
ข่าวร้ายถาโถมใส่ทีมชาติ บราซิล เต็ม ๆ เมื่อความหวังในการดึงตัว คาร์โล อันเชลอตติ มานั่งแท่นกุนซือคนใหม่ดูจะริบหรี่ลงทุกขณะ หลังเจ้าตัวออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า ไม่ชอบรูปแบบงานทีมชาติ พร้อมเปรียบเปรยชัดเจนว่าเป็นเหมือน “งานพาร์ทไทม์” ที่ทำให้เขาหมดแพสชันในการทำงานแบบเต็มร้อย
อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมของ เรอัล มาดริด หนึ่งในยอดกุนซือระดับตำนานของโลกฟุตบอล และเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เคยถูกสื่อโยงว่าเป็นตัวเต็งที่ สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล อยากได้ตัวไปคุมทัพ “เซเลเซา” หลังหมดสัญญากับต้นสังกัดในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว อย่างไรก็ตาม คำตอบจากปากเจ้าตัวล่าสุดดูจะเป็นการ “ปิดประตู” ให้กับโอกาสนั้นไปโดยปริยาย
ย้อนกลับไปในปี 2018 อันเชลอตติเคยถูกทีมชาติ อิตาลี ทาบทามให้รับตำแหน่งกุนซือเช่นกัน แต่สุดท้ายเขาปฏิเสธ และเลือกเส้นทางการคุมสโมสรต่อไป เมื่อถูกถามถึงเหตุผลในเวลานั้น เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ชอบงานในระดับทีมชาติ เพราะมันไม่ใช่งานที่ผมหลงใหล” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมชอบอยู่ในสนามซ้อมทุกวัน ได้เตรียมทีม ได้ลงรายละเอียด และอยู่กับนักเตะตลอดเวลา แต่งานทีมชาติมันให้ความรู้สึกเหมือนคุณทำงานแค่เป็นครั้งคราว มันเหมือนงานพาร์ทไทม์ที่ไม่สามารถจุดไฟในตัวผมให้ลุกโชนได้เหมือนเดิม”
คำพูดของอันเชลอตติชัดเจนว่าเขาเป็นกุนซือที่มีหัวใจและพลังเต็มร้อยในการทำงานร่วมกับนักเตะในทุกวัน ซึ่งตรงกันข้ามกับงานระดับทีมชาติที่ต้องเว้นช่วงนานระหว่างแมตช์ และไม่สามารถลงลึกในกระบวนการฝึกซ้อมแบบรายวันได้
การแสดงจุดยืนครั้งนี้จึงทำให้แผนของบราซิลที่หมายมั่นจะให้เขามาสานต่อความยิ่งใหญ่ดูจะต้องสะดุดลงอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าอันเชลอตติมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งประสบการณ์ ความสำเร็จ และความสามารถในการบริหารนักเตะระดับโลก แต่ทว่า…สิ่งที่เขาขาดคือ “ใจ” ที่พร้อมจะทุ่มให้กับตำแหน่งกุนซือทีมชาติ
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังมีมาเป็นระยะเกี่ยวกับอนาคตของเขาหลังจบฤดูกาลนี้ คำตอบของอันเชลอตติอาจเป็นการบอกใบ้กลาย ๆ ว่าเขายังไม่พร้อมโบกมือลาเวทีสโมสร และยังอยากยืนหนึ่งในสมรภูมิที่ได้สัมผัสกับเกมลูกหนังทุกสัปดาห์
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา