ลีลล์ พัฒนาความสามารถมายาวนานกว่า 100 ปี ต่อสู้จนได้แชมป์มาอย่างหลากหลาย

สโมสรฟุตบอลลีลล์ โอลิมปิก สปอร์ติ้ง Lille Olympique Sporting Club หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า LOSC Lille หรือเรียกสั้น ๆ ว่าลีลล์ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีฐานอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1944 ปัจจุบันสโมสรแห่งนี้แข่งขันในลีกเอิง ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฝรั่งเศส ลีลล์คว้าแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศสมาแล้วถึง 4 สมัย ในฤดูกาล 1945–1946, 1953–1954, 2010–2011 และ 2020–2021 รวมถึงคูเป เดอ ฟรองซ์ 6 สมัย พร้อมการคว้าแชมป์ยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพมาแล้ว 1 ครั้ง ในปี 2004 สโมสรแห่งนี้ลงเล่นเกมเหย้าที่สตาด ปิแอร์-โมรัว และปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของเปาโล ฟอนเซกา

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสโมสรลีลล์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

อาจจะไม่ใช่สโมสรฟุตบอลที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เหมือนกับสโมสรชั้นนำมากมาย แต่ระยะเวลามากกว่า 79 ปี ก็สามารถบอกได้ถึง ความยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะขึ้นมาเป็นสโมสรอันดับต้น ๆ ภายในประเทศฝรั่งเศสได้อย่างแท้จริง เนื่องจากว่าแต่ละการเริ่มต้น มักจะไม่ใช่ตัวตัดสินใจนั่นเอง มาดูกันว่าสโมสรลีลล์มีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะมีสโมสรแห่งนี้ มี 2 สโมสรฟุตบอลภายในเมืองลีลล์ และช่วงเวลานั้นก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางสโมสร Olympique Lillois และ SC Fives Olympique Lillois ต้องบอกว่าเลยว่าทั้ง 2 สโมสรยิ่งใหญ่และมีมาตรฐานที่สูง

มีการคว้าแชมป์รายการสำคัญมาแล้วมากมาย และยังเคยขึ้นไปถึงการคว้าแชมป์ แชมป์ฟุตบอล USFSA ในเวลานั้นคือลีกสูงที่สุดภายในประเทศ และมีการปรับเปลี่ยนมาเป็นดิวิชัน 1 และสุดท้ายก็คือลีกเอิงในปัจจุบัน เมื่อได้อ่านข้อมูลมาถึงส่วนนี้ เชื่อว่าแฟนบอลมากมาย สงสัยว่ายิ่งใหญ่แบบนี้มาถึงทางตันได้อย่างไร เนื่องจากว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ทุกอย่างที่เคยยิ่งใหญ่หรือว่ามีความพร้อม ต้องหยุดและเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ทำให้สโมสรกีฬามากมายล้มละลายและยุบไปนั่นเอง เช่นเดียวกันสโมสรฟุตบอลทั้ง 2 เจอกับปัญหาทางสงครามโดยตรง และมีการตัดสินใจรวมเป็นสโมสรฟุตบอลลีลล์ เริ่มต้นเป็นการใช้ชื่อ Stade Lillois แต่ไม่นานก็มีการปรับเปลี่ยนชื่อเป็น Lille Olympique Sporting Club

เชื่อได้ว่าทุกการเปลี่ยนแปลง จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เสมอ ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อได้มีการรวมสโมสรในฤดูกาลแรก สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เข้าสู่รอบการแข่งขันลึกได้ทันที เนื่องจากว่าเดิมแล้วมีมาตรฐานระดับสูง การเจอกับปัญหาสงครามและการรวมตัว ทำให้ทั่วไปแล้วยังคงน่าสนใจไม่ต่างกัน ในปีต่อมายังคงรักษามาตรฐานและจบอันดับที่ 1 ของลีกได้สำเร็จ บอกได้ว่าในเวลานั้นจากที่ตกต่ำที่สุดกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ทันที แต่ทว่าความสำเร็จก็อยู่ได้ไม่เกิน 3 ปี ทุกอย่างเริ่มต้นจะถอยลงไป มีข้อมูลกล่าวไว้ว่ามีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเตะมากมายเกิดความเหนื่อยล้า

ส่งผลให้ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่ต้องการ ภาพรวมอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเริ่มต้น แต่ก็ยังมีมาตรฐานและรักษาเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาคืนฟอร์มดีอีกครั้ง สามารถเข้าไปรอบลึกและคว้าแชมป์รายการใหญ่  ต้องบอกว่าในยุค 50 สโมสรลีลล์คือตัวเลือกแรกที่มีการจัดอันดับมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแชมป์มากมาย นักเตะที่มากความสามารถ รวมไปถึงแฟนบอลที่คอยสนับสนุนจำนวนมาก กลายเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงได้นั่นเอง เมื่อมีจุดสูงสุดแล้วต้องมีจุดต่ำสุดเช่นเดียวกัน และสโมสรแห่งนี้ใช้เวลาไม่นาน ในปี ค.ศ. 1955 เจอกับปัญหาภายในที่มากมาย เรียกได้ว่าทั้งนักเตะและฝ่ายบริการไม่ลงรอยกันเลย

ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันแบบเต็มที่ จนมีบางการแข่งขันนักเตะมีการปฎิเสธการลงเล่น เรียกได้ว่าเกินที่จะควบคุมเอาไว้ได้ ในปีนั้นเองสโมสรจบในอันดับที่ 16 และกลายเป็นการตกชั้นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ขึ้นมา ในแต่ละสโมสรอาจจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะภายในหรือว่าการเงิน แต่ทว่าในเวลาพัฒนานานเกินไป ส่งผลในเรื่องของมาตรฐานการแข่งขัน  บอกได้ว่าแค่ตกชั้นลงไปไม่เท่าไหร่ ต้องเจอกับปัญหาทางการเงินเข้ามาซ้ำ ทำให้ต้องมีการขายนักเตะคนสำคัญออกไป เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ทำให้ภาพรวมกลายเป็นสโมสรที่อาจจะเสี่ยงกับการล้มละลาย

ถึงแม้ว่าจะยังคงทำผลงานในลีกรองได้ดี แต่กลับไม่สามารถขึ้นมาแข่งขันในลีกสูงที่สุดได้ เนื่องจากว่ายังคงประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักนั่นเอง ต้องบอกว่าในเวลานั้นทางสโมสรต้องดิ้นรนอย่างมาก ในการขึ้นและตกชั้นตลอดเวลา ไม่สามารถรักษามาตรฐานที่เคยมีได้เลย ในปี ค.ศ. 1970 สโมสรลีลล์ได้สร้างและพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานแต่การกลับมาในครั้งนี้ ช่วยให้แฟนบอลมีกำลังใจในการติดตาม และก็สำเร็จในปี ค.ศ. 1977 กลับขึ้นมาแข่งขันในลีกเอิงได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าในรอบนี้จะไม่ใช่สโมสรที่ทำผลงานได้ดี แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่ส่งผลในภาพรวม

ผลงานที่ผ่านมาในอดีตของสโมสรลีลล์

 เกียรติยศและความยิ่งใหญ่ ผลงานแสดงให้ถึงการต่อสู้และพัฒนา ยกระดับมาตรฐานสโมสรฟุตบอลลีลล์ เชื่อเถอะว่าสโมสรแห่งนี้สามารถเดินหน้าคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้มากมาย พร้อมแล้วที่เติมเต็มข้อมูลเหล่านี้เต็มที่ เริ่มต้นด้วยลีกเอิง ลีกสูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส สามารถครองแชมป์ไปถึง 4 สมัย ในปี ค.ศ. 1945-1946 , 1953-1954 , 2010-2011 และ 2020-2021 และยังเคยเป็นรองแชมป์ถึง 6 สมัยด้วยกัน ในปี ค.ศ. 1947–1948 , 1948–1949 , 1949–1950 , 1950–1951 , 2004–2005 และ 2018–2019 ถ้าไม่มีมาตรฐานจริง คงจะไม่มีทางทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอย่างแน่นอน

ลีกเดอซ์ หรือว่าลีกอันดับที่ 2 ภายในประเทศ เคยครองแชมป์มาแล้วในปี ค.ศ. 1963–1964 , 1973–1974 , 1977–1978 และ 1999–2000 คูเป้ เดอ ฟรองซ์ 6 สมัย ในปี ค.ศ. 1945–1946 , 1946–1947 , 1947–1948 , 1952–1953 , 1954–1955 และ 2010–2011 รวมถึงรองแชมป์ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1944-1945 และ 1948-1949 คูเป เดอ ลา ลีก รองชนะเลิศ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2015-2016 Trophée des Champions 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2021 และรองแชมป์ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1955 และ 2011

ชาร์ลส์ ดราโก้ คูเป้ รอบรองชนะเลิศ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1954 และ 1956 มาถึงความสำเร็จในระดับการแข่งขันฟุตบอลยุโรป บอกได้ว่าถ้ายิ่งใหญ่ภายในประเทศแล้ว ต้องสามารถพัฒนาและยิ่งใหญ่ในระดับทวีป ถึงจะกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ได้รับความสนใจ   ยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2004 และรองชนะเลิศ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2002 และยังมีข้อมูลว่าเคยไปเข้าร่วมการแข่งขัน ลาตินคัพ และเข้ารอบลึกในปี ค.ศ. 1951 และนี่คือทั้งหมดที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ได้อย่างชัดเจน

สรุป สถานการณ์โดยรวมของสโมสรลีลล์ ในฤดูกาล 2023-2024

ภาพรวมของสโมสรที่เคยยิ่งใหญ่ ความคาดหวังของเหล่าแฟนบอลทั่วโลก บอกได้ว่าทางสโมสรลีลล์ ยังคงรักษามาตรฐานเท่าไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับสุดยอดสโมสรในเวลานี้อย่างปารีสก็ตาม การที่เคยเป็นแชมป์ลีกเอิงในช่วงหลังนี้ บอกได้ว่าไม่เก่งหรือว่าไม่มีมาตรฐานมาพอ คงจะแข่งขันและจบด้วยชัยชนะได้ยากมาก มาดูกันว่าในฤดูกาลที่เพิ่งจะจบไปนั้น มีผลงานและรายละเอียดไปในทิศทางแบบไหน สามารถที่จะแข่งขันเริ่มต้นใหม่ในฤดูกาลต่อไปหรือไม่ ลงแข่งขันไปแล้วทั้งหมด 34 ด มีผลชนะถึง 16 นัด ถือว่าผลงานน่าประทับใจ มีผลเสมอไป 11 นัด อันนี้อาจจะมากไปในเรื่องของการแบ่งแต้ม สำหรับการแพ้ 7 นัด

ถ้าดูและเทียบข้อมูลสโมสรในอันดับที่ 2 และ 3 จะมีผลแพ้ 7 นัดเท่ากันทั้งหมด ถือว่ามีมาตรฐานอยู่ในระดับหัวตาราง มาถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลต่างประตูได้เสีย ทำประตูไปได้ถึง 52 และเสียไป 34 เท่ากับว่ายังมีผลที่บวก แต่ถ้าอยากจะขึ้นและทำอันดับได้สูงกว่านี้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ไม่ถึงขั้นการยกใหม่ทั้งหมด เนื่องจากว่ามาตรฐานเดิม ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้ว แต่ถ้าพูดถึงการกลับไปคว้าแชมป์บอกได้ว่า สโมสรอย่างปารีสยังเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยเงินทุนที่มากกว่าการเพิ่มเติมนักเตะระดับโลก ผลงานก็ถือว่าทำได้ดีมาก การที่จะเข้าไปแย่งต้องพร้อมมากกว่านี้ แต่เชื่อว่าสโมสรที่เคยทำได้ อาจจะเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีกครั้งนั่นเอง