
จาก : ผลบอลสด โกปาเดลเรย์ ระหว่าง ซีเอฟ ตาลาเบรา เด ลา เรย์นา 2-3 เรอัล มาดริด วันนี้ 18/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก โกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีม ระหว่าง แอตเลติโก บาเรียเรส ทีมรองบ่อนจากเซกุนดา เฟเดราซิออน เปิดบ้านรับการมาเยือนของยักษ์ใหญ่จาก ลาลีกา อย่าง แอตเลติโก้ มาดริด กลายเป็นเกมที่แฟนบอลหน้าเสื่อและสายเช็ก ผลบอลสด ต้องลุ้นกันยันนาทีสุดท้าย เมื่อจบ 90 นาที ทีมตราหมีเฉือนชนะไปแบบใจหายใจคว่ำ 3-2 ด้วยดราม่าจุดโทษทดเจ็บของเจ้าถิ่น แต่ยังเอาตัวรอดผ่านเข้ารอบได้สำเร็จในที่สุด
บ้านกีฬา มองว่านี่คือเกมที่สะท้อนให้เห็นชัดว่าถึงจะเป็นบอลถ้วย แต่คนของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็ยังเล่นกันจริงจังเต็มสูบ ขณะเดียวกัน บาเรียเรสก็สู้แบบไม่มีเกรงใจ ชนดีกรีทีมใหญ่ได้อย่างสูสีทั้งสกอร์และรูปเกม
🕰 ครึ่งแรก: ตราหมีบุกเร็ว นำขาดก่อน เจ้าถิ่นฮึดไล่
เริ่มเกมได้ไม่นานแฟนบอลเจ้าบ้านยังไม่ทันได้เซ็ตอารมณ์ แอตเลติโก้ มาดริด ก็โชว์ความเฉียบคมตั้งแต่ต้น นาทีที่ 16 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แทงทะลุช่องให้ อ็องตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าไปซัดไม่พลาด ส่งตราหมีออกนำ 0-1 แบบนิ่งกริบ
เพียงแค่ 4 นาทีต่อมา นาที 20 แนวรับบาเรียเรสยังไม่ทันตั้งหลัก นาอูเอล โมลินา เติมเกมขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดเข้าในให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี สอดมาซัดจ่อ ๆ เป็นประตูนำ 0-2 ทำเอาแฟนทีมเยือนเฮกันสนั่น และดูเหมือนว่าเกมน่าจะไหลตามน้ำสบาย ๆ สำหรับทีมจากลาลีกา
แต่เจ้าบ้านไม่ยอมเป็นเพียงเหยื่อต่อหน้าแฟนตัวเอง นาที 28 จากจังหวะลูกตั้งเตะที่วางลึกเข้ามาในเขตโทษ เกร์ราโด้ โบนัต โฉบขึ้นโหม่งตุงตาข่าย ไล่มาเป็น 1-2 กลายเป็นประตูที่จุดไฟทั้งสนามให้ลุกเป็นไฟ บาเรียเรสเริ่มกดดันสูง กล้าเล่น กล้าบุกมากขึ้น ขณะที่ตราหมีต้องถอยลงมารับแบบมีเสียวเป็นระยะ ก่อนหมดครึ่งแรกสกอร์ยังคงที่ 1-2 แต่โมเมนตัมเริ่มเอนมาทางเจ้าบ้านพอสมควร
🔥 ครึ่งหลัง: กรีซมันน์ยิงฝัง แต่ดราม่าจุดโทษทดเจ็บทำเอาหวิดหลุด
ครึ่งหลัง ซิเมโอเน่ขยับตั้งแต่ต้นเกม ปรับเกมรับด้วยการส่ง ดาวิด ฮานชโก ลงแทน เกลม็องต์ ล็องเลต์ ตั้งแต่นาทีที่ 10 ของเกม (ยังอยู่ในช่วงครึ่งแรกต่อเนื่อง) เพื่อเพิ่มความเหนียวแน่นแนวหลัง ส่วนช่วงต้นครึ่งหลัง บาเรียเรสเดินหน้าไล่บด หวังทวงประตูตีเสมอให้ได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าบ้านดันสูง ช่องว่างด้านหลังก็เปิดกว้าง และตราหมีก็ลงโทษทันที นาที 72 โฆเซ่ กาย่า…ไม่ใช่ ครั้งนี้เป็น ฮาบี กาลัน ที่เติมสูงทางซ้าย ก่อนครอสเข้ากลางให้ กรีซมันน์ จับแล้วกดด้วยซ้ายเสียบเสาอย่างเฉียบขาด กลายเป็นสกอร์ 1-3 และเป็นประตูที่สองของดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสในเกมนี้
ดูเหมือนเกมจะจบลงแบบสบาย ๆ แต่ฟุตบอลไม่เคยมีคำว่าง่าย นาที 73 บาเรียเรสส่ง โมฮามาดู เคย์ต้า ลงมาเติมความสดในแนวรุก และเจ้าตัวกลายเป็นจุดเปลี่ยนช่วงท้ายเกม เมื่อทีมเจ้าบ้านบุกแบบหมดรูป จนได้จุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90 เคย์ต้า รับหน้าที่สังหารด้วยตัวเอง ไม่พลาด ไล่มา 2-3 ทำให้ช่วงท้ายเกมเดือดจัด แอตเลติโก้ต้องแพ็คนักเตะลงมารับทั้งทีม
แม้เจ้าถิ่นจะพยายามเปิดเกมรุกสุดตัวเพื่อหวังปาฏิหาริย์ตีเสมอ แต่ติดเซฟของ ฮวน มุสโซ่ ที่โชว์ฟอร์มหนึบหลายจังหวะ สุดท้ายหมดเวลา แอตเลติโก้ มาดริด บุกชนะ 3-2 ผ่านเข้ารอบต่อไปแบบหายใจไม่ทั่วท้อง ส่วนบาเรียเรสแม้ตกรอบ แต่ได้ใจแฟนบอลเต็ม ๆ

🧾 รายชื่อ 11 ตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🔵 แอตเลติโก บาเรียเรส (ระบบ 3-5-2, เรตติ้งเฉลี่ย 6.75)
ผู้รักษาประตู
- เจา ริวาส (J. Rivas) – เรตติ้ง 7.2 เซฟสวย ๆ หลายครั้ง แม้เสียสามประตูแต่แทบไร้ความผิด
กองหลังสามคน
- กิเยม กัสเตลล์ (G. Castell) – 7.2 อ่านเกมดี ขึ้นโหม่งช่วยทีมหลายจังหวะ
- เกร์ราโด้ โบนัต (G. Bonet) – 7.5 คนยิงประตูแรกให้ทีม เล่นลูกกลางอากาศเด่นสุด
- อเล็กซ์ เปเรซ (A. Pérez) – 7.0 คุมพื้นที่ฝั่งซ้าย ตามปิดทางรุกตราหมีได้บ้างในหลายช่วง
วิงแบ็กและกองกลางห้า
- กุยเยร์โม่ รามิส (G. Ramis) – 6.4 เติมเกมรุกทางขวา แต่มีหลุดตำแหน่งให้เห็น
- อิญากิ เซร์ราโน (I. Serrano) – 6.6 วิงซ้าย พยายามเปิดบอลเข้าเขตโทษบ่อยครั้ง
- อูเว่ ทาฟเฟิร์ตโชเฟอร์ (U. Taffertshofer) – 7.0 ประคองเกมแดนกลาง เก็บบอลสองได้ดี
- ฆวน การ์ลอส กลาร่า (J. C. Clara) – 6.4 เชื่อมเกมรุก แต่โดนเพรสหนักๆ จนเล่นไม่ถนัด
- ฆวน ดูรัน (J. Durán) – 6.4 ขยันไล่บอล แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่คม
กองหน้า
- ฆาบี โปล กัปตันทีม (J. Pol) – 7.1 ถอยต่ำมารับบอล สู้กับแนวรับตราหมีได้ดี
- ฆาบี โตบาร์ (J. Tovar) – 5.3 มีโอกาสทองช่วงท้ายแต่ยิงไปติดเซฟมุสโซ่
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อักเซล เบฆาราโน (20) – เรตติ้ง 6.8 ลงมานาที 64 แทน ดูรัน เติมความสดแดนกลาง
- บีคตอร์ มอริโญ (14) – 7.0 ลงนาที 65 แทน รามิส เติมสปีดริมเส้น
- มีเกลิโต้ (11) – 6.1 ลงนาที 65 แทน เซร์ราโน
- โมฮามาดู เคย์ต้า (7) – 7.3 ลงนาที 73 แทน กลาร่า ซัดจุดโทษตีตื้น 2-3 เป็นฮีโร่ของฝั่งเจ้าบ้าน
- อาเดรียน คาตาล่า (29) – ลงนาที 83 แทน โตบาร์ เพิ่มตัวรุกลุ้นตีเสมอท้ายเกม
🔴 แอตเลติโก้ มาดริด (ระบบ 5-3-2, เรตติ้งเฉลี่ย 7.07)
ผู้รักษาประตู
- ฮวน มุสโซ่ (J. Musso) – 8.8 เซฟสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะดวลเดี่ยวกับโตบาร์ ปิดทองหลังพระเต็มๆ
กองหลังสามคน + วิงแบ็ก
- โรบิน เลอ นอร์ม็องด์ (R. Le Normand) – 7.1 คุมโซนกลางแนวรับ อ่านเกมเฉียบ
- เกลม็องต์ ล็องเลต์ (C. Lenglet) – 6.8 เล่นไม่ครบเกม โดนถอดตั้งแต่นาที 10 ด้วยเหตุผลแท็กติก/สภาพร่างกาย
- ฆาบี กาลัน (J. Galán) – 7.0 เติมเกมซ้ายจัดจ้าน แอสซิสต์ให้กรีซมันน์ยิง 1-3
- เซร์คิโอ การ์โดโซ (J. Cardoso) – 7.0 ถอยมายืนคล้ายวิงขวา/มิดฟิลด์ตัวรับ ช่วยตัดเกมหลายจังหวะ
- เซซาร์ มาร์ติน (C. Martin) – 6.8 เติมเกมทางขวา ช่วยดันเกมรุกช่วงต้น ก่อนโดนถอดพักต้นครึ่งหลัง
กองกลางสาม
- คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (C. Gallagher) – 7.1 แอสซิสต์ให้กรีซมันน์ยิงลูกแรก วิ่งไม่มีหมดสนาม
- นาอูเอล โมลินา (N. Molina) – 7.7 เติมเกมรุกและทำแอสซิสต์ให้ราสปาโดรียิง 0-2
- เตียโก้ อัลมาดา (T. Almada) – 7.0 ทำเกมรุกระหว่างไลน์ พาบอลขึ้นหน้าได้ดี
กองหน้า
- อ็องตวน กรีซมันน์ (A. Griezmann) – 8.7 เหมาคนเดียวสองประตู ท็อปฟอร์มอีกนัด
- จาโคโม่ ราสปาโดรี (G. Raspadori) – 6.4 จบสกอร์คมลูกที่สอง แต่ภาพรวมหายไปจากเกมช่วงหลัง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ดาวิด ฮานชโก (17) – 7.6 ลงตั้งแต่นาที 10 แทนล็องเลต์ เสริมความแกร่งแนวรับ
- จูเลียโน ซิเมโอเน่ (20) – 6.4 ลงนาที 65 แทน มาร์ติน ช่วยวิ่งเพรสแดนหน้า
- ปาโบล บาร์ริออส (8) – 6.2 ลงนาที 66 แทน กัลลาเกอร์ คุมจังหวะบอลช่วงท้าย
- โกเก้ (Koke, หมายเลข 6) – 6.4 ลงนาที 66 แทน การ์โดโซ ช่วยเก็บบอลกลางสนาม
- นิโกลัส กอนซาเลซ (23) – 6.1 ลงนาที 82 แทน อัลมาดา ช่วยประคองเกมช่วงท้าย
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เชิงแท็กติกเกมนี้ต้องยอมรับว่า ซิเมโอเน่วางหมากมาดีตั้งแต่ต้น ใช้ระบบ 5-3-2 เน้นคอนโทรลจังหวะในแดนกลาง แล้วใช้ความคล่องของ อัลมาดา กับ โมลินา เชื่อมไปถึงคู่หน้า กรีซมันน์–ราสปาโดรี จังหวะเข้าทำของตราหมีจึงเน้นความแม่นยำมากกว่าปริมาณ โอกาสยิงไม่เยอะเท่าเจ้าบ้าน แต่แต่ละลูกแทบจะหมายถึงประตู สะท้อนสไตล์ทีมใหญ่ที่เล่นง่ายแต่คมกริบแบบที่นักสาย วิเคราะห์บอล คุ้นเคยกันดี
ในเกมรับ ตราหมีอัดแนวหลังห้าคน ปิดพื้นที่กราบทั้งสองฝั่ง ปล่อยให้บาเรียเรสครองบอลบริเวณกลางสนามได้บ้าง แต่เมื่อถึงโซนอันตรายจะมี เลอ นอร์ม็องด์ หรือ ฮานชโก คอยสกัดเคลียร์ทิ้ง ทำให้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งของเจ้าบ้านส่วนใหญ่ต้องพึ่งลูกกลางอากาศหรือเซตพีช ซึ่งก็ได้ผลจากประตูของโบนัต
ฝั่งบาเรียเรส ใช้ระบบ 3-5-2 เน้นเกมวิ่งสู้ฟัดและการสวนกลับเร็ว เมื่อโดนนำ 0-2 ก็ต้องดันวิงแบ็กขึ้นสูง กลายเป็นดาบสองคม ช่องว่างด้านหลังกองหลังสามคนเปิดกว้างให้ตราหมีโต้กลับได้เรื่อย ๆ แต่ในแง่เกมรุก เจ้าบ้านทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการวางบอลยาวไปให้คู่หน้าเก็บบอล และการเติมจากสองวิงแบ็กที่สร้างปัญหาให้แนวรับทีมเยือนอยู่ตลอด
จุดต่างที่ชัดเจนคือคุณภาพในกรอบเขตโทษ ทีมเยือนใช้โอกาสไม่เปลือง ส่วนเจ้าบ้านแม้จะมีโอกาส 7 ครั้งเข้ากรอบ แต่ติดเซฟของมุสโซ่หลายจังหวะ ถ้าวันนี้นายด่านชาวอาร์เจนไตน์ไม่หนึบขนาดนี้ มีสิทธิ์เห็นสกอร์พลิกไปอีกหน้าได้เหมือนกัน

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังจบเกมบอกชัดว่าทั้งสองทีมสู้กันสนุก แอตเลติโก บาเรียเรสยิงทั้งหมด 9 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ถือว่าเฉียบคมและสร้างโอกาสได้ไม่น้อย ขณะที่ แอตเลติโก้ มาดริด ยิง 8 ครั้งเข้ากรอบ 6 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็น 3 ประตู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายของทีมเยือน
การครองบอลเป็นทีมตราหมีที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน 60% ต่อ 40% คุมจังหวะเกมและดึงสปีดขึ้นลงได้ตามใจ ส่วนจำนวนฟาวล์เจ้าบ้านทำไป 6 ครั้ง ขณะที่ตราหมีทำถึง 12 ครั้ง สะท้อนสไตล์บอลบู๊ของลูกทีมซิเมโอเน่ที่พร้อมตัดเกมทุกจังหวะอันตราย แม้จะเล่นกันเต็มสูบแต่ไม่มีใบเหลืองใบแดงออกมาเลย เกมเดินไปอย่างแข็งแต่แฟร์
ลูกเตะมุมเท่ากัน 7 ต่อ 7 แสดงให้เห็นว่าทั้งสองทีมได้ลุ้นจากลูกเซตพีชต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นก็เป็นประตูสำคัญของโบนัตที่โหม่งตีไข่แตกให้บาเรียเรสกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 10′ แอตเลติโก้ มาดริด ส่ง ดาวิด ฮานชโก ลงแทน เกลม็องต์ ล็องเลต์ ปรับเกมรับตั้งแต่ต้น
- ⚽ 16′ ประตู 0-1 – คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จ่ายทะลุให้ อ็องตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าไปซัดไม่เหลือ
- ⚽ 20′ ประตู 0-2 – นาอูเอล โมลินา เติมเกมขวาก่อนครอสให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี ยิงจ่อ ๆ หนีเป็นสองลูก
- ⚽ 28′ ประตู 1-2 – เกร์ราโด้ โบนัต โหม่งจากลูกตั้งเตะให้บาเรียเรสตีไข่แตก จุดไฟให้เกมเดือด
- 🔁 64′ เจ้าบ้านเปลี่ยนตัว อักเซล เบฆาราโน ลงแทน ฆวน ดูรัน เติมพลังแดนกลาง
- 🔁 65′ บาเรียเรสขยับอีกสองครั้ง ส่ง บีคตอร์ มอริโญ แทน กุยเยร์โม่ รามิส และ มีเกลิโต้ แทน อิญากิ เซร์ราโน เพื่อเพิ่มเกมรุกริมเส้น
- 🔁 65’–66′ ตราหมีตอบโต้ เปลี่ยน จูเลียโน ซิเมโอเน่ ลงแทน เซร์คิโอ มาร์ติน ตามด้วย ปาโบล บาร์ริออส และ โกเก้ แทน กัลลาเกอร์ กับ การ์โดโซ ปรับกลางสนามคุมจังหวะ
- ⚽ 72′ ประตู 1-3 – ฆาบี กาลัน เติมสูงทางซ้าย เปิดให้ กรีซมันน์ ซัดเสียบเสา สองตุงในเกมนี้
- 🔁 73′ บาเรียเรสส่ง โมฮามาดู เคย์ต้า ลงแทน ฆวน การ์ลอส กลาร่า เพิ่มความเร็วแนวรุก
- 🧤 80′ จังหวะหวาดเสียว โตบาร์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยว แต่ ฮวน มุสโซ่ เซฟสำคัญช่วยตราหมีรอดพ้นการเสียประตู
- 🔁 82′ แอตเลติโก้ส่ง นิโกลัส กอนซาเลซ ลงแทน เตียโก้ อัลมาดา เติมความสดแดนกลาง
- 🔁 83′ บาเรียเรสเปลี่ยน อาเดรียน คาตาล่า ลงแทน โตบาร์ เพื่อหาตัวจบสกอร์ใหม่ช่วงท้าย
- ⚽ 90′ ประตู 2-3 – เจ้าบ้านได้จุดโทษในช่วงทดเวลา โมฮามาดู เคย์ต้า รับหน้าที่ยิงไม่พลาด จุดไฟให้ดราม่าช่วงสุดท้ายแต่ไล่ไม่ทัน
⭐ Player of the match – ฮวน มุสโซ่ กำแพงเหล็กตราหมี
แม้กรีซมันน์จะยิงสองประตู แต่รางวัล Man of the Match ตกเป็นของ ฮวน มุสโซ่ นายด่านคนใหม่ของตราหมีที่ได้เรตติ้งสูงถึง 8.8 จากผลงานเซฟสุดหนึบหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะดวลเดี่ยวกับ โตบาร์ นาที 80 ที่ถ้าเสียประตูตรงนั้น เกมอาจเปลี่ยนหน้าไปทันที
มุสโซ่คุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้ยอดเยี่ยม ออกมาตัดบอลกลางอากาศอย่างมั่นใจ แถมยังเซฟลูกยิงไกลและลูกเก็บตกแถวสองของบาเรียเรสไปหลายหน เขาคือความแตกต่างสำคัญที่ทำให้แอตเลติโก้ยังยืนระยะนำอยู่ตลอด แม้โดนบุกหนักช่วงท้ายเกม บ้านกีฬาให้คำเดียว “กำแพงมนุษย์” สมกับเป็นฮีโร่เงียบของค่ำคืนนี้
🏆 สถานการณ์ในโกปาเดลเรย์และผลต่อซีซัน
ชัยชนะ 3-2 ทำให้ แอตเลติโก้ มาดริด การันตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายบอลถ้วยแห่งชาติอย่าง โกปาเดลเรย์ เพิ่มความมั่นใจให้ทีมตราหมีที่กำลังไล่ล่าความสำเร็จทั้งในลีกและบอลถ้วย ฤดูกาลนี้ซิเมโอเน่ชัดเจนว่าหวังลุ้นแชมป์ทุกสนาม การรอดตายจากเกมที่กดดันแบบนี้คือบททดสอบสำคัญ
ส่วนแอตเลติโก บาเรียเรส แม้ต้องจบเส้นทางในรอบ 32 ทีม แต่การสู้กับทีมใหญ่ได้สูสีขนาดนี้ย่อมเป็นกำลังใจมหาศาลต่อโปรแกรมในลีก ยิ่งนักเตะอย่าง โบนัต, เคย์ต้า และกัสเตลล์โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น ก็ยิ่งทำให้ทีมมีอาวุธพร้อมสู้ในเกมลีกที่รออยู่
📅 ตารางคะแนนและตารางบอลนัดถัดไป
ในแง่ตารางคะแนน แม้โกปาเดลเรย์จะเป็นระบบน็อกเอาต์ไม่มีเก็บแต้มแบบลีก แต่ผลนัดนี้ส่งผลทางอ้อมต่อความมั่นใจและสภาพจิตใจของทั้งสองทีมเต็ม ๆ แอตเลติโก้ มาดริด เดินหน้าต่อในบอลถ้วย พร้อมเตรียมโฟกัสกลับไปลุยลาลีกาเพื่อลุ้นพื้นที่หัวตาราง ขณะที่บาเรียเรสต้องรีบรีเซ็ตกลับไปล่าแต้มในเซกุนดา เฟเดราซิออน เพื่อหนีโซนอันตรายและไต่ลำดับให้ดีขึ้น
สำหรับแฟนบอลที่อยากตามต่อจาก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล นัดถัดไป เกมสำคัญที่รออยู่มีดังนี้
- แอตเลติโก บาเรียเรส จะกลับไปเล่นในเซกุนดา เฟเดราซิออน พบ บาร์เซโลนา แอตเลติก วันที่ 21/12/25 เวลา 18.00 น. ก่อนจะออกไปเยือน โอลอต วันที่ 04/01/26
- แอตเลติโก้ มาดริด ในลาลีกา มีโปรแกรมหนัก เริ่มจากการบุกเยือน กิโรน่า วันที่ 21/12/25 เวลา 20.00 น. และต่อด้วยเกมเดือดกับ เรอัล โซเซียดาด วันที่ 05/01/26 เวลา 03.00 น.
โปรแกรมสองนัดนี้จะเป็นตัววัดว่าฟอร์มร้อนแรงจากบอลถ้วยจะต่อยอดสู่ลีกได้มากน้อยแค่ไหน
📺 ติดตามบ้านผลบอล และทุกจังหวะเดือดได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่ตามเช็กสกอร์สดลุ้นกันตัวเกร็งในเกมนี้ คงรู้ดีว่าฟุตบอลถ้วยสเปนไม่มีคำว่าง่ายสำหรับทีมใหญ่ ถ้าไม่โฟกัสหลุดเมื่อไหร่ พร้อมโดนทีมเล็กลงโทษทันที แฟนบอลที่อยากไม่พลาดทุกสกอร์ ทุกช็อตเดือดของทั้งลีกใหญ่ลีกเล็ก เข้ามาเช็ก บ้านผลบอล อัปเดตสกอร์สด ข่าวก่อนแข่ง–หลังแข่ง และสถิติแน่น ๆ ได้ตลอดกับ บ้านกีฬา เราจะพาแฟนบอลลุยทุกค่ำคืนแบบติดขอบจอ

