แมนฯ ซิตี้ ย่ำแย่! 5 ปัญหาใหญ่ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องรีบแก้ไข ก่อนฤดูกาลพังไม่เป็นท่า

สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เรือใบสีฟ้า” กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เมื่อฟอร์มของทีมดิ่งลงเหวอย่างต่อเนื่อง ผลงานล่าสุดเสมอ เฟเยนูร์ด 3-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งที่นำไปก่อน 3-0 สะท้อนให้เห็นปัญหาภายในที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ แมนฯ ซิตี้ ไร้ชัยชนะมาแล้วถึง 6 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยแพ้ถึง 5 นัด ซึ่งนี่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของทีมที่เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและทีมเต็งแชมป์ยุโรปอีกต่อไป

การแก้ไขสถานการณ์นี้กลายเป็นโจทย์ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมระดับโลกต้องรีบลงมือทำก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะเกมถัดไปต้องบุกเยือน ลิเวอร์พูล ซึ่งอยู่ในฟอร์มร้อนแรงในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง การถูกทีม “หงส์แดง” เล่นงานอย่างหนักอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ต่อไปนี้คือ 5 ปัญหาใหญ่ที่กวาร์ดิโอล่าต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากหวังจะพา “เรือใบสีฟ้า” กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

1. ขาดโรดรี้ เหมือนขาดใจ

การขาด โรดรี้ ผู้เล่นกองกลางตัวรับที่เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของแมนฯ ซิตี้ ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทีมไม่มีใครสามารถทดแทนบทบาทการคุมเกม การป้องกันเกมสวนกลับ และการตัดเกมของคู่แข่งได้อย่างสมบูรณ์

โรดรี้ ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัล บัลลงดอร์ 2024 คือนักเตะที่สร้างสมดุลให้กับทีมมาตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขามีความสามารถในการปั้นเกมรุกและช่วยลดภาระให้กับแนวรับ เมื่อไม่มีเขาในสนาม เกมกับ สเปอร์ส ที่พ่ายไป 0-4 และเกมเสมอเฟเยนูร์ดคือภาพสะท้อนของปัญหานี้อย่างชัดเจน

เป๊ปอาจต้องหาทางเลือกใหม่ เช่น การใช้ จอห์น สโตนส์ หรือ มานูเอล อาคานจี ในตำแหน่งนี้ชั่วคราว แม้จะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่หากไม่สามารถดึงฟอร์มที่ดีที่สุดของนักเตะมาได้ การกลับมาของโรดรี้อาจช้าเกินกว่าที่ทีมจะฟื้นตัวทัน

2. การพึ่งพาฮาลันด์มากเกินไป

แม้ว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ จะยังคงเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 12 ประตู และทำไปแล้ว 17 ประตูจาก 18 นัดในทุกรายการ แต่ผลงานโดยรวมของเขากลับลดลงอย่างน่ากังวล

บางนัด ฮาลันด์แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกม และเมื่อเขาฟอร์มตกหรือโชคไม่เข้าข้าง ทีมก็ขาดความหลากหลายในเกมรุกโดยสิ้นเชิง นี่คือสิ่งที่เป๊ปต้องรีบแก้ไขโดยการยกระดับผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ เช่น แจ็ค กรีลิช และ ฟิล โฟเด้น ให้มีบทบาทในการจบสกอร์มากขึ้น

3. แนวรับที่เปราะบาง

หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ชัดเจนที่สุดคือเกมรับที่รั่วไหลอย่างน่าตกใจ โดย 6 นัดหลังสุด แมนฯ ซิตี้ เสียไปถึง 17 ประตู ตัวเลขนี้ไม่สมกับทีมที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็น “ป้อมปราการเหล็ก”

การเสียประตูถึง 3 ลูกในเกมที่นำเฟเยนูร์ด 3-0 แสดงถึงปัญหาในด้านสมาธิและการประสานงานในแนวรับ เป๊ปอาจต้องพึ่งพา รูเบน ดิอาส ที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บให้เป็นศูนย์กลางในการปรับจังหวะเกมรับ หากเขาไม่สามารถสร้างความแข็งแกร่งในแนวรับได้ เกมกับลิเวอร์พูลอาจกลายเป็นฝันร้ายสำหรับทีม “เรือใบสีฟ้า”

4. ขุมกำลังที่เริ่มโรยรา

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นตัวหลักในทีมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีนักเตะ 12 รายที่จะอายุมากกว่า 30 ปีในฤดูกาลหน้า ซึ่งส่งผลต่อความสดและความเร็วในการเล่นของทีม

ผู้เล่นอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ เควิน เดอ บรอยน์ แม้จะยังคงมีคุณภาพ แต่การใช้งานพวกเขาอย่างต่อเนื่องอาจเป็นการผลักดันร่างกายเกินขีดจำกัด เป๊ปอาจต้องมีการหมุนเวียนผู้เล่นหรือปรับบทบาทของพวกเขาในสนามเพื่อให้ทีมรักษาความสมดุล

5. คดีละเมิดกฎการเงินที่สร้างแรงกดดัน

อีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศในทีมเต็มไปด้วยความกังวลคือข้อกล่าวหาละเมิดกฎการเงิน 115 ข้อที่ พรีเมียร์ลีก ตั้งข้อหา การตัดสินที่ยังคาราคาซังนี้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะ

แม้แมนฯ ซิตี้จะปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่น แต่ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลต่อสมาธิและผลงานของทีมอย่างปฏิเสธไม่ได้ สิ่งที่กวาร์ดิโอล่าและทีมทำได้ตอนนี้คือการมุ่งมั่นในสนาม และปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นไปตามขั้นตอน

สรุป

แมนฯ ซิตี้กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในยุคของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญว่าพวกเขาจะสามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งหรือไม่ เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือแก้ไขทันที

ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา