ระเบิดศึกกลางเซนต์เจมส์ พาร์ค เมื่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ยำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างดุเดือด 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก 2025 แบบที่ไม่เหลือเค้าโครงความเป็นบิ๊กแมตช์! แม้ “ปีศาจแดง” จะพยายามฮึดในช่วงแรก แต่ก็โดนซัดแบบไม่ไว้หน้า โดยเฉพาะผลงานสุดพีกของ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่ทั้งยิงทั้งป่วนตลอดทั้งเกม บ้านกีฬา พาเกาะติดเกมนี้อย่างใกล้ชิด และพร้อมเสิร์ฟ ผลบอลสด พร้อมการวิเคราะห์เกมให้ทุกท่านแบบจัดหนัก
ครึ่งแรก เกมเริ่มต้นอย่างสูสีโดยทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันทันที แต่นาทีที่ 24 ซานโดร โตนาลี ก็เบิกสกอร์ให้เจ้าถิ่นได้สำเร็จจากจังหวะยิงเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษให้สาลิกาขึ้นนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม “ผีแดง” ไม่ยอมง่าย ๆ นาที 37 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลากตัดเข้าในก่อนซัดตุงตาข่ายตีเสมอ 1-1 ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือดขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องจบครึ่งด้วยการแบ่งแต้มชั่วคราว
ครึ่งหลังคือฝันร้ายของแมนยูอย่างแท้จริง เพราะเพียงแค่นาที 49 ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงกระชากเข้าไปยิงให้เจ้าถิ่นนำอีกครั้ง 2-1 ก่อนที่เขาจะมายิงเบิ้ลในนาที 64 พาสกอร์ห่างเป็น 3-1 แผงหลังของแมนยูเริ่มปั่นป่วนชัดเจน และจบด้วยลูกยิงปิดกล่องจาก บรูโน่ กิมาไรส์ ในนาที 77 ตอกย้ำชัยชนะให้เดอะ แม็กพายส์ 4-1 แบบขาดลอย
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3)
ผู้รักษาประตู: นิค โป๊ป (7.0)
กองหลัง: คีแรน ทริปเปียร์ (7.0), ฟาเบียน แชร์ (6.7), แดน เบิร์น (7.3), วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ (6.5)
กองกลาง: ซานโดร โตนาลี (7.6), บรูโน่ กิมาไรส์ (7.8), โจลินตัน (7.0)
แนวรุก: เจค็อบ เมอร์ฟี่ (7.8), อเล็กซานเดอร์ อิซัค (7.3), ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (8.8)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
เอมิล คราฟธ์ (6.6), คัลลัม วิลสัน (6.3), แอนโธนี่ กอร์ดอน (6.7), ฌอน ลองสตาฟฟ์ (6.6), ลูอิส ไมลีย์ (6.7)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: อัลตาย บายินดีร์ (5.5)
กองหลัง: ลูค วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (6.1), เลนี่ โยโร่ (6.2), นุสซาอีร์ มาซราอูอี (5.5)
วิงแบ็ค: ดิโอโก้ ดาโลต์ (6.8), ฮารูนา อามาส (6.5)
กองกลาง: มานูเอล อูการ์เต้ (7.0), คริสเตียน อีริคเซ่น (6.4)
แนวรุก: บรูโน่ แฟร์นันด์ส (7.0), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (7.3)
กองหน้า: โจชัว เซิร์กซี (6.3)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
แพทริก ดอร์กู (6.2), เมสัน เมาท์ (6.5), ราสมุส ฮอยลุนด์ (6.2), ลุค ชอว์ (7.0), ค็อบบี้ ไมนู (6.4)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้แผน 4-3-3 ของ นิวคาสเซิ่ล แสดงประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะการเติมเกมรุกจากริมเส้นทั้งซ้ายขวาที่เปิดจังหวะเข้าทำได้ต่อเนื่อง บาร์นส์ และเมอร์ฟี่ สร้างความอันตรายจากด้านข้างแบบไม่มีพัก โดยมิดฟิลด์สามคนอย่างโตนาลี, กิมาไรส์ และโจลินตัน ช่วยกันสลับรับส่ง ทำให้โซนกลางแน่นและยึดเกมได้ดี ต่างจาก แมนยู ที่ใช้แผน 3-4-2-1 ซึ่งขาดบาลานซ์ในแนวรับอย่างชัดเจน ช่องว่างระหว่างแผงหลังถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่การขึ้นเกมขาดมิติ ไม่สามารถเปลี่ยนการครองบอลให้เป็นโอกาสที่เฉียบคมได้อย่างที่ควรจะเป็น เป็นอีกหนึ่งเกมที่ วิเคราะห์บอล แล้วเห็นปัญหาทางฝั่งผีแดงแบบหมดเปลือก
สถิติการแข่งขัน
แม้ แมนยู จะครองบอลได้ 52% และผ่านบอลถึง 472 ครั้ง แต่ความแม่นยำอยู่ที่ 80% เท่ากับฝั่งเจ้าบ้าน นิวคาสเซิ่ล ที่ผ่านบอล 420 ครั้ง และครองบอล 48% เท่านั้น โดยสาลิกาดงยิงรวม 13 ครั้ง เข้ากรอบ 6 หน ขณะที่แมนยูยิงได้เพียง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 5 หน ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่คุณภาพในการจบสกอร์ซึ่งฝั่งเจ้าบ้านเฉียบคมและไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย โดยเฉพาะครึ่งหลังที่กดเพิ่มอีก 3 ลูก ขณะที่แมนยูมีแค่การ์นาโช่ที่ดูโดดเด่น
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 24′ ซานโดร โตนาลี ยิงให้นิวคาสเซิ่ลนำ 1-0
⚽ 37′ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงตีเสมอให้แมนยู 1-1
🟨 43′ เลนี่ โยโร่ โดนใบเหลืองจากจังหวะปะทะ
🔁 55′ ดอร์กู, เมาท์, ฮอยลุนด์ ลงสนามแทน อามาส, การ์นาโช่, เซิร์กซี
⚽ 49′ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงให้นิวคาสเซิ่ลนำ 2-1
⚽ 64′ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงประตูที่สองของตัวเอง นำห่าง 3-1
🔁 78′ คราฟธ์, วิลสัน, กอร์ดอน ลงแทน ทริปเปียร์, อิซัค, เมอร์ฟี่
🔁 78′ ลุค ชอว์ ลงแทน มาซราอูอี
⚽ 77′ บรูโน่ กิมาไรส์ ยิงประตูปิดกล่อง 4-1
🔁 82′ ไมนู ลงแทน แฟร์นันด์ส
🔁 85′ ลองสตาฟฟ์, ไมลีย์ ลงแทน โจลินตัน, กิมาไรส์
Player of the Match
ฮาร์วีย์ บาร์นส์ คือชื่อที่ต้องยกย่องเป็นพิเศษในค่ำคืนนี้ ด้วยคะแนน 8.8 เขาโชว์ฟอร์มสุดจัดทั้งยิงสองประตู ตัดเกมรับของแมนยูพังไม่เป็นท่า ความเร็วและความแม่นยำในการเข้าทำคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างในเกมนี้ได้อย่างชัดเจน
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาแซงขึ้นรั้งอันดับ 4 ของตาราง มี 56 แต้มจาก 31 นัด นำหน้า แมนซิตี้ 1 แต้มแม้จะแข่งน้อยกว่า 1 นัด ถือเป็นการยึดพื้นที่ท็อปโฟร์ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้าน แมนยู ตกไปอยู่อันดับ 14 มีเพียง 38 แต้ม โอกาสลุ้นโควตายุโรปแทบจะเลือนลาง แถมฟอร์มโดยรวมยังมีคำถามตามมาอีกมาก
การแข่งขันนัดถัดไป
หลังถล่มแมนยูไปแบบขาดลอย 4-1 และกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีค นิวคาสเซิ่ล จะเปิดบ้านเจอกับ คริสตัล พาเลซ วันที่ 17 เมษายน เวลา 01:30 น. ก่อนยกพลไปเยือน แอสตัน วิลล่า วันที่ 19 เมษายน เวลา 23:30 น. เกมต่อเกมแบบนี้จะวัดเลยว่าสาลิกาดงจะยึดพื้นที่ท็อปโฟร์ใน ตารางบอล ได้หรือไม่
ขณะที่ แมนยู เจอโปรแกรมชุกไม่แพ้กัน โดยนัดถัดไปคือการต้อนรับ ลียง ในศึกยูโรป้าลีก คืนวันที่ 18 เมษายน เวลา 02:00 น. และต่อด้วยศึกในลีกกับ วูล์ฟส์ ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 20:00 น. หากยังอยากลุ้นโควตายุโรป ฤดูกาลนี้ต้องเร่งสปีดเก็บชัยอย่างต่อเนื่อง
ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครที่ไม่อยากพลาดเกมเดือดแบบนี้ หรือผลการแข่งขันสดจากทุกลีกดัง อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และวิเคราะห์สุดเข้มจาก บ้านกีฬา เรารายงานทุกแมตช์ จัดเต็มทุกอารมณ์
