ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25 เข้าสู่ช่วงที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงเริ่มออกอาการสะดุด ด้วยผลงานเสมอสองนัดติดต่อกัน ในขณะที่ เชลซี กำลังร้อนแรง กวาดชัยชนะต่อเนื่องถึง 5 นัดรวด จนไล่จี้มาเหลือเพียง สองคะแนน สถานการณ์นี้ทำให้การแข่งขันแย่งแชมป์เปิดกว้างขึ้น และ สิงห์บลูส์ ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กลายเป็นผู้ท้าชิงที่น่ากลัว แม้ตัวกุนซือชาวอิตาลีจะพยายามลดแรงกดดัน ด้วยการย้ำว่าทีมยังไม่พร้อม แต่เมื่อมองจากผลงานจริงๆ นี่คือ 5 เหตุผลที่ เชลซี อาจปาดหน้าหงส์แดงคว้าแชมป์ในบั้นปลาย
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
1. ฟอร์มของทีมกำลังเข้าฝัก
นับตั้งแต่บุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2 เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชลซี กลายเป็นทีมที่ฟอร์มดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยการเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาเก็บได้ถึง 61 คะแนน มากกว่า แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ถึง 6 คะแนน และทิ้งห่าง ลิเวอร์พูล ที่ช่วงหลังสะดุดไปถึง 7 คะแนน
ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่แม้จะโดนปลดไปแล้ว แต่เขาคือผู้วางรากฐานให้ทีมโชว์ฟอร์มแกร่งในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว จนจบอันดับ 6 และคว้าสิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ต่อมา เอ็นโซ่ มาเรสก้า เข้ามาสานต่อได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมยกระดับทีมให้กลายเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ตัวจริง เพียงแต่ต้องรอดูต่อไปว่า เชลซี จะรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ไปได้ตลอดฤดูกาลหรือไม่
2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมดลุ้นแย่งแชมป์
นี่อาจเป็นฤดูกาลแรกในรอบหลายปีที่ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ได้อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว หลังจากพวกเขาพ่ายคาบ้านให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และฟอร์มตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขาดหายไปของ โรดรี้ กองกลางคนสำคัญที่บาดเจ็บ ส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า เก็บชัยชนะได้เพียง 1 นัดจาก 11 เกมหลังสุดในทุกรายการ สถานการณ์นี้ทำให้ เชลซี สามารถโฟกัสที่การไล่ล่าแชมป์ร่วมกับ ลิเวอร์พูล โดยไม่ต้องพะวงกับ แมนฯ ซิตี้ อีกต่อไป
3. โคล พาลเมอร์ ตัวแปรเกมรุกที่สำคัญ
การมีนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างได้คือสิ่งที่ทำให้ เชลซี น่ากลัว และในฤดูกาลนี้ โคล พาลเมอร์ กลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญ ดาวเตะวัย 22 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงไปแล้ว 11 ประตู ในพรีเมียร์ลีก ตามหลังเพียงแค่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เท่านั้น นอกจากความเฉียบขาดในการทำประตู พาลเมอร์ ยังเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้มากที่สุดในลีกด้วย
พาลเมอร์ ก้าวขึ้นมาแบกรับภาระเกมรุกของ เชลซี ได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะยังหนุ่มแน่น แต่เขาแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความมั่นใจในสนาม ซึ่งหากรักษาฟอร์มการเล่นได้ต่อเนื่อง เขานี่แหละจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้ เชลซี เบียดแย่งแชมป์กับ ลิเวอร์พูล จนถึงโค้งสุดท้าย
4. เชลซี ไม่มีภาระบอลยุโรปให้กวนใจ
ความได้เปรียบสำคัญของ เชลซี คือพวกเขาไม่ได้เล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งทำให้ทีมสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับ พรีเมียร์ลีก ได้เต็มที่ ต่างจาก ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ที่ต้องลงเล่นในถ้วยยุโรปและหมุนเวียนนักเตะมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น มาเรสก้า ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการล่าแชมป์ลีก ด้วยการไม่ใส่ชื่อ โคล พาลเมอร์ ในทีมชุดลุยศึก คอนเฟอเรนซ์ ลีก เพื่อเก็บความสดของนักเตะเอาไว้สำหรับเกมพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ แถมยังกล้าโรเตชันนักเตะ 11 ตำแหน่งในเกมยุโรป ซึ่งแตกต่างจาก ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ที่ต้องพึ่งพาตัวหลักอย่าง โม ซาลาห์ และ บูคาโย่ ซาก้า อย่างหนัก
5. ขุมกำลังที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น
เชลซี คือทีมที่มีขุมกำลังเชิงลึกและสามารถแบ่งทีมออกเป็นสองชุดได้อย่างสบายๆ ด้วยการลงทุนซื้อนักเตะมหาศาล ทำให้ มาเรสก้า สามารถหมุนเวียนผู้เล่นลงสนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ทีมอื่นๆ อย่าง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ดูเหมือนจะยังพึ่งพาตัวหลักอยู่เป็นส่วนใหญ่
ฤดูกาลนี้ เชลซี ใช้งานนักเตะไปแล้วถึง 23 คน และแม้แต่ตัวสำรองอย่าง มาร์ค กิว หรือ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ต่างก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำประตูรวมกันไปแล้วถึง 15 ลูก ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและความพร้อมของทีมในทุกตำแหน่ง
หาก ลิเวอร์พูล ยังคงสะดุดอีกสัก 2-3 เกม เชื่อได้เลยว่า เชลซี จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอย และมีโอกาสทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกกลับมาครองอีกครั้ง
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
