อังเดร อาร์ชาวิน อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติรัสเซีย ทำเอาโลกโซเชียลระอุอีกครั้ง หลังเจ้าตัวโชว์ความกล้าสุดขีด สวมเสื้อแข่งของ บาร์เซโลน่า เดินเข้าไปในร้านขายสินค้าทางการของ เรอัล มาดริด แบบไม่สะทกสะท้าน จนแฟนบอลที่อยู่ในร้านถึงกับยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปกันให้ว่อน
ตำนานรัสเซียโชว์ของกลางรังคู่ปรับตลอดกาล
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ อาร์ชาวิน ซึ่งตอนนี้อายุ 44 ปี เดินเข้าไปในร้านของราชันชุดขาวด้วยสีหน้านิ่งเฉยและมั่นใจสุด ๆ ทั้งที่บนตัวใส่เสื้อ “เจ้าบุญทุ่ม” เต็มยศ ซึ่งถือเป็นคู่แค้นตลอดกาลในศึก เอล กลาซิโก้ สุดเดือดของวงการลูกหนังโลก
แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าคลิปดังกล่าวถูกถ่ายก่อนหรือหลังเกม เอล กลาซิโก้ นัดล่าสุด และไม่ระบุชัดว่าร้านที่เกิดเหตุเป็นสาขาไหน แต่บรรยากาศในคลิปเผยให้เห็นชัดเจนว่าผู้คนในร้านถึงกับอึ้ง บางรายถึงขั้นหัวเราะออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะมีเสียงฮือฮาตามมาในโลกออนไลน์
แฟนบาร์ซ่าตัวจริง ไม่แคร์สายตาใคร
สิ่งที่ไม่ทำให้แฟนบอลแปลกใจมากนักคือ ความชัดเจนของอาร์ชาวินที่เคยยืนยันมาตลอดว่า เขาเป็น “คูเล่ตัวจริง” หรือแฟนพันธุ์แท้ของ บาร์เซโลน่า มาตั้งแต่สมัยยังค้าแข้ง และยังเคยพูดเอาไว้ชัดเจนในอดีตว่า
“ผมไม่มีวันเล่นให้ เรอัล มาดริด ไม่ว่าจะมีการเสนอเงินให้เท่าไหร่ก็ตาม สำหรับผมแล้ว เรอัล มาดริด เป็นของต้องห้าม ผมเป็นแฟนบอล บาร์เซโลน่า มานานนมแล้ว”
คำพูดนี้สะท้อนตัวตนของอาร์ชาวินได้อย่างชัดเจน ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงอดีตนักเตะฝีเท้าจัด แต่ยังเป็นคนที่มีจุดยืนทางฟุตบอลแน่วแน่ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ความรักที่มีต่อบาร์ซ่าก็ยังไม่จางหาย
อาร์ชาวิน: สัญลักษณ์แห่งความ “บ้าบอล”
อังเดร อาร์ชาวิน เคยสร้างชื่อโด่งดังในยุคที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล และ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉพาะผลงานสุดจำเมื่อปี 2009 ที่ซัด 4 ประตูใส่ลิเวอร์พูลในเกมพรีเมียร์ลีกจนกลายเป็นตำนานของเดอะกันเนอร์ส แม้ปัจจุบันจะอำลาสนามไปแล้ว แต่เขายังมีบทบาทในวงการฟุตบอลรัสเซียในฐานะผู้บริหารและนักวิจารณ์ลูกหนัง
การแสดงออกครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกในสายตาแฟนบอลที่รู้จักเขาดี เพราะอาร์ชาวินขึ้นชื่อเรื่องบุคลิกที่ตรงไปตรงมา เป็นคนชัดเจนในสิ่งที่รัก และไม่กลัวจะ “แตกต่าง” จากใคร
เสียงสะท้อนจากแฟนบอลทั่วโลก
หลังคลิปเผยแพร่ออกไปในสื่อออนไลน์ แฟนบอลทั่วโลกต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างถล่มทลาย บางส่วนยกย่องในความกล้าและความภักดีต่อบาร์ซ่าของอาร์ชาวิน ขณะที่อีกกลุ่มมองว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่น่ารักและไม่ควรซีเรียส เพราะวงการฟุตบอลทุกวันนี้เต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวแบบนี้อยู่เสมอ
แม้หลายคนจะมองว่านี่เป็นเพียงการหยอกล้อหรือการสร้างกระแส แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ช่วยจุดไฟ “ศึกเอล กลาซิโก้” ให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง แม้เกมจะจบไปแล้วก็ตาม
เรื่องราวที่สะท้อนความเป็นแฟนบอลของแท้
เหตุการณ์นี้ไม่ได้แค่เรียกรอยยิ้มให้แฟนบอลทั่วโลก แต่ยังสะท้อนสิ่งหนึ่งชัดเจนว่า “ความรักในฟุตบอล” ไม่มีกรอบ ไม่มีเงื่อนไข และบางครั้งมันก็พาให้คนเราทำในสิ่งที่คนอื่นอาจไม่กล้า สำหรับอาร์ชาวิน นี่ไม่ใช่การท้าทาย แต่คือการแสดงออกถึง “หัวใจที่รักฟุตบอล” อย่างแท้จริง
ใครที่ติดตามข่าวกีฬาและเรื่องราววงการลูกหนัง ห้ามพลาดทุกความเคลื่อนไหวสุดมันส์ ติดตามได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา อัปเดตข่าวบอลร้อนแรงจากทั่วโลกทุกวัน

