บ้านผลบอล สรุปหลังเกม โกปาเดลเรย์ ระทึกต่อเวลา! ฮีโร่ยาเรกินซาร์ซัดดับฝันโอเรนเซ 0-1 พาแอธเลติก บิลเบา ลิ่วฉลุยรอบต่อไป

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด โกปาเดลเรย์ ระหว่าง โอเรนเซ 0-1 แอธเลติก บิลเบา วันนี้ 19/12/68 – บ้านกีฬา

ศึกบอลถ้วย โกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีม โอเรนเซ ทีมจากเซกุนดา เบ กลายเป็นของแข็งเกินคาด เมื่อเปิดบ้านรับการมาเยือนของยักษ์ใหญ่จากบาสก์อย่าง แอธเลติก บิลเบา ก่อนพ่ายหวุดหวิด 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แฟนบอลที่กดเช็ก ผลบอลสด อยู่หน้าจอแทบไม่กล้ากะพริบตา เพราะรูปเกมบดบี้กันหนักตั้งแต่นาทีแรกจนจบนาที 120

บ้านกีฬา ต้องบอกเลยว่านี่คือเกมที่โอเรนเซ “ไม่ยอมตายง่ายๆ” แม้โดนยิงถล่มใส่ถึง 22 ครั้ง แต่หัวใจนักสู้และเซฟสกอร์ระดับพระกาฬของนายด่าน อัลเบร์โต้ ซานเชซ ช่วยให้ทีมยื้อยันทัพสิงห์บิลเบาได้ถึงช่วงต่อเวลา ก่อนจะมาเสียประตูสำคัญจากลูกยิงของ มิเกล ยาเรกินซาร์ ในนาที 105+

🕒 ครึ่งแรก: บิลเบาบุกทั้งเกม แต่เจอนายด่านเจ้าบ้านหนึบจัด

ครึ่งแรก แอธเลติก บิลเบา ของเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด บุกเข้าใส่เต็มสูบ ใช้แนวรุกชุดใหญ่ทั้ง อิเกร์ มูเนียอินไม่อยู่แต่ได้ อินญากี วิลเลียมส์, โอยาน ซานเซต และ อเล็กซ์ โมร่า ป้อนบอลให้ กอร์รูเซตา คอยลุ้นในเขตโทษ ทีมเยือนคุมบอลเหนือกว่าและกดดันแนวรับโอเรนเซชนิดแทบไม่ได้หายใจ

แต่จุดเปลี่ยนของเกมช่วง 45 นาทีแรกคือฟอร์มของ อัลเบร์โต้ ซานเชซ ที่ป้องกันลูกยิงสำคัญได้หลายครั้ง ทั้งลูกยิงตามน้ำของซานเซต และลูกโหม่งของกอร์รูเซตา ทำให้สกอร์ยังคง 0-0 ขณะที่เจ้าบ้านเองก็มีจังหวะสวนกลับจาก โออุห์ดาดี กับ รามอส แต่ยังขาดความคม จบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์

ก่อนลงห้องแต่งตัวมีดราม่าการ์ดใบเหลือง เมื่อ ดาเนียล มูโญซ ของโอเรนเซไปเสียบหนักใส่กลางสนาม ส่วนฝั่งบิลเบา มิเกล เวสก้า ก็โดนจดชื่อเช่นกัน ทำให้เกมเริ่มมีความดุเดือดตั้งแต่ก่อนพักครึ่ง

🔁 ครึ่งหลัง 90 นาที: เปลี่ยนตัวแก้เกม แต่ยังเจาะไม่เข้า

เข้าสู่ครึ่งหลัง บิลเบายังคงเดินเกมรุกต่อเนื่อง แต่โอเรนเซเริ่มปรับแท็กติกด้วยการถอยบล็อกต่ำ เน้นเกมรับแน่นและรอสวนกลับ ทำให้ทีมเยือนต้องเร่งจังหวะด้วยการเปลี่ยนตัวรวดเดียวในนาที 63 ส่ง อเล็กซ์ เบเรนเกร์ และ มิเกล ยาเรกินซาร์ ลงมาเพิ่มความสดในแดนหน้า

ด้านเจ้าบ้านก็ไม่ยอมแพ้ เปลี่ยน นาโช่ กาสติโย กับ อัลบาโร ยุสเต ลงมาเสริมแดนกลางนาที 59 ก่อนส่ง อาเดรียน เกร์เรโร กับ นิโก้ เจลบาต และ ฮวน เปียร่า ลงมาช่วงท้ายเกมเพื่อบู๊ให้ครบทุกดอก เกมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ฟาวล์รวมทะลุ 30 ครั้ง ใบเหลืองปลิวทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะใบเหลืองของ อเล็กซ์ โมร่า นาที 79 ที่สะท้อนอารมณ์ความกดดันของทีมเยือนที่ยังหาทางยิงไม่เข้า

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ 90 นาที โอเรนเซเกือบพลาดเมื่อ เอนอล โกโต เข้าบอลแรงจนโดนใบเหลืองในนาที 90+4 แต่สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาทีที่สกอร์ 0-0 ต้องลากเข้าเวลาพิเศษ

⏱️ ช่วงต่อเวลา: วินาทีทองของยาเรกินซาร์

ในช่วงต่อเวลา บิลเบายังคงเป็นฝ่ายกดเกมอยู่ฝ่ายเดียว บัลเบร์เดเติมอาวุธเพิ่มด้วย อูไน โกเมซ และไพ่เด็ดอย่าง อายตอร์ ปาเรเดส ในแนวรับที่ขึ้นเกมบุกดีด้วย

แล้วประตูที่รอคอยก็มาถึงในนาที 105+ เมื่อ ปาเรเดส เติมขึ้นมาทางกราบก่อนเปิดบอลพุ่งเข้าเขตโทษ และเป็น มิเกล ยาเรกินซาร์ ตัวสำรองฮีโร่ วิ่งสอดขึ้นมาซัดจังหวะเดียวผ่านมือซานเชซ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด พาแอธเลติก บิลเบา ขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮของแฟนทีมเยือน

หลังเสียประตู โอเรนเซพยายามเร่งเครื่องใส่ ส่ง อิเกร์ ปุนซาโน ลงสนามนาที 106 เพื่อช่วยไล่ล่าตีเสมอ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่กรอบและแรงกดดันที่ถาโถม ทำให้เจ้าบ้านแทบหาโอกาสจะแจ้งไม่ได้ จบเกม 120 นาที บิลเบาเฉือนชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนโอเรนเซต้องจบเส้นทางบอลถ้วยอย่างน่าเสียดาย

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

🏠 โอเรนเซ

ระบบการเล่น 4-4-2

ผู้รักษาประตู

  • 13 อัลเบร์โต้ ซานเชซ (8.5) – เซฟอภิมหายากหลายครั้ง เป็นกำแพงเหล็กของเจ้าบ้านและคว้าแมนออฟเดอะแมตช์

กองหลัง

  • 3 ฮูโก้ ซานซ์ (6.6)
  • 4 ฟราน การ์โมนา กัปตันทีม (7.0)
  • 24 คาร์ลอส โมเรโน (6.7) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 59
  • 2 เอนอล โกโต (7.0) – โดนใบเหลืองช่วงทดเวลา 90+4

กองกลาง

  • 11 อันเดร์ อรันซาเบ (6.6) – ขยันไล่บอล ก่อนถูกถอดนาที 69
  • 8 ฆาบี รามอส (7.0) – คุมจังหวะกลางสนาม ก่อนถูกถอดนาที 106
  • 16 ดาเนียล มูโญซ (6.5) – โดนใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้เล่นยาก
  • 14 อเล็กซ์ เปเรซ (6.7) – ได้ใบเหลืองช่วงต่อเวลา

กองหน้า

  • 17 โอมาร์ โออุห์ดาดี (7.0) – ตัวพักบอลสำคัญ ถูกเปลี่ยนออกนาที 90
  • 7 อายเมน บูซาอิก (5.9) – เจาะแนวรับบิลเบายาก ถูกถอดนาที 90

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 22 อัลบาโร ยุสเต (6.6) – แทน มูโญซ นาที 59
  • 6 นาโช่ กาสติโย (6.7) – แทน โมเรโน นาที 59
  • 21 อาเดรียน เกร์เรโร (6.7) – แทน อรันซาเบ นาที 69
  • 12 ไอมาน เจลบาต (6.3) – แทน บูซาอิก นาที 90
  • 15 ฮวน เปียร่า (6.9) – แทน โออุห์ดาดี นาที 90
  • 23 อิเกร์ ปุนซาโน (6.5) – แทน รามอส นาที 106

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อัลบาโร ราตอน, มิเกล ปราโด, ดาบิด ราบาดัน, มาร์โก กามุส, เคนสลีย์ บาซเกซ

🛡️ แอธเลติก บิลเบา

ระบบการเล่น 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู

  • 27 อเล็กซ์ ปาดียา (6.7) – แทบไม่ได้ออกแรงมาก แต่เก็บคลีนชีตสำเร็จ

กองหลัง

  • 2 อันเดร์ โกโรซาเบล (7.2) – เติมเกมรุกบ่อย ก่อนถูกถอดนาที 90
  • 3 ดาเนียล บีเบียน (7.5) – คุมหัวใจแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง
  • 19 อันเดร์ โบอิโร (7.3) – เล่นได้แน่นอน ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 91
  • 15 อินญีโก เลกูเอ (7.9) – โดดเด่นทางกราบซ้าย ทั้งเกมรับและเกมรุก

กองกลางตัวรับ

  • 6 มิเกล เวสก้า (6.7) – มีใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนถูกถอดนาที 63
  • 25 อูไน อิเซตา (6.6) – ทำงานหนักในแดนกลาง ถูกเปลี่ยนออกนาที 69

แนวรุกตัวทำเกม

  • 9 อินญากี วิลเลียมส์ (กัปตัน, 6.5) – หาจังหวะจบสกอร์ได้บ้างแต่ไม่คม ถูกถอดนาที 63
  • 8 โอยาน ซานเซต (7.0) – ตัวเชื่อมเกมสำคัญ ก่อนถูกถอดนาที 98
  • 30 อเล็กซ์ อาร์. โมร่า (7.4) – โดนใบเหลืองนาที 79 แต่ยังเป็นตัวปั้นเกมทางซ้ายที่อันตราย

ศูนย์หน้า

  • 11 กอร์ก้า กูรูเซตา (5.7) – มีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ไม่ผ่านมือซานเชซ

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 7 อเล็กซ์ เบเรนเกร์ (6.8) – ลงนาที 63 แทน อินญากี วิลเลียมส์ เพิ่มจังหวะลากเลื้อยริมเส้น
  • 18 มิเกล ยาเรกินซาร์ (8.0) – ลงนาที 63 แทน เวสก้า แล้วกลายเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยช่วงต่อเวลา
  • 10 นิโก วิลเลียมส์ (6.6) – ลงนาที 69 แทน อูไน อิเซตา ทำให้เกมรุกด้านข้างเร็วขึ้น
  • 12 เฆซุส อาเรโซ (7.0) – ลงนาที 90 แทน โกโรซาเบล
  • 4 อายตอร์ ปาเรเดส (7.1) – ลงนาที 91 แทน โบอิโร และเป็นคนเปิดให้ยาเรกินซาร์ยิง
  • 20 อูไน โกเมซ (6.8) – ลงนาที 98 แทน ซานเซต เพิ่มความสดกลางสนาม

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อูไน ซิมอน, อิเกร์ มอนเรียล อากุนเดซ, เซลตอน ซานเชซ, อินญีโก รุยซ์ เด กาลาร์เรตา, นีโก เซร์ราโน

🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเชิงแท็กติก เกมนี้คือการดวลกันระหว่างระบบ 4-4-2 ของโอเรนเซ ที่เน้นบล็อกแนวรับสองชั้นกับสวนกลับเร็ว กับ 4-2-3-1 ของแอธเลติก บิลเบา ที่เน้นต่อบอลบนพื้นและเคลื่อนที่สลับตำแหน่งตลอดเวลา
ฝั่งเจ้าบ้านพยายามลดพื้นที่ระหว่างแนวรับกับแดนกลางให้แคบที่สุด ฟราน การ์โมนา กับ คาร์ลอส โมเรโน ยืนคู่เซ็นเตอร์แบบไม่ดันสูง เพื่อดักการวิ่งทะลุช่องของกูรูเซตา และคอยชะลอเกมริมเส้นของสองวิลเลียมส์ เมื่อเสียบอล กองกลางคู่ รามอส-มูโญซ จะถอยลงต่ำในลักษณะ 4-4-1-1 ทำให้บิลเบาต้องยิงจากระยะไกลมากขึ้น

ส่วนเกมรับของบิลเบาเองถือว่ามั่นคง พวกเขาเลือกดันไลน์ค่อนข้างสูง ใช้ เลกูเอ กับ โกโรซาเบล บีบกดปีกของโอเรนเซให้ต้องถอยลงมารับบอลลึก ทำให้เจ้าบ้านแทบไม่สามารถขึ้นบอลแบบเป็นระบบได้ หากดูในแง่ วิเคราะห์บอล ความแตกต่างสำคัญคือคุณภาพของตัวสำรอง บัลเบร์เดกล้าเปลี่ยนตัวตั้งแต่นาที 63 ทำให้จังหวะเข้าทำในช่วงท้ายดูมีไอเดียและสปีดมากขึ้น

เกมรุกของโอเรนเซอาศัยจังหวะสาดยาวและบอลสวนกลับเป็นหลัก แต่ขาดตัวปั้นเกมกลางสนามที่จะล็อกบอลแล้วจ่ายทะลุให้กองหน้า ขณะที่เกมรุกของบิลเบาผสมระหว่างการต่อบอลบนพื้นกับการครอสจากริมเส้น เมื่อเปลี่ยนมาใช้ เบเรนเกร์, นิโก วิลเลียมส์ และยาเรกินซาร์ ทำให้วิธีเข้าทำหลากหลายขึ้น จนสุดท้ายแนวรับเจ้าบ้านเริ่มหลุดโฟกัสในช่วงต่อเวลา และโดนลูกครอสของปาเรเดสเล่นงานในประตูชัยลูกเดียวของเกม

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมบอกชัดเจนว่า บิลเบาเป็นฝ่ายคุมรูปเกมเกือบทั้งหมด พวกเขายิงรวม 22 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่โอเรนเซมีโอกาสเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบแค่ลูกเดียว การครองบอลก็เอนเอียงไปทางทีมเยือนเล็กน้อยที่ 52% ต่อ 48% แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจำนวนฟาวล์ โอเรนเซฟาวล์ถึง 25 ครั้ง มากกว่าบิลเบาที่ทำ 12 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าเจ้าบ้านต้องเล่นเกมรับแบบกัดฟันสู้เพื่อหยุดเกมต่อบอลของบิลเบา

ทั้งสองทีมโดนใบเหลืองเท่ากัน 3 ใบ ไม่มีใบแดง แต่ลูกเตะมุมฝั่งบิลเบามากถึง 11 ครั้ง เทียบกับเจ้าบ้านแค่ 5 ครั้ง ยิ่งตอกย้ำว่าบิลเบาบุกบานและสร้างแรงกดดันในเขตโทษได้ต่อเนื่อง เพียงแต่ติดความเหนียวของซานเชซอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเจาะได้สำเร็จในช่วงต่อเวลา

🧨 เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • 🟨 44′ มิเกล เวสก้า (แอธเลติก บิลเบา) ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองใบแรกของเกม
  • 🟨 45′ ดาเนียล มูโญซ (โอเรนเซ) เข้าหนักกลางสนาม โดนใบเหลืองเช่นกัน สกอร์ยัง 0-0 เข้าห้องแต่งตัว
  • 🔁 59′ โอเรนเซเปลี่ยนสองคน ส่ง อัลบาโร ยุสเต และ นาโช่ กาสติโย ลงแทน มูโญซ กับ คาร์ลอส โมเรโน เพื่อเพิ่มความสดในแดนกลาง
  • 🔁 63′ บิลเบาตอบโต้ทันที ส่ง อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ลงแทน อินญากี วิลเลียมส์ และ มิเกล ยาเรกินซาร์ แทน มิเกล เวสก้า เปลี่ยนโฉมเกมรุก
  • 🔁 69′ บิลเบาส่ง นิโก วิลเลียมส์ ลงแทน อูไน อิเซตา เติมสปีดเกมรุกริมเส้น
  • 🔁 69′ โอเรนเซส่ง อาเดรียน เกร์เรโร ลงแทน อันเดร์ อรันซาเบ เสริมพลังการไล่บอลริมเส้น
  • 🟨 79′ อเล็กซ์ อาร์. โมร่า (แอธเลติก บิลเบา) โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์ในแดนคู่แข่ง
  • 🔁 90′ โอเรนเซถอดกองหน้าเดิม ส่ง ไอมาน เจลบาต ลงแทน บูซาอิก และ ฮวน เปียร่า ลงแทน โออุห์ดาดี เพื่อหาไพ่ใหม่ช่วงท้าย
  • 🔁 90′ บิลเบาส่ง เฆซุส อาเรโซ ลงแทน โกโรซาเบล เพื่อเติมความสดในตำแหน่งแบ็กขวา
  • 🟨 90+4′ เอนอล โกโต (โอเรนเซ) เข้าสกัดช้า โดนใบเหลืองช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ 90 นาที
  • 🔁 91′ บิลเบาเปลี่ยนเซ็นเตอร์ ส่ง อายตอร์ ปาเรเดส ลงแทน อันเดร์ โบอิโร เพิ่มความสูงและเกมลูกกลางอากาศในช่วงต่อเวลา
  • 🔁 98′ อูไน โกเมซ ลงแทน โอยาน ซานเซต ให้แดนกลางบิลเบายังวิ่งไม่หยุด
  • ⚽ 105+’ แอธเลติก บิลเบาได้ประตูชัย เมื่อ อายตอร์ ปาเรเดส เปิดบอลจากด้านขวาให้ มิเกล ยาเรกินซาร์ วิ่งสอดเข้าไปยิงจ่อๆ ผ่านมือซานเชซ เป็นสกอร์ 0-1
  • 🟨 105+’ อเล็กซ์ เปเรซ (โอเรนเซ) ทำฟาวล์หนัก รับใบเหลืองในช่วงทีมกำลังพยายามลุยตีเสมอ
  • 🔁 106′ โอเรนเซส่ง อิเกร์ ปุนซาโน ลงแทน ฆาบี รามอส เพื่อเสริมเกมรุกช่วงท้ายของการต่อเวลา
  • 🟨 107′ มิเกล ยาเรกินซาร์ ทำฟาวล์ในแดนคู่แข่ง โดนใบเหลือง แต่ยังคงเป็นฮีโร่ของเกม

🌟 Player of the Match – อัลเบร์โต้ ซานเชซ

แม้ทีมจะแพ้ แต่รางวัล Player of the Match ต้องยกให้ อัลเบร์โต้ ซานเชซ นายด่านของโอเรนเซแบบไม่มีข้อสงสัย เขาเซฟลูกยิงสำคัญตลอด 120 นาที ทั้งลูกยิงเน้นๆ ของกูรูเซตา, ซานเซต และสองพี่น้องวิลเลียมส์ ถ้าไม่ใช่ฟอร์มระดับ 8.5 แบบนี้ เกมคงไม่ยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาแน่นอน

การยืนตำแหน่งของซานเชซยอดเยี่ยม อ่านบอลครอสได้ดีและออกมาตัดบอลกลางอากาศอย่างมั่นใจ หลายจังหวะเขาคือคนเดียวที่หยุดพายุเกมรุกของบิลเบาได้ แม้สุดท้ายจะพ่าย 0-1 แต่ภาพจำของแมตช์นี้คือการเซฟสุดระห่ำของเขา ซึ่งน่าจะเป็นใบสมัครชั้นดีให้ทีมจากลีกสูงสุดหันมามองในอนาคต

📌 สถานการณ์ในตารางและผลกระทบ

แม้เกมนี้จะเป็นบอลถ้วยโกปาเดลเรย์ ไม่ได้มีผลโดยตรงต่ออันดับในตารางลีก แต่ชัยชนะของแอธเลติก บิลเบา ช่วยต่อทุนความมั่นใจก่อนกลับไปสู้ศึก ลา ลีกา ที่กำลังขับเคี่ยวอย่างเข้มข้น การผ่านเข้ารอบต่อไปทำให้บิลเบายังมีลุ้นถ้วยภายในประเทศเพิ่มอีกหนึ่งรายการ และสร้างโมเมนตัมเชิงบวกให้ห้องแต่งตัวเต็มเปี่ยม

ส่วนโอเรนเซ แม้จะต้องตกรอบอย่างเจ็บใจ แต่ฟอร์มการเล่นที่ยื้อยักษ์ใหญ่จากลีกสูงสุดได้ถึง 120 นาที จะกลายเป็นแรงผลักดันให้ทีมกลับไปโฟกัสในเวที พริมเมร่า เฟเดราซิออน อย่างมั่นใจมากขึ้น การจัดระเบียบเกมรับและหัวใจนักสู้แบบนี้ ถ้านำไปใช้ในเกมลีกได้ต่อเนื่อง โอกาสเขยิบขึ้นสู่ครึ่งบนของตารางหรือหนีโซนล่างก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม

📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอลนัดถัดไป

สำหรับคอบอลที่ชอบวางแผนเช็ก โปรแกรมบอล ล่วงหน้า เกมนี้ถือเป็นแค่จุดเริ่มต้นของช่วงโปรแกรมแน่นๆ ทั้งสองทีม

ฝั่งโอเรนเซในเวที Primera Federación มีคิวสำคัญบุกเยือน ลูกโก้ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2568 เวลา 22.15 น. ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านพบ อาบีเลส วันที่ 4 มกราคม 2569 เวลา 00.45 น. ซึ่งทั้งสองนัดนี้คือด่านสำคัญในการเก็บคะแนนให้ทีมหนีความเสี่ยงในลีก

ขณะที่แอธเลติก บิลเบา ต้องรีบปรับโหมดกลับสู่ ลา ลีกา โดยมีโปรแกรมเปิดซาน มาเมส รับมือเอสปันญ่อล วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 03.00 น. ตามด้วยทริปเยือนโอซาซูนา วันที่ 3 มกราคม 2569 เวลา 22.15 น. หากเก็บแต้มได้ต่อเนื่องในสองเกมนี้ เส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรปของบิลเบาจะสดใสขึ้นอีกหลายระดับ

📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

ใครที่อยากเกาะติดทุกสกอร์แบบนาทีต่อนาที ไม่ว่าจะเป็นบอลถ้วยอย่างโกปาเดลเรย์ หรือศึกหนักในลา ลีกา และลีกเล็กลีกใหญ่ทั่วยุโรป แนะนำให้เปิดหน้า บ้านผลบอล และ ผลบอลสด กับ บ้านกีฬา เอาไว้ เราพร้อมอัปเดตสกอร์สด ตารางคะแนน สถิติหลังเกม และวิเคราะห์เจาะลึกให้ทุกคนได้ตามทันทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอลแบบไม่มีพลาด ถ้าไม่อยากตกข่าว อย่าลืมเข้ามาเช็กทุกวันกับ บ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา