จาก : ผลบอลสด โกปปาอีตาเลีย ระหว่าง ลาซิโอ 1-0 เอซี มิลาน วันนี้ 5/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกโกปปา อีตาเลีย รอบ 16 ทีม ที่โรมเกมนี้ “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ เปิดบ้านเชือด “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน 1-0 จากประตูโทนช่วงท้ายเกมของ มัตเตีย ซักคัญญี่ นาที 80 ทำให้ ลาซิโอเก็บชัยสำคัญต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง ส่วนมิลานต้องเก็บกระเป๋าตกรอบไปแบบสุดเจ็บ โดยระหว่างเกม แฟนบอลติดตามเช็กสกอร์ผ่าน ผลบอลสด และสรุปจาก บ้านผลบอล กันแบบตึงเครียดตลอด 90 นาที
🕒 ครึ่งแรก: เกมรัดกุม เน้นเพรส ไม่ยอมเปิดหน้าแลก
ต้นเกม ลาซิโอของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เลือกยืน 4-3-3 เน้นต่อบอลเท้าสู่เท้าจากหลังขึ้นหน้า ใช้ความคล่องของ ซักคัญญี่ กับ กุเอนดูซี่ คอยโยกทำเกมริมเส้น ส่วนแดนหน้า วาเลนติน กาสตานญอส ค้ำหอกคอยปั่นป่วนแนวรับมิลาน
ฝั่ง มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี วาง เอซี มิลาน ในระบบ 3-5-1-1 ให้ ราฟาเอล เลเอา ยืนหน้าเป้า มี รูเบน ลอฟตัส-ชีค กับ อาร์ตูร์ ยาชารี ประสานงานตรงกลาง ขณะที่ อาเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส กับ เปร์วิส เอสตูปิญาน รับบทวิงแบ็กขึ้นลงตลอดฝั่งซ้ายขวา
ช่วง 20 นาทีแรกทั้งสองทีมยังไม่เร่งจังหวะ เกมจึงเน้นชิงพื้นที่กลางสนาม ลาซิโอใช้การสวนกลับเร็วจากการวางบอลยาวของ มาริโอ กีล่า กับ อเลสซิโอ โรมันโญลี่ เปิดขึ้นหน้า ขณะที่มิลานพยายามเคาะบอลสั้นทะลุช่อง แต่ติดแนวรับลาซิโอที่ยืนตำแหน่งดี
จังหวะหวาดเสียวของครึ่งแรกส่วนใหญ่เป็นของเจ้าบ้าน จากการสอดมายิงของ กุเอนดูซี่ และลูกยิงไกลของ บาซิช แต่ยังไม่ผ่านมือ ไมค์ เมญ็อง ที่อ่านจังหวะได้ดี ขณะที่มิลานได้โอกาสตอบโต้จาก เลเอา และลูกเก็บตกของ ราบิโอต์ ทว่าบอลยังไม่ตรงกรอบ
ท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือดขึ้น มีฟาวล์หนักหลายครั้ง จน สตราฮินญ่า ปาฟโลวิช กองหลังมิลานโดนใบเหลืองตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะเสียบใส่ตัวรุกเจ้าถิ่น หลังจากนั้นรูปเกมยังคงสูสี ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกแบบไร้สกอร์ 0-0
🔥 ครึ่งหลัง: ซาร์รี่แก้เกมอยู่หมัด ซักคัญญี่ปิดบัญชี
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลาซิโอเร่งจังหวะทันที ซาร์รี่ตัดสินใจปรับแดนกลาง นำ ฟิซาโย เดเล-บาชิรู ลงแทน มาติอัส เวชิโน และส่ง ทิจจานี นอสลิน แทน กาสตานญอส ในนาทีที่ 58 ทำให้เกมรุกเจ้าบ้านมีความดุดันและสปีดมากขึ้น
มิลานตอบโต้ด้วยการถอด ซาเลอมาแกร์ส ออก แล้วใช้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงเติมความสดริมเส้นนาที 64 แต่จังหวะสุดท้ายยังคมไม่พอ ผ่านครึ่งหลังไป ลาซิโอเริ่มกดดันหนัก โดยได้ลุ้นจากลูกยิงของ นอสลิน และ ซักคัญญี่ หลายครั้ง
จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงนาที 71 เมื่อ นูโน ตาวาเรส ลงมาแทน ลูก้า เปลเลกรีนี่ เพื่อเน้นเกมรุกฝั่งซ้าย และเพียง 9 นาทีต่อมา ตาวาเรสก็แสดงผลทันที นาทีที่ 80 เขาเติมเกมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเปิดบอลกลับเข้ากลางให้ มัตเตีย ซักคัญญี่ สอดมาซัดจ่อๆ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้ลาซิโอ ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นของทั้งสนาม
หลังเสียประตู มิลานต้องเดินหน้าบุกเต็มกำลัง อัลเลกรีส่ง ลูก้า โมดริช และ คริสเตียน พูลิซิช ลงมาเพิ่มความสร้างสรรค์เกมรุก แต่วิธีการเจาะแนวรับเจ้าบ้านยังแก้ไม่ได้ ติดทั้งการสกัดของคู่เซ็นเตอร์ กีล่า–โรมันโญลี่ และการเซฟหนึบของ คริสตอส มันดาส ที่ยืนตำแหน่งดีตลอดเกม
ช่วงท้ายเกม ลาซิโอเปลี่ยนเอา มัตเตโอ กันเชลลิเอรี กับ เปโดร ลงมาช่วยคุมจังหวะและเก็บบอลถ่วงเวลา ขณะที่มิลานได้เพียงโอกาสยิงไกลประปราย และลูกเปิดเข้ากรอบเขตโทษแต่ไม่มีความอันตรายพอ จบเกม 90 นาที ลาซิโอเปิดบ้านเชือดมิลาน 1-0 ทะลุรอบ 8 ทีมโกปปา อีตาเลียได้สำเร็จ
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🦅 ลาซิโอ (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- คริสตอส มันดาส (7.5)
กองหลัง
- อดัม มารูชิช (7.1)
- มาริโอ กีล่า (7.7)
- อเลสซิโอ โรมันโญลี่ (7.0)
- ลูก้า เปลเลกรีนี่ (6.8)
กองกลาง
- มัตเตโอ กุเอนดูซี่ (7.1)
- มาติอัส เวชิโน (6.7)
- โตมา บาซิช (7.3)
กองหน้า
- กุสตาฟ อิสักเซ่น (6.4)
- วาเลนติน กาสตานญอส (6.2)
- มัตเตีย ซักคัญญี่ (กัปตัน) (7.5) ผู้ทำประตูชัย
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ฟิซาโย เดเล-บาชิรู (7.0) ลงแทน เวชิโน นาที 58
- ทิจจานี นอสลิน (6.8) ลงแทน กาสตานญอส นาที 58
- นูโน ตาวาเรส (7.1) ลงแทน เปลเลกรีนี่ นาที 71 (แอสซิสต์ประตูชัย)
- มัตเตโอ กันเชลลิเอรี (6.5) ลงแทน อิสักเซ่น นาที 83
- เปโดร (6.4) ลงแทน ซักคัญญี่ นาที 83
ตัวสำรองไม่ได้ลง: อีวาน โพรเวเดล, อเลสซิโอ ฟูร์ลันเน็ตโต, มานูเอล ลาซซารี, โอลิเวอร์ พรอฟส์การ์ด, ปาทริก, เรด้า เบลไฮยาน, บูลาเย เดีย
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ไม่มีชื่อ: ดานิโล คาตัลดี้, นิโคโล โรเวลล่า, มัตเตโอ กันเชลลิเอรี (ถูกระบุเป็น “เสี่ยงเจ็บ”), ซามูแอล ชีโก้
🔴 เอซี มิลาน (3-5-1-1)
ผู้รักษาประตู
- ไมค์ เมญ็อง (กัปตัน) (7.0)
กองหลัง
- ฟิกาโย โทโมริ (7.0)
- เควิน เดน วินเทอร์ (6.7)
- สตราฮินญ่า ปาฟโลวิช (6.2)
วิงแบ็ก / มิดฟิลด์กว้าง
- อาเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส (6.5)
- เปร์วิส เอสตูปิญาน (7.0)
กองกลางตัวกลาง
- ซามูเอเล ริคคี (6.9)
- อาร์ตูร์ ยาชารี (6.9)
- อาเดรียง ราบิโอต์ (6.2)
- รูเบน ลอฟตัส-ชีค (6.7)
กองหน้า
- ราฟาเอล เลเอา (6.3)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (6.4) ลงแทน ซาเลอมาแกร์ส นาที 64
- ลูก้า โมดริช (6.9) ลงแทน ยาชารี นาที 81
- คริสเตียน พูลิซิช (6.5) ลงแทน ลอฟตัส-ชีค นาที 81
- ดาวิเด บาร์เตซซากี (6.8) ลงแทน เอสตูปิญาน นาที 87
ตัวสำรองไม่ได้ลง: ลอเรนโซ ทอร์ริอานี, ปิเอโตร เตร์ราชเชียโน, มัตเตโอ กับเบีย, ดาวิด โอโดกู, เอมานูเอเล ซาล่า
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ไม่มีชื่อ: ซานติอาโก ฆิเมเนซ, ซาคารี อาเตเคเม, ยูสซูฟ โฟฟาน่า
🎯 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
ในเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติกเกมนี้ต้องยอมรับว่าซาร์รี่เตรียมการบ้านมาดี ลาซิโอใช้ระบบ 4-3-3 ที่ยืดหยุ่น แดนกลางดันสูงบีบไลน์รับมิลานให้เล่นยาก กุเอนดูซี่คอยตัดเกมและเชื่อมบอลจากกลางสนามไปถึงแผงรุก ขณะที่ บาซิช เติมขึ้นไปสอดรับช่องว่างด้านในของซักคัญญี่ ทำให้ฝั่งซ้ายของลาซิโอมีทั้งความเร็วและการประสานงานที่แน่นอน
เมื่อไม่มีบอล ลาซิโอหุบปีกทั้งสองข้างลงต่ำเปลี่ยนโครงเป็น 4-5-1 กดดันตัวทำเกมของมิลานไม่ให้มีเวลาเงยหน้าเปิดบอล เลเอาจึงมักต้องถอยลงต่ำไปรับบอลเอง ทำให้พื้นที่ในกรอบเขตโทษว่างและง่ายต่อการคุมของคู่เซ็นเตอร์ กีล่ากับโรมันโญลี่ ที่อ่านทางและดักจังหวะได้เยี่ยม
ฝั่งมิลานในระบบ 3-5-1-1 พยายามขึ้นเกมจากหลังโดยใช้ ริคคี และ ยาชารี คอยรับบอลจากสามเซ็นเตอร์แล้วกระจายออกปีก เพื่อให้ ซาเลอมาแกร์ส และ เอสตูปิญาน เติมขึ้นไปเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกเพรสสูงต่อเนื่อง การต่อบอลสั้นของมิลานเริ่มสะดุด ต้องหันไปเล่นบอลยาวให้เลเอาไล่เก็บ ทำให้เกมรุกดูขาดมิติและพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวมากเกินไป
เกมรับของมิลานเองแม้จะยืนโซนได้ดีในช่วงแรก โดยเฉพาะโทโมริที่คุมพื้นที่ดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแนวรุกลาซิโอได้ยอดเยี่ยม แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ความล้าเริ่มส่งผล วิงแบ็กไม่สามารถถอยลงมาช่วยอุดริมเส้นได้เร็วเหมือนเดิม จังหวะเสียประตูจึงเห็นได้ชัดว่าแนวรับฝั่งซ้ายปล่อยให้ ตาวาเรส มีพื้นที่เปิดบอลมากเกินไป และกลางประตูปล่อย ซักคัญญี่ สอดเข้าชาร์จแบบไร้ตัวประกบ
สรุปแล้ว ลาซิโอชนะทั้งเรื่องแผน เกมรุก และเกมรับอย่างชัดเจน ใช้จังหวะเดียวของการเติมจากแบ็กซ้ายที่เปลี่ยนรูปเกมได้ ขณะที่มิลานแม้จะพยายามปรับแท็คติกด้วยการส่ง โมดริช และ พูลิซิช ลงมา แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะถูกกดดันและอ่านเกมได้หมดจด
📊 สถิติการแข่งขัน
หากมองจากตัวเลขหลังเกม ลาซิโอเป็นฝ่ายกุมสถานการณ์ได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด พวกเขามียิงทั้งหมด 12 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ส่วนมิลานมีโอกาสยิงเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้งเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงคุณภาพเกมรุกที่คมกว่า และการจบสกอร์ที่มีน้ำหนักมากกว่า
ลาซิโอได้ลูกเตะมุมถึง 6 ครั้ง เทียบกับมิลานที่มีเพียง 2 ครั้ง บ่งบอกว่าทีมเจ้าบ้านบุกกดดันใส่ปีศาจแดงดำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนฟาวล์ มิลานทำมากถึง 16 ครั้ง เทียบกับลาซิโอ 9 ครั้ง เพิ่มภาพลักษณ์ชัดเจนว่าทีมเยือนต้องใช้การหยุดเกมด้วยการฟาวล์เพื่อชะลอความร้อนแรงของแนวรุกเจ้าถิ่น นอกจากนี้ มิลานยังโดนใบเหลือง 2 ใบ (ปาฟโลวิช, เดน วินเทอร์) ส่วนลาซิโอจบเกมแบบไร้ใบเตือน แสดงถึงวินัยในเกมรับและการเข้าปะทะที่แม่นยำกว่า
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาทีที่ 2 สตราฮินญ่า ปาฟโลวิช (เอซี มิลาน) โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนักใส่แนวรุกลาซิโอ
- 🔁 นาทีที่ 58 ลาซิโอเปลี่ยนสองคน ฟิซาโย เดเล-บาชิรู ลงแทน มาติอัส เวชิโน และ ทิจจานี นอสลิน ลงแทน วาเลนติน กาสตานญอส เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 นาทีที่ 64 เอซี มิลาน ส่ง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงแทน อาเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส หวังเพิ่มสปีดริมเส้น
- 🔁 นาทีที่ 71 ลาซิโอส่ง นูโน ตาวาเรส ลงแทน ลูก้า เปลเลกรีนี่ เสริมเกมรุกฝั่งซ้าย
- ⚽ นาทีที่ 80 ลาซิโอได้ประตูนำ 1-0 นูโน ตาวาเรส เติมเกมมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ มัตเตีย ซักคัญญี่ สอดมาซัดจ่อๆ ไม่เหลือ
- 🔁 นาทีที่ 81 มิลานแก้เกมทันที ส่ง ลูก้า โมดริช ลงแทน อาร์ตูร์ ยาชารี และ คริสเตียน พูลิซิช ลงแทน รูเบน ลอฟตัส-ชีค
- 🔁 นาทีที่ 83 ลาซิโอปรับแท็คติกอีกครั้ง ส่ง มัตเตโอ กันเชลลิเอรี ลงแทน กุสตาฟ อิสักเซ่น และ เปโดร ลงแทน ซักคัญญี่ เพื่อคุมจังหวะเกม
- ⚠️ นาทีที่ 84 เควิน เดน วินเทอร์ (เอซี มิลาน) ได้ใบเหลืองจากการตัดฟาวล์ใส่แนวรุกลาซิโอ
- 🔁 นาทีที่ 87 เอซี มิลานเปลี่ยนตัวสุดท้าย ส่ง ดาวิเด บาร์เตซซากี ลงเล่นแทน เปร์วิส เอสตูปิญาน
- ⏰ ทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที มิลานพยายามโหมบุกแต่ไม่สามารถเจาะกำแพงรับลาซิโอได้ จบเกมเจ้าบ้านชนะ 1-0
⭐ Player of the Match: มาริโอ กีล่า ฟูเอนเตส
รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์เป็นของ มาริโอ กีล่า ฟูเอนเตส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟลาซิโอ ที่ได้คะแนนสูงถึง 7.7 เขาคือหัวใจเกมรับอย่างแท้จริง อ่านจังหวะบอลยาวของมิลานได้ทุกดอก ชนะลูกกลางอากาศแทบทั้งหมด และยืนตำแหน่งได้ยอดเยี่ยม จนทำให้ ราฟาเอล เลเอา แทบไม่มีพื้นที่หายใจ
กีล่ายังมีส่วนสำคัญในการเซ็ตเกมจากแนวหลัง ออกบอลสั้นต่อบอลขึ้นแดนกลางให้กุเอนดูซี่เริ่มต้นการโจมตีของทีมอยู่ตลอด เมื่อท้ายเกมโดนมิลานโหมบุก เขากับโรมันโญลี่ช่วยกันบล็อกช็อตสำคัญหลายจังหวะ ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0 จนจบ 90 นาที ถือเป็นผลงานระดับผู้นำแผงหลังสมศักดิ์ศรีรางวัลนี้
🏆 สถานการณ์ในเส้นทางโกปปา อีตาเลีย หลังเกมนี้
ชัยชนะ 1-0 ทำให้ลาซิโอผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายโกปปา อีตาเลีย เพิ่มความหวังในการลุ้นแชมป์บอลถ้วยซีซั่นนี้อย่างจริงจัง เพราะการเขี่ยทีมใหญ่อย่างเอซี มิลานตกรอบ จะสร้างความมั่นใจและโมเมนตัมเชิงบวกให้กับทั้งทีมและแฟนบอลอย่างมาก
ในมุมของมิลาน ความพ่ายแพ้เกมนี้หมายถึงการหมดสิทธิ์ลุ้นถ้วยภายในประเทศหนึ่งรายการ เหลือเพียงภารกิจในลีกและเวทียุโรปเท่านั้น แรงกดดันจึงถาโถมไปที่ผลงานในเซเรีย อา ว่าจะสามารถรักษาฟอร์มและกลับมาตอบแทนแฟนบอลได้หรือไม่หลังตกรอบบอลถ้วยสำคัญแบบน่าเสียดาย
📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอลนัดถัดไปของทั้งสองทีม
หลังจบศึกโกปปา อีตาเลีย ทั้งลาซิโอและเอซี มิลานต้องหันไปโฟกัสในศึกเซเรีย อา ต่อทันที แฟนบอลที่ตามเช็ก โปรแกรมบอล จะเห็นว่าทั้งสองทีมยังมีคิวลงเล่นหนักต่อเนื่อง
ฝั่งลาซิโอ มีโปรแกรมเปิดบ้านรับโบโลญญ่า จากนั้นออกไปเยือนปาร์ม่า ซึ่งทั้งสองนัดสำคัญต่อการลุ้นพื้นที่ยุโรปของทีม อินทรีฟ้าขาวจึงต้องรักษาฟอร์มแกร่งจากเกมนี้ให้ได้ เพื่อยืดความมั่นใจในลีกและสร้างแรงกดดันคู่แข่งโดยตรง
ส่วนเอซี มิลาน จะต้องบุกเยือนโตริโน ก่อนกลับมาเล่นในบ้านเจอกับซัสซูโอโล โปรแกรมต่อเนื่องแบบนี้ทำให้ลูกทีมของอัลเลกรีไม่มีเวลาเสียใจนาน ต้องรีบลืมความพ่ายแพ้ในบอลถ้วย แล้วงัดฟอร์มดีที่สุดออกมาในลีก เพื่อไม่ให้คะแนนหลุดมืออีก หากอยากไล่ล่าหัวตารางต่อไป
🏟 ติดตาม บ้านผลบอล และความเคลื่อนไหวที่ บ้านกีฬา
เกมนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดว่า ลาซิโอพร้อมแล้วที่จะยืนหยัดชนยักษ์ในบอลถ้วย ขณะที่เอซี มิลานต้องกลับไปทบทวนทั้งเกมรุกและเกมรับว่าเหตุใดจึงขาดความคมและความแน่นอนในจังหวะสำคัญแบบนี้ แฟนบอลที่อยากตามทุกสกอร์ ทุกแมตช์ของสองทีมใหญ่ สามารถเช็กสรุปสกอร์ สถิติ และไฮไลต์จาก บ้านผลบอล และรายงานสดสไตล์ดุดันจาก บ้านกีฬา ได้ตลอดทั้งซีซั่น
บ้านกีฬา พร้อมอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโลกฟุตบอล ทั้ง ผลบอลสด ข่าวซื้อขายนักเตะ บทวิเคราะห์แนวลึก และบรรยากาศริมสนามให้แฟนลูกหนังชาวไทยได้มันส์กันทุกวัน อย่าพลาดติดตามกันให้ครบทุกเกม
