล่าพังทั้งระบบ จากทีมที่ครองเกมได้ดี กลับกลายเป็นโดนบีบจนแทบตั้งเกมไม่ได้ และเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังพวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้องยุติสถิติชนะรวดไว้ที่ 4 นัดเท่านั้น
🏟️ โปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีม
จากภาพรวมโปรแกรมในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ ลิเวอร์พูลยังมีศึกหนักรออยู่หลายเกม
- 9 พฤศจิกายน เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- 22 พฤศจิกายน เปิดบ้านพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
- 30 พฤศจิกายน บุกเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
- 3 ธันวาคม พบ ซันเดอร์แลนด์
- 6 ธันวาคม เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด
ขณะที่ แอสตัน วิลล่า ก็มีคิวไม่เบา
- 9 พฤศจิกายน เปิดบ้านเจอ บอร์นมัธ
- 23 พฤศจิกายน เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด
- 30 พฤศจิกายน เปิดบ้านรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน
- 3 ธันวาคม เยือน ไบรท์ตัน
- 6 ธันวาคม พบ อาร์เซน่อล
นี่คือช่วงเวลาที่ทั้งสองทีมต้องพิสูจน์ศักยภาพจริง ๆ โดยเฉพาะลิเวอร์พูลที่ยังตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ 7 แต้ม และต้องรักษาโมเมนตัมต่อเนื่อง หากหวังกลับมาลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้
📊 ข้อมูลสำคัญหลังเกม
- ซาลาห์ กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงครบ 250 ประตู ต่อจาก เอียน รัช (346) และ โรเจอร์ ฮันท์ (285)
- กราเวนเบิร์ช ยิงได้ 3 ประตูจาก 10 นัดหลังสุด มากกว่าช่วงแรกที่เล่นให้ลิเวอร์พูลถึง 87 นัด
- วิลล่า ยิงได้เพียง 9 ประตูจาก 10 นัดในลีก เป็นสถิติที่ต่ำสุดของทีมที่คุมโดย เอเมรี่ นับตั้งแต่เขาคุมทีมในยุโรป
- หลังจากชนะลิเวอร์พูล 7-2 เมื่อปี 2020 วิลล่าไม่เคยชนะในลีกอีกเลยจาก 10 นัดล่าสุด (เสมอ 3 แพ้ 7)
🧩 เกมนี้คือจุดเปลี่ยนของหงส์แดง
ชัยชนะเหนือวิลล่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเก็บสามแต้ม แต่คือการฟื้นคืนศรัทธาและความมั่นใจของนักเตะลิเวอร์พูลทั้งทีม แฟนบอลที่แอนฟิลด์ส่งเสียงกระหึ่มตลอด 90 นาที เหมือนได้เห็น “ทีมเดิม” ที่เต็มไปด้วยพลังและหัวจิตหัวใจอีกครั้ง การกลับมาของ ซาลาห์–กราเวนเบิร์ช–ฟาน ไดจ์ค คือความหวังใหม่ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการไล่ล่าความสำเร็จในช่วงท้ายปี
และแน่นอนว่า แฟนบอลทั่วโลกยังคงต้องจับตาโปรแกรมใหญ่ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ลิเวอร์พูลจะเปิดบ้านรับมือ เรอัล มาดริด ก่อนยกพลเยือน แมนฯ ซิตี้ ในลีกสุดสัปดาห์หน้า — สองเกมที่จะบอกได้ชัดว่าพวกเขาพร้อมกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์หรือยัง
ติดตามข่าวฟุตบอลร้อนแรง ผลบอล และบทวิเคราะห์พรีเมียร์ลีก ได้ที่ “ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา” เว็บไซต์ของคนรักฟุตบอลตัวจริง!

