จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง ลิเวอร์พูล 2-1 เวสต์แฮมยูไนเต็ด วันนี้ 13/4/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2025 ที่สนามแอนฟิลด์จบลงอย่างสุดมัน เมื่อ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบสุดระทึก 2-1 โดยได้ประตูชัยจากลูกโหม่งของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คในนาทีที่ 89 ส่งให้หงส์แดงยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ด้วยฟอร์มที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แม้เกมนี้จะเจอการตั้งรับลึกและโต้กลับอันเฉียบขาดของขุนค้อนก็ตาม บ้านกีฬา เกาะติดเกมนี้มาแบบเรียลไทม์ และพร้อมเสิร์ฟบทวิเคราะห์เข้มข้น พร้อมแทรก ผลบอลสด และมุมมองแบบถึงเนื้อถึงตัวมาให้แฟนบอลแบบจัดเต็ม
ครึ่งแรก เกมเปิดหน้าใส่กันทันทีตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก โดยเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าและครองเกมได้ตามสไตล์ นาทีที่ 18 ความพยายามของลิเวอร์พูลก็เป็นผล เมื่อ หลุยส์ ดิอาซ ซัดเต็มเท้าเข้าไปไม่พลาดจากการจ่ายของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งให้หงส์แดงขึ้นนำ 1-0 แม้เวสต์แฮมจะพยายามตอบโต้แต่ยังหาโอกาสยิงแบบเน้น ๆ ไม่ได้ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้แบบที่เดอะ ค็อปยังไม่วางใจ
ครึ่งหลัง เวสต์แฮมเริ่มมีจังหวะสวนกลับมากขึ้น และจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในนาทีที่ 86 เมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สกัดบอลผิดเหลี่ยมกลายเป็นเข้าประตูตัวเอง ทำให้ทีมเยือนตีเสมอเป็น 1-1 และหวังจะบุกแบ่งแต้มจากแอนฟิลด์ให้ได้ แต่เพียงไม่กี่นาทีให้หลัง นาที 89 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ขึ้นโขกลูกเตะมุมจากแม็ค อัลลิสเตอร์ ตอกฝาโลงเวสต์แฮมทันที สร้างเสียงเฮลั่นให้สนามอีกครั้ง และจบเกมด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 2-1 แบบสุดดราม่า
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: อลิสซอน เบ็คเกอร์ (7.2)
กองหลัง: คอเนอร์ แบรดลีย์ (7.5), อิบราฮิมา โกนาเต้ (6.9), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (7.7), คอสตาส ซิมิกาส (7.0)
กองกลางตัวรับ: ไรอัน กราเวนเบิร์ช (7.0), เคอร์ติส โจนส์ (6.9)
ตัวรุก: หลุยส์ ดิอาซ (8.1), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (7.7), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7.6)
กองหน้า: ดิโอโก้ โชต้า (6.7)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (6.1), โคดี้ กัคโป (6.5), จาเรลล์ ควานซาห์ (6.6), โดมินิค โซบอสซ์ไล (6.5), วาตารุ เอ็นโดะ (6.3)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (3-5-2)
ผู้รักษาประตู: อัลฟงส์ อาเรโอล่า (6.8)
กองหลัง: แม็กซ์ คิลแมน (7.3), คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส (6.4), ฌอง-แคลร์ โตดิโบ (6.3)
กองกลาง: อารอน วาน-บิสซาก้า (7.9), ลูคัส ปาเกต้า (7.3), เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (7.0), โมฮัมเหม็ด คูดุส (6.9), โอเล่ สคาร์เลส (6.7)
กองหน้า: จาร์ร็อด โบเว่น (6.3), คาร์ลอส โซเลร์ (6.3)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
วลาดิเมียร์ คูฟาล (6.5), ลูอิส กิลแยร์เม (6.7), นิคลาส ฟึลครุก (6.7)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปแบบการเล่นของ ลิเวอร์พูล ยังคงเน้นเกมรุกที่มีสปีดและการต่อบอลเข้าพื้นที่อันตรายอย่างต่อเนื่อง ระบบ 4-2-3-1 ของอาร์เน่ สลอตทำงานได้ดีในแง่การครองบอลและสลับขึ้นเกมริมเส้น โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่หลุยส์ ดิอาซเล่นได้อย่างโดดเด่น ส่วนด้าน เวสต์แฮม มาในแผน 3-5-2 ตั้งรับเป็นหลักและอาศัยจังหวะสวนกลับโดยมีคูดุสและโบเว่นเป็นตัวฉีกแนวรับ วิเคราะห์บอล จากฟอร์มเกมนี้ ลิเวอร์พูลยังคุมเกมได้ดีกว่า แม้จะเสียประตูจากความผิดพลาด แต่ก็ไม่เสียรูปแบบ และยังสามารถคัมแบ็คได้จากความแม่นในลูกนิ่ง
สถิติการแข่งขัน
ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าด้วยอัตรา 56% และจ่ายบอลไปทั้งสิ้น 498 ครั้งเท่ากับความแม่นยำในการผ่านบอล 85% เท่ากับเวสต์แฮมที่จ่ายไป 407 ครั้ง ถือเป็นสถิติที่สูสีกันในเชิงคุณภาพ ส่วนโอกาสยิงของหงส์แดงมากถึง 15 ครั้ง ตรงกรอบ 6 ครั้ง ขณะที่เวสต์แฮมมีโอกาสยิง 11 ครั้ง ตรงกรอบ 4 ครั้ง ลิเวอร์พูลยังได้ลูกเตะมุมมากถึง 10 ครั้ง ต่างจากเวสต์แฮมที่ได้เพียง 3 หน และแม้เวสต์แฮมจะเสียบอลน้อยกว่า แต่การเข้าทำยังขาดความหลากหลาย
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 18′ หลุยส์ ดิอาซ ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
🔁 57′ เวสต์แฮมเปลี่ยน คูฟาล ลงแทน สคาร์เลส
🔁 60′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยน กัคโป ลงแทน โชต้า และ โรเบิร์ตสัน แทน ซิมิกาส
🔁 68′ ลิเวอร์พูลส่ง ควานซาห์ ลงแทน แบรดลีย์ และ โซบอสซ์ไล ลงแทน โจนส์
🔁 78′ เวสต์แฮมเปลี่ยนสองคนพร้อมกัน กิลแยร์เม แทน โตดิโบ, ฟึลครุก แทน โซเลร์
🔁 85′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยน วาตารุ เอ็นโดะ ลงแทน ซาลาห์
⚽ 86′ อังเดร โรเบิร์ตสัน ทำเข้าประตูตัวเอง เวสต์แฮมตีเสมอ 1-1
⚽ 89′ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โขกจากเตะมุมของแม็ค อัลลิสเตอร์ ให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
🟨 90+4′ ลูคัส ปาเกต้า โดนใบเหลือง
🟨 90+6′ วลาดิเมียร์ คูฟาล โดนใบเหลือง
Player of the Match
หลุยส์ ดิอาซ คือนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ ด้วยคะแนน 8.1 จากผลงานการทำประตูสุดสวยในครึ่งแรก และการเล่นที่วูบวาบตลอดทั้งเกม ดิอาซเป็นคนที่สร้างความแตกต่างในแนวรุกให้ลิเวอร์พูลได้อย่างแท้จริง และเป็นหัวใจสำคัญในการเจาะแนวรับที่เหนียวแน่นของเวสต์แฮม
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะเกมนี้ส่งให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 76 แต้มจาก 32 นัด นำห่าง อาร์เซนอล 13 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัด แต่ถือว่าเป็นแต้มที่สำคัญในการรักษาจ่าฝูงเอาไว้ ส่วน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยังคงมี 35 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับ 17 แบบหวุดหวิด โดยมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 14 แต้มเท่านั้น ต้องเร่งฟอร์มในช่วงที่เหลือหากไม่อยากลุ้นเหนื่อยถึงนัดสุดท้าย
การแข่งขันนัดถัดไป
หลังเฉือนชนะเวสต์แฮม 2-1 ได้สามแต้มล้ำค่า ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมหนักรออยู่ โดยจะไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 20 เมษายน เวลา 22:30 น. และตามด้วยแมตช์บิ๊กไฟต์กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันที่ 27 เมษายน เวลา 22:30 น. ซึ่งอาจเป็นเกมชี้ชะตาแชมป์ใน ตารางบอล หากแต้มยังเบียดกันแบบนี้
ส่วน เวสต์แฮม ที่ยังจมอยู่ท้ายตาราง ต้องเร่งฟอร์มกลับมาให้ไว โดยเกมต่อไปคือการเปิดบ้านพบกับ เซาแธมป์ตัน ในวันที่ 19 เมษายน เวลา 21:00 น. ก่อนจะไปเยือน ไบรท์ตัน วันที่ 26 เมษายน เวลา 21:00 น. สองนัดนี้มีผลต่อการอยู่รอดในลีกโดยตรง
ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
คอบอลตัวจริงต้องไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของเกมแบบนี้ ติดตาม บ้านผลบอล ทุกคู่แบบเจาะลึก พร้อมบทวิเคราะห์สุดเข้มจาก บ้านกีฬา ที่จะพาคุณลุยทุกเกมจนจบฤดูกาล!
