แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคการคุมทีมของ รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือขัดตาทัพผู้มากประสบการณ์ สานต่อผลงานไร้พ่ายได้สำเร็จ แม้จะพลาดการคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นเกมที่สอง หลังเสมอกับ เชลซี 1-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเกมนี้ แมนยู เป็นฝ่ายนำไปก่อนจากลูกโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก่อนที่ มอยเซส ไกเซโด้ จะยิงตีเสมอและแบ่งแต้มให้ทีมเยือนอย่างยุติธรรม
1. ฮอยลุนด์ และ มาซราวี คืนสู่ 11 ตัวจริง
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ฟาน นิสเตลรอย ปรับโผผู้เล่นตัวจริงสามตำแหน่งจากนัดที่เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 5-2 ในศึก คาราบาวคัพ เมื่อกลางสัปดาห์ โดยส่ง อ็องเดร โอนาน่า กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง พร้อมเรียกใช้ นุสแซร์ มาซราวี ลงเล่นแทน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ในขณะที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงแทน โจชัว เซิร์กซี่ สำหรับ คริสเตียน เอริคเซ่น ยังไม่พร้อมลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่แข้งตัวหลักอย่าง ลุค ชอว์, เมสัน เมาท์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ก็ยังคงหายหน้าหายตาไปจากรายชื่อตัวสำรองเช่นเดิม
2. เชลซี ปรับขุมกำลังเต็มรูปแบบ
ทางฝั่ง เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ได้เปลี่ยนรายชื่อ 11 ตัวจริงจากเกมที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ใน คาราบาวคัพ กลางสัปดาห์ที่แล้ว แต่ทีมชุดที่ใช้ในเกมนี้กลับมาเป็นขุมกำลังเดียวกับที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ในเกมลีกนัดก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เจดอน ซานโช่ ซึ่งย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แบบยืมตัวไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้เพราะกฎการยืมตัว แถมยังมีอาการป่วยด้วย
3. ดวลเดือด แฟร์นันด์ส 1 – ไกเซโด้ 1
หลังจากครึ่งแรกที่ทั้งสองทีมยังคงปิดสกอร์กันไม่ได้ เกมในครึ่งหลังเริ่มดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อ แมนยู เป็นฝ่ายเบิกสกอร์นำจากลูกโทษที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงเข้าไปไม่พลาด กลายเป็นประตูแรกของเขาใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ และยังเป็นการยิงจากจุดโทษครั้งที่ 20 ในลีกของเจ้าตัวตั้งแต่ประเดิมสนามในปี 2020 ซึ่งเทียบเท่ากับ โม ซาลาห์ ดาวยิงของ ลิเวอร์พูล
มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางทีมชาติเอกวาดอร์ของ เชลซี ไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นฉลองชัยง่ายๆ ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่สำคัญ ซึ่งนับเป็นประตูที่ 4 ของเขาในซีซั่นนี้ โดย 2 ประตูในนั้นเกิดขึ้นในเกมที่เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งแรกเมื่อยังค้าแข้งให้ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022
4. สถิติไร้พ่ายที่ต่อเนื่องของผีแดง
แม้ ฟาน นิสเตลรอย จะทำผลงานดีในสองนัดแรกหลังจากเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เอริค เทน ฮาก ที่โดนปลดเพราะการแพ้ เวสต์แฮม อย่างขัดแย้ง แต่ แมนยู ยังคงมีปัญหาการเก็บแต้มต่อเนื่อง โดยล่าสุดสะสมเพียง 12 แต้มจาก 10 เกมแรกในลีก ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1986/87 ขณะที่สถิติการทำประตูก็ย่ำแย่เช่นกัน เพียง 9 ประตูจาก 10 นัดเทียบเท่าฤดูกาล 1973/74
5. บททดสอบสุดท้ายก่อนส่งไม้ต่อ
การลงสนามสองนัดแรกของ ฟาน นิสเตลรอย ต้องถือว่าเขาทำได้ไม่เลว และยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในบ้านเมื่อเจอทีมจากเมืองหลวงติดต่อกันเป็นปีที่ 12 อย่างไรก็ตาม เกมต่อไปจะเป็นบททดสอบสำคัญในศึก ยูโรปาลีก ที่ต้องเจอกับ พีเอโอเค วันที่ 7 พ.ย. ก่อนปิดท้ายสัปดาห์ด้วยการเผชิญหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ ในลีกอีกครั้งที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด การพบแฟนบอล 4 นัดติดทำให้การคุมทีมของเขาไม่ต่างจากมหากาพย์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา