
จาก : ผลบอลสด ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา ระหว่าง โบโลญญ่า 1-1 อินเตอร์ มิลาน วันนี้ 20/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา รอบรองชนะเลิศคู่นี้ ตามเช็กจาก ผลบอลสด สายดึก แฟนบอลได้ดูเกมที่อารมณ์แกว่งตลอด 120 นาที ก่อนจะต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นโบโลญญ่าที่ใจแข็งกว่า ยิงเข้า 3 จาก 5 คน เฉือนอินเตอร์ มิลาน 3-2 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ซิวตั๋วเข้าชิงกับนาโปลีไปแบบสุดระทึก ขณะที่เนรัซซูรี่ต้องกลับบ้านมือเปล่าทั้งที่รูปเกมเหนือกว่าแต่ปิดบัญชีไม่ได้
⏱️ ครึ่งแรก อินเตอร์นำเร็ว โบโลญญ่าเก็บสติยิงคืนจากจุดโทษ
เริ่มเกมมาเพียงนาทีที่ 2 อินเตอร์ มิลาน ออกสตาร์ตดุสมชื่อทีมลุ้นแชมป์ บอลบุกทางกราบซ้ายก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ A. Bastoni โฉบโหม่ง/จิ้มจ่อๆ ส่งบอลเสียบตาข่าย พาทีมเยือนนำ 1-0 ตั้งแต่น้ำยังไม่ทันอุ่น โบโลญญ่าตั้งหลักไม่ทัน เกมรับยังมีช่องให้แดนหน้าของอินเตอร์ใช้ความเร็วเจาะซ้ำอยู่พักใหญ่
หลังเสียประตู ลูกทีมของวินเชนโซ่ อิตาเลียโน่เริ่มดันไลน์สูง กลับมาไล่เพรสแดนกลางให้แน่นขึ้น ใช้ความขยันของ N. Moro กับ T. Pobega ไล่บี้สามมิดฟิลด์อินเตอร์ ไม่ให้ต่อบอลสบายๆ จังหวะเกมรุกเน้นออกข้างไปที่ R. Orsolini และ F. Bernardeschi ค่อยๆ ตั้งลำหาช่องเจาะ เกมเริ่มสูสีขึ้นเรื่อยๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญของครึ่งแรกมาในนาทีที่ 35 เมื่อ E. Holm เติมเกมขึ้นมาทางขวาแล้วโดนทำฟาวล์ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนเป่าให้เป็นจุดโทษของโบโลญญ่า และเป็น Orsolini รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตะบันเข้าไปแบบเฉียบขาดตีเสมอ 1-1 ทำให้บรรยากาศในสนามเดือดทันที ช่วงท้ายครึ่งแรกโบโลญญ่าเริ่มได้ใจ แต่ยังเจาะเพิ่มไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกที่สกอร์ 1-1
🔁 ครึ่งหลัง–ต่อเวลา อินเตอร์เดินหน้าแต่เจอวันพระของราวายญ่า
ครึ่งหลัง อินเตอร์เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าชัดเจน เล่นตามสไตล์ต่อบอลเนียนตา ใช้คู่หัวหอก M. Thuram กับ A. Bonny ดึงแนวรับเจ้าถิ่นวิ่งกันหัวหมุน ขณะที่วิงแบ็กทั้ง L. Henrique และ F. Dimarco เติมสูงตลอด แต่ทุกลูกที่หลุดถึงกรอบกลับถูก Federico Ravaglia มือกาวโบโลญญ่าเซฟเอาไว้ได้หมด
นาที 58 แฟนอินเตอร์แทบได้เฮเมื่อ Bonny ไปเรียกจุดโทษได้ในกรอบ ก่อน VAR เรียกเช็กและยกเลิก ทำให้สกอร์ยังเท่าเดิม และเกมยังคงตึงมือทั้งสองฝั่ง ช่วงท้ายโค้ชทั้งสองคนจัดเต็ม เปลี่ยนตัวเกมรุกลงมาชุดใหญ่ โบโลญญ่าปล่อย Ciro Immobile, Lewis Ferguson, Giovanni Fabbian ลงมาช่วยยกระดับเกมสวนกลับ ส่วนอินเตอร์ส่ง Davide Frattesi, Andy Diouf และ Lautaro Martínez ลงมาล่าตาข่าย
แม้รูปเกมบุกของอินเตอร์จะดูดีกว่า แต่ความเฉียบคมจังหวะสุดท้ายยังไม่มา พอมีช่อง Ravaglia ก็บินไปปัด จบ 90 นาทีที่สกอร์ 1-1 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที ซึ่งภาพเดิมยังซ้ำ อินเตอร์ไล่บุก ส่วนโบโลญญ่าตั้งรับแน่นและหาจังหวะโต้กลับ แต่ไม่มีประตูเพิ่ม สุดท้ายต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นโบโลญญ่าที่แม่นกว่า ยิงเข้า 3 ลูก ขณะที่อินเตอร์พลาดมากกว่า ส่งผลให้ทีมของ Italiano คว้าชัยเข้าชิงอย่างยิ่งใหญ่

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 โบโลญญ่า (4-2-3-1) – ผู้จัดการทีม: Vincenzo Italiano
ตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: 13 Federico Ravaglia (9.0)
- แบ็กขวา: 2 Emil Holm (7.0)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: 26 Jhon Lucumí (6.8), 14 Thomas Heggem (6.4)
- แบ็กซ้าย: 33 Juan Miranda (6.0)
- กองกลางตัวรับ: 6 Nikola Moro (6.4), 4 Tommaso Pobega (6.7)
- ตัวรุกขวา: 7 (c) Riccardo Orsolini (6.7)
- ตัวรุกกลาง: 21 Jens Odgaard (6.5)
- ตัวรุกซ้าย: 10 Federico Bernardeschi (6.5)
- ศูนย์หน้า: 9 Santiago Castro (6.6)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 11 Jonathan Rowe (7.3) แทน Bernardeschi นาที 40
- 28 Nicolò Cambiaghi (6.7) แทน Orsolini นาที 63
- 19 Lewis Ferguson (7.5) แทน Pobega นาที 75
- 80 Giovanni Fabbian (7.0) แทน Odgaard นาที 75
- 17 Ciro Immobile (6.9) แทน Castro นาที 75
ตัวสำรองไม่ได้ลง
Matteo Franceschelli, Massimo Pessina, Charalampos Lykogiannis, Lorenzo De Silvestri, Bodin Tomašević, Martin Vitík, Nadir Zortea, Ibrahim Sulemana, Benjamin Dominguez, Thijs Dallinga
สถานะบาดเจ็บ/เสี่ยงเจ็บก่อนเกม
Nicolo Casale (doubtful), Remo Freuler (out)
🔵 อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) – ผู้จัดการทีม: Cristian Chivu
ตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: 13 Josep Martínez (8.0)
- แผงหลังสามคน: 31 Yann Bisseck (6.3), 6 Stefan de Vrij (7.4), 95 Alessandro Bastoni (6.5)
- วิงแบ็กขวา: 11 Luis Henrique (6.4)
- วิงแบ็กซ้าย: 32 Federico Dimarco (6.5)
- กองกลางกลาง: 7 Piotr Zieliński (7.0), 22 Henrikh Mkhitaryan (6.4), 23 (c) Nicolò Barella (6.3)
- กองหน้าคู่: 9 Marcus Thuram (6.7), 14 Ange Bonny (5.7)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 16 Davide Frattesi (6.7) แทน Mkhitaryan นาที 71
- 17 Andy Diouf (6.9) แทน Henrique นาที 71
- 10 Lautaro Martínez (6.8) แทน Thuram นาที 71
- 8 Petar Sučić (6.6) แทน Zieliński นาที 86
ตัวสำรองไม่ได้ลง
1 Yann Sommer, 60 Alain Taho, 25 Manuel Akanji, 30 Carlos Augusto, 43 Matteo Cocchi, 50 Simone Cinquegrano, 20 Hakan Çalhanoğlu, 57 Iwo Kaczmarski, 94 Francesco Pio Esposito
สถานะบาดเจ็บ/เสี่ยงเจ็บก่อนเกม
Matteo Darmian (doubtful), Raffaele Di Gennaro (doubtful), Hakan Çalhanoğlu (doubtful)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ถ้า วิเคราะห์บอล จากรูปเกมทั้ง 120 นาที จะเห็นชัดว่า อินเตอร์เป็นฝ่ายคุมจังหวะด้วยระบบ 3-5-2 ที่เน้นครองบอลและต่อเกมจากหลังขึ้นหน้าอย่างเป็นระบบ สามเซ็นเตอร์แบ็กช่วยกันต่อบอลจากด่านหลัง ก่อนสลับโยนกว้างไปให้วิงแบ็กทั้งสองฝั่งเติมขึ้นสูง สร้างสถานการณ์โอเวอร์โหลดด้านข้าง แล้วให้คู่หน้าหาช่องในเขตโทษ จุดแข็งของอินเตอร์คือการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลของ Thuram ที่คอยดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้มิดฟิลด์สอดขึ้นมากดดันแนวรับโบโลญญ่า
แต่จุดอ่อนคือจังหวะเข้าทำสุดท้ายที่ไม่คมพอ หลายครั้งบอลหลุดไปถึงกรอบเขตโทษแล้วยิงไปติดบล็อก หรือตรงตัว Ravaglia ซึ่งยืนตำแหน่งได้ยอดเยี่ยม ทำให้ความเหนือกว่าเรื่องการครองบอลไม่แปรเปลี่ยนเป็นสกอร์เพิ่ม และเมื่อเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เรี่ยวแรงของวิงแบ็กเริ่มตก ความหลากหลายในเกมรุกของอินเตอร์ก็ลดลงตามไปด้วย
ฝั่งโบโลญญ่าในระบบ 4-2-3-1 เน้นเกมรับเป็นหลัก เปลี่ยนรูปร่างเป็น 4-4-1-1 เวลาไม่ได้ครองบอล ปิดพื้นที่ตรงกลางด้วยคู่ห้องเครื่อง Moro – Pobega บีบให้คู่แข่งต้องออกด้านข้างก่อนค่อยหาจังหวะดักสวนกลับ จุดเด่นคือความมีวินัยของแนวรับทั้งสี่คนที่ยืนกันเป็นบล็อก ไม่หลุดตำแหน่งง่ายๆ ขณะที่ Orsolini และ Bernardeschi รับบทโอเพ่นเพลย์เมกเกอร์ริมเส้น ช่วยพาบอลออกจากแดนตัวเองแล้วแทงให้ Castro หรือ Immobile ไปลุ้นหนึ่งต่อหนึ่ง
เกมรับของโบโลญญ่าอาจดูเป็นฝ่ายตั้งรับเกือบตลอด แต่ทุกครั้งที่ได้สวนกลับพวกเขาอันตรายมาก จังหวะลากตัดเข้าในของ Orsolini และการสอดขึ้นมาของฟูลแบ็กอย่าง Holm ทำให้อินเตอร์ไม่กล้าดันสูงแบบไม่ระวัง เพราะพลาดเมื่อไหร่มีสิทธิ์โดนโต้กลับเจ็บๆ ทันที รูปแบบการเล่นแบบนี้เองที่พาเกมไปถึงจุดโทษ ซึ่งท้ายสุดฝั่งที่แน่นอนกว่าอย่างโบโลญญ่าก็เก็บชัย

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังเกมบอกชัดว่าอินเตอร์เป็นฝ่ายเดินหน้ากดดันมากกว่า ทีมเยือนมีโอกาสยิงทั้งสิ้น 14 ครั้ง เข้ากรอบ 7 เท่ากับโบโลญญ่า แต่ครองบอลเหนือกว่าชัดเจนถึง 61% ขณะที่เจ้าถิ่นครองบอลแค่ 39% ต้องใช้เกมรับตัวต่ำสวนกลับเป็นหลัก แม้จะถูกบุกอย่างต่อเนื่อง แต่โบโลญญ่ากลับมีประสิทธิภาพในพื้นที่สุดท้ายดีทีเดียว ยิงเข้ากรอบ 7 จาก 10 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าทุกครั้งที่มีโอกาสพวกเขาแทบไม่ทิ้งให้เสียเปล่า
เกมนี้แทบไม่มีดราม่าเรื่องใบเหลืองใบแดง เมื่อทั้งสองทีมเล่นกันค่อนข้างเคารพกัน ฟาวล์เพียง 9 ต่อ 10 ครั้ง ไม่มีใบเหลืองและใบแดงออกจากกระเป๋าผู้ตัดสินเลย ลูกล้ำหน้าของโบโลญญ่าเพียง 1 ครั้ง ตรงกันข้ามกับอินเตอร์ที่ล้ำหน้าถึง 5 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าคู่หัวหอกของเนรัซซูรี่พยายามวิ่งตัดไลน์หลังอยู่ตลอด ขณะที่ลูกเตะมุม อินเตอร์ได้มากกว่า 8 ต่อ 6 แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูชัยได้
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
⚽ 2′ อินเตอร์ มิลาน บุกนำ 1-0 จากจังหวะเติมเกมรุกและจบสกอร์ของ A. Bastoni หลังบอลจากแดนหน้าของ Thuram สร้างความปั่นป่วนในเขตโทษโบโลญญ่า
⚽ 35′ โบโลญญ่าได้จุดโทษ เมื่อ Emil Holm โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ หลังเช็ก VAR ผู้ตัดสินยืนยันคำตัดสิน
🥅 35′ Riccardo Orsolini รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็นตีเสมอ 1-1
🔁 40′ โบโลญญ่าปรับเกมรุก ส่ง Jonathan Rowe ลงมาแทน Bernardeschi เพื่อเพิ่มความเร็วริมเส้น
❌ 58′ อินเตอร์เหมือนจะได้จุดโทษคืนเมื่อ Ange Bonny ล้มในเขตโทษ แต่ VAR เช็กแล้วเปลี่ยนคำตัดสิน ยกเลิกจุดโทษ ทำให้สกอร์ยังเท่าเดิม
🔁 63′ โบโลญญ่าส่ง Nicolò Cambiaghi ลงแทน Orsolini เติมความสดในแนวรุกฝั่งขวา
🔁 71′ อินเตอร์เปลี่ยนทีเดียวสามคน ส่ง Davide Frattesi, Andy Diouf และ Lautaro Martínez ลงยกระดับเกมรุกแทน Mkhitaryan, Henrique และ Thuram
🔁 75′ โบโลญญ่าตอบโต้ด้วยการเปลี่ยนสามคนรวดเช่นกัน ส่ง Lewis Ferguson, Giovanni Fabbian และ Ciro Immobile ลงมาแทน Pobega, Odgaard และ Castro เพื่อเน้นเกมสวนกลับและเก็บบอลจังหวะสอง
🔁 86′ Petar Sučić ลงมาแทน Zieliński ให้พลังสดบริเวณกลางสนามฝั่งอินเตอร์ในช่วงท้ายต่อเวลา
🎯 ดวลจุดโทษท้ายเกม โบโลญญ่าทำได้แม่นยำกว่า ยิงเข้า 3 ประตู ส่วนอินเตอร์ยิงเข้าเพียง 2 ทำให้โบโลญญ่าชนะในการดวลโทษ 3-2 หลังเสมอในเวลา 1-1 ทะลุเข้าชิงซูแปร์โกปปาอีตาเลียนากับนาโปลี
⭐ Player of the Match – Federico Ravaglia
ตำแหน่งฮีโร่ของค่ำคืนนี้ต้องยกให้ Federico Ravaglia นายด่านโบโลญญ่าอย่างไร้ข้อกังขา เรตติ้งสูงลิ่วถึง 9.0 สะท้อนผลงานแบบวันพระของแท้ เขาเซฟลูกยิงอันตรายของอินเตอร์หลายครั้ง ทั้งลูกยิงไกลของมิดฟิลด์และช็อตจ่อๆ จากคู่หัวหอก ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการโดนแซงนำในช่วงสำคัญ
ไม่เพียงเท่านั้น Ravaglia ยังยืนระยะในช่วงต่อเวลาพิเศษได้อย่างมั่นคง ก่อนจะไปยืนข่มคู่แข่งในช่วงดวลจุดโทษ กดดันให้คนยิงของอินเตอร์พลาด จนสุดท้ายโบโลญญ่าชนะในสงครามประสาทหน้าเส้น 12 หลา เขาคือเหตุผลใหญ่ที่ทำให้แฟนๆ ฝั่งเจ้าถิ่นเฮกันลั่นเมื่อจบเกม และถูกเลือกเป็น Player of the Match อย่างสมศักดิ์ศรี
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนกัลโช่ เซเรีย อา และผลต่อซีซั่น
แม้เกมนี้จะเป็นบอลถ้วยและไม่เกี่ยวกับคะแนนในลีก แต่ผลเสมอในเวลา 1-1 ก่อนชนะจุดโทษของโบโลญญ่ามีผลทางจิตวิทยาเต็มๆ ต่อเส้นทางใน บ้านผลบอล ศึกกัลโช่ เซเรีย อา ซีซั่นนี้ โบโลญญ่าได้ความมั่นใจเพิ่มมหาศาลจากการล้มทีมระดับลุ้นแชมป์อย่างอินเตอร์ ทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวก่อนกลับไปลุยลีกเต็มไปด้วยพลังบวก นักเตะเชื่อมั่นในแท็กติกของ Italiano มากขึ้นว่า เกมรับแน่น–โต้กลับคม สามารถใช้สู้กับใครก็ได้
ฝั่งอินเตอร์ แม้คะแนนในตารางยังไม่เปลี่ยน แต่ความกดดันเรื่องการปิดเกมให้ได้เมื่อตัวเองเหนือกว่าคู่แข่งจะถูกพูดถึงอย่างหนัก การครองบอลเยอะ แต่ยิงไม่ชนะ เสียท่าพลาดถ้วยแชมป์ ย่อมทำให้ Chivu ต้องกลับไปปรับจูนเกมรุก เพื่อไม่ให้สถานการณ์ในตารางลีกแย่ลงเมื่อเจอเกมใหญ่ในเซเรีย อาต่อไป
📅 ตารางบอลซูแปร์โกปปาอีตาเลียนาและโปรแกรมบอลนัดถัดไป
จากภาพ โปรแกรมบอล หลังเกมระบุชัดว่า โบโลญญ่าจะต้องไปดวลกับนาโปลีในศึกซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 23/12 เวลา 02:00 น. ซึ่งถือเป็นโอกาสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสร หากสามารถปิดจ๊อบคว้าโทรฟี่เหนือแชมป์ลีกได้สำเร็จ
ด้านอินเตอร์ มิลาน ต้องรีบเปลี่ยนโหมดกลับสู่ศึกเซเรีย อา โดยมีเกมใหญ่กับอตาลันต้าในวันที่ 29/12 รออยู่ ขณะที่เกมกับเลชเช่ถูกเลื่อนออกไป ทำให้มีเวลาจัดระเบียบทีมใหม่พอสมควรหลังความผิดหวังในถ้วยซูเปอร์คัพครั้งนี้
📺 ติดตามบ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะเดือดของบอลอิตาลี ทั้งสกอร์สด รายงานจังหวะสำคัญ และอัปเดต บ้านผลบอล แบบเรียลไทม์ แวะมาเช็กทุกคืนได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเกาะติดทั้งบอลถ้วยและบอลลีกให้แบบครบเครื่อง ไม่พลาดทุกลูกยิง ทุกใบ VAR และทุกดราม่าหน้าเส้นเขตโทษ

