บาเลนเซีย สโมสรดังที่มีความโดดเด่นไม่แพ้สโมสรอื่นในสเปน

สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย Valencia Club de Fútbol หรือที่เรียกกันในกลุ่มแฟนบอลชาวไทย คือ เจ้าค้างคาว บาเลนเซีย เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีฐานตั้งอยู่ในบาเลนเซีย ประเทศสเปน ปัจจุบันสโมสรแห่งนี้แข่งขันในระดับลาลีกา ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลสเปน บาเลนเซียก่อตั้งขึ้นในปี 1919 และลงเล่นในบ้านที่สนามกีฬาเมสตัลลา สโมสรฟุตบอลบาเลนเซียมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลสเปนอีกด้วย

ประวัติความเป็นมาที่น่าติดตามของสโมสรบาเลนเซีย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ฉายาที่จำได้ง่ายของสโมสรบาเลนเซีย พร้อมการมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เก่งเหมือนก่อนหน้านี้ แต่สโมสรบาเลนเซียก็มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน พร้อมกับข้อมูลที่มากมาย มีแฟนคลับตามดูผลงานจำนวนมาก ช่วยให้แฟนบอลรุ่นใหม่ที่สนใจ เรียนรู้ไปพร้อมกับหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในประเทศสเปน สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1919 จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลามากกว่า 105 ปี โดยเริ่มแรกเป็นกลุ่มคนรุ่นเยาว์ Club Deportivo Español ที่มีการเลิกกิจการไปแล้ว มีการขยายและออกไปตามสโมสรต่าง ๆ มากมาย มีประธานสโมสรคนแรกก็คือ Octavio Augusto Milego Díaz โดยก่อนหน้านี้เป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสร และเข้ามารับหน้าที่สำคัญ หลังจากก่อตั้งสโมสรไม่นาน ก็สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์รายการแรกได้สำเร็จ

โดยรายการแข่งขันก็คือ แชมป์ระดับภูมิภาค การที่เปิดตัวสโมสรแค่ 4 ปี กลับกลายเป็นสโมสรที่โดดเด่นอย่างแท้จริง ในเวลาต่อมาได้รับสิทธิ์ร่วมการแข่งขัน โกปา เดล เรย์ ในปี ค.ศ. 1923 บอกได้ว่าในเวลานั้น การแข่งขันฟุตบอลถ้วยนี้ คือจุดสูงที่สุดของสโมสรในประเทศสเปน สามารถที่จะพาสโมสรสมัครเล่นและสโมสรอาชีพ ลงแข่งขันได้อย่างมีมาตรฐาน และกล่าวได้ว่าจุดเริ่มต้นที่มีแฟนบอลมากมาย ได้รู้จักกับบาเลนเซียก็ว่าได้ ในปี ค.ศ. 1931 มีการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชัน 1 เรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มต้นทุกอย่างมีการพัฒนา กลายเป็นสโมสรที่ได้รับความสนจากแฟนบอลมากมาย การใช้เวลาแข่งขันในดิวิชัน 2 แค่ 2 ฤดูกาล

นั่นหมายความว่าทุกอย่างมีความพร้อม และกล้าที่จะลงแข่งขันในระดับที่สูงกว่านี้ รวมไปถึงเคยคว้าแชมป์ระดับภาคถึง 4 สมัยติดต่อกัน บอกได้ว่าเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการสู้กับยอดสโมสร เรอัล มาดริด นักเตะที่ดีช่วยเพิ่มเติมโอกาสชนะได้สูงขึ้น นับตั้งแต่มีนักเตะ อาร์ตูโร มอนเตซิโนส ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนแฟนบอลมากมายยกให้เขาคนนี้คือ ซุปเปอร์สตาร์ของสโมสร จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงยุคสมัย พร้อมกับเกิดสงครามกลางเมือง เรียกได้ว่าทุกอย่างแย่ลงไป รวมไปถึงกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล

สโมสรแห่งนี้ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง และมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น Valencia Club de Fútbol ในปี ค.ศ. 1941 และก็เป็นอีกช่วงยุคที่ประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง ในช่างเวลานี้สโมสรสามารถที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 7 รายการใหญ่ และเป็นรองแชมป์ 7 รายการเช่นเดียวกัน ซึ่งมีนักเตะมากมายที่เป็นส่วนสำคัญมาก เช่น Epi , Amadeo , Mundo , Asensi และสุดท้าย Gorostiza มีแฟนบอลของสโมสรเรียกเขาเหล่านั้นว่า กองหน้าไฟฟ้า บอกได้เดินหน้าสู้ได้กับทุกสโมสรก็ว่าได้ การที่จะต้องพัฒนาความสามารถ เพิ่มเติมนักเตะ รวมไปถึงวางแผนที่จะรับมือกับสโมสรชั้นนำ บาเลนเซียพร้อมที่จะรับมือได้อย่างโดนใจ

และเมื่อปี ค.ศ. 1944 สโมสรได้คว้าดับเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกได้สำเร็จ กลายเป็นอีกประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกครั้ง จนกว่าได้ว่าในช่วงยุค 40 สโมสรแห่งนี้พร้อมที่จะส้รางชื่อและแข่งขันได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเจอกับสโมสรแบบใดก็ตาม แต่หลังจากนั้นไม่นานมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมคนใหม่   Biscayan Jacinto Quincoces มีการพัฒนาภาพรวมได้อย่างโดดเด่น มีความชัดเจนพร้อมที่จะยกระดับสโมสรแห่งนี้ ซึ่งในฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม สามารถพาสโมสรจบรองแชมป์ลาลีก้าได้สำเร็จ ซึ่งในเวลานั้นเป็นสโมสรบาร์เซโลน่าในการคว้าแชมป์ไปครอง เรียกได้ว่าคะแนนตามหลัง 2 คะแนนเท่านั้น เป็นการแข่งขันที่สนุกและตื่นเต้นมากที่สุดอีกด้วย

ความน่าสนใจเกิดขึ้นอีกครั้งในยุค 60 การก้าวขึ้นไปเจ้ายุโรป การคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโรป  เป็นเรื่องที่สโมสรชั้นนำต้องการมากที่สุด ไม่ว่าจะช่วยให้สร้างชื่อเสียง ได้รับเงินรางวัลมากมาย  การที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงที่สุดได้ ไม่ใช่เรื่องที่สโมสรที่ประสบการณ์ไม่สูงจะทำได้ทันที ในช่วงปลายยุค 80 คือช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าไหร่ของสโมสรแห่งนี้ เนื่องจากว่าเจอกับเรื่องวุ่นวายมากมาย วิกฤตทางการเงินที่มากกว่า  1,600 ล้านเปเซตา สกุลเงินของประเทศสเปน กว่าที่จะทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้กินเวลาไปมากกว่า 8 ปี

บอกได้ว่าเป็นอะไรที่ยาวนานมาสำหรับแฟนบอล ไม่ว่าจะเสียนักเตะคนสำคัญออกไป ผลงานของสโมสรที่ตกต่ำลง ในปี ค.ศ. 1992 กลุ่มทุนบริษัทกีฬา เข้ามาซื้อหุ้นของสโมสรทำให้ยุคที่ตกต่ำจบลงไปในทันที มีการพัฒนาฟื้นฟูในทุกด้าน เพิ่มเติมนักเตะเข้ามามากมาย เพื่อให้สโมสรพร้อมที่จะกลับเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันฟุตบอลลีกลาลีกาอีกครั้ง กล่าวได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น สามารถที่จะพาสโมสรที่เจอกับเรื่องราวที่ไม่ดี ขึ้นมาจบในอันดับที่ 4 และกลับเข้าไปแข่งขันฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลต่อไป 

ผลงานที่ผ่านมาในอดีตของสโมสรบาเลนเซีย เป็นอย่างไร?

ทุกสโมสรมักจะมีการบันทึกข้อมูลการคว้าแชมป์อย่างละเอียด เพื่อให้แฟนบอลรุ่นใหม่เข้าใจว่าความยิ่งใหญ่จะต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างสูง เช่นเดียวกันกับทางสโมสรบาเลนเซีย โดยทุกข้อมูลที่ยกมาแนะนำ ล้วนแต่บอกถึงช่วงเวลาที่ดีได้อย่างชัดเจน เริ่มต้นจากแชมป์ลาลีก้า 6 สมัย เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1941-1942 , 1943–1944 , 1946–1947,  1970–1971 , 2001–2002 และ 2003–2004 โกปาเดลเรย์ 8 สมัย เริ่มจาก 1940–1941, 1948–1949 , 1953–1954 , 1966–1967 , 1978–1979 , 1998–1999 , 2007–2008 และ 2018–2019 ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 1 สมัย ปี ค.ศ. 1999 โกปาเอบาดัวร์เต 1 สมัย

ปี ค.ศ. 1949 เซกุนดาดิบิซิออน 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1930-1931 และ 1986-1987 ต่อมาจะเป็นการคว้าแชมป์ในรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรป สโมสรบาเลยเซียก็สามารถฝากผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มจากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1999-2000 และ 2000-2001 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1979-1980 ยูฟ่าคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2003-2004 อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัพ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1961-1962 และ 1962-1963 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1980 และ 2004 สุดท้ายจะเป็นยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1998 จากข้อมูลทั้งหมดกลายเป็นผลงานที่เรียกว่ายิ่งใหญ่ทั้งในประเทศสเปน รวมไปถึงระดับยุโรปก็เช่นเดียวกัน

สรุปสถานการณ์โดยรวมของสโมสรบาเลนเซีย ในฤดูกาล 2023-2024

สรุปอันดับและภาพรวมในปีล่าสุด บอกได้ว่าจากที่เคยติดอันดับต้น ๆ ของตารางการแข่งขัน ในเวลานี้ต้องจบด้วยอันดับที่ 9 กลายเป็นสโมสรกลางตารางไปแล้ว ไม่มีโอกาสที่จะแข่งขันฟุตบอลยุโรป อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของสโมสร ลงแข่งขัน 38 นัด สามารถที่จะเก็บชัยไปเพียง 13 นัด ผลเสมอ 10 นัด และเป็นการแพ้มากกว่า 15 เรียกได้ว่าผลงานไม่ดี และอีกข้อมูลที่น่าสนใจ ผลต่างประตูได้เสียรวมแล้วติดลบถึง 5 ประตู เท่ากับว่ามีปัญหาในการจบสกอร์ ในส่วนของแฟนบอลจำนวนมาก ไม่พอใจกับช่วงเวลาแบบนี้ เลย์ ฮุน ประธานสโมสรปัจจุบัน ยังมั่นใจให้ รูเบน บาราฮา เป็นผู้จัดการทีมต่อไป เรียกได้ว่าขัดแย้งกับแฟนบอลอย่างชัดเจน ต้องการเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ การมีเงินทุนที่จะซื้อตัวนักเตะ เพื่อให้มาตรฐานและพร้อมที่จะกลับขึ้นไปอยู่ในอันดับสูง อันนี้อาจจะต้องดูกันในระยะยาว มั่นใจได้ว่าสโมสรฟุตบอลบาเลนเซียจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนกับยุค 40 นั่นเอง