สโมสรฟุตบอลคริสตัล พาเลซ Crystal Palace หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเล่นของแฟนบอลชาวไทย คือ พระราชวังแก้ว ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1905 โดยสนามเหย้าของสโมสร คือ เซลเฮิร์สต์พาร์ค คริสตัล พาเลซ เอฟซี เคยลงแข่งขันในฟุตบอลอังกฤษ ดิวิชัน 1 หรือปัจจุบันถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่าพรีเมียร์ลีก รวมทั้งหมด 34 ครั้ง ปัจจุบันเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งสโมสรฟุตบอลคริสตัล พาเลซ ถูกจัดให้เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของเมืองคริสตัล พาเลซ โดยมีผลงานที่น่าสนใจพอสมควร
ประวัติความเป็นมาของสโมสรคริสตัล พาเลซ
ต้องย้อนเวลากลับไปในปี ค.ศ. 1905 ได้มีการจัดตั้งสโมสรคริสตัล พาเลซ ขึ้นมามีระยะเวลานานถึง 113 ปี มาแล้ว มีการใช้งานสนาม Selhurst Park ในการแข่งขันฟุตบอล ตั้งอยู่ในเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษ ถือว่าในเมืองแห่งนี้มีสโมสรฟุตบอลมืออาชีพจำนวนมาก และสโมสรฟุตบอลคริสตัล พาเลซ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ทางสโมสรถือว่าไม่ได้มีความเป็นมาหรือประวัติที่ยิ่งใหญ่ เป็นสโมสรขนาดเล็กไปจนถึงระดับกลางเท่านั้น มีการปรับแต่งสภาพสนามให้สามารถรองรับแฟนบอลได้มากขึ้น โดยชื่อของทางสโมสรได้รับแรงบันดาลใจมาจากตึกสูง
ปี ค.ศ. 1851 The Great Exhibition ที่มีการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมหรือการทำอุตสาหกรรมภายในเมือง เรียกได้ว่าการนำชื่อและความพิเศษของเมืองมาเป็นชื่อสโมสร กลายเป็นจุดเด่นสำคัญ โดยการเริ่มต้นของคริสตัล พาเลซ เป็นการแข่งขันจากดิวิชัน 2 เนื่องจากถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษในเวลานั้น ไม่ให้ลงแข่งขันในดิวิชัน 1 ช่วงปี ค.ศ. 1990-1991 และเคยขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ของลีกสูงสุด แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น และกลายเป็นจุดสูงที่สุดของสโมสรจนถึงทุกวันนี้
ผลงานการแข่งขันในรายการต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ภาพรวมและผลงานในอดีตของคริสตัล พาเลซ ที่น่าสนใจ คือ เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 1978-1979 สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 ของประเทศอังกฤษได้ครั้งแรก ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 73 ปี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเวลาที่ยาวนานที่สุดก็ว่าได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1993-1994 คว้ามแชมป์รายการนี้อีกครั้ง มีข้อมูลที่น่าสนใจของรายการแข่งฟูลเมมเบอร์สคัพ ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่สมาคมอังกฤษจัดขึ้น เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1985
โดยทางสโมสรสามารถคว้าแชมป์ได้ในปี ค.ศ. 1990-1991 และนี่ถือว่าเป็นถ้วยรางวัลทั้งหมดที่เคยได้รับมา จะเห็นได้ว่ามีน้อยมากเมื่อเทียบกับข้อมูลของสโมสรอื่น ๆ ในประเทศอังกฤษด้วยกัน ส่วนในสถานการณ์ล่าสุดก็ยังคงเป็นสโมสรระดับกลาง ไม่มีเงินทุนในการซื้อตัวนักเตะชื่อดังมากนัก ทำให้ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมที่พิเศษ แฟนบอลมากมายที่คอยสนับสนุนจึงแสดงออกถึงความต้องการเปลี่ยนแปลงและมุ่งสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง
โอลิเวอร์ กราสเนอร์ ผู้พาให้คริสตัล พาเลซ ยุคใหม่ เติบโตอย่างมั่นใจ
ความหวังของสโมสรกับการมาของโอลิเวอร์ กราสเนอร์ อายุ 49 ปี เรียกได้ว่าเป็นกระแสตื่นตัวจากแฟนบอลคริสตัล พาเลซอย่างมาก ลองมาดูประวัติความน่าสนใจของบุคคลนี้ ต้องดูพื้นฐานของสโมสร เรียกได้ว่าแทบจะไม่อยู่ในสายตาของสโมสรอื่น ๆ เริ่มจากมีประสบการณ์เป็นถึงผู้อำนวยการกีฬาแอลเอเอสเค ลินซ์ ทำให้มีมุมมองและความหลากหลายมากกว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลทั่วไป อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับรังนิกซ์อีกด้วย เรียกได้ว่าพร้อมที่จะขึ้นมาคุมสโมสรอย่างแท้จริง พาสโมสรโวล์สบวร์ก คว้าตั๋วไปเล่นแข่งขันฟุตบอลยุโรป ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้าไปคุม
โดยเป็นการแข่งขันยูโรปาลีก และในเวลาต่อมาพัฒนาขึ้นไปแข่งขันกับทางยูฟ่าแชมป์เปียนลีก หนึ่งในฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของทางทวีปยุโรป รวมไปถึงฤดูกาลเดียวกันยังพาสโมสรจบอันดับที่ 4 กลายเป็นการแจ้งเกิดในฐานะผู้จัดการทีมคนเก่ง และได้ย้ายไปคุมสโมสรไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต และสร้างประวัติศาสตร์เอาไว้โดยการลงแข่งขัน 13 นัด ในการแข่งขันยูโรปาลีก ไม่มีการแพ้ให้กับสโมสรใดเลย ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น ยังเคยพาสโมสรแห่งนี้บุกไปอัดยอดสโมสรอย่างเสือใต้ หรือบาเยิร์น มิวนิค และเป็นการชนะครั้งแรกในรอบ 21 ปี อีกด้วย
หลังจากจบการคุมสโมสรไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต มีข่าวหนาหูว่ามีการทาบทามจากบาเยิร์น มิวนิค แต่ทางด้านของเจ้าตัวกลับปฏิเสธดีลในครั้งนั้น และเลือกที่จะเข้ามาคุมคริสตัล พาเลซ นักข่าวมีการวิเคราะห์ว่าการเลือกมาจากความท้าทายและอิสระในการบริหาร ทุกข้อมูลและประวัติที่น่าสนใจ ที่ทำให้กลายเป็นอีกเรื่องราวที่เหล่าแฟนบอลคริสตัล พาเลซ พร้อมที่จะลุ้นในการประสบความสำเร็จอีกครั้ง
สรุปสถานการณ์โดยรวมของสโมสรคริสตัล พาเลซ ในปี 2024
สโมสรคริสตัล พาเลซ อาจจะไม่ใช่สโมสรที่มีชื่อเสียงเท่าไหร่นัก มีฟอร์มโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ต้องหนีตกชั้น แต่ทว่าในปีล่าสุด สามารถที่จะพัฒนาความสามารถ ช่วยให้จบอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางพรีเมียร์ลีกได้ การแยกทางกับผู้จัดการทีมรอย ฮ็อดจ์สัน และมีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ที่เคยคุมสโมสรชั้นนำในประเทศเยอรมันอย่างไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต เชื่อว่าแฟนบอลมีความหวังในฤดูกาลต่อไปมากขึ้นแน่นอน โดยรวมแล้วมีสไตล์ที่การเล่นบอลสวยงาม ช่วยให้สโมสรเดิมจบในอันดับที่สูงได้ และยังพาสโมสรไปแข่งขันฟุตบอลยุโรปได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ารูปแบบของฟุตบอลลีกเยอรมันกับลีกอังกฤษจะแตกต่างกัน และนี่เป็นข่าวสารล่าสุดของคริสตัล พาเลซ