โมนาโก สโมสรอาชีพที่ต่อสู้มายาวนาน พร้อมการพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด

สโมสรฟุตบอล AS Monaco หรือเรียกสั้น ๆ ว่าโมนาโก (Monaco) เป็นสโมสรฟุตบอลฝรั่งเศสที่มีฐานที่ตั้งในเมือง  Fontvieille ประเทศโมนาโก สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 และปัจจุบันแข่งขันในการแข่งขันลีกเอิง ซึ่งเป็นลีกระดับสูงสุดของฝรั่งเศส สนามเหย้าของสโมสร คือ Stade Louis II แม้จะตั้งอยู่ในโมนาโก แต่สโมสรแห่งนี้ก็ถือเป็นสโมสรฝรั่งเศสในระบบลีกของประเทศ แต่โมนาโกกลับไม่ได้เป็นสมาชิกของยูฟ่า ซึ่งทำให้สโมสรแห่งนี้แตกต่างจากสโมสรอื่น ๆ ในยุโรป อาแอส โมนาโก เป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นที่รู้จักในเรื่องจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน และผู้เล่นที่มีพรสวรรค์  จึงมีอิทธิพลอย่างมากในวงการฟุตบอลฝรั่งเศสและยังคงเป็นกำลังสำคัญภายในลีกของฝรั่งเศส

ประวัติความเป็นมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน ของสโมสร โมนาโก

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

กว่า 104 ปี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลโมนาโกขึ้นมาครั้งแรก และจุดเริ่มต้นต่างจากสโมสรอื่น ๆ ไม่ใช่ผู้คนรวมตัวกันก่อตั้งแต่กลับเป็นการนำสโมสรในเวลานั้นมารวมกัน เรียกได้ว่ามีมาตรฐานมาก่อนนั่นเอง สโมสรท้องถิ่นในช่วงเวลานั้นถือว่ามีจำนวนไม่น้อย และการรวมตัวและกลายมาเป็นสโมสรฟุตบอลเดียว ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ความยิ่งใหญ่ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจ การพัฒนาและขยายขนาดของสโมสร รวมไปถึงเป็นสโมสรกีฬาที่ดีที่สุดในเวลานั้นอีกด้วย การเริ่มต้นเส้นทางการแข่งขันฟุตบอล เป็นรูปแบบของสมัครเล่นเท่านั้น แต่ก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วช่วยให้ ก้าวขึ้นไปร่วมการแข่งขันที่มีมาตรฐานได้ และไม่นานก็สามารถรับเชิญไปร่วมกับแข่งขัน

ในปี ค.ศ. 1993 โดยคำเชิญนี้มาจากสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสอันนี้ถือว่าเป็นเล็งเห็นถึงมาตรฐาน แต่ทว่าเมื่อมาดูข้อมูลในความเป็นจริงแล้ว เริ่มต้นในลีกสมัครเล่นกลับไม่สามารถทำผลงานได้อย่างดี และการเลื่อนขึ้นไปแข่งขันในลีกอาชีพดิวิชัน 2 ในทันที จึงกลายเป็นเพียงแค่สโมสรที่มีแจกคะแนนเท่านั้น สุดท้ายแล้วจบฤดูกาลตกชั้นไปในที่สุด จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1948 สามารถฟื้นตัวและกลายเป็นสโมสรอาชีพอีกครั้งได้สำเร็จ ต้องบอกว่าระยะเวลาที่หายไปต้องผ่านอะไรมากมาย ถ้าเป็นสโมสรทั่วไปไม่มีความมั่นคง อาจจะยุบสโมสรฟุตบอลหรือว่ารวมกับสโมสรอื่น ๆ ไปแล้ว และใช้เวลา 10 ปี สามารถขึ้นไปสู่ลีกดิวชั่น 1 ได้สำเร็จ

การเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะว่าลีกสูงที่สุดจะทำให้แฟนบอลเพิ่มเติมมากขึ้น มีการพัฒนาในทุกด้านสิ่งเหล่านี้ ในปี ค.ศ. 1960 ผู้จัดการทีม  ลูเซียง เลอ ดุก เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้อย่างยิ่งใหญ่ การพาสโมสรแห่งนี้ขึ้นไปคว้าแชมป์อาชีพครั้งแรก โดยเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ และนี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ในปีต่อมา เพราะว่าในฤดูกาลต่อมาสามารถขึ้นไปครองแชมป์ลีกเอิงมาได้สำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์รายการที่ใหญ่มากที่สุด กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีแฟนบอลสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จะทำผลงานภายในประเทศดีอย่างเดียวก็คงจะไม่เพียงพอ ในเวลาเดียวกันสามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับยุโรป

แต่ก็ไม่สามารถไปถึงแชมป์ในระดับนี้ได้ แต่มั่นใจได้ว่ารับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน แต่ทว่า ลูเซียง เลอ ดุก กอยู่กับสโมสรได้แค่ 3 ปี เท่านั้น และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น กลายเป็นการตกต่ำในทุกด้าน ไม่ว่าจะผลงานการแข่งขัน นักเตะภายในสโมสร และไม่สามารถขึ้นไปทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเลย กลายเป็นเว้นวางไปถึง 10 ปี ในปี ค.ศ. 1975 มีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรคนใหม่ โดยเป็น ฌอง-หลุยส์ คัมโปรา เข้ามารับหน้าที่นี้ กลายเป็นการเริ่มต้นใหม่ มีทิศทางและเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาได้สำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถเป็นไปตามที่ต้องการ

ทุกอย่างก็ตกต่ำลงอีกครั้ง ทำให้เป็นช่วงเวลาที่มีการตกต่ำมากที่สุด เหล่าแฟนบอลจำนวนมากเริ่มรู้สึกไม่อยากคาดหวังอะไร ไม่สามารถทำผลงานที่ดีได้เลย เข้าสู่ช่วงปี ค.ศ. 1990 ถึงช่วงเวลาที่แฟนบอลมากมายรอคอย อาจจะเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ได้ไม่ดี มีการปรับเปลี่ยนมากมายทั้งประธาน ผู้จัดการทีม เรียกได้ว่าทุกอย่างถ้าไม่พัฒนาและมีมาตรฐาน จะไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้เลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1997 สามารถครองแชมป์ลีกติดต่อกัน 2 สมัย และเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป ทำผลงานเข้ารอบลึกได้ ต้องบอกว่าแฟนบอลจำนวนมากรอคอยวันเวลานี้มานาน ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการติดตามเชียร์ผลงาน

ผลงานน่าสนใจที่ผ่านมาของสโมสรโมนาโก

ทำเนียบแชมป์ของสโมสรโมนาโก ความยิ่งใหญ่ที่ผ่านกาลเวลามานาน เรียกได้ว่าถ้าไม่ดีและไม่มีมาตรฐาน คงจะไม่มีบันทึกเหล่านี้อย่างแน่นอน มาดูกันว่ามีแชมป์รายการไหนบ้างและในปีอะไร ลีกเอิง หรือว่าลีกการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรอันดับที่ 1 ถือว่ารายการนี้ยิ่งใหญ่มากที่สุดแล้วในระดับภายในประเทศ สามารถครองแชมป์ไปถึง 8 สมัย ในปี ค.ศ. 1960–1961 , 1962–1963 , 1977–1978 , 1981–1982 , 1987–1988 , 1996–1997 , 1999–2000 และ 2016–2017 และยังมีผลงานรองแชมป์รายการนี้ถึง 8 สมัยเช่นเดียวกัน ในปี ค.ศ. 1963–1964 , 1983–1984 , 1990–1991 , 1991–1992 , 2002–2003 , 2013–2014 , 2017–2018 และ 2023–2024

ต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศฝรั่งเศสไม่ใช่ลีกที่มีมาตรฐานสูงในยุโรป แต่ก็สามารถทำผลงานและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากขึ้น มาต่อด้วยลีกเดอซ์ ลีกอันดับที่ 2 รองจากลีกเอิง สามารถครองแชมป์ได้ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2012-2013 และยังมีรองแชมป์อีก 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1952-1953 , 1970-1971 และ 2007-2008  แชมเปี้ยนนาต เดอ ฟรองซ์ สมัครเล่น ครองแชมป์ไป 3 สมัย 1963-1964 , 1970-1971 และ 2007-2008 คูเป้ เดอ ฟรองซ์ ครองแชมป์ไปถึง 5 สมัย ในปี ค.ศ. 1959-1960 , 1962-1963 , 1979-1980 , 1984-1985 และ 1990-1991 รองแชมป์อีก 5 สมัย ในปี ค.ศ. 1973-1974 , 1983-1984 , 1988-1989 , 2009-2010 และ 2020-2021

คูเป เดอ ลา ลีก ครองแชมป์ไป 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2002-2003 และรองแชมป์ 3 สมัย ในปี ค.ศ. 2000-2001 , 2016-2017 และ 2017-2018 ทรอเฟเดช็องปียง ครองแชมป์ 4 สมัย ในปี ค.ศ. 1961 , 1985 , 1997 และ 2000 กุปชาร์ลดราโก ครองแชมป์ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1961 ในระดับการแข่งขันในยุโรป ยูฟ่าคัพวินเนอร์คัพ ทำผลงานได้เพียงแค่รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 1991-1992 ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ทำผลงานได้เพียงแค่รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 2003-2004 ยูฟ่ายูโรปาลีก ทำผลงานได้เพียงแค่รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 1996-1997 เท่ากับว่ารายการแข่งขันระดับยุโรป สโมสรโมนาโกยังไม่เคยขึ้นไปสร้างชื่อได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่การได้เข้าร่วมก็ถือว่ามีมาตรฐานมากกว่าสโมสรในลีกฝรั่งเศสแล้ว

สรุป สถานการณ์ปัจจุบันของสโมสรโมนาโก ในฤดูกาล

ฤดูกาลที่ผ่านมากถ้าเทียบนักเตะแบบ 1 ต่อ 1 บอกได้ว่าชื่อเสียงอาจจะไม่สามารถตอบได้ แต่ถ้าเทียบกับผลงานแล้วตำแหน่งรองแชมป์ที่ได้มา คือความยิ่งใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกยอมรับ เนื่องจากว่าสโมสรที่คว้าแชมป์ไปครอง มีนักเตะระดับโลกมากมาย ที่มีการซื้อเข้ามาเสริมทัก แต่ทว่าสโมสรโมนาโก กลับใช้นักเตะที่ชื่อเสียงไม่ดัง นักเตะดาวรุ่ง แต่กลับทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่มากในประเทศฝรั่งเศส มาดูกันว่ามีรายละเอียดคะแนนและข้อมูลการทำประตู เริ่มจากลงแข่งขันภายในลีกเอิง 34 นัด ชนะได้ 20 นัด ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก เสมอไป 7 นัด อันนี้ทำผลงานได้มากกว่าสโมสรที่คว้าแชมป์

แต่กลับมีการแพ้ไปถึง 7 ซึ่งจุดนี้เองที่แตกต่างกับแชมป์ ที่มีการแพ้แค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้เมื่อมีการรวมคะแนนทั้งหมด ทำได้เพียงแค่ 67 ห่างจากสโมสรแชมป์ไปถึง 9 คะแนนด้วยกัน มาดูเรื่องของประตูได้เสีย ยิ่งประตูได้ 68 และเสียไปเพียง 42 ผลรวมแล้วยังเป็นความหวังในการทำผลงานได้ดีมากขึ้น การที่จะแข่งขันในฤดูกาลต่อไปได้ อาจจะสามารถกดดันและเพิ่มเติมทางเลือกให้กับแฟนบอล ด้วยมาตรฐานและนักเตะที่สามารถทดแทนได้ มั่นใจได้ว่าจะเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่แข่งขันได้สนุก ลุ้นแย่งแชมป์กันถึงในนัดสุดท้าย ถึงแม้ว่าจะไม่มีนักเตะระดับโลกจำนวนมาก แต่กลับมีทักษะและการวางแผนได้อย่างดี