จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เชลซี 1-0 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันนี้ 4/4/68 – บ้านกีฬา
การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เชลซี พบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น และการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองทีม ผลบอลสด ในคู่นี้จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน เชลซี ที่สามารถเบียดเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้ 1-0 จากการยิงของ เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ในนาทีที่ 50 ซึ่งถือเป็นการเก็บสามแต้มที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเชลซีในการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ในตารางคะแนน
ครึ่งแรกของเกมนี้ ทั้งสองทีมพยายามทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่การตั้งรับที่เหนียวแน่นทำให้ไม่มีทีมใดสามารถเจาะประตูได้สำเร็จ แม้ว่าจะมีโอกาสทำประตูบ้างจากการประสานงานของแนวรุกทั้งสองฝั่ง แต่ก็ยังคงไม่เฉียบคมพอ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 ซึ่งทำให้ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มขึ้นในครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี เปิดเกมบุกอย่างดุดันมากยิ่งขึ้น และก็สามารถทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 50 จากการยิงของ เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ที่รับบอลจาก คอลลัม พาล์มเมอร์ ก่อนจะซัดเข้าประตูอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พยายามทำเกมบุกเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่ก็ยังคงเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของเชลซีไม่สำเร็จ จบเกม เชลซี ชนะไป 1-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
เชลซี (4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ (7.1)
- กองหลัง: มาลอง กุสโต้ (8.0), ลีวาย โคลวิลล์ (7.0), ทรีโวห์ ชาโลบาห์ (7.4), มาร์ก กูกูเรย่า (7.3)
- กองกลางตัวรับ: มอยเซส ไกเซโด้ (7.6), เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (7.6) [กัปตันทีม]
- กองกลางตัวรุก: คอลลัม พาล์มเมอร์ (7.9), จาดอน ซานโช่ (6.6), เปโดร เนโต้ (7.5)
- กองหน้า: นิโคลัส แจ็คสัน (6.3)
ผู้เล่นที่โดดเด่น: มาลอง กุสโต้ (8.0), คอลลัม พาล์มเมอร์ (7.9), เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (7.6)
การเปลี่ยนตัว:
- นอนี มาดูเอเก้ (68’ แทน จาดอน ซานโช่)
- รีซ เจมส์ (82’ แทน นิโคลัส แจ็คสัน)
- ทอสซิน อดาราบิโอโย (90’ แทน คอลลัม พาล์มเมอร์)
- เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ (90’ แทน เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ)
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: กิเยร์โม่ วิการิโอ (7.5)
- กองหลัง: เดสต์ สเปนซ์ (6.9), คริสเตียน โรเมโร่ (6.7), มิกกี้ ฟาน เดอ เวน (6.6), เดสติน อูโดกี้ (6.9)
- กองกลาง: โรดริโก้ เบนทานกูร์ (7.0), ฮึง-มิน ซอน (6.6) [กัปตันทีม], เจมส์ แมดดิสัน (6.7)
- กองหน้า: วิลล์ โอดอเบิร์ต (6.6), โดมินิค โซลันเก้ (6.7), ลุดวิก เบิร์กวัลล์ (6.9)
ผู้เล่นที่โดดเด่น: กิเยร์โม่ วิการิโอ (7.5), โรดริโก้ เบนทานกูร์ (7.0), เบรนแนน จอห์นสัน (7.0)
การเปลี่ยนตัว:
- ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ (64’ แทน ลุดวิก เบิร์กวัลล์)
- เบรนแนน จอห์นสัน (64’ แทน วิลล์ โอดอเบิร์ต)
- เปโดร ปอร์โร่ (88’ แทน มิกกี้ ฟาน เดอ เวน)
- มาธีส์ เทล (88’ แทน เจมส์ แมดดิสัน)
วิเคราะห์บอล การรุกและการรับ
เชลซี ใช้ระบบการเล่นแบบ 4-2-3-1 ที่เน้นการครองบอลในแดนกลาง ด้วยการประสานงานระหว่าง เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ และ มอยเซส ไกเซโด้ ที่คุมจังหวะเกมได้อย่างยอดเยี่ยม การเติมเกมรุกจาก คอลลัม พาล์มเมอร์ และ เปโดร เนโต้ ที่วิ่งตัดแนวรับ ท็อตแน่ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แนวรับของทีมเยือนต้องทำงานหนักตลอดเวลา
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาในระบบ 4-3-3 โดยเน้นการเล่นเกมสวนกลับ แต่การเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางและแดนหน้ายังขาดความแม่นยำ การประสานงานของ ฮึง-มิน ซอน และ เจมส์ แมดดิสัน ยังไม่เข้าขากันเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลให้เกมรุกของทีมไม่เฉียบคมพอ
สถิติการแข่งขัน
เชลซี ครองเกมได้ดีกว่าเล็กน้อย โดยมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 51% เมื่อเทียบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทำได้เพียง 49% ในด้านการผ่านบอล ทั้งสองทีมทำได้ใกล้เคียงกันมาก โดย เชลซี ส่งบอลสำเร็จทั้งหมด 434 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 85% ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีจำนวนการผ่านบอลสำเร็จเท่ากันที่ 433 ครั้ง แต่กลับทำได้แม่นยำมากกว่าเล็กน้อยที่ 87%
เชลซี เป็นฝ่ายที่สร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่า โดยยิงทั้งหมด 11 ครั้ง และเข้ากรอบได้ 5 ครั้ง ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยิงเพียง 8 ครั้ง และเข้ากรอบได้ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมที่แตกต่างระหว่างทั้งสองทีม ความเข้มข้นในการแข่งขันก็ปรากฏชัดจากการทำฟาวล์ที่มีถึง 23 ครั้ง โดย เชลซี ทำฟาวล์ 7 ครั้ง ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำฟาวล์ถึง 16 ครั้ง นอกจากนี้ ทั้งสองทีมยังได้รับใบเหลืองรวมกันมากถึง 10 ใบ โดยแบ่งเป็น เชลซี 5 ใบ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5 ใบ แต่ไม่มีใบแดงเกิดขึ้นตลอดการแข่งขัน
ในส่วนของการบุก เชลซี สามารถสร้างโอกาสเตะมุมได้ 4 ครั้ง ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำได้ 6 ครั้ง การเล่นที่เข้มข้นนี้สะท้อนถึงคว
ามพยายามของทั้งสองทีมในการพยายามหาช่องทางเจาะประตูให้ได้ แต่สุดท้ายก็เป็น เชลซี ที่สามารถเอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิวในเกมที่เต็มไปด้วยความดุเดือดและการต่อสู้ที่เข้มข้น
เหตุการณ์สำคัญ
- ⚽ 50′ — เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ทำประตูให้กับ เชลซี นำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0
- 🟥 71′ — ประตูที่ทำได้โดย พี.เอ็ม. ซาร์ ถูกยกเลิก จากการตรวจสอบ VAR
- 🟨 72′ — พี.เอ็ม. ซาร์ โดนใบเหลืองหลังจากการทำฟาวล์
- 🟨 82′ — เนโต้ ของ เชลซี โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
- 🟨 88′ — เจมส์ แมดดิสัน และ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน ถูกเปลี่ยนตัวออกโดย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- 🟨 90+8′ — บี.จอห์นสัน และ พี.โปโร่ มีการโต้เถียงและโดนจดบันทึกเหตุการณ์
- 🟨 90+13′ — ดี. สเปนซ์ ทำฟาวล์และได้รับใบเหลือง
Player of the Match: มาลอง กุสโต้ (เชลซี) – 8.0
เกมนี้ มาลอง กุสโต้ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทั้งเกมรับและเกมรุก เขาสามารถตัดเกมของ ท็อตแน่ม ได้หลายครั้ง พร้อมกับสร้างโอกาสให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ เชลซี มี 52 คะแนน รั้งอันดับ 4 ในตาราง พรีเมียร์ลีก 2025 ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังคงมี 34 คะแนน รั้งอันดับ 14 สถานการณ์ของทั้งสองทีมแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ ท็อตแน่ม ที่ต้องเร่งเก็บคะแนนเพื่อหนีโซนตกชั้น
การแข่งขันนัดถัดไป
หลังจากที่ เชลซี สามารถเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก 2025 ฟอร์มการเล่นของทีมสิงโตน้ำเงินครามดูเหมือนจะกลับมาเข้าที่เข้าทางได้อย่างยอดเยี่ยม โปรแกรมการแข่งขันนัดถัดไปของ เชลซี คือการไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในวันที่ 6 เมษายน 2025 เวลา 20:00 น. และต่อเนื่องด้วยการลงสนามในศึก ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก ที่จะพบกับ เลเกีย ในวันที่ 10 เมษายน 2025 เวลา 23:45 น.
ส่วนทางด้าน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากพ่ายให้กับ เชลซี ก็ยังคงต้องเจอกับตารางการแข่งขันที่เข้มข้นต่อไป โดยจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน ในวันที่ 6 เมษายน 2025 เวลา 20:00 น. และตามด้วยการพบกับ แฟรงก์เฟิร์ต ในศึก ยูโรป้าลีก วันที่ 11 เมษายน 2025 เวลา 02:00 น. แฟน ๆ ไม่ควรพลาดการติดตาม ตารางบอล ของทั้งสองทีมอย่างใกล้ชิด
ติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา สำหรับการอัปเดต ผลบอล และ ตารางบอล ทุกนัดอย่างรวดเร็วและครบถ้วน
