
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันนี้ 8/4/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2025 นัดสำคัญระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่สนามคิงพาวเวอร์ สเตเดียม จบลงด้วยความผิดหวังของแฟนบอลเจ้าถิ่นอย่างสิ้นเชิง เมื่อทีมของ รูท ฟาน นิสเตลรอย พ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-3 ต่อการบุกอย่างดุดันของทีมเยือนที่นำโดย เอ็ดดี้ ฮาว ผลงานที่น่าประทับใจนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล คว้าสามแต้มสำคัญได้อย่างงดงาม พร้อมทั้งขยับอันดับในตารางได้อย่างมั่นคง ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงจมปลักอยู่ในโซนตกชั้นอย่างน่ากังวลใจ
ครึ่งแรกเริ่มเกมได้เพียงแค่ 2 นาที นิวคาสเซิ่ลก็สามารถปลดล็อคประตูแรกได้อย่างรวดเร็วจากลูกยิงของ จาค็อบ เมอร์ฟี่ ที่โชว์ความเฉียบคมในการจบสกอร์ นำทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ทันจะตั้งตัวได้ เลสเตอร์ก็ถูกโจมตีซ้ำในนาทีที่ 11 จาก จาค็อบ เมอร์ฟี่ คนเดิมที่แสดงให้เห็นถึงความอันตรายในเกมรุก เพิ่มสกอร์ให้ทีมเยือนนำเป็น 2-0 อย่างเด็ดขาด เกมในครึ่งแรกยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมง แต่นิวคาสเซิ่ลก็บุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนาทีที่ 34 ฮาร์วีย์ บาร์นส์ กดประตูที่สามของเกม ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ทิ้งห่างไปถึง 3-0
เลสเตอร์ ซิตี้ พยายามแก้เกมแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่าถึง 58% แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของนิวคาสเซิ่ลได้ จบครึ่งแรกด้วยการตามหลังถึง 0-3 อย่างขาดลอย
ครึ่งหลังครึ่งหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเกมให้ดีขึ้น ด้วยการส่งตัวสำรองอย่าง ฟากุนโด บัวนาน็อตเต้ และ สเตฟี่ มาวิดิดี้ ลงสนามตั้งแต่นาทีที่ 46 เพื่อเสริมเกมรุก แต่ก็ยังคงไม่สามารถทำลายกำแพงเหล็กของนิวคาสเซิ่ลได้
นิวคาสเซิ่ลในครึ่งหลังเน้นการตั้งรับและโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เจ้าบ้านแทบไม่มีโอกาสทำประตูที่ชัดเจน จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องพ่ายคาบ้านไปอย่างยับเยินด้วยสกอร์ 0-3 โดยที่ผู้เล่นอย่าง จาค็อบ เมอร์ฟี่ โชว์ฟอร์มเด่นสุด ๆ และได้รับรางวัล Player of the Match ด้วยคะแนน 8.3
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: มัดส์ เฮอร์มันเซ่น (6.2)
กองหลัง: ลุค โธมัส (6.7), คอเนอร์ โคอาดี้ (6.2), วู๊ต ฟาส (6.7)
กองกลาง: ทิโมธี คาสตานเย่ (6.7), บูบาการี่ ซูมาเร่ (6.6), วิลเฟรด เอ็นดิดี้ (6.7), เจมส์ จัสติน (6.5)
ตัวรุก: บูน่า คานุส (6.6), พัตสัน ดาก้า (6.4)
กองหน้า: เจมี่ วาร์ดี้ (7.1)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
-
ฟากุนโด บัวนาน็อตเต้ (46′ แทน ดาก้า)
-
สเตฟี่ มาวิดิดี้ (46′ แทน คริสเตียนเซ่น)
-
ริคาร์โด้ เปเรยร่า (74′ แทน จัสติน)
-
เจเรมี่ มอนก้า (74′ แทน คานุส)
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3)
ผู้รักษาประตู: นิค โป๊ป (7.5)
กองหลัง: คีแรน ทริปเปียร์ (7.1), ฟาเบียน ชาร์ (7.7), แดน เบิร์น (7.2), วาเลนติโน่ ลิเวอร์ราเมนโต้ (8.0)
กองกลาง: บรูโน่ กิมาไรส์ (7.2), ซานโดร โตนาลี่ (7.0), โจลินตอน (7.0)
ตัวรุก: จาค็อบ เมอร์ฟี่ (8.3), อเล็กซานเดอร์ อิซัค (6.8), ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (7.3)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
-
คัลลัม วิลสัน (72′ แทน อิซัค)
-
วิลเลี่ยม ออสูล่า (72′ แทน เมอร์ฟี่)
-
ลูอิส ไมลี่ย์ (65′ แทน โจลินตอน)
-
ฌอน ลองสตาฟฟ์ (65′ แทน กิมาไรส์)
-
เอมิล คราฟท์ (87′ แทน ทริปเปียร์)
เกมนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการเล่นที่แตกต่างกันระหว่างสองทีมอย่างสิ้นเชิง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากถึง 58% ใช้แผนการเล่น 3-4-2-1 โดยพยายามครองเกมผ่านการจ่ายบอลที่แม่นยำ (83% ความแม่นยำจากการผ่านบอล) และสร้างโอกาสโจมตีจากการต่อบอลหลายจังหวะ แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับที่มีความแข็งแกร่งของ นิวคาสเซิ่ล ได้
ฝั่ง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ใช้ระบบ 4-3-3 เน้นการโจมตีจากริมเส้นและการโต้กลับที่รวดเร็ว โดยมี จาค็อบ เมอร์ฟี่ และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เป็นกำลังหลักในการทำเกมบุก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากประตูที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 2, 11 และ 34 ที่มาจากการโจมตีที่รวดเร็วและเฉียบคม รวมถึงการใช้ลูกตั้งเตะและการโต้กลับเป็นอาวุธหลัก
การเล่นเกมรับของ นิวคาสเซิ่ล ทำได้อย่างยอดเยี่ยม มีความแน่นอนจากแผงหลังที่นำโดย ฟาเบียน ชาร์ และ วาเลนติโน่ ลิเวอร์ราเมนโต้ ที่มีคะแนนสูงถึง 8.0 การยืนตำแหน่งที่ดีและการเข้าปะทะที่เด็ดขาดทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่สามารถสร้างโอกาสที่ชัดเจนได้แม้จะมีการครองบอลที่มากกว่า
การวิเคราะห์บอลนี้ชี้ให้เห็นว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สามารถจัดการกับการครองบอลของ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการเล่นที่มีระเบียบแบบแผนและการโต้กลับที่รวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้มากกว่า แม้จะมีการครองบอลน้อยกว่า 42% ก็ตาม การเลือกใช้แผนการเล่นที่เหมาะสมทำให้พวกเขาเก็บสามแต้มได้อย่างง่ายดาย

ในเกมนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถครองบอลได้มากกว่า ด้วยอัตราการครองบอลที่ 58% และผ่านบอลสำเร็จถึง 545 ครั้ง ที่มีความแม่นยำสูงถึง 83% แต่กลับยิงไปเพียง 7 ครั้ง โดยมีเพียง 2 ครั้ง ที่เป็นการยิงตรงกรอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาในการสร้างโอกาสที่ชัดเจน
ทางฝั่ง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้จะมีอัตราการครองบอลเพียง 42% และผ่านบอลสำเร็จเพียง 413 ครั้ง แต่พวกเขากลับสามารถสร้างโอกาสยิงได้ถึง 16 ครั้ง โดยมี 5 ครั้ง ที่ตรงกรอบ และสามารถเปลี่ยนเป็น 3 ประตู ได้อย่างเฉียบขาด
ด้านการป้องกัน นิวคาสเซิ่ล ทำได้อย่างเหนียวแน่น ไม่เสียประตูและไม่ได้รับใบเหลืองหรือใบแดงเลย ในขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ถูกลงโทษด้วยใบเหลืองถึง 2 ใบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการหยุดเกมรุกของคู่แข่ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ
เหตุการณ์สำคัญ-
⚽ 2′ – จาค็อบ เมอร์ฟี่ ยิงประตูให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
-
⚽ 11′ – จาค็อบ เมอร์ฟี่ ยิงประตูที่สองให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2-0
-
⚽ 34′ – ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงประตูให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นำห่าง 3-0
-
🟨 14′ – วิลเฟรด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้) โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
-
🟨 47′ – เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์ ซิตี้) โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
-
🔄 46′ – ฟากุนโด บัวนาน็อตเต้ ลงสนามแทน พัตสัน ดาก้า
-
🔄 46′ – สเตฟี่ มาวิดิดี้ ลงสนามแทน วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น
-
🔄 74′ – ริคาร์โด้ เปเรยร่า ลงสนามแทน เจมส์ จัสติน
-
🔄 74′ – เจเรมี่ มอนก้า ลงสนามแทน บูน่า คานุส
-
🔄 87′ – เอมิล คราฟท์ ลงสนามแทน คีแรน ทริปเปียร์
จาค็อบ เมอร์ฟี่ คือนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ ด้วยการยิง 2 ประตู ในช่วงครึ่งแรก พร้อมกับสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับคะแนนสูงสุดที่ 8.3 จากการโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นที่สุดในสนาม

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 53 คะแนน จาก 30 นัด ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง และยังคงมีโอกาสลุ้นพื้นที่ยุโรปอย่างเต็มตัว ในขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงจมอยู่ในโซนตกชั้นที่อันดับ 19 มีเพียง 17 คะแนน จาก 31 นัด สถานการณ์ของพวกเขาในช่วงนี้ย่ำแย่อย่างหนัก และต้องการคะแนนอย่างเร่งด่วนเพื่อหนีตกชั้น
การแข่งขันนัดถัดไปหลังจากพ่ายแพ้ให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-3 ในเกมล่าสุด การแข่งขันนัดถัดไปของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นการออกไปเยือน ไบรท์ตัน ในวันที่ 12 เมษายน 2025 เวลา 21:00 น. และต่อด้วยการเปิดบ้านรับมือกับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 20 เมษายน 2025 เวลา 22:30 น. ซึ่งเป็นโปรแกรมที่หนักหน่วงอย่างมากสำหรับทีมที่ต้องการดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น
ด้าน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและกำลังลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ มีโปรแกรมสำคัญที่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 13 เมษายน 2025 เวลา 22:30 น. และตามด้วยเกมพบกับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 17 เมษายน 2025 เวลา 01:30 น. ซึ่งทั้งสองเกมนี้ถือเป็นการทดสอบที่สำคัญสำหรับพวกเขาในการรักษาอันดับใน ตารางบอล
ติดตามผลบอลสดที่ บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬาอย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2025 สามารถติดตาม ผลบอลสด และ บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา อัปเดตทุกความเคลื่อนไหวให้คุณไม่พลาดทุกการแข่งขัน!