หลังจากการปลดกลางอากาศของ เอริค เทน ฮาก ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เลือกให้ รูเบน อโมริม โค้ชมากความสามารถชาวโปรตุกีส เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม พร้อมความหวังว่าจะฟื้นฟูทีมให้กลับมาผงาดอีกครั้งในยุคหลังหมดยุค เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
แม้จะมาพร้อมความคาดหวังสูง แต่การเริ่มต้นของ อโมริม ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับไม่ได้เป็นไปตามที่แฟนบอล “เร้ด อาร์มี่” คาดหวัง เขาสามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 1 เกมจาก 4 นัดแรกในลีก ทำให้สถิติการเริ่มต้นของเขากลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดของกุนซือ แมนยูไนเต็ด หลังยุคเซอร์อเล็กซ์
เมื่อเทียบกับกุนซือในอดีต ไม่ว่าจะเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่สามารถเก็บได้ถึง 9 และ 12 คะแนนตามลำดับใน 4 เกมแรกของพวกเขา หรือแม้กระทั่งกุนซือชั่วคราวอย่าง ราล์ฟ รังนิก และ ไรอัน กิ๊กส์ ที่เก็บได้ 10 และ 7 คะแนนตามลำดับ ผลงานของ อโมริม ที่เก็บได้เพียง 4 คะแนนในช่วงแรกนี้ ยิ่งสร้างความกังวลให้กับแฟนบอล
การเปรียบเทียบสถิติ 4 เกมแรกของกุนซือหลังยุคเซอร์อเล็กซ์
- เดวิด มอยส์: 7 คะแนน
- ไรอัน กิ๊กส์: 7 คะแนน
- หลุยส์ ฟาน กัล: 5 คะแนน
- โชเซ่ มูรินโญ่: 9 คะแนน
- โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: 12 คะแนน
- ไมเคิ่ล คาร์ริค: 4 คะแนน (*คุมเพียง 2 เกมในลีก)
- ราล์ฟ รังนิก: 10 คะแนน
- เอริค เทน ฮาก: 6 คะแนน
- รุด ฟาน นิสเตลรอย: 4 คะแนน (*คุมเพียง 2 เกมในลีก)
- รูเบน อโมริม: 4 คะแนน
ความคาดหวังและอนาคตของอโมริม
แม้สถิติเบื้องต้นจะไม่ได้น่าประทับใจ แต่ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ อโมริม ในการปรับตัวเข้าสู่ลีกที่ท้าทายที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก ความสามารถของเขาที่เคยนำทีมคว้าความสำเร็จในโปรตุเกสยังคงเป็นที่ยอมรับ และมีโอกาสที่เขาจะพลิกสถานการณ์ได้หากมีเวลาและการสนับสนุนจากสโมสร
แฟนบอล “ปีศาจแดง” ยังคงตั้งคำถามถึงแท็กติกและความสามารถในการแก้ปัญหาหน้างานของเขา แต่สิ่งสำคัญคือการให้เวลาและโอกาสที่เหมาะสมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา