บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ลีกเอิง ฝรั่งเศส ดราม่าลั่น! มินามิโนะ ยิงฝังเปแอสเช 10 คน โมนาโกเชือด 1-0 ขยับล่าโควตายุโรปเดือด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ลีกเอิง ฝรั่งเศส ระหว่าง โมนาโก 1-0 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง วันนี้ 29/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ กลายเป็นค่ำคืนที่สาวก บ้านผลบอล ต้องร้องว้าว เมื่อโมนาโกเปิดบ้านอัดจ่าฝูงอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 จากประตูโทนของ ทาคุมิ มินามิโนะ นาที 68 แถมเจ้าถิ่นต้องเล่น 10 คนช่วงท้ายเกมแต่ยังยืนหยัดเก็บสามแต้มสุดล้ำค่าได้สำเร็จ เกมนี้ใครตาม ผลบอลสด อยู่เรียกว่าได้ลุ้นกันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ

🕐 ครึ่งแรก: เปแอสเชครองบอล โมนาโกคมกว่าแต่ยังไม่คมพอ

ครึ่งแรก เปแอสเชของหลุยส์ เอ็นริเก้ เน้นคุมจังหวะผ่านบอลสั้นตามสไตล์ เดินเกมจากแดนหลังขึ้นมากลางด้วยสามมิดฟิลด์ทั้ง เจา เนเวส, ฟาเบียน รูอิซ และ วาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี ทำให้ทีมเยือนครองบอลเหนือกว่าประมาณ 54% แต่ปัญหาคือจังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบ มีโอกาสยิงมากกว่าแต่เข้ากรอบเพียงน้อยนิด

ฝั่งโมนาโกของ เซบาสเตียง โปคอญโญลี เลือกตั้งโซนรับกลางสนามแน่นๆ ใช้คู่มิดฟิลด์อย่าง ลามีน กามาร่า กับ จอร์แดน เทเซ่ ช่วยกันไล่ตัดเกม ก่อนสวนกลับผ่านสามตัวรุก มูฮาเหม็ด อัคลิอูช, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และ ทาคุมิ มินามิโนะ คอยสนับสนุน โฟลาริน บาโลกุน ด้านหน้า แม้โอกาสไม่เยอะ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นมาถึงดาร์บ็อกซ์เปแอสเชก็ทำให้แนวรับทีมเยือนต้องลุ้นเหนื่อย

นาที 33 มีจุดเปลี่ยนเล็กๆ เมื่อลูกแฮนด์บอลของ วิตินญา ในเขตแดนตนเองทำให้โมนาโกได้ฟรีคิกในระยะหวังผล แม้จะยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ แต่ส่งสัญญาณว่ากองกลางเปแอสเชเริ่มถูกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 แต่รูปเกมใกล้เคียงกันกว่าที่ตัวเลขการครองบอลบอกไว้

🕑 ครึ่งหลัง: มินามิโนะปลดล็อก – เคห์เรอร์โดนแดงแต่โมนาโกยังเอาอยู่

ครึ่งหลังเกมเปิดมากขึ้น เจ้าถิ่นกล้าดันไลน์สูงและเพรสซิ่งเร็วในแดนเปแอสเช ทำให้ทีมเยือนต่อบอลยากกว่าเดิม หลุยส์ เอ็นริเก้แก้เกมก่อน ส่ง อุสมาน เดมเบเล่ กับ เควนติน เอ็นจ็องตู ลงมาสร้างความจัดจ้านริมเส้นตั้งแต่นาที 64

แต่แทนที่โมเมนตัมจะไปเข้าทางทีมเยือน นาที 68 แฟนเจ้าบ้านได้เฮลั่น เมื่อโกโลวินหลุดขึ้นมาในกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายหักกลับให้ ทาคุมิ มินามิโนะ ปรี่มาซัดด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด กลายเป็นประตู 1-0 ที่ปลุกไฟในสนามจนเดือดระอุ

ช่วงท้ายเกมนาที 80 โมนาโกต้องเผชิญบททดสอบหนัก เมื่อ ทิโล เคห์เรอร์ กองหลังตัวสำคัญไปทำฟาวล์ตัดโอกาสแบบ “last man” โดนใบแดงโดยตรง ทิ้งให้เจ้าถิ่นเหลือ 10 คนในช่วง 10 นาทีสุดท้าย บวกทดเวลาอีกถึง 7 นาที เปแอสเชโหมบุกสุดตัวส่งทั้ง อิบราฮิม เอ็มบาย และ กอนซาโล รามอส ลงมาลุ้นประตูตีเสมอ

อย่างไรก็ตาม แนวรับโมนาโกที่มี ฮราเด็คกี้ ยืนดักลูกกลางอากาศนิ่งสุดๆ ช่วยกันบล็อกได้ทุกดอก เปแอสเชยิงได้เพียง 2 ครั้งเข้ากรอบตลอดเกม สุดท้ายเสียงนกหวีดยาวดังขึ้น เจ้าถิ่นเฉือนชนะ 1-0 คว้าชัยสุดหืดแต่โคตรคุ้มค่า

🧾 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนนักเตะ

🔴 โมนาโก (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • ลูคัส ฮราเด็คกี้ (7.8) – เซฟสำคัญหลายครั้ง คุมจังหวะในกรอบเขตโทษยอดเยี่ยม

กองหลัง

  • แบ็กขวา: วันแดร์ซอน (2) (6.6) – เจองานหนักกับปีกเปแอสเช แต่ยังพอเอาอยู่
  • เซ็นเตอร์แบ็ก: ทิโล เคห์เรอร์ (กัปตัน, 5) (6.7) – เล่นได้แข็งแกร่งเกือบทั้งเกม ก่อนมาพลาดโดนใบแดง
  • เซ็นเตอร์แบ็ก: โมฮัมเหม็ด ซาลิซู (22) (7.4) – ชนะดวลลูกกลางอากาศหลายครั้ง อ่านเกมดี
  • แบ็กซ้าย: ไคโอ เอนริเก้ (12) (7.3) – เติมเกมรุกทางซ้ายตลอด แถมช่วยเกมรับแน่น

กองกลาง

  • มิดฟิลด์ตัวรับ: ลามีน กามาร่า (15) (7.1) – ไล่บี้กลางสนามดุดัน ตัดเกมสำเร็จหลายหน
  • มิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์: จอร์แดน เทเซ่ (4) (7.5) – วิ่งไม่มีหมด ทั้งชน ทั้งบล็อก เป็นหัวใจแดนกลาง

ตัวรุก

  • ปีกขวา: ทาคุมิ มินามิโนะ (18) (8.1) – ฮีโร่ของเกม ยิงประตูชัยและขยี้แนวรับเปแอสเชตลอด
  • เพลย์เมกเกอร์: อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน (10) (6.9) – แอสซิสต์ให้มินามิโนะ ยิง 1-0 ก่อนถูกเปลี่ยนออก
  • ปีกซ้าย: มูฮาเหม็ด อัคลิอูช (11) (7.1) – ลากเลื้อยสร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง

กองหน้า

  • หัวหอก: โฟลาริน บาโลกุน (9) (6.3) – พยายามหาพื้นที่ในกรอบบ่อยครั้ง แม้ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เครปิน เดียตต้า (27) (6.7) – ลงมาเติมความเร็วทางริมเส้นนาที 65 แทน วันแดร์ซอน
  • อันซู ฟาติ (31) (6.9) – ลงนาที 72 แทน โกโลวิน เติมมิติทะลุช่อง
  • มีคา เบียเร็ธ (11) (6.3) – รับช่วงกดดันแนวรับเปแอสเชช่วงท้ายเกม
  • ปอล ป็อกบา (8) (6.8) – ลงมาคุมจังหวะเกมกลางสนามในช่วงวิกฤตเหลือ 10 คน

ตัวสำรองไม่ได้ลง: ฟิลิปป์ เคิน, กัสซูม อูอัตตาร่า, สแตนลีย์ อิดุมโบ มูซัมโบ, มามาดู คูลิบาลี, จอร์จ อิเลนิเคนา

🔵 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (4-3-3)

ผู้รักษาประตู

  • ลูคัส เชอวาลิเยร์ (30) (7.0) – เซฟได้หลายจังหวะสำคัญ แม้จะพลาดประตูเดียวจากมินามิโนะที่ยากจะป้องกัน

กองหลัง

  • แบ็กซ้าย: ลูคัส แอร์กน็องเดซ (21) (7.1) – เติมสูงบ่อย แต่ต้องถอยเร็วเมื่อโดนสวนกลับ
  • เซ็นเตอร์แบ็ก: วีลเลี่ยม ปาโช (51) (6.2) – มีจังหวะหลุดตำแหน่งให้โอกาสเจ้าถิ่น
  • เซ็นเตอร์แบ็ก: มาร์กินญอส (กัปตัน, 5) (7.2) – คุมไลน์รับได้ดีที่สุดในแผงหลัง

กองกลาง

  • ฟาเบียน รูอิซ (8) (6.1) – ต่อบอลเนียน แต่จังหวะจบและจ่ายคิลเลอร์พาสยังขาด
  • วาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี (33) (6.6) – พยายามเชื่อมเกมรุกจากกลางไปหน้าตลอด
  • เจา เนเวส (87) (6.6) – เคลื่อนที่หาพื้นที่ดี แต่ยังไม่เด็ดขาดในพื้นที่สุดท้าย
  • วิตินญา (17) (7.7) – ตัวเด่นสุดของเปแอสเชวันนี้ เลี้ยงหลบและสร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง

กองหน้า

  • ควิชา ควารัตสเคเลีย (7) (6.6) – มีจังหวะลากตัดในแต่เจอซ้อน 2-3 ชั้นตลอด
  • อี คังอิน (19) (6.6) – รับบทตัวรุกอิสระ พยายามหาช่องยิงแต่ไม่เข้าเป้า
  • ซามูเอล มายูลู (24) (6.3) – ขยับหาพื้นที่ริมเส้น แต่ไม่มีจังหวะชัดเจนให้วัด

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • อุสมาน เดมเบเล่ (10) (6.6) – ลงนาที 64 เติมสปีดด้านขวาแต่ยังจูนกับเพื่อนไม่ลงตัว
  • เควนติน เอ็นจ็องตู (47) (6.1) – ลงพร้อมเดมเบเล่ ช่วยเพิ่มความสดแดนกลาง
  • อิบราฮิม เอ็มบาย (49) (6.5) – ลงนาที 76 เติมความสูงในเขตโทษ
  • กอนซาโล รามอส (9) (6.3) – ลงท้ายเกมนาที 83 มีโอกาสโหม่งแต่ไม่เข้ากรอบ

ตัวสำรองไม่ได้ลง: มัตเวย์ ซาโฟนอฟ, เดวิด โบลี, อิลยา ซาบาร์นยี, ลูคัส เบรัลโด้, แบรดลีย์ บาร์โคล่า

🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในแง่ วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก เกมนี้โมนาโกวางหมากได้เฉียบคมมาก แผน 4-2-3-1 ของโปคอญโญลีเน้นรับกลางแน่นแล้วค่อยสวนกลับริมเส้น การยืนคู่มิดฟิลด์ กามาร่า–เทเซ่ ทำให้ปารีสต่อบอลทะลุช่องลำบาก ต้องออกบอลไปด้านข้างก่อนหาทางเปิดกลับเข้าใน ซึ่งโมนาโกเตรียมรับได้ดี

จุดเด่นของการรุกโมนาโกคือการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของสามตัวรุกหลังหอก ทั้ง อัคลิอูช, โกโลวิน และ มินามิโนะ ที่ขยับเข้าด้านในสลับออกริมเส้นตลอด ทำให้แนวรับเปแอสเชงงกับการตามประกบ และประตู 1-0 ก็เกิดจากจังหวะที่โกโลวินหลุดมาใน half-space ก่อนจ่ายให้มินามิโนะที่เติมเข้ากรอบแบบไม่มีคนตาม

ส่วนเกมรับ เจ้าถิ่นใช้การบีบพื้นที่ด้วยไลน์กองหลังค่อนข้างสูง แต่มีซาลิซูคอยดักลูกแทงทะลุและฮราเด็คกี้คอยออกมาตัดบอล ทำให้แม้จะโดนยิงมากกว่าแต่โอกาสจังๆ ของเปแอสเชแทบไม่มี ยกเว้นลูกยิงไกลและลูกเปิดด้านข้าง

ฝั่งเปแอสเช แผน 4-3-3 เน้นครองบอลและเซ็ตเกมจากหลัง การขึ้นเกมโดยให้ วิตินญา หล่นต่ำมารับบอลแล้วจ่ายออกปีก ก่อนตัดกลับเข้ากลางเป็นรูปแบบที่ใช้บ่อย แต่ปัญหาคือจังหวะเคลื่อนที่ของสามแนวรุกยังไม่สัมพันธ์กันพอ บอลมักหยุดที่หน้ากรอบเขตโทษ และเมื่อเสียบอลการเพรสซิ่งเพื่อแย่งคืนไม่ดุดันเท่าคู่แข่ง

ช่วงท้ายหลังโมนาโกเหลือ 10 คน เปแอสเชเลือกโยนยาวเข้ากรอบมากขึ้น แต่การจัดสรรพื้นที่ในเขตโทษแทบไม่มีผู้เล่นเข้าซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทำให้แนวรับโมนาโกอ่านทางได้ง่าย สุดท้ายจึงเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นไม่ได้ แม้จะมีเวลาบุกยาวตลอดทดเจ็บ 7 นาที

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพรวมได้ชัดเจน เปแอสเชครองบอล 54% ต่อ 46% ส่งบอล 451 ครั้งมากกว่าโมนาโกที่ 355 ครั้ง แถมความแม่นยำการจ่ายยังสูงถึง 89% ขณะที่เจ้าถิ่นอยู่ที่ 85% อย่างไรก็ตามเมื่อมองที่คุณภาพโอกาสยิง โมนาโกทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน พวกเขายิงทั้งหมด 7 ครั้ง เข้ากรอบถึง 5 ครั้ง ขณะที่เปแอสเชแม้จะส่องไปถึง 13 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 2 เท่านั้น

เกมนี้เต็มไปด้วยการปะทะดุเดือด ฟาวล์รวมกัน 24 ครั้ง แบ่งเป็นโมนาโก 11 และเปแอสเช 13 เจ้าบ้านโดนใบเหลือง 3 ใบและใบแดง 1 ใบจาก เคห์เรอร์ ขณะที่ทีมเยือนได้ใบเหลืองเดียวแต่ก็ไม่อาจใช้ความได้เปรียบด้านผู้เล่นเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ ลูกเตะมุมเสมอกัน 4-4 แสดงให้เห็นว่าทั้งสองทีมมีช่วงเวลาบุกกดดันใส่กันตลอดเกม

⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚠️ 12′ ลามีน กามาร่า (โมนาโก) ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองใบแรกของเกม
  • ✋ 33′ วิตินญา (เปแอสเช) แฮนด์บอล ทำให้โมนาโกได้ตั้งเกมรุกจากฟรีคิกระยะอันตราย
  • 🔁 64′ เปแอสเชเปลี่ยนคู่รวด ส่ง อุสมาน เดมเบเล่ และ เควนติน เอ็นจ็องตู ลงมาแทน อี คังอิน กับ ซามูเอล มายูลู เพื่อเพิ่มความเร็วในแดนหน้า
  • 🔁 65′ เครปิน เดียตต้า ลงแทน วันแดร์ซอน ให้โมนาโกเสริมความสดริมเส้นขวา
  • ⚽ 68′ ประตู 1-0 โมนาโก – อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน จ่ายหักเข้าในให้ ทาคุมิ มินามิโนะ ซัดเต็มข้อเสียบเสา กลายเป็นประตูชัยของเกม
  • 🔁 72′ อันซู ฟาติ ลงสนามแทน โกโลวิน เติมความจี๊ดให้แนวรุกเจ้าถิ่น
  • 🔁 76′ เปแอสเชส่ง อิบราฮิม เอ็มบาย ลงแทน ควารัตสเคเลีย เพิ่มหอกเป้าในเขตโทษ
  • 🟥 80′ ทิโล เคห์เรอร์ ทำฟาวล์ตัดโอกาสแบบตัวสุดท้าย ผู้ตัดสินเช็กจอ VAR ก่อนเปลี่ยนโทษจากใบเหลืองเป็นใบแดง ไล่ออกจากสนาม
  • 🔁 83′ เปแอสเชโหมบุกจัดเต็ม ส่ง กอนซาโล รามอส แทน ฟาเบียน รูอิซ เพิ่มศูนย์หน้าตัวจบสกอร์
  • 🔁 85′ โมนาโกถอด บาโลกุน ส่ง มีคา เบียเร็ธ ลงมาช่วยพักบอลในแดนหน้า
  • 🔁 86′ ปอล ป็อกบา ลงแทน มินามิโนะ เพื่อเสริมความนิ่งแดนกลางช่วงที่เหลือ 10 คน
  • ⚠️ 88′ เครปิน เดียตต้า โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
  • ⚠️ 90+5′ จอร์แดน เทเซ่ รับใบเหลืองช่วงทดเจ็บจากจังหวะทำฟาวล์หยุดเกมสวนกลับของเปแอสเช

🌟 Player of the Match: ทาคุมิ มินามิโนะ – เครื่องจักรญี่ปุ่นปลุกโมนาโก

รางวัล Player of the Match ตกเป็นของ ทาคุมิ มินามิโนะ อย่างไร้ข้อโต้แย้ง คะแนน 8.1 บนแอปสถิติยืนยันได้ชัดว่าดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้คือหัวใจเกมรุกของโมนาโกตลอด 90 นาที

มินามิโนะไม่เพียงแค่ยิงประตูชัยสุดคมในนาที 68 เท่านั้น แต่ตลอดทั้งเกมเขาคือตัวเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางกับแนวรุก วิ่งหาพื้นที่ว่างตลอดเวลา ดึงตัวประกบออกจากตำแหน่งเปิดช่องให้เพื่อน รวมถึงช่วยเพรสซิ่งสูงทันทีเมื่อทีมเสียบอล ทำให้แนวรับเปแอสเชไม่สามารถออกบอลได้อย่างสบายใจ บ้านกีฬา ต้องยกให้เป็น “ขุนพลซามูไร” ที่จุดไฟโมนาโกในค่ำคืนนี้อย่างแท้จริง

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนลีกเอิง ฝรั่งเศส

ชัยชนะนัดนี้ทำให้โมนาโกเก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนนจาก 14 นัด สถิติชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 5 ประตูได้เสีย +1 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของตาราง ไล่จี้กลุ่มลุ้นพื้นที่ยุโรปอย่าง ล็องส์ และ แรนส์ แบบหายใจรดต้นคอ กลายเป็นภาพที่แฟนๆ เปิดตารางในเว็บ บ้านผลบอล แล้วต้องเหลียวมองโมนาโกอีกครั้งว่าเริ่มกลับมาลุ้นพื้นที่หัวตารางจริงจัง

ส่วนเปแอสเชแม้จะพ่ายนัดนี้ แต่ยังนำจ่าฝูงด้วย 30 คะแนนจาก 14 นัด ทว่าช่องว่างเหนือมาร์กเซยและล็องส์ถูกไล่จี้เหลือเพียงแต้มเดียว–สองแต้มเท่านั้น หากยังสะดุดต่อเนื่อง โอกาสโดนแซงตำแหน่งจ่าฝูงก็มีสูง บ้านกีฬา มองว่าแรงกดดันเริ่มก่อตัวจริงๆ สำหรับทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้

🗓️ ตารางบอลลีกเอิง นัดถัดไปของทั้งสองทีม

โปรแกรมใน ตารางบอล ลีกเอิง นัดต่อไปของสองทีมใหญ่ก็ยังโหดไม่แพ้กัน

โมนาโกต้องออกไปเยือน แบรสต์ ในเกมลีกเอิงคืนวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 01.00 น. ตามเวลาไทย ก่อนจะกลับมาเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เปิดบ้านรับกาลาตาซารายวันที่ 10 ธันวาคม เวลา 03.00 น. ซึ่งหากเก็บชัยในลีกต่อเนื่องได้ จะยิ่งเสริมความมั่นใจก่อนชี้ชะตาเวทียุโรปอย่างแน่นอน

ฝั่งเปแอสเชมีคิวเล่นเกมลีกสำคัญเปิดบ้านรับ แรนส์ วันที่ 7 ธันวาคม เวลา 03.05 น. จากนั้นบุกเยือน แอธเลติก คลับ ในศึกแชมเปียนส์ลีกวันที่ 11 ธันวาคม เวลา 03.00 น. ต่อเนื่อง โปรแกรมถี่แบบนี้ทำให้หลุยส์ เอ็นริเก้ต้องโรเตชันอย่างระมัดระวัง เพราะทุกแต้มมีผลต่อการลุ้นแชมป์ทั้งในประเทศและยุโรป

📣 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา

ใครที่อยากตามทุกจังหวะเดือดแบบเกมนี้ให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นสกอร์สด รายชื่อนักเตะ สถิติหลังเกม หรืออัปเดตตารางคะแนนแบบเรียลไทม์ บ้านกีฬา แนะนำให้กดเข้าเช็ก บ้านผลบอล กันประจำ ก่อนบอลเตะ–ระหว่างแข่ง–หลังจบเกม รับรองไม่มีพลาดทุกข่าวร้อนของวงการลูกหนังลีกเอิงและลีกดังทั่วโลก

บ้านกีฬา จะยังเกาะติดทุก ผลบอลสด ทุกคู่ใหญ่ รวมถึงวิเคราะห์ก่อนแข่งและสรุปหลังเกมให้แฟนบอลได้อ่านกันแบบจัดเต็มเหมือนมีเพื่อนเซียนบอลนั่งเล่าให้ฟังหน้าจอ ใครไม่อยากตกข่าวลูกหนังและโปรแกรมบอลเด็ดๆ อย่าลืมติดตามพวกเรากันให้ดี

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา