หลังจบช่วงพักเบรกทีมชาติ ศึกที่แท้จริงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายนนี้ เดือนแห่งการชี้ชะตาว่าฤดูกาลของพวกเขาจะจบลงแบบเจ็บปวดหรือยังมีลมหายใจให้ได้ลุ้นบางสิ่งบางอย่างอีกครั้ง เพราะโปรแกรมในเดือนนี้ไม่เพียงแต่แน่นเอี๊ยด แต่ยังเต็มไปด้วยคู่แข่งสุดหินที่พร้อมกระชาก “ปีศาจแดง” ให้ร่วงสู่เหวได้ทุกเมื่อ
สถานการณ์ปัจจุบันใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ แมนยู เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในภาวะวิกฤต พวกเขารั้งอันดับที่ 13 ของตาราง เก็บได้เพียง 37 คะแนนจากการลงเล่น 29 นัด ทิ้งช่วงห่างจากกลุ่มตกชั้นก็จริง แต่อย่าหวังถึงการลุ้นท็อปโฟร์ เพราะช่องว่างของแต้มมันเกินกว่าจะแก้ไขได้ภายในเวลาอันสั้น
ในความเป็นจริง โอกาสกลับไปสู่เวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทบไม่มีเหลือในเส้นทางลีก สิ่งเดียวที่เหลือให้ รูเบน อโมริม และลูกทีมยึดเหนี่ยวเอาไว้ ก็คือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ให้ได้ ซึ่งนั่นคือทางลัดเพียงเส้นเดียวที่เหลืออยู่ในการคืนชีพสโมสรให้กลับไปสู่เวที “บิ๊กเอียร์” ที่แฟนบอลโหยหา
ด้วยเหตุนี้ โปรแกรมในเดือนเมษายนจึงกลายเป็น “สนามรบ” ที่จะตัดสินอนาคตของทั้งทีม นักเตะ และตัวกุนซือเอง หากพลาดเพียงก้าวเดียวก็อาจหมดโอกาสลุ้นทุกสิ่งที่ตั้งใจไว้
เปิดฉากวันที่ 1 เมษายน “ผีแดง” มีคิวบุกเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามซิตี้ กราวด์ ซึ่งเป็นสังเวียนที่ไม่เคยปรานีทีมใหญ่ ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล และสเปอร์ส ต่างเคยยกพลมาเยือนที่นี่แบบไร้แต้ม บางทีมถึงกับแพ้กลับบ้านแบบหมดสภาพ ซึ่ง แมนยู เองก็เคยแพ้คาบ้านให้ฟอเรสต์มาแล้วเช่นกัน หากยังไม่ปรับรูปแบบการเล่นให้ระวังจังหวะสวนกลับของเจ้าถิ่นให้ดี อาจมีสิทธิ์โดน “เจ้าป่า” ย้ำแค้นอีกครั้ง
จากนั้นในวันที่ 6 เมษายน ศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ จะกลับมาระเบิดความมันอีกครั้งที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยจะเป็นเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ยกทัพมาเยือนพร้อมความแค้นหลังโดนลูบคมในเลกแรก แน่นอนว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสั่งลูกทีมลุยเต็มสูบเพื่อยึดสามแต้มสำคัญในการลุ้นแชมป์ลีกและตัดแต้มทีมร่วมเมืองไปพร้อมกัน
แต่ถ้านั่นว่ายากแล้ว ความกดดันจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในวันที่ 10 เมษายน เมื่อ แมนยู ต้องออกไปเยือน โอลิมปิก ลียง ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เลกแรก นี่คือศึกที่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคว้าชัยหรืออย่างน้อยต้องไม่แพ้ เพราะมันคือบันไดสำคัญสู่เป้าหมายแชมป์ถ้วยยุโรปใบเล็ก
โปรแกรมไม่ปราณีใคร เพราะวันที่ 13 เมษายน ลูกทีมของอโมริมต้องออกศึกเกมลีกอีกครั้ง บุกถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรงหลังเพิ่งคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และกำลังลุ้นหนักเพื่อคว้าโควตาบอลยุโรปเช่นกัน เกมที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค จึงไม่เคยเป็นงานง่าย โดยเฉพาะกับแมนยูในสภาพที่ขาดความมั่นใจ
ต่อเนื่องวันที่ 17 เมษายน “ผีแดง” จะได้กลับมาเล่นในบ้านต้อนรับ โอลิมปิก ลียง อีกครั้งในเกมเลกที่สอง ซึ่งผลจากนัดแรกจะเป็นตัวกำหนดว่าเกมนี้จะเป็นแค่พิธีการหรือศึกเดิมพันชีวิต นี่คือเกมที่ต้องใส่เกินร้อยทุกจังหวะ
เข้าสู่ช่วงท้ายเดือน วันที่ 20 เมษายน แมนยูจะเปิดบ้านรับมือ วูล์ฟแฮมป์ตัน แม้อาจดูว่าเป็นคู่แข่งที่ไม่หนักหนาเท่าไร แต่ต้องไม่ลืมว่าทัพ “หมาป่า” เคยกัด “ผีแดง” จนแทบไปไม่เป็นมาแล้วในฤดูกาลนี้ หากประมาทก็มีสิทธิ์เจ็บซ้ำสอง
ก่อนปิดฉากเดือนเมษายน แมนยูต้องออกไปเยือน บอร์นมัธ วันที่ 27 เมษายน เกมนี้จัดว่าอันตรายไม่น้อย เพราะ “เดอะ เชอร์รี่ส์” มีเกมรุกที่จัดจ้าน พร้อมเล่นงานทุกทีมที่ประมาทพวกเขา และถ้าผีแดงยังมีปัญหาเรื่องเกมรับเหมือนที่ผ่านมา งานนี้มีหวังได้เจ็บหนักก่อนเข้าสู่โค้งสุดท้ายของซีซั่น
โปรแกรมเดือนเมษายนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1 เม.ย. : เยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (พรีเมียร์ลีก)
6 เม.ย. : เหย้า พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
10 เม.ย. : เยือน โอลิมปิก ลียง (ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
13 เม.ย. : เยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
17 เม.ย. : เหย้า พบ โอลิมปิก ลียง (ยูโรปา ลีก เลกสอง)
20 เม.ย. : เหย้า พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
27 เม.ย. : เยือน บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก)
ศึกเดือนเมษายนนี้คือบททดสอบความแข็งแกร่งของใจนักสู้และมันสมองของ รูเบน อโมริม ว่าเขาดีพอหรือไม่ในการนำพา แมนยู กลับสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ แฟนบอลต้องตามลุ้นกันแบบเกมต่อเกม นาทีต่อนาที ว่า “ผีแดง” จะรอดหรือร่วง
ติดตามทุกข่าวสารความเคลื่อนไหวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวงการลูกหนังได้ครบ จบ ทุกประเด็น ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
