จาก : ผลบอลสด ลีกวัน อังกฤษ ระหว่าง เร้ดดิ้ง 1-0 สตีฟเนจ โบโรห์ วันนี้ 7/11/68 – บ้านกีฬา
เกมลีกวัน อังกฤษ คู่มันส์ที่มาแรงในสาย ผลบอลสด วันนี้ เร้ดดิ้ง เปิดมาเดดสต๊อตส์กี้ สเตเดียม รับมือ สตีฟเนจ โบโรห์ ทีมลุ้นเลื่อนชั้น ผลจบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ของเจ้าบ้านจากประตูโทนตั้งแต่นาทีที่ 4 ของ ชาร์ลี ซาเวจ ทำให้บรรยากาศในสนามร้อนแรงตั้งแต่ต้นจนจบ บ้านกีฬา ขอสรุปทุกจังหวะสำคัญแบบจัดเต็ม
⏱ ครึ่งแรก: ซาเวจซัดเปิดหัว เกมเดือดตั้งแต่นาทีต้นๆ
เสียงนกหวีดเริ่มเกมยังไม่ทันจาง เร้ดดิ้งก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว นาทีที่ 4 คีเอลีห์ เอฮิภาติออมแฮน เชื่อมบอลให้ ดีน คเยเรวา ลากมาทางซ้ายก่อนหักเข้ากลางให้ ชาร์ลี ซาเวจ กดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ตั้งแต่หัววัน พร้อมจุดไฟให้แฟนบอลเฮลั่นตามสไตล์คนตามเช็ก บ้านผลบอล
หลังเสียประตู สตีฟเนจ พยายามตั้งเกมบุกตอบโต้ แต่โดนแดนกลางของเร้ดดิ้งที่มี ซาเวจ กับ คัลลัม ดอยล์ ไล่บี้ไม่ให้หายใจ นาทีที่ 10 เจเกอร์สัน ดอร์เซ็ต ต้องรับใบเหลืองแรกของเกมจากจังหวะตัดฟาวล์กันโต้กลับของทีมเยือน ก่อนที่นาที 29 ลุค ฟรีสโตน แบ็กซ้ายสตีฟเนจจะโดนเหลืองจากการเสียบสกัดด้านข้าง
ท้ายครึ่งแรกเกมยังเป็นเร้ดดิ้งที่คุมจังหวะได้ดีกว่า ใช้การต่อบอลสั้นตัดจังหวะ ไม่เปิดโอกาสให้สตีฟเนจเล่นเกมโยนอย่างถนัด ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 45+1 ดีน คเยเรวา โดนเหลืองจากการฟาวล์กลางสนาม แต่สกอร์ยังคง 1-0 ให้เจ้าถิ่นก่อนเข้าสู่ห้องแต่งตัว
⏱ ครึ่งหลัง: เกมเดือดใบเหลืองปลิว สตีฟเนจพับสนามแต่ยิงไม่เข้า
ครึ่งหลัง อเล็กซ์ เรเวลล์ แก้เกมเร็ว นาที 56 เจค ฮัฟตัน โดนเหลืองจากจังหวะตัดเกม จากนั้นนาที 62 สตีฟเนจเปลี่ยนทีเดียวสามคนส่ง แดน บัตเลอร์, ฟีนิกซ์ แพตเทอร์สัน และ เจมี รีด แทน ลุค ฟรีสโตน, คาร์ล แคมป์เบลล์ และ กีเยม อัดเม เพื่อเติมความสดในเกมรุก
ไม่กี่อึดใจ เร้ดดิ้งขยับเช่นกัน นาที 63 ส่ง แมตต์ ริทชี ลงแทน เปาโล เลน เพิ่มประสบการณ์ริมเส้นขวา เกมเริ่มเปิดแลกมากขึ้น สตีฟเนจพยายามบี้ใส่แต่แนวรับเจ้าบ้านยังยืนตำแหน่งดี นาที 70 ริทชีโดนเหลืองจากการถ่วงเวลาอย่างจงใจ กลายเป็นใบเหลืองใบที่สามของเร้ดดิ้งในเกมนี้
ช่วงท้ายเกมทีมเยือนเดินหน้าลุยเต็มที่ นาที 74 ส่ง ลูอิส ออร์ฟอร์ด แทน ฮัฟตัน ตามด้วยนาที 75 เปลี่ยนเอา แดเนียล ฟิลลิปส์ ลงแทน จอร์แดน โรเบิร์ตส์ เพื่อเติมพลังกลางสนาม ด้านเจ้าบ้านจัดการเปลี่ยนคู่กลางรุกนาที 79 ส่ง แรนเดล วิลเลียมส์ แทน คเยเรวา และ มาร์ก โอ’มาโฮนี แทน ดอยล์ เพื่อดึงจังหวะสวนกลับ
ท้ายเกมความดุเดือดยังไม่จบ นาที 86 ฟิลลิปส์โดนเหลืองจากการเข้าสกัดช้า ก่อนที่นาที 88 ฮาร์วีย์ ไวท์ จะตามมาโดนอีกใบ รวมแล้วสตีฟเนจมีใบเหลืองถึงสี่ใบ ขณะที่เร้ดดิ้งปิดเกมด้วยการส่ง แอนดี ยีอาดอม ลงมาแทน เอฮิภาติออมแฮน นาที 90 เพื่ออุดเกมรับในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาที สุดท้ายทีมเยือนบุกล้นแต่หาจังหวะยิงจะแจ้งไม่ได้ จบเกมเร้ดดิ้งเปิดบ้านเฉือน 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้อย่างเข้มข้น
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔵 เร้ดดิ้ง (4-2-3-1)
ผู้จัดการทีม: เลียม ริชาร์ดสัน
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: 1 โจเอล เปเรย์รา (เรตติ้ง 7.0) เซฟลูกเปิดโด่งและลูกครอสได้มั่นใจ
- กองหลังขวา: 2 คาเล็บ อับเรฟา (6.9) เติมเกมริมเส้นแต่ยังรักษาระวังหลังบ้าน
- เซ็นเตอร์แบ็ก: 15 พอดี โอ’คอนเนอร์ (7.2) อ่านจังหวะโหม่งเคลียร์ได้ตลอด
- เซ็นเตอร์แบ็ก: 33 แนวรับ ดีน วิลเลียมส์ (6.9) คุมพื้นที่กลางอากาศได้ดี
- แบ็กซ้าย: 3 แจ็กสัน ดอร์เซ็ต (6.5) เก็บกวาดริมเส้น แม้ต้องแลกด้วยใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม
- มิดฟิลด์ตัวรับ: 8 ชาร์ลี ซาเวจ (7.9) ยิงประตูชัยและคุมจังหวะเกมรุก–รับ เป็นหัวใจแดนกลาง
- มิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์: 29 คัลลัม ดอยล์ (6.8) ช่วยไล่บี้และเชื่อมบอลขึ้นหน้า
- แนวรุกฝั่งซ้าย: 11 ดีน คเยเรวา (6.4) แอสซิสต์ประตูชัย ก่อนถูกเปลี่ยนออกท้ายเกมและมีใบเหลืองหนึ่งใบ
- เพลย์เมกเกอร์ตัวกลาง: 10 กัปตัน ลูอิส วิง (6.5) คุมจังหวะการขึ้นเกม
- แนวรุกฝั่งขวา: 32 เปาโล เลน (6.8) วิ่งหาพื้นที่เปิดทางให้เพื่อนโจมตี
- กองหน้าตัวเป้า: 9 คีเอลีห์ เอฮิภาติออมแฮน (6.6) ถ่างแนวรับคู่แข่ง เปิดพื้นที่ให้กลางขึ้นยิง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 30 แมตต์ ริทชี (6.5) ลงนาที 63 แทน เลน และโดนเหลืองนาที 70 จากการถ่วงเวลา
- 21 แรนเดล วิลเลียมส์ (6.7) ลงนาที 79 แทน คเยเรวา เติมสปีดริมเส้นช่วงท้าย
- 20 มาร์ก โอ’มาโฮนี (6.7) ลงนาที 79 แทน ดอยล์ ช่วยพักบอลแดนหน้า
- 17 แอนดี ยีอาดอม ลงนาที 90 แทน เอฮิภาติออมแฮน เสริมเกมรับ
ตัวสำรองไม่ได้ลง: 25 แจ็ก สตีเวนส์, 22 ไมเคิล สติกแลนด์, 19 อันเดร การ์เซีย
🔴 สตีฟเนจ โบโรห์ (4-2-3-1)
ผู้จัดการทีม: อเล็กซ์ เรเวลล์
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: 1 ฟินน์ มาร์แชลล์ (6.7) ป้องกันหลายจังหวะไม่ให้ทีมโดนยิงเพิ่ม
- แบ็กขวา: 2 ลูเธอร์ เจมส์-วิลดิน (6.3) เจองานหนักในการหยุดเกมริมเส้นเร้ดดิ้ง
- เซ็นเตอร์แบ็ก: 15 ชาร์ลี กูด (7.1) อ่านเกมดี เคลียร์ลูกกลางอากาศได้เยอะ
- เซ็นเตอร์แบ็ก: 5 กัปตัน คาร์ล เพียร์เจียนนี (7.0) ยืนคุมแนวรับเหนียวแน่น
- แบ็กซ้าย: 16 ลุค ฟรีสโตน (6.4) โดนเหลืองนาที 29 ก่อนถูกถอดออกนาที 62
- มิดฟิลด์ตัวรับ: 18 ฮาร์วีย์ ไวท์ (7.4) เป็นคนคุมจังหวะแดนกลางของทีมเยือน แม้ช่วงท้ายจะโดนเหลือง
- มิดฟิลด์เชื่อมเกม: 4 เจค ฮัฟตัน (6.5) ตัดเกมแต่ต้องแลกด้วยใบเหลืองนาที 56
- แนวรุกขวา: 11 จอร์แดน โรเบิร์ตส์ (6.4) พยายามลากตัดเข้าในแต่เจอการปิดช่อง
- เพลย์เมกเกอร์ตัวกลาง: 10 แดน เคมป์ (6.4) หาช่องจ่ายทะลุแต่ถูกบีบพื้นที่ตลอด
- แนวรุกซ้าย: 20 คาร์ล แคมป์เบลล์ (6.1) ใช้ความเร็วเจาะริมเส้นก่อนโดนเปลี่ยนนาที 62
- กองหน้าตัวเป้า: 9 กีเยม อัดเม (6.7) พยายามพักบอลให้เพื่อน แต่แทบไม่มีจังหวะลุ้นประตูชัดเจน
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 3 แดน บัตเลอร์ (6.9) ลงนาที 62 แทน ฟรีสโตน ช่วยเติมเกมรุกจากแบ็กซ้าย
- 44 ฟีนิกซ์ แพตเทอร์สัน (6.3) ลงนาที 62 แทน แคมป์เบลล์ เพิ่มความจัดจ้านริมเส้นซ้าย
- 19 เจมี รีด (6.3) ลงนาที 62 แทน อัดเม เป็นหน้าเป้าตัวใหม่แต่ยังหาโอกาสไม่ได้
- 26 ลูอิส ออร์ฟอร์ด (6.5) ลงนาที 74 แทน ฮัฟตัน เติมพลังแดนกลาง
- 8 แดเนียล ฟิลลิปส์ (6.5) ลงนาที 75 แทน โรเบิร์ตส์ ก่อนโดนเหลืองท้ายเกม
ตัวสำรองไม่ได้ลง: 13 เทย์ แอชบี-แฮมมอนด์, 17 แจสเปอร์ แพทเทนเดน
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติกเกมนี้ถือว่าน่าสนใจ เร้ดดิ้งเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่ยืดหยุ่น กลายเป็น 4-3-3 เวลาเพรสสูง แดนกลางสามคน ซาเวจ–ดอยล์–วิง ทำงานประสานกันดีมาก ซาเวจคอยยืนต่ำหน้าคู่เซ็นเตอร์ช่วยปิดช่องตรงกลาง ส่วนดอยล์จะดันขึ้นบี้คู่กลางของสตีฟเนจ ทำให้ทีมเยือนขึ้นบอลจากเท้าสู่เท้าแทบไม่ได้ ต้องอาศัยโยนยาวเป็นหลัก
เกมรุกเร้ดดิ้งเน้นใช้ความเร็วของ คเยเรวา และ เลน ฉีกออกริมเส้นแล้วหักเข้ากลางให้ เอฮิภาติออมแฮน ดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้แถวสองยิงประตู ลูก 1-0 ที่ได้ตั้งแต่ต้นเกมก็มาจากรูปแบบนี้เป๊ะ ส่วนช่วงท้ายเมื่อ สตีฟเนจ ดันไลน์สูงเพื่อบุกเอาคืน เร้ดดิ้งปรับมาเล่นสวนกลับเต็มรูปแบบ ใช้ วิลเลียมส์ กับ โอ’มาโฮนี วิ่งไล่บี้แนวรับที่ล้าแล้ว ทำให้ทีมเยือนต้องระวังหลัง ไม่สามารถบีบเต็มหน้าได้
ฝั่งสตีฟเนจ ระบบ 4-2-3-1 เช่นกันแต่เน้นการเพรสสูงตั้งแต่แดนบน อย่างไรก็ตามการเซตบอลจากหลังขึ้นหน้าติดกับการจัดพื้นที่ของเร้ดดิ้ง ทำให้บอลมักไปจบที่การวางยาวให้หน้าเป้าอย่าง อัดเม หรือ รีด ดวลกับคู่เซ็นเตอร์ ถ้าเก็บบอลไม่ได้ก็โดนสวนกลับทันที เมื่อเสียประตูเร็ว ทีมเยือนยิ่งต้องเสี่ยงดันแบ็กสองฝั่งสูง ผลคือเปิดพื้นที่ด้านหลังให้เจ้าบ้านเล่นงานเป็นระยะ
เกมรับของเร้ดดิ้งโดดเด่นที่การซ้อนกันดี เซ็นเตอร์ทั้ง โอ’คอนเนอร์ และ วิลเลียมส์ อ่านจังหวะโหม่งเคลียร์ลูกครอสได้ตลอด ขณะที่ ซาเวจ ลงต่ำเป็นตัวตัดเกมหน้ากรอบเขตโทษ เฉือนความอันตรายของบอลสองและจังหวะยิงไกลของสตีฟเนจเกือบทั้งหมด ส่วนสตีฟเนจแม้คู่เซ็นเตอร์ กูด–เพียร์เจียนนี จะเล่นได้แข็งแกร่ง แต่เมื่อเสียประตูเร็ว แดนกลางปล่อยให้ ซาเวจ มีพื้นที่เล่นบอลมากเกินไป ทำให้เกมจูนกันไม่ติดตลอด 90 นาที
📈 สถิติการแข่งขัน
จากสถิติที่ปรากฏบนชาร์ต เกมนี้ไม่ได้โชว์ตัวเลขการยิงประตู การครองบอล หรือการผ่านบอลอย่างละเอียด แต่สิ่งที่สะท้อนชัดคือความดุเดือดของจังหวะปะทะ เร้ดดิ้งก่อฟาวล์จนโดนใบเหลือง 3 ใบจาก ดอร์เซ็ต, คเยเรวา และ ริทชี ขณะที่สตีฟเนจโดนไปถึง 4 ใบจาก ฟรีสโตน, ฮัฟตัน, ฟิลลิปส์ และ ไวท์ บอกได้เลยว่านี่คือเกมที่เล่นกันหนัก เน้นแท็กติกและการปิดพื้นที่มากกว่าการเปิดเกมรุกแลกกันจนสถิติการยิงแทบไม่ขึ้นบอร์ด
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
⚽️ 4′ เร้ดดิ้งขึ้นนำ 1-0 ชาร์ลี ซาเวจ ซัดนอกกรอบจากการทำชิ่งกับ ดีน คเยเรวา
🟨 10′ แจ็กสัน ดอร์เซ็ต (เร้ดดิ้ง) รับใบเหลืองจากการฟาวล์ตัดเกมริมเส้น
🟨 29′ ลุค ฟรีสโตน (สตีฟเนจ) โดนเหลืองจากจังหวะเสียบด้านข้าง
🟨 45+1′ ดีน คเยเรวา (เร้ดดิ้ง) โดนใบเหลืองจากการฟาวล์กลางสนาม
⏱ HT เร้ดดิ้งนำ สตีฟเนจ 1-0
🟨 56′ เจค ฮัฟตัน (สตีฟเนจ) โดนเหลืองจากการสกัดช้า
🔁 62′ สตีฟเนจเปลี่ยนสามคนพร้อมกัน
- ลุค ฟรีสโตน ออก, แดน บัตเลอร์ เข้า
- คาร์ล แคมป์เบลล์ ออก, ฟีนิกซ์ แพตเทอร์สัน เข้า
- กีเยม อัดเม ออก, เจมี รีด เข้า
🔁 63′ เร้ดดิ้งส่ง แมตต์ ริทชี แทน เปาโล เลน
🟨 70′ แมตต์ ริทชี (เร้ดดิ้ง) ได้ใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลา
🔁 74′ สตีฟเนจเปลี่ยน ลูอิส ออร์ฟอร์ด แทน เจค ฮัฟตัน
🔁 75′ สตีฟเนจส่ง แดเนียล ฟิลลิปส์ แทน จอร์แดน โรเบิร์ตส์
🔁 79′ เร้ดดิ้งเปลี่ยนสองคน - แรนเดล วิลเลียมส์ แทน ดีน คเยเรวา
- มาร์ก โอ’มาโฮนี แทน คัลลัม ดอยล์
🟨 86′ แดเนียล ฟิลลิปส์ (สตีฟเนจ) โดนเหลืองจากการฟาวล์กลางสนาม
🟨 88′ ฮาร์วีย์ ไวท์ (สตีฟเนจ) รับใบเหลืองเพิ่มอีกคน
🔁 90′ เร้ดดิ้งส่ง แอนดี ยีอาดอม แทน คีเอลีห์ เอฮิภาติออมแฮน เพื่ออุดเกม
⏱ 90+6′ จบเกม เร้ดดิ้ง 1-0 สตีฟเนจ
🌟 Player of the Match: ชาร์ลี ซาเวจ
แข้งดาวรุ่งหมายเลข 8 ของเร้ดดิ้งคือพระเอกตัวจริงของค่ำคืนนี้ นอกจากจะยิงประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 4 แล้ว ซาเวจยังเป็นคนคุมจังหวะแดนกลางทั้งเกม วิ่งไล่เพรสไม่หยุด ช่วยตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษหลายครั้ง และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างต่อเนื่อง เรตติ้ง 7.9 สูงสุดในสนามสมศักดิ์ศรีตำแหน่ง Player of the Match ชัดเจน
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนลีกวัน อังกฤษ
ชัยชนะเกมนี้ทำให้เร้ดดิ้งหลังผ่าน 15 นัด เก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนน ขยับขึ้นมายึดอันดับ 12 ของตาราง มีระยะห่างจากโซนเพลย์ออฟไม่ไกลนัก หากรักษาฟอร์มเก็บแต้มในบ้านแบบนี้ได้ต่อเนื่อง ยังมีลุ้นไล่จี้กลุ่มบนในระยะยาว
ส่วนสตีฟเนจแม้จะยังรั้งโซนหัวตารางในอันดับ 4 มี 26 คะแนนจาก 13 นัด แต่ความพ่ายแพ้แบบไม่มีแต้มเกมนี้ทำให้พลาดโอกาสไล่บี้สามอันดับแรกอย่างน่าเสียดาย และต้องกลับไปเคลียร์ปัญหาเกมรุกที่วันนี้เจาะแนวรับเร้ดดิ้งไม่เข้าเลย
📅 ตารางบอลลีกวัน อังกฤษ นัดถัดไป
ในมุมมองของคนเช็ก ตารางบอล ต่อเนื่อง เร้ดดิ้งจะมีภารกิจหนักต่อเนื่อง
- 15/11/25 เวลา 22.00 น. วีแกน แอธเลติก พบ เร้ดดิ้ง
- 22/11/25 เวลา 22.00 น. เร้ดดิ้ง เปิดบ้านรับ ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด
ขณะที่สตีฟเนจต้องรีบคืนฟอร์มในโปรแกรมต่อไปของตัวเอง
- 15/11/25 เวลา 22.00 น. สตีฟเนจ พบ โบลตัน วันเดอเรอร์ส
- 22/11/25 เวลา 22.00 น. สตีฟเนจ เปิดบ้านเจอ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส
ทั้งสองทีมมีโปรแกรมชี้ชะตาทิศทางซีซันรออยู่ แฟนบอลห้ามพลาดเด็ดขาด
📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครอยากตามลุ้นทุกแต้มของเร้ดดิ้งและสตีฟเนจ รวมถึงเช็กผลทุกคู่แบบเรียลไทม์ บ้านกีฬา ขอชวนมาปักหมุดเช็ก บ้านผลบอล กับเราได้ทุกวัน อัปเดตทั้งผลสด สถิติเกม ตัวจริง–ตัวสำรอง และบทวิเคราะห์มุมมองสื่อสายเดือด อ่านง่าย เข้าใจเกมเหมือนนั่งดูข้างสนาม
ไม่ว่าจะสายเช็กสกอร์ สายแทงบอล หรือแค่แฟนบอลที่รักเกมลูกหนัง เข้ามาเจอกันได้ที่ บ้านกีฬา เราจะพาไปมันส์กับทุกแมตช์ในลีกวัน อังกฤษ และลีกดังทั่วโลก
