ภาพรวมเกมเดือด เรอัล มาดริด พ่ายเรือใบ แต่ใจยังอยู่ข้างโค้ช
ดราม่าที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบวกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อ เรอัล มาดริด เปิดบ้านพลาดท่าแพ้ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ทั้งที่ออกนำไปก่อนในครึ่งแรก ก่อนจะปล่อยให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัย ทำให้กระแสความกดดันถาโถมใส่ ชาบี อลอนโซ่ หนักกว่าเดิม
แต่ท่ามกลางเสียงวิจารณ์และคำถามว่า “นักเตะยังเล่นเพื่อตัวโค้ชอยู่ไหม” ตำนานหงส์แดงอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด กลับมองต่าง พร้อมออกโรงปกป้องแข้งชุดขาวแบบชัดเจน
แพ้ก็จริง แต่ไม่ใช่ฟอร์มของทีมที่หักหลังโค้ช
ในเกมนี้ มาดริดเริ่มต้นด้วยความมั่นใจ ครองบอล เปิดเกมบุกกดดันเรือใบ และได้ประตูออกนำก่อน แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ กับการเสียสมาธิในช่วงสำคัญ ทำให้โดน แมนฯ ซิตี้ ลงโทษแบบไม่ไว้หน้า จบเกมด้วยความพ่ายแพ้คาบ้าน และกลายเป็นเชื้อไฟให้เสียงวิจารณ์เรื่องอนาคตของอลอนโซ่ดังขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ดที่ทำหน้าที่กูรูให้ช่อง TNT Sports หลังจบเกม มองชัดว่า ภาพรวมในสนามไม่ได้สะท้อนว่าผู้เล่นเลิกเชื่อมั่นในโค้ชเลย
เขากล่าวว่า
“นี่ไม่ใช่ฟอร์มของนักเตะที่อยากให้ผู้จัดการทีมโดนปลดออกไปเลย”
ประโยคนี้สะท้อนมุมมองของอดีตกัปตันทีมที่เคยเล่นร่วมกับอลอนโซ่มาแล้ว ว่าแท็กติกอาจมีจุดบกพร่อง แต่เรื่องทัศนคติและความมุ่งมั่นของนักเตะในสนาม ยังอยู่ในระดับที่ปกป้องหน้าตาของโค้ชได้
ทำไมเจอร์ราร์ดถึงปกป้องนักเตะมาดริดและอลอนโซ่
อย่าลืมว่า เจอร์ราร์ดเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับอลอนโซ่สมัยเล่นให้ลิเวอร์พูล เขารู้ดีว่ากุนซือรายนี้เป็นคนแบบไหน ทั้งในมุมมองของผู้นำในสนามและมันสมองลูกหนังนอกสนาม
ฟอร์มของมาดริดในเกมนี้ แม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่ยังเห็นรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน ทั้งการไล่บีบพื้นที่ การเปลี่ยนจากรับเป็นรุก และความพยายามไล่ยิงคืนจนถึงช่วงท้ายเกม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ภาพของทีมที่ “ปล่อยผ่าน” หรือเล่นแบบให้โค้ชโดนบอลตามกระแสโซเชียล
สำหรับแฟนบอลที่ดูเกมแบบจับจังหวะละเอียด ๆ จะเห็นว่า นักเตะหลายคนยังแสดงออกถึงความหงุดหงิด เสียดาย และหัวเสียกับผลการแข่งขัน นั่นหมายความว่า พวกเขายัง “อิน” กับโปรเจ็กต์ของโค้ชอยู่มาก
ความกดดันถาโถมใส่ชาบี อลอนโซ่ แต่ห้องแต่งตัวยังไม่แตก
ด้วยชื่อชั้นของสโมสรอย่างมาดริด ทุกความพ่ายแพ้ใน แชมเปียนส์ลีก ย่อมมาพร้อมคำถามใหญ่เสมอ ทั้งเรื่องแผนการเล่น การจัดตัว และอนาคตของผู้จัดการทีม ซึ่งกรณีของอลอนโซ่ก็หนีไม่พ้นแรงเสียดทานนั้น
แต่จากฟอร์มในเกมนี้ที่ยังเห็นความสู้ของนักเตะ การเคลื่อนที่ช่วยกันไล่บอล และการประสานงานในสนามที่ไม่ได้หลุดเป็นชิ้น ๆ ทำให้คำให้สัมภาษณ์ของเจอร์ราร์ดมีน้ำหนักมากขึ้นว่า ทีมยังไม่ถึงขั้น “หมดศรัทธา” ในตัวกุนซือ
สถานการณ์ตอนนี้จึงเหมือนเกมที่สกอร์ตามหลัง แต่ยังมีเวลาให้แก้มือ ไม่ใช่เกมที่ทุกคนเดินออกจากสนามแบบไม่สนใจอะไรแล้ว
มุมมองใหญ่ของโลกฟุตบอล: เวลาทีมแพ้ ไม่ได้แปลว่าทุกคนทิ้งโค้ช
ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ โดยเฉพาะยุค ข่าวบอลต่างประเทศ วิ่งเร็วระดับวินาที แค่ทีมใหญ่พลาดท่าแพ้เกมสำคัญหนึ่งนัด ก็กลายเป็นประเด็นว่าห้องแต่งตัวแตก โค้ชโดนหักหลัง นักเตะไม่เล่นให้ แต่ความจริงที่คนในวงการพูดกันเสมอคือ “ฟอร์มในสนาม” ต้องแยกจาก “ดราม่านอกสนาม” ให้ได้
ทีมหนึ่งทีมอาจแพ้เพราะแท็กติกพลาดเพียงจังหวะเดียว หรือขาดโฟกัสในไม่กี่นาที แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งทีมเลิกเคารพโค้ช การอ่านเกมแบบยัดดราม่าเกินจริง อาจทำให้เรามองข้ามรายละเอียดแท้จริงของฟุตบอล ซึ่งคือการเตรียมทีม, สภาพจิตใจ, ความเหนื่อยล้า และคุณภาพของคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่เคยปล่อยโอกาสหลุดมือ
สำหรับแฟนบอลชาวไทย การตามดูมุมมองของกูรูอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ช่วยให้เห็นอีกด้านหนึ่งของเกม ว่าบางครั้ง “ความสู้ของทีม” เป็นสิ่งที่สะท้อนอนาคตได้ชัดกว่าแค่ผล ผลบอล บนสกอร์บอร์ด
บ้านกีฬามองเกมนี้อย่างไร และแฟนบอลควรจับตาอะไรต่อ
จากมุมมองของ บ้านกีฬา เกมนี้อาจเป็นบาดแผลในสกอร์ แต่ไม่ใช่แผลแตกในห้องแต่งตัว เรอัล มาดริด ยังแสดงให้เห็นถึงระบบการเล่นและสปิริตทีมที่เหนียวแน่น แค่ต้องแก้รายละเอียดในจุดที่โดน แมนฯ ซิตี้ ลงโทษ โดยเฉพาะการปิดเกมเมื่อมีโอกาส และการคอนโทรลจังหวะเมื่อออกนำ
อนาคตของชาบี อลอนโซ่ ยังอยู่ท่ามกลางเครื่องหมายคำถาม แต่ถ้านักเตะยังวิ่ง ยังไล่บอล และยังเล่นด้วยความมุ่งมั่นแบบที่เจอร์ราร์ดพูดถึง โอกาสที่จะพลิกคำวิจารณ์ให้กลายเป็นเสียงชื่นชมก็ยังเปิดกว้างเสมอ
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะดราม่าบนเวทีลูกหนังยุโรป ทั้งข่าวในสนามและนอกสนาม อย่าลืมติดตามความเข้มข้น มันส์จัดเต็ม ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

