แอตเลติโก้ มาดริด สโมสรใหญ่ที่ยังคงยืนหยัดต้นตารางมาได้เสมอ

แอตเลติโก้ มาดริด Club Atlético de Madrid หรือ Indians เป็นสโมสรฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในกรุงมาดริด ของประเทศสเปน โดยเล่นในระดับลาลีกา เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุดในสเปน ร่วมกับบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด สโมสรคว้าแชมป์ลาลีกา 11 สมัย, โกปา เดล เรย์ 10 สมัย ทั้งในปี 1996 ได้รองแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย และคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ เมื่อปี 1974 อีกด้วย ยูฟ่ายูโรปาลีก 3 สมัย และยูฟ่าซูเปอร์คัพ 3 สมัยเช่นกัน ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของเรอัล มาดริด โดยทั้งคู่เป็นทีมจากเมืองเดียวกัน มีจุดเด่นเรื่องความสามารถในการผลิตนักเตะชื่อดังระดับโลกมากมาย และเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริด

แฟนบอลมากมาย จะเข้าใจเรื่องของสโมสรที่ร่วมเมือง เรื่องเหล่านี้สามารถที่จะเจอได้กับทุกประเทศ เช่นเดียวกับทางสโมสรตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด ที่มีสโมสรร่วมเมืองเป็นสุดยอดสโมสรชื่อดังอย่าง เรอัล มาดริด ถ้ามีการเทียบชื่อเสียง ความสามารถ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สโมสรร่วมเมืองแห่งนี้จะเทียบเท่าได้ จุดเริ่มต้นของแอตเลติโก้ มาดริด ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 และไม่ได้ชื่อนี้ตั้งแต่เริ่มสร้างทีม แต่ใช้ชื่อแอธเลติก ซูเคอร์ซาล เด มาดริด และเพิ่งที่จะเปลี่ยนมาใช้แอตเลติโก้ มาดริด ในปี ค.ศ. 1946 นั่นเอง

ในช่วงต้นของการก่อตั้งสโมสร มีแฟนบอลมากมายคิดว่าเป็นหนึ่งในสโมสรเยาวชนของแอธเลติก บิลเบา เนื่องจากว่าในช่วงเวลานั้นเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสความนิยมฟุตบอล ทำให้มีปัญหาเรื่องของสีเสื้อสโมสรพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นบิลเบา หรือว่ามาดริด เนื่องจากพื้นสีของสโมสรมีความใกล้เคียงกัน จนเมื่อปี ค.ศ. 1910 มีการเปลี่ยนแปลงให้แฟนบอลจดจำได้ง่ายมากขึ้น หลังจากก่อตั้งสโมสรมากว่า 17 ปี แชมป์แรกก็ได้เกิดขึ้น เป็นการคว้าแชมป์รายการ กัมเปโอนาตู เดล เซ็นโตร ถึง 3 สมัยด้วยกัน แต่กว่าที่จะสร้างชื่ออย่างแท้จริงได้นั้น จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1950 ขึ้นไป

ก้าวแรกที่ร่วมการแข่งขันลาลีก้า เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1928 แต่อยู่ในระดับสูงไม่นานก็ตกอันดับลงไปแข่งในลีกเซกุนด้า โดยตกชั้นไปแล้วก็สามารถที่จะกลับขึ้นมาลาลีก้าได้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาอันสั้น กล่าวได้ว่าไม่สามารถที่จะรักษามาตรฐานของสโมสรเอาไว้ได้เลย จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองของประเทศสเปน เรียกได้ว่าหลากหลายสโมสรในเวลานั้น เจอกับปัญหามากมาย ส่งผลกระทบวงกว้างในทุกประเภทของกีฬา มีการทำลายสนามการแข่งขัน เมื่อสงครามจบลงและเริ่มต้นใหม่ในปี ค.ศ. 1939 ลีกสูงสุดได้กลับมาแข่งขันอีกครั้ง ทางสโมสรจึงได้ร่วมมือกับซาราโกซา 

ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของ Athletic Aviación de Madrid Aviación Nacional มีการเข้าถูกเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่สุดท้ายก็ถูก RFEF ปฎิเสธในครั้งนั้น ช่วงปี ค.ศ. 1940 มีการออกคำสั่งเรื่องการนำชื่อต่างประเทศมาตั้งเป็นชื่อของสโมสรฟุตบอล และในปีดังกล่าวเป็นการคว้าแชมป์ซูปเปอร์คัพครั้งแรกของสโมสรแห่งนี้อีกด้วย โดยเป็นการชนะสโมสรเอสปันย่อน สกอร์รวมทั้งหมด 10 ประตูต่อ 4 หลังจากนั้น 6 ปี สโมสรได้มีการตัดชื่อทางการทหารออกจากชื่อของสโมสร และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน ยุคกลางในช่วงปี ค.ศ. 1950 การเข้ามารับงานคุมสโมสรของ  เฮเลนิโอ เอร์เรรา ช่วยให้สร้างความยิ่งใหญ่ได้มากขึ้น

เนื่องจากว่าเป็นการขึ้นไปคว้าแชมป์ลาลีก้ามาครองได้สำเร็จ และครองแชมป์ต่อเนื่องในปี ค.ศ. 1951 กลายเป็นครั้งแรกที่สามารถทำได้ ในช่วงเวลานั้นชื่อของเรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่า คือ สุดยอดสโมสรของประเทศสเปน การที่มีชื่อของสโมสรร่วมเมืองขึ้นมา ทำให้กระแสความนิยมฟุตบอลเปิดกว้างมากขึ้น ระหว่างปี ค.ศ. 1960 เป็นต้นมา มีการแข่งขันที่จริงจัง การพัฒนาความสามารถและมาตรฐานของแอตเลติโก้ มาดริด กลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับสโมสรชั้นนำมากมาย แต่ก็ไม่อาจจะขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกได้อยู่ดี เป็นได้แค่รองแชมป์ลีกเท่านั้น ถึงแม้ว่าในลีกอาจจะไม่ยิ่งใหญ่  แต่ก็ถือว่าผลทำงานได้ดี

สามารถคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 2 สมัยติดต่อกัน โดยเป็นการเอาชนะสโมสร เรอัล มาดริด อีกด้วย รวมไปถึงก้าวขึ้นไปแข่งขันระดับยุโรป พร้อมกับคว้าแชมป์รายการ European Cup Winners’ Cup เป็นการเอาชนะสุดยอดสโมสรจากประเทศอิตาลีอย่างฟิออเรนติน่า ความสำเร็จในปีดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ก็ว่าได้ จนมาถึงช่วงปี ค.ศ. 1987 เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสโมสร การเข้ามาของประธานคนใหม่ เฆซุส กิล โดยเป็นนักการเมืองและเป็นนักธุรกิจชื่อดัง และในครั้งนั้นมีรายงานว่ามีการโกงและยักยอกหุ้นมากกว่า 95 % กลายเป็นข่าวด้านลบ ส่งผลกระทบในวงกว้างมากมาย แต่ในด้านการทำสโมสรถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ

เพราะก่อนหนี้ทางสโมสรไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปลุ้นแชมป์อะไรได้เลย ไม่ว่าจะลีกลาลีก้าหรือว่าการแข่งขันระดับยุโรป การปรับปรุงครั้งใหญ่และซื้อตัวนักเตะ ยอมทุ่มเงินทุนจำนวนมากเพื่อยกระดับมาตรฐาน โดยการกระทำครั้งนั้นอาจจะนับเป็นตัวเงินที่มหาศาล แต่ก็แลกมากับการคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ได้ 2 สมัยติดต่อกัน ในปี ค.ศ. 1991 และ 1992 ต่อมาในปี ค.ศ. 1996-1997 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด คือ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เป็นครั้งแรก แฟนบอลมากมายมีความคาดหวังในรายการนี้ เพื่อที่จะเข้าไปแย่งแชมป์กับสโมสรร่วมเมือง เรอัล มาดริด ซึ่งบอกได้ว่าเป็นเข้ายุโรปในเวลานั้น แต่ก็ไม่สามารถไปถึงฝันอย่างที่ต้องการได้ และจุดต่ำที่สุดของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริดก็มาถึง ปี ค.ศ. 1999-2000 ประธานสโมสรถูกสั่งพักบริหาร

มีการสอบสวนเรื่องของการใช้เงินทุนของทางสโมสรไปในทางที่ผิด จนจบการสอบสวน กิล ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานในทันที เรื่องราวนี้ส่งผลกระทบทางสโมสร ฟอร์มที่ตกต่ำจากปัญหาภายในมากมาย เวลานั้นสโมสรอยู่ในอันดับที่ 17 ของตาราง มีความเสี่ยงสูงมากที่จะตกชั้น และหลังจากนั้นปี ค.ศ. 2000 เป็นครั้งแรกที่สโมสรแห่งนี้ตกชั้นเป็นครั้งแรก หลังจากคงอยู่ในลีกสูงที่สุดนานมากกว่า 66 ปี และมีการใช้เวลา 2 ปี ในการกลับเข้าสู่ลาลีก้าได้อีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องราวที่แฟนบอลของสโมสรไม่อยากที่จะจดจำ ในปี ค.ศ. 2006 มีการซื้อตัวนักเตะมากมาย โดยเงินที่ได้จากการขายเฟร์นันโด ตอร์เรสให้กับทางลิเวอร์พูล ยอดสโมสรของประเทศอังกฤษ ทำให้มีเงินมากพอในการซื้อนักเตะหน้าใหม่ ถือว่าสโมสรแห่งนี้ใช้เงินได้อย่างคุ้มค่ามาก เพราะว่าแต่ละคนที่เข้ามา สามารถสร้างมาตรฐานและความสำเร็จให้ได้ และมีการขายออกไปเพื่อทำกำไร จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทางสโมสรไปเลย

ผลงานที่ผ่านมาในอดีตของสโมสร  ดีแค่ไหน?

การคว้าแชมป์ในระดับประเทศและระดับยุโรป ทุกถ้วยทุกรายการของสโมสรฟุตบอลแอตเลติโก้ มาดริด เริ่มต้นจากคว้าแชมป์ลาลีก้าถึง 11 สมัยด้วยกัน โกปาเดลเรย์ 10 สมัย ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2 สมัย โกปาเดกัมเปโอเนสเดเอสปัญญา 1 สมัย โกปาเอบาดัวร์เต 1 สมัย โกปาเปรซีเดนเตเอเฟเอเอเฟ 1 สมัย และ เซกุนดาดิบิซิออน 1 สมัย ต่อด้วยการคว้าแชมป์ระดับยุโรป ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย ยูฟ่ายูโรปาลีก 3 สมัย ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ 1 สมัย และเคยคว้าแชมป์ระดับสโมสรโลก 1 ครั้ง รายการ อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ ทุกข้อมูลบอกได้อย่างชัดเจนว่า คือหนึ่งในสโมสรจากประเทศสเปนที่มีประวัติและความยิ่งใหญ่มากที่สุด

สรุปสถานการณ์โดยรวมของแอตเลติโก้ มาดริด ในฤดูกาล 2023-2024

ข้อสรุปฟอร์มของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริด ต้องบอกว่าด้วยมาตรฐาน และผู้จัดการทีมอย่างซิเมโอเน จะช่วยให้ทุกอย่างยังคงลุ้นได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าตลอดฤดูกาล ชนะได้ถึง 24 นัด เสมอ 4 แต่กลับแพ้ไปถึง 10 นัดด้วยกัน ทำให้ไม่มากพอในการที่จะขึ้นไปคว้าแชมป์ลาลีก้าได้ เนื่องจากมีแต้มห่างจากแชมป์ถึง 19 แต้ม โดยสโมสรที่คว้าแชมป์ไปครองก็คือ สโมสรร่วมเมือง เรอัล มาดริด เพราะฉะนั้นถ้ายังคงมาตรฐานที่ดีไว้ได้ต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มเติมนักเตะดาวรุ่งเข้ามาใหม่ มั่นใจได้ว่าในปีต่อไป จะเข้ามาแข่งขันและเป็นหนึ่งในสโมสรที่น่าจับตามองมากที่สุด