จากเซนต์ มาร์ค สู่การเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอังกฤษ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ Manchester City เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างมากในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ถูกเรียกจากแฟนคลับชาวไทยว่า “เรือใบสีฟ้า” ตามสัญลักษณ์ของสโมสร โดยมีสนามเหย้าที่ Etihad Stadium และมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ทีมนี้มีแฟนคลับที่นิยมและได้การยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของทีมดัง กว่าจะมาเป็นตำนานต้องผ่านอะไรมาบ้าง?

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา

จุดเริ่มต้นของสโมสร คือ การก่อตั้งในปี ค.ศ. 1880 มีการรวมกลุ่มสมาชิกของคริสตจักรเซนต์ มาร์ค ของประเทศอังกฤษ จัดตั้งสโมสรครั้งแรกภายใต้ชื่อสโมสรเซนต์ มาร์ค (เวสต์กอร์ตัน) ต่อมาในปี ค.ศ. 1887 มีการเปลี่ยนแปลงชื่ออีกครั้งเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก จนมาถึงปี ค.ศ. 1894 ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อสโมสรใหม่ และครั้งนี้ก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาจนถึงปัจจุบัน การเดินทางของสโมสรอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นเข้าสู่ลีกในปี 1892 ด้วยการแข่งขัน EFL ของประเทศอังกฤษในเวลานั้น แต่ทว่ากว่าจะก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์แรกต้องใช้เวลานานพอสมควร

ในปี ค.ศ. 1904 เป็นการคว้าแชมป์รายการ FA CUP หนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของประเทศอังกฤษ และหลังจากนั้นไม่มีการคว้าแชมป์อะไรอีกเลย แล้วเว้นว่างมานานถึง 56 ปี ต่อมาภายในปี ค.ศ. 1960 ชื่อของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์ลีก ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ และ FA CUP โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้จัดการทีมอย่างโจ เมอร์เซอร์ และมัลคอม อัลลิซัน เรียกได้ว่าสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับทีมและแฟนบอลได้อย่างถึงใจ แต่หลังจากนั้นก็กลับกลายเป็นฝันร้ายของแฟนบอล

เมื่อมีเหตุการณ์นัดชิงฟุตบอลถ้วย FA CUP ในปี ค.ศ. 1981 เปลี่ยนทีมที่เคยคว้าแชมป์ ตกอันดับลงไปถึง 3 ลีก และกลายเป็นทีมที่ถูกลืม กว่าที่จะกลับเข้าสู่เส้นทางลีกสูงสุดได้ ก็เข้าไปปี ค.ศ 2022-2023 เรียกได้ว่าเป็นระยะที่สโมสรต้องเจอกับฝันร้ายมายาวนาน แต่การกลับขึ้นมาก็ไม่ใช่จุดที่น่าสนใจ แต่กลับเป็นสโมสรที่อยู่ในระดับกลางตารางเท่านั้น จนมาในปี ค.ศ 2007 ชื่อของสโมสรเรือใบสีฟ้ากลับเป็นที่สนใจของแฟนบอลไทยอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนเจ้าของใหม่เป็นทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ด้วยจำนวนเงินมากกว่า 23 ล้านปอนด์ และนี่เองที่ทำให้สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แฟนบอลชาวไทยสนใจรับชมการแข่งขันมากขึ้น

ผลงานจากการเข้าแข่งขันและการคว้าแชมป์ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นอย่างไร?

ประวัติและการคว้าแชมป์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ โดยจะแบ่งเป็นการคว้าแชมป์ในประเทศอังกฤษ คือ

  • เริ่มต้นจากแชมป์ลีกสูงสุดหรือพรีเมียร์ลีก สามารถครองแชมป์ได้ถึง 10 สมัย โดยแบ่งเป็นปี ค.ศ.1936-1937 , ค.ศ.1967-1968 , ค.ศ.2011-2012 , ค.ศ.2013-2014 , ค.ศ.2017-2018 , ค.ศ.2018-2019 , ค.ศ.2020-2021 , ค.ศ.2021-2022 , ค.ศ.2022–2023 และค.ศ.2023-2024
  • ดิวิชั่น 2 หรือ EFL แชมเปียนชิป ครองแชมป์ได้ถึง 7 สมัย โดยแบ่งเป็นปี ค.ศ.1898-1899 , ค.ศ.1902-1903 , ค.ศ.1909-1910 , ค.ศ.1927-1928 , ค.ศ.1946-1947 , ค.ศ.1965-1966 และค.ศ.2001-2002
  • ลีกวัน หรือลีกระดับ 3 ของอังกฤษ สามารถครองแชมป์ได้ 1 สมัย โดยปี ค.ศ.1998-1999
  • การแข่งขัน FA CUP สามารถครองแชมป์ได้ 7 สมัย โดยแบ่งเป็นปี ค.ศ.1903-1904 , ค.ศ.1933-1934 , ค.ศ.1955-1956 , ค.ศ.1968-1969 , ค.ศ. 2021-2011 , ค.ศ. 2018-2019 และค.ศ. 2022-2023
  • การแข่งขัน EFL CUP สามารถครองแชมป์ได้ถึง 8 สมัย โดยแบ่งเป็นปี ค.ศ.1969-1970 , ค.ศ.1975-1976 , ค.ศ.2013-2014 , ค.ศ.2015-2016 , ค.ศ.2017-2018 , ค.ศ.2018-2019 , ค.ศ.2019-2020 และค.ศ.2020-2021
  • การแข่งขันแชริตีชีลด์หรือเอฟเอคอมมิวนิตี้ชีลด์ ครองแชมป์ได้ 6 สมัย แบ่งเป็นปี ค.ศ.1937 , ค.ศ.1968 , ค.ศ.1972 , ค.ศ.2012 , ค.ศ. 2018 และ ค.ศ.2019
  • ต่อมาจะเป็นการคว้าแชมป์ระดับยุโรป คือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สามารถครองแชมป์ได้ 1 สมัย ในปี ค.ศ.2022-2023 และยังมีการคว้ารองแชมป์ในปี ค.ศ.2020-2021
  • ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ สามารถครองแชมป์ได้ 1 สมัย ในปี ค.ศ.1969-1970
  • ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สามารถครองแชมป์ได้ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2023
  • การแข่งขันระดับโลก สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถครองแชมป์รายการ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ในปี ค.ศ. 2023 จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ก่อตั้งจะมีช่วงเวลาที่ตกต่ำและขึ้นสูงที่สุดจากการคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ

การเปลี่ยนแปลงที่นำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สู่เบอร์ 1 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การเปลี่ยนแปลงนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากประวัติและความเป็นมา จะเห็นได้ว่าเป็นแค่สโมสรที่อยู่ในระดับกลางเท่านั้น แต่การเปลี่ยนเจ้าของทีมทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในปีที่ 1995 สโมสรได้มีการเปิดให้สามารถซื้อ-ขายหุ้นได้ในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้รูปแบบของสโมสรมีการถือครองหุ้นที่หลากหลาย มีเม็ดเงินในการพัฒนา จนมาถึงปี ค.ศ. 2006 มีผู้ถือหุ้นจำนวนมากของสโมสร ได้ทำการขายหุ้นทั้งหมด  เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เข้ามาซื้อหุ้นถึง 90% และก้าวขึ้นมาสู่ผู้บริหารและประธานสโมสรอย่างเป็นทางการ

มีการปรับเปลี่ยนและลงทุนมากมาย ช่วยให้แผนการเล่นของสโมสรดีขึ้นในระดับหนึ่ง เช่น การให้เงินทุนกับผู้จัดการทีมอย่างสเวน เยอราน เอริกซอน ซื้อตัวนักเตะด้วยจำนวนเงิน 30 ล้านปอนด์ และถือว่าเป็นสถิติการใช้เงินสูงที่สุดในเวลานั้น เมื่อมาในปี ค.ศ.2008 มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรอีกครั้ง  และยังตรงกับวันซื้อขายนักเตะวันสุดท้าย เนื่องจากว่าทักษิณ ชินวัตร เกิดเรื่องคดีความทางการเมือง ทำให้อาบูดาบี มหาเศรษฐีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามาถือสิทธิ์เป็นเจ้าของสโมสรแทน และการเปิดตัวนักเตะอย่างโรบิญโญ จากสโมสรชั้นนำเรอัลมาดริด ที่ซื้อมาในมูลค่าสูงถึง 32.5 ล้านปอนด์ และนี่เองที่ถือว่าเป็นยุคใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่  มาตรฐาน และการเพิ่มจำนวนของแฟนบอลจากทั่วโลกมากขึ้น จึงกลายมาเป็นสโมสรอันดับ 1 ของประเทศอังกฤษในเวลาต่อมา  

ผู้มาเปลี่ยนแปลงทีมกลางตาราง สู่ยอดทีมปี 20162024

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ 2016 เพราะการเข้ามาของเปป กวาร์ดิโอลา จากสเปนสู่อังกฤษ ด้วยความสามารถเดิมที่พาความยิ่งใหญ่มาให้กับสโมสรบาร์เซโลน่า และความท้าทายใหม่ที่แตกต่าง เปป ได้เลือกเข้ามาคุมสโมสรแห่งนี้ จึงทำให้กลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น สามารถพาสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่ถือว่าเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษได้สำเร็จ และยิ่งไปกว่านั้น พร้อมกับการทำสถิติสโมสรที่มีแต้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยคะแนน 100 รวมไปถึงยังมีการสร้างสถิติใหม่อีกมากมายไว้ในลีกแห่งนี้  พร้อมการมุ่งหน้าคว้าแชมป์อีกมากมาย

ทำให้กลายเป็นสโมสรที่ทั่วโลกจับตามองมากที่สุด มาในปี ค.ศ 2018-2019 เปป ได้พาสโมสรเข้าสู่เส้นทางทริปเปิ้ลแชมป์ จากการแข่งขัน 3 รายการใหญ่  เริ่มจากพรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ และ FA CUP การกระทำในครั้งนั้นถือว่าเป็นครั้งแรกของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถป้องกันแชมป์ลีกสูงสุด และเป็นสโมสรฟุตบอลชายที่สามารถคว้าแชมป์ภายในประเทศและเป็นฤดูกาลเดียวกัน กลายเป็นความยิ่งใหญ่และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สโมสร ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาสโมสรจะเจอกับปัญหาไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ หรือการใช้เงินซื้อตัวนักเตะเกินสมดุลก็ตาม ทำให้มีการห้ามแข่งขันรายการฟุตบอลยุโรป 2 ฤดูกาล

แต่ทว่าทางสโมสรได้มีการยื่นคำร้องขอกับทางศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา และมีการพิจารณาข้อกล่าวหา พร้อมการลงโทษปรับเงินจำนวนถึง 30 ล้านยูโร และมีการลดเหลือ 10 ล้านยูโร การที่จะเปลี่ยนแปลงฟอร์มโดยรวมของสโมสร จะต้องมาจากผู้จัดการทีม และการซื้อตัวนักเตะใหม่เข้ามา  ซึ่งพื้นฐานของเจ้าของใหม่ที่มีเงินทุนมหาศาล ทำให้การสร้างความสำเร็จนี้ เป็นที่กล่าวหาไปทั่ววงการฟุตบอลทั่วโลก แต่ทว่าทางเปป ก็คือสุดยอดผู้จัดการทีมที่สามารถพัฒนานักเตะและปรับเปลี่ยนแผนการเล่นได้ดุดัน ช่วยยกระดับสโมสรแห่งนี้ ได้การยอมรับจากทั่วโลก การมีเงินทุนมากมายอย่างเดียว แต่ไม่มีผู้จัดการทีมที่ดี จะไม่มีทางจะก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะมีหลากหลายสโมสรทั่วโลกที่มีการเปลี่ยนเจ้าของแต่กลับทำสโมสรไม่ได้ดีจริงก็มีมาก  เพราะฉะนั้นการเข้ามาของเปป จึงกลายเป็นกุญแจที่เติมเต็มให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างแท้จริง

สรุปภาพรวมการแข่งขันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตารางพรีเมียร์ลีก 2024

สรุปฤดูกาล 2023-2024 สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรักษาความยิ่งใหญ่ในประเทศอังกฤษไว้ได้ สามารถครองแชมป์พรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 129 ของการแข่งขัน แต่ภาพรวมตั้งแต่ต้นฤดูกาล ยังถือว่าเป็นรองสโมสรอาร์เซนอลของเมืองลอนดอน ด้วยเหตุผลที่การแข่งขันน้อยกว่า จึงอยู่ในอันดับที่ 2 อย่างยาวนาน แต่การรักษามาตรฐานสโมสรยังมีอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้สุดท้ายแล้วสามารถทำคะแนนขึ้นนำและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ ในส่วนของรายการแข่งขันอื่น ๆ ของประเทศอังกฤษ ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ ในส่วนของระดับสโมสรยุโรป ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก็มาถึงได้แค่รอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้พลาดไปอย่างน่าเสียดาย การเริ่มต้นและพร้อมที่จะลุ้นแชมป์ในทุกรายการแข่งขัน กลับจบด้วย 1 แชมป์ โดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่ได้ตกต่ำมากนัก เนื่องจากยังเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร เชื่อว่าถ้าเปป ยังคงเป็นผู้จัดการสโมสรแห่งนี้ ทีมจะยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้และลุ้นแชมป์ได้ตลอดแน่นอน