
จาก : ผลบอลสด ลีกเอิง ฝรั่งเศส ระหว่าง นีซ 1-5 โอลิมปิก มาร์กเซย วันนี้ 22/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก ลีกเอิง ฝรั่งเศส นัดนี้เล่นกันที่รังของ นีซ แต่กลายเป็นค่ำคืนสุดหฤโหดเมื่อแขกอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย บุกมากดสกอร์ขาดลอย 5-1 ตามรายงาน ผลบอลสด จากขอบสนาม บอกได้คำเดียวว่าแนวรับเจ้าถิ่นพังเป็นโดมิโน ส่วนเกมรุกทีมเยือนคมกริบทุกจังหวะสำคัญ
คู่หูตัวรุกอย่าง เมสัน กรีนวูด กับ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง ระเบิดฟอร์มโหดคนละสองประตู ผสมโรงด้วยลูกยิงของ อิกอร์ ไพเซา ทำให้มาร์กเซยเก็บสามแต้มแบบเหนือชั้น พร้อมยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อ ส่วนแฟนเจ้าบ้านเปิดหน้าเว็บเช็ก บ้านผลบอล แล้วมีแต่คำถามว่า “แนวรับทีมรักหายไปไหน”
⏱ ครึ่งแรก: มาร์กเซยคมจัด นำห่าง 2-0
เริ่มเกมไม่ทันไร นีซพยายามบีบเพรสสูง ใช้การครองบอลและจ่ายสั้นขึ้นเกมจากแดนหลัง แต่กลายเป็นเปิดช่องให้มาร์กเซยหาจังหวะโต้กลับเร็ว และเพียงนาที 11 ทีมเยือนก็ปล่อยหมัดแรกจากลูกเซ็ตเพลย์ทางริมเส้น บอลถูกเปิดเข้าเขตโทษ ก่อนที่ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เติมขึ้นมายิงจ่อ ๆ ให้มาร์กเซยออกนำ 1-0 ช็อกทั้งสนาม
หลังโดนนำ นีซพยายามตั้งเกมบุกต่อเนื่อง ใช้ความคล่องของ โซฟียาน ดิย็อป กับ โมฮาเหม็ด-อาลี โช เจาะริมเส้น ขณะที่หน้าเป้าอย่าง แตเร็ม มอฟฟี่ คอยพักบอลให้เพื่อน แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่มีความคมพอ แถมแนวรับดันมีปัญหาเสียบอลกลางทางอยู่เรื่อย
นาที 33 มาร์กเซยลงโทษอีกครั้ง จากจังหวะขึ้นเกมฝั่งขวา บอลไหลเข้าทาง กรีนวูด รับแล้วลากตัดเข้าใน ก่อนกดด้วยเท้าขวาเสียบเสาแบบไม่เหลือ เจ้าถิ่นตามหลัง 0-2 และเสียความมั่นใจอย่างหนัก
ก่อนหมดครึ่งแรกยังมีจังหวะฟาวล์แรงของ เชฟฟรีย์ กงด็อกเบีย โดนใบเหลืองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่สกอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จบ 45 นาทีแรก มาร์กเซยบุกมาคุมเกมนำ 2-0 ทั้งที่ครองบอลน้อยกว่าแต่เล่นง่ายและเด็ดขาดกว่าอย่างชัดเจน

🔁 ครึ่งหลัง: นีซตีไข่แตกแต่โดนย้ำแผลจนยับ 5-1
ครึ่งหลัง นีซต้องเปิดหน้าแลกเต็มตัว ส่งบอลบุกขึ้นไปเยอะกว่าเดิม ทว่าเพียงนาที 53 แนวรับเจ้าบ้านกลับหลุดอีกแล้ว จากลูกตั้งเตะที่เปิดเข้ากรอบเขตโทษ บอลไปถึง เลโอนาร์โด้ บาแลร์ดี โหม่งเข้าให้มาร์กเซยนำ 3-0 สกอร์ตรงนี้ทำให้แฟนเจ้าถิ่นเริ่มทยอยโห่
ยังไม่พอ นาที 58 เกมสวนกลับของทีมเยือนเล่นงานอีกครั้ง บอลถูกแทงทะลุช่องให้ ทิโมธี เวอาห์ หลุดขึ้นทางขวา ก่อนเปิดเรียดให้ โอบาเมย็อง ชาร์จไม่เหลือ กลายเป็น 4-0 แบบง่ายดาย แนวรับนีซยืนตำแหน่งกันหลวมไปหมด
อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นไม่ยอมแพ้ นาที 63 ได้ประตูปลอบใจจากจังหวะที่ ดิย็อป จ่ายให้ โมฮาเหม็ด-อาลี โช หลุดเข้าไปยิงผ่านมือผู้รักษาประตู ไล่มาเป็น 1-4 เรียกเสียงเชียร์กลับมาได้บ้าง
แต่ความโหดของมาร์กเซยยังไม่จบ นาที 74 อิกอร์ ไพเซา กระชากบอลทางซ้าย ก่อนจ่ายให้โอบาเมย็องในเขตโทษจัดการซัดประตูที่สองของตัวเอง เป็นสกอร์ 5-1 ตอกฝาโลงเกมนี้ชัดเจน ช่วงท้ายทั้งสองทีมเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงมาเก็บแท็กติกและเซฟตัวหลัก จบ 90 นาทีด้วยชัยชนะท่วมท้นของมาร์กเซย
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริง การจัดทัพ และการเปลี่ยนตัว
🔴 นีซ (ระบบ 3-4-3)
ผู้จัดการทีม: ฟร็องก์ แฮส์
ผู้รักษาประตู
- 80 เยย์อูฟรา ดิโอฟ – เรตติ้ง 6.2
กองหลังสามคน
- 28 อับดูลาย บาห์ – 5.7
- 24 คริสตอฟ ฟานฮูตเต้ – 6.4
- 92 โฌนาต็อง กลอส – 6.6
วิงแบ็กและกองกลาง
- 37 คเวซี่ พรอสเพอร์ อ็อปปง – 5.6 (ถูกเปลี่ยนออก นาที 68)
- 33 อับดัลลาห์ เมนดี้ – 5.6 (ใบเหลือง นาที 14)
- 99 ซาลิส อับดุล ซาเม็ด – 6.4 (ออก นาที 57)
- 10 โซฟียาน ดิย็อป – 7.3 (แอสซิสต์, ออก นาที 77)
แนวรุกสามคน
- 26 (กัปตัน) เมลวิน บาร์ด – 6.1
- 9 แตเร็ม มอฟฟี่ – 6.7 (ออก นาที 68)
- 25 โมฮาเหม็ด-อาลี โช – 8.1 (ทำ 1 ประตู, ออก นาที 77)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- 8 มอร์กกง ซ็องซง – 6.4 (นาที 57 แทน ซาเม็ด)
- 2 อาลี อับดี้ – 6.3 (นาที 68 แทน อ็อปปง)
- 7 เฌเรมี โบก้า – 6.6 (นาที 68 แทน มอฟฟี่)
- 21 อีซัค แยนส์สัน – 6.5 (นาที 77 แทน ดิย็อป)
- 49 แบร์นาร์ด เอ็นกูเอน – 6.4 (นาที 77 แทน โช)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- 31 มักซิม ดูเป
- 20 ทอม ลูเชต์
- 90 เควิน คาร์ลอส โอมูรูยี
- 47 ติอาโก้ กูเวย่า
นักเตะเด่นฝั่งนีซมีเพียง โช กับ ดิย็อป ที่พอสร้างปัญหาให้แนวรับมาร์กเซย ส่วนแนวรับทั้งแผงถูกเจาะยับเยิน
🔵 โอลิมปิก มาร์กเซย (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ เด แซร์บี
ผู้รักษาประตู
- 12 เจฟฟรีย์ เดอ ล็องช์ – 8.2 เซฟสวย ๆ หลายครั้ง
กองหลังสี่คน
- 22 ทิโมธี เวอาห์ – 7.8 (แอสซิสต์ 1 ลูก)
- 5 (กัปตัน) เลโอนาร์โด้ บาแลร์ดี – 6.9 (ทำ 1 ประตู ก่อนถูกเปลี่ยน นาที 77)
- 28 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ – 6.6 (ทำประตูเบิกร่อง)
- 33 เอเมอร์สัน – 6.8
มิดฟิลด์คู่กลาง
- 18 อาร์เธอร์ แฟร์เมเรน – 6.2
- 19 เชฟฟรีย์ กงด็อกเบีย – 6.9 (ใบเหลือง นาที 45+1, ออก นาที 70)
สามตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- 10 เมสัน กรีนวูด – 9.3 ทำสองประตู สร้างสรรค์เกมตลอด 90 นาที
- 8 อังเดร โกเมส – 7.0 (ออก นาที 70)
- 14 อิกอร์ ไพเซา – 7.7 (ยิง 1 ประตู, ออก นาที 89)
กองหน้าตัวเป้า
- 97 ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง – 8.0 ยิง 2 ประตู แอสซิสต์อีก 1
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- 26 บิลาล นาดีร์ – 6.5 (นาที 70 แทน กงด็อกเบีย)
- 17 แม็ตต์ โอ’ไรลีย์ – 6.8 (นาที 70 แทน โกเมส)
- 4 คอนราด เจเดน อีแกน-ไรลีย์ – 6.8 (นาที 77 แทน บาแลร์ดี)
- 34 โรบินโญ วาซ – 6.5 (นาที 77 แทน โอบาเมย็อง)
- 7 นีล โมเปย์ – 6.5 (นาที 89 แทน ไพเซา)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- 1 เฆโรนีโม่ รุลลี
- 6 อูลิสเซส การ์เซีย
- 50 แดร์รีล บาโคลา
- 76 ทัดจิดีน มห์มาดี
แดนหน้ามาร์กเซยเล่นกันเข้าขาอย่างเหลือเชื่อ กรีนวูด, โอบาเมย็อง และไพเซา มีส่วนร่วมแทบทุกประตูของทีม
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
เกมนี้รูปแบบการเล่นแตกต่างกันชัดเจน นีซมาในระบบ 3-4-3 เน้นครองบอลจากหลังขึ้นหน้า ใช้วิงแบ็กเติมสูงเพื่อดึงกองหลังมาร์กเซยออกจากตำแหน่ง แต่ปัญหาคือเวลาศูนย์หน้าลงมารับบอล ตัวสอดจากแดนกลางไม่วิ่งเติมช่องให้พอ สุดท้ายต้องจบด้วยการยิงไกลหรือเปิดมั่ว ๆ เข้ากรอบเขตโทษ จังหวะเข้าทำเลยดูติด ๆ ขัด ๆ
ในเกมรับ แผงหลังสามคนของนีซมีช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์และวิงแบ็กเยอะมาก เมื่อมาร์กเซยเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกเร็ว บวกกับการลากของกรีนวูดและการสอดของไพเซา ทำให้เจ้าถิ่นโดนเจาะด้านข้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า การยืนไลน์ล้ำหน้าก็ขาดความพร้อมเพรียง หลายครั้งที่โอบาเมย็องหลุดกับดักไปดวลตัวต่อตัว
ฝั่งมาร์กเซย ระบบ 4-2-3-1 ถูกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกมรับเริ่มจากแดนบน กรีนวูดกับไพเซาคอยบีบแบ็กนีซให้รีบเล่น ส่งผลให้เจ้าบ้านจ่ายพลาดบ่อย คู่กลางอย่าง กงด็อกเบีย กับ แฟร์เมเรน คอยดักบอลหน้าแผงแบ็กโฟร์ ทำให้พื้นที่ก่อนถึงเขตโทษแน่นมาก นีซแทบไม่มีโอกาสแทงทะลุช่อง
ในเกมรุก ทีมเยือนเล่นบอลเร็วหนึ่ง-สองจังหวะ ใช้การเปลี่ยนแกนจากซ้ายไปขวาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงแนวรับนีซให้หลุดตำแหน่ง เมื่อเจอช่อง โอบาเมย็องจะวิ่งตัดหลังเซ็นเตอร์ทันที จุดนี้คือหัวใจของการ วิเคราะห์บอล เกมนี้ เพราะทุกประตูของมาร์กเซยมาจากการใช้ความเร็วและการหาพื้นที่ว่างได้ยอดเยี่ยม ต่างจากนีซที่บุกเยอะแต่ติดขัดในพื้นที่สุดท้าย

📊 สถิติการแข่งขันบอกภาพรวมเกมชัดเจน
แม้นีซจะครองบอลได้ 53% ต่อ 47% และมียิงรวม 13 ครั้ง เทียบกับมาร์กเซยที่ยิง 10 ครั้ง แต่ตัวเลขที่สะท้อนชัดคือโอกาสเข้ากรอบ มาร์กเซยยิงเข้ากรอบถึง 9 ครั้ง ขณะที่เจ้าถิ่นทำได้แค่ 6 ครั้ง นั่นแปลว่าทีมเยือนเกือบทุกครั้งที่ยิงคือโอกาสลุ้นประตูจริง ๆ
ด้านการผ่านบอล นีซจ่ายไป 395 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 93% ส่วนมาร์กเซยจ่ายมากกว่า 433 ครั้ง แม่นยำ 91% ใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ต่างเล่นบอลกับพื้นได้ดี แต่ความแตกต่างคือการกล้าจบและคุณภาพในกรอบเขตโทษของมาร์กเซยที่เฉียบกว่า
ลูกเตะมุม นีซได้ถึง 8 ครั้ง ขณะที่มาร์กเซยมี 6 ครั้ง แสดงว่าจังหวะบุกของเจ้าถิ่นมีเรื่อย ๆ ทว่าไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ส่วนเกมฟาวล์ทั้งสองทีมไล่เลี่ยกัน นีซทำ 7 ฟาวล์ มาร์กเซย 9 ฟาวล์ มีใบเหลืองฝั่งละ 2 ใบ แต่ไม่มีใบแดง ทำให้เกมไหลลื่นและเปิดหน้าแลกกันตลอด 90 นาที
📝 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 11: โอลิมปิก มาร์กเซยขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงของ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ หลังรับบอลจาก โอบาเมย็อง ในกรอบเขตโทษ
- 🟨 นาที 14: อับดัลลาห์ เมนดี้ วิงแบ็กนีซ เข้าปะทะหนักโดนใบเหลือง
- ⚽ นาที 33: เมสัน กรีนวูด ลากตัดเข้าในก่อนซัดสุดคมให้มาร์กเซยนำ 2-0
- 🟨 นาที 45+1: เชฟฟรีย์ กงด็อกเบีย ทำฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม โดนใบเหลือง
- 🔄 นาที 57: มอร์กกง ซ็องซง ลงมาแทน ซาลิส ซาเม็ด เพื่อเพิ่มมิติการจ่ายบอลให้นีซ
- 🔄 นาที 68: อาลี อับดี้ และ เฌเรมี โบก้า ลงแทน อ็อปปง กับ มอฟฟี่ ยกเครื่องเกมริมเส้นเจ้าถิ่น
- ⚽ นาที 53: เลโอนาร์โด้ บาแลร์ดี ขึ้นโหม่งจากลูกตั้งเตะ ส่งมาร์กเซยหนีเป็น 3-0
- ⚽ นาที 58: ทิโมธี เวอาห์ เติมเกมรุกทางขวาก่อนเปิดให้ โอบาเมย็อง ชาร์จประตู 4-0
- ⚽ นาที 63: นีซตีไข่แตก 1-4 จากจังหวะที่ โซฟียาน ดิย็อป แทงให้ โมฮาเหม็ด-อาลี โช หลุดไปยิงไม่พลาด
- 🔄 นาที 70: บิลาล นาดีร์ กับ แม็ตต์ โอ’ไรลีย์ ถูกส่งลงแทน กงด็อกเบีย และ อังเดร โกเมส เพื่อพักตัวหลักมาร์กเซย
- 🔄 นาที 77: คอนราด เจเดน อีแกน-ไรลีย์ กับ โรบินโญ วาซ ลงแทน บาแลร์ดี และ โอบาเมย็อง
- 🔄 นาที 77: อีซัค แยนส์สัน และ แบร์นาร์ด เอ็นกูเอน ลงแทน ดิย็อป กับ โช ฝั่งนีซ
- ⚽ นาที 74: มาร์กเซยได้ประตูปิดกล่อง 5-1 จากการทำชิ่งของ ไพเซา กับ โอบาเมย็อง ก่อนหัวหอกกาบองซัดไม่เหลือ
- 🔄 นาที 89: นีล โมเปย์ ลงมาแทน ไพเซา ให้มาร์กเซยเก็บเวลาในช่วงท้าย
- 🔔 จบเกม: ผู้ตัดสินเป่าจบ 90 นาที มาร์กเซยบุกอัดนีซ 5-1 แบบขาดลอย
🌟 Player of the Match : เมสัน กรีนวูด
เกมนี้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมตกเป็นของ เมสัน กรีนวูด ด้วยคะแนนสูงถึง 9.3 เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวา แต่มีอิสระเคลื่อนที่เข้ากึ่งกลางตลอดเวลา ทำให้แนวรับนีซจับตัวยากสุด ๆ
กรีนวูดทำสองประตูสำคัญ ลูกแรกเป็นการลากตัดเข้าในแล้วซัดไกลสุดสวย ส่วนอีกลูกมาจากการวิ่งทะลุช่องเข้าไปรับบอลก่อนยิงเน้น ๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมกับเกมบุกอีกหลายจังหวะ ทั้งเปิดบอล, ลากกินตัวคู่แข่ง และดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้โอบาเมย็องกับไพเซาเล่นง่ายขึ้น นี่คือฟอร์มระดับ “คีแมนตัวจริง” ของมาร์กเซยในค่ำคืนนี้

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ โอลิมปิก มาร์กเซย แข่ง 13 นัด ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 3 เก็บได้ 28 คะแนน ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ต่อไป โดยมี เปแอสเช ไล่หลังมาติด ๆ ที่ 27 แต้ม และล็องส์อยู่ในโซนลุ้นแชมป์ที่ 25 แต้ม
ด้าน นีซ หลังพ่ายเละคาบ้านยังคงมี 17 คะแนน จาก 13 นัด หล่นไปอยู่กลางตารางอันดับ 9 ความพ่ายแพ้แบบเสีย 5 ประตูย่อมกระทบความมั่นใจเต็ม ๆ และถ้ายังอุดรูรั่วแนวรับไม่ได้ การไล่ลุ้นพื้นที่ยุโรปในฤดูกาลนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ
📅 ตารางบอล ลีกเอิง ฝรั่งเศส นัดถัดไป
มองไปข้างหน้าใน ตารางบอล นัดต่อไปของทั้งสองทีม โปรแกรมถือว่าโหดเอาเรื่อง
ฝั่งนีซต้องออกไปเยือนลอริยองต์ในเกมลีก และก่อนหน้านั้นยังมีคิวบุกเยือนปอร์โต้ในศึกยูโรปาลีก ถือเป็นสองนัดสำคัญที่จะชี้ชะตาโมเมนตัมของทีมหลังโดนมาร์กเซยยำใหญ่ หากแก้เกมรับไม่ได้ โอกาสเสียแต้มต่อเนื่องมีสูงมาก
ส่วนมาร์กเซยยังลุยหนักทั้งยุโรปและในประเทศ เริ่มจากเปิดบ้านรับมือ นิวคาสเซิล ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก่อนจะกลับมาลงเล่นลีกเอิงที่สต๊าด เวโลโดรม พบตูลูส หากเก็บชัยได้ต่อเนื่อง พวกเขาจะยิ่งหนีคู่แข่งในกลุ่มหัวตารางออกไปอีก
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเช็กสกอร์สดแบบทันใจ ตารางการแข่งขัน และอัปเดตข่าวร้อนรอบลีกยุโรป อย่าลืมติดตาม บ้านกีฬา แหล่งรวมข้อมูลแน่นทั้งสกอร์สดสไตล์เว็บ บ้านผลบอล บทวิเคราะห์จัดเต็ม และเรื่องราวลูกหนังแบบเจาะลึก บ้านกีฬาพร้อมรายงานทุกช็อตเด็ดให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของโลกฟุตบอล

