จาก : ผลบอลสด โกปาเดลเรย์ ระหว่าง แอตเลติโก บาเรียเรส 2-3 แอตเลติโก้ มาดริด วันนี้ 18/12/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาย้อนดูบรรยากาศเกม โกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีม ที่ซีเอฟ ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ซึ่งแฟนบอลเช็กจากหน้า ผลบอลสด เห็นสกอร์ 2-3 แล้วอาจคิดว่าเป็นเกมสบาย ๆ ของราชันชุดขาว แต่ของจริงในสนามคือดราม่าระดับหนังทริลเลอร์ เจ้าถิ่นฮึดไล่กดดันจนยักษ์ใหญ่จากลาลีกาต้องลุ้นเหนื่อยถึงช่วงทดเจ็บกว่าจะเก็บชัยกลับบ้าน
⏱ ครึ่งแรก: เอ็มบัปเป้ยิงนำ + โอจีปิดท้าย ห่าง 0-2
เปิดฉากมา ตาลาเบรา ไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว พยายามไล่เพรสสูงและยิงสวนกลับได้ลุ้นหลายครั้ง แม้จะเป็นทีมจาก Primera Federación แต่เล่นกันแบบไม่เกรงศักดิ์ศรี เรอัลมาดริดครองบอลเหนือกว่าชัดเจน ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ
นาที 38 เจ้าบ้านเริ่มต้องระวังมากขึ้นเมื่อ เอดูอาร์โด กายาร์โด้ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์ริมเส้น ก่อนที่เกมจะเปลี่ยนหน้าอย่างชัดเจนในช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 41 คีเลียน เอ็มบัปเป้ ใช้ความเร็วฉีกแนวรับจนเรียกจุดโทษได้เองแล้วลุกมากดไม่เหลือ ส่งเรอัลมาดริดออกนำ 0-1 แบบเยือกเย็น
ยังไม่พอ ช่วงทดเจ็บนาที 45+2 เจ้าถิ่นมาเสียขวัญซ้ำสองเมื่อ มานูเอล ฟาร์รานโด พยายามสกัดลูกครอสแต่ผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง กลายเป็น ประตูตัวเอง (OG) ให้ราชันชุดขาวหนีเป็น 0-2 ก่อนจบครึ่งแรกแบบที่แฟนบอลหน้า บ้านผลบอล หลายคนคิดว่าเกมน่าจะจบแล้ว
⏱ ครึ่งหลัง: ตาลาเบราฮึดไล่ 1-2, 1-3 ก่อนระเบิด 2-3 ทดเจ็บ
ลงครึ่งหลัง ตาลาเบราแก้เกมทันทีด้วยการส่ง เซร์กี โมลีนา และ เปโดร กาโป ลงมาเติมความสด ทำให้เกมริมเส้นดุดันขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเรอัลมาดริดก็เริ่มผ่อนเกม เน้นครองบอลประคองสกอร์มากกว่าบุกยำ
นาที 80 สนามแทบแตกเมื่อเจ้าถิ่นตีไข่แตกได้สำเร็จ นาอูเอล อาร์โรโย ที่ถูกส่งลงมาจากม้านั่งวิ่งสอดเข้าไปยิงดาบสองไม่พลาด ไล่สกอร์เป็น 1-2 จุดไฟความหวังของแฟนเจ้าบ้านเต็มที่
แต่ราชันชุดขาวก็ไม่ยอมปล่อยให้เกมหลุดมือ นาที 88 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอ็มบัปเป้ หลุดมาทางซ้ายก่อนไหลคืนให้ ออเรเลียง ชูอาเมนี เติมมาซัดเต็มข้อเสียบมุมเป็น 1-3 เหมือนจะปิดบัญชี
อย่างไรก็ดี ดราม่ายังไม่จบ ทดเจ็บนาที 90+1 กอนซาโล ดิ เรนโซ ขึ้นโหม่งลูกครอสสุดแม่น ตีตื้นเป็น 2-3 ทำให้ช่วงท้ายเกมกลายเป็นการปิดล้อมเรอัลมาดริดอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายต้านความกดดันไว้ได้ จบเกม ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา พ่าย เรอัลมาดริด 2-3 ราชันชุดขาวผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบหืดจับ ส่วนเจ้าถิ่นได้รับเสียงปรบมือทั้งสนามในฐานะทีมรองบ่อนที่สู้ได้ถึงวินาทีสุดท้าย
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🏠 ซีเอฟ ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา
ผู้รักษาประตู
- ฆวน กอนซาเลซ (6.8)
กองหลัง
- อัลบาโร โลเปซ (4) – แบ็กขวา (6.9)
- โรเบร์โต ดอนเซล (6) – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (7.1)
- เอ็นรีเก กายาร์โด้ กัปตันทีม (11) – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (7.0, ใบเหลือง 38’)
- ดาบิด เกวนกา (2) – แบ็กซ้าย (6.4) → ออก 46’
กองกลาง
- มานูเอล ฟาร์รานโด (23) – มิดฟิลด์ตัวรับ (6.4, ทำโอจี 45+2)
- ไอแซห์ (16) – มิดฟิลด์เชื่อมเกม (7.0)
- มิเกล โมเรโน (9) – จอมทัพตัวรุก (6.3) → ออก 69’
กองหน้า
- อัลเบร์โต โรอิก (3) – ปีกซ้าย (5.9) → ออก 59’
- หลุยส์ ซานเชซ (8) – ปีกขวา (6.7) → ออก 46’
- กอนซาโล ดิ เรนโซ (7) – หน้าเป้า (7.6, ยิง 90+1)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เซร์กี โมลีนา (5) – แบ็กซ้าย/ปีกซ้าย (6.6), ลง 46’ แทน เกวนกา
- เปโดร กาโป (18) – กองกลางริมเส้น (6.7), ลง 46’ แทน ซานเชซ
- นาอูเอล อาร์โรโย (15) – ตัวรุกอเนกประสงค์ (7.5, ยิง 80’), ลง 59’ แทน โรอิก
- เซร์คิโอ มอนเตโร (21) – กองหน้า (6.6), ลง 69’ แทน โมเรโน
- อาร์ตูโร โมลินา ตอร์เนโร (14) – กองกลาง (6.6), ลง 77’ แทน กายาร์โด้
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงอย่าง อเล็กซ์ ซานเชซ, โรดริโก โรเกฟอร์ต ฯลฯ ช่วยเติมความลึกให้ขุมกำลังเจ้าถิ่นแต่ไม่ได้ถูกใช้งาน
🛫 เรอัล มาดริด
ผู้รักษาประตู
- อันเดรียน ลูนิน (13, กัปตันทีม) – 6.7 เซฟสำคัญหลายจังหวะช่วงท้ายเกม
กองหลัง
- ฟราน การ์เซีย (20) – แบ็กซ้าย (6.2)
- ดีน ฮุยเซน (24) – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (7.4, เกมรับเด่นสุดของทีม)
- ดีเอโก ฆิเมเนซ (35) – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ/แบ็กขวา (6.1)
- อเล็กซ์ การ์เรราส (18) – แบ็กซ้าย/วิงแบ็ก (6.6)
กองกลาง
- กูสตาโว การ์เซีย (16) – โฮลดิงมิดฟิลด์ (6.1)
- ดานี เซบายอส (19) – กลางเชื่อมเกม (7.0) → ออก 86’
- ฟรังโก มาสตันตัวโน (30) – มิดฟิลด์ดาวรุ่ง (6.2) → ออก 66’
แนวรุก
- เอนดริก (9) – กองหน้าดาวรุ่งบราซิเลียน (7.0) → ออก 77’
- คีเลียน เอ็มบัปเป้ (10) – ตัวรุกฝั่งซ้าย (8.0, ยิง 2 ประตู)
- อาร์ดา กูเลอร์ (15) – ตัวรุกขวา (8.3, Man of the Match) → ออก 77’
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- โรดรีโก (11) – ปีกบราซิล (6.6), ลง 66’ แทน มาสตันตัวโน
- ออเรเลียง ชูอาเมนี (14) – กลางรับ (6.4, ยิง 1-3 นาที 88’), ลง 77’ แทน กูเลอร์
- จู๊ด เบลลิงแฮม (5) – มิดฟิลด์ตัวรุก (6.4, ใบเหลือง 90’), ลง 77’ แทน เอนดริก
- ฆอร์เก เซสเตโร (28) – กลางดาวรุ่ง (6.4), ลง 86’ แทน เซบายอส
แกนหลักหลายคนของเรอัลยังอยู่ในลิสต์บาดเจ็บหรือไม่พร้อมลงเล่น เช่น กามาวิงก้า, มิลิเตา, เมนดี้, การ์บาฆาล, รูดิเกอร์, วัลเวร์เด ฯลฯ ทำให้เกมนี้ ชาบี อลอนโซ่ ต้องโรเตชันหนัก แต่ยังเอาตัวรอดมาได้
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองเชิงแท็กติก เกมนี้ตาลาเบรามาในระบบ 4-4-2 เน้นเกมรับแน่นแล้วค่อยใช้ปีกสองฝั่งอย่าง โรอิก กับ ซานเชซ เล่นงานช่องว่างด้านข้าง การขึ้นเกมส่วนใหญ่พยายามยัดบอลเข้าไปให้ ดิ เรนโซ ใช้ความแข็งแรงบังบอลก่อนจ่ายคืนให้มิดฟิลด์ยิงไกล ซึ่งถือว่าทำได้ดีในช่วงต้นเกม แต่เมื่อเสียประตูจากจุดโทษและโอจี เกมรับเริ่มเปิดหน้ามากขึ้น ทว่าช่วงท้ายที่ส่ง อาร์โรโย พร้อมปรับมาเล่นกึ่ง 4-2-3-1 ทำให้การบุกมีมิติมากขึ้น เห็นได้จากประตูไล่มา 1-2 และลูกโหม่ง 2-3 ที่ใช้ทั้งความเข้มข้นและความคึกในการไล่บี้แนวรับราชันชุดขาว
ด้านเรอัลมาดริดยืนในระบบ 4-3-3 ตามสไตล์ถนัด การ วิเคราะห์บอล จากรูปเกมชัดเจนว่าจุดแข็งอยู่ที่แนวรุกสามประสาน เอนดริก–เอ็มบัปเป้–กูเลอร์ ที่เคลื่อนสลับตำแหน่งกันตลอด ทำให้แนวรับเจ้าถิ่นตามไม่ทัน โดยเฉพาะ เอ็มบัปเป้ ที่วิ่งฉีกหลังแนวรับจนได้จุดโทษ และยังเป็นคนลากหนีแนวรับก่อนจ่ายให้ ชูอาเมนี ซัดปิดกล่อง
อย่างไรก็ดี เกมรับของราชันยังมีช่องโหว่ให้แก้ อาจเพราะคู่เซ็นเตอร์อย่าง ฮุยเซน กับ ฆิเมเนซยังขาดประสบการณ์ จังหวะรับลูกครอสท้ายเกมหลุดตำแหน่งบ่อยจนเกือบโดนตีเสมอ 3-3 อยู่หลายครั้ง ถ้าไม่มีลูนินยืนเซฟอยู่และแนวรุกช่วยยิงเพิ่ม เกมนี้อาจกลายเป็นฝันร้ายของแฟนชุดขาวได้เหมือนกัน
📊 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง
ตัวเลขหลังเกมเผยให้เห็นภาพชัดว่าเรอัลมาดริดคุมเกมแทบทั้งหมด พวกเขายิงรวมถึง 22 ครั้ง เข้ากรอบ 10 ครั้ง ขณะที่ตาลาเบรายิงได้ 10 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ทีมเยือนครองบอลสูงถึง 70% ต่อ 30% เล่นแบบต่อบอลไปมารอจังหวะเจาะ ขณะที่เจ้าถิ่นเน้นตั้งรับลึกแล้วสวนกลับเป็นหลัก
แม้ตัวเลขฟาวล์ของตาลาเบราจะมากกว่า 7 ต่อ 4 แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ราชันเล่นง่าย ๆ เกมริมเส้นยังสูสีเพราะเจ้าถิ่นได้เตะมุมถึง 5 ครั้ง ส่วนเรอัลได้ 11 ครั้ง บ่งบอกความต่อเนื่องในการบุกกดดันเขตโทษฝั่งตรงข้าม ขณะที่สถิติการล้ำหน้าตาลาเบรา 2 ครั้ง และมาดริด 1 ครั้ง แสดงให้เห็นการไลน์กองหลังและจังหวะฉีกหาช่องของแนวรุกทั้งสองฝั่งอยู่ตลอด 90 นาที
🎬 เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- ⚠️ นาที 38 – เอ็นรีเก กายาร์โด้ (ตาลาเบรา) โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ตัดเกม
- ⚽ นาที 41 – คีเลียน เอ็มบัปเป้ กดจุดโทษให้เรอัลมาดริดนำ 0-1
- ⚽ นาที 45+2 – มานูเอล ฟาร์รานโด สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง สกอร์ไหลเป็น 0-2 ให้ราชันชุดขาว
- 🔁 นาที 46 – ตาลาเบราส่ง เซร์กี โมลีนา แทน ดาบิด เกวนกา และ เปโดร กาโป แทน หลุยส์ ซานเชซ เพื่อเร่งเกมริมเส้น
- 🔁 นาที 59 – นาอูเอล อาร์โรโย ลงมาแทน อัลเบร์โต โรอิก เพิ่มความสดในเกมรุกเจ้าถิ่น
- 🔁 นาที 66 – เรอัลมาดริดส่ง โรดรีโก ลงแทน มาสตันตัวโน เปลี่ยนรูปเกมริมเส้นขวา
- 🔁 นาที 69 – เซร์คิโอ มอนเตโร ลงแทน มิเกล โมเรโน ให้ตาลาเบราเติมหน้าเป้า
- 🔁 นาที 77 – ตาลาเบราส่ง อาร์ตูโร โมลินา ตอร์เนโร แทน เอนรีเก กายาร์โด้ ปรับสมดุลแดนกลาง
- 🔁 นาที 77 – เรอัลมาดริดส่ง จู๊ด เบลลิงแฮม และ ออเรเลียง ชูอาเมนี ลงแทน เอนดริก และ อาร์ดา กูเลอร์ เติมพละกำลังในแดนกลาง
- ⚽ นาที 80 – นาอูเอล อาร์โรโย ยิงให้ตาลาเบราไล่มา 1-2 จากจังหวะตามซ้ำในเขตโทษ
- 🔁 นาที 86 – ฆอร์เก เซสเตโร ลงแทน ดานี เซบายอส เพื่อปิดเกมแดนกลางให้ราชันชุดขาว
- ⚽ นาที 88 – ออเรเลียง ชูอาเมนี สอดมาซัดเต็มข้อหลังรับบอลจากเอ็มบัปเป้ เป็น 1-3 ให้เรอัลมาดริด
- 🟨 นาที 90 – จู๊ด เบลลิงแฮม โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- ⚽ นาที 90+1 – กอนซาโล ดิ เรนโซ โหม่งตีตื้นให้ตาลาเบราเป็น 2-3 จุดไฟลุ้นช่วงทดเจ็บ
- 🔔 จบเกม – ซีเอฟ ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา พ่าย เรอัลมาดริด 2-3 ตกรอบอย่างสมศักดิ์ศรี
🌟 Player of the match: อาร์ดา กูเลอร์
แม้จะไม่ได้ยิงหรือแอสซิสต์โดยตรง แต่ อาร์ดา กูเลอร์ คือหัวใจเกมรุกของเรอัลมาดริดตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม ด้วยคะแนนเรตติ้งสูงถึง 8.3 เขาลงมาเชื่อมเกมฝั่งขวา คอยเลี้ยงจี้ดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้เอ็มบัปเป้และเอนดริกได้ทะลุช่องหลายครั้ง การครองบอลนิ่งและการจ่ายทะลุไลน์ที่เฉียบคม ทำให้แนวรับตาลาเบราต้องถอยลึกอยู่ตลอด
กูเลอร์ยังเป็นคนสร้างจังหวะต่อเนื่องก่อนจะถูกเปลี่ยนออกช่วงนาที 77 เพื่อถอดพักหลังทีมเริ่มคิดถึงเกมต่อ ๆ ไปในลาลีกา ฟอร์มวันนี้ยืนยันชัดว่าเจ้าหนูเติร์กรายนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นอาวุธลับสำคัญในฤดูกาลอันยาวไกลของราชันชุดขาว
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนโกปาเดลเรย์
ชัยชนะเกมนี้ส่งให้ เรอัลมาดริด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของ โกปาเดลเรย์ ต่อไปแบบสมศักดิ์ศรีทีมลุ้นแชมป์ แม้ฟอร์มจะไม่เนียนตาแต่ก็แสดงให้เห็นคาแรกเตอร์ทีมใหญ่ที่ “เล่นไม่ดีก็ยังชนะ” ได้ ขณะที่ ซีเอฟ ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา แม้จะต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบ 32 ทีม แต่การสู้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่างสูสีจนแทบตามตีเสมอได้ถือเป็นผลงานที่เพิ่มความมั่นใจให้พวกเขาอย่างมาก ก่อนกลับไปลุยศึกลีกของตัวเองต่อ
📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอลนัดถัดไป
หลังจบศึกถ้วยคืนนี้ โฟกัสของทั้งสองทีมจะกลับไปที่เกมลีกตาม ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ที่อัดแน่นรออยู่
ฝั่ง ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา ต้องรีบเคลียร์สภาพจิตใจให้ไว เพราะในศึก Primera Federación พวกเขามีคิวสำคัญบุกเยือน อาเรนาส คลับ และเปิดบ้านดวล กวาดาลาฆารา ซึ่งเป็นเกมชี้ชะตาโซนกลางตาราง หากรักษามาตรฐานการเล่นแบบที่ต่อกรเรอัลมาดริดได้วันนี้ โอกาสเก็บแต้มในลีกย่อมเปิดกว้างแน่นอน
ส่วน เรอัลมาดริด ต้องเตรียมตัวกลับไปเจอศึกหนักในลาลีกา โดยมีคิวดวล เซบียา และ เรอัล เบติส ซึ่งเป็นเกมที่แฟนบอลเฝ้ารอ ทั้งสองนัดจะเป็นบททดสอบสำคัญว่า ขุมกำลังโรเตชันผสมดาวรุ่งของชาบี อลอนโซ่ จะยืนระยะได้ดีแค่ไหนในช่วงโปรแกรมถี่ปลายปี
📱 ติดตาม บ้านผลบอล และความเคลื่อนไหวฟุตบอลได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเช็กสกอร์สด วิเคราะห์เกมมันส์ ๆ และอัปเดตข่าวลูกหนังให้ทันทุกจังหวะ อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล แบบสดใหม่ พร้อมบทความเข้มข้นสไตล์นักข่าวสนามจริงได้ที่ บ้านกีฬา บ้านเดียวที่รวมทั้งสกอร์สด สถิติเกม และมุมมองดุดันสะใจคอลูกหนังเอาไว้ครบจบในที่เดียว
